วิลล์กลับมาถึงที่บ้านก็มานั่งรับประทานอาหารกับครอบครัวที่โต๊ะอาหาร คนเป็นแม่มองลูกชายก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข
"ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้นละลูก"
"เบนนี่เพิ่งบอกเลิกผมไปเมื่อสามวันก่อน ให้ผมเล่าเหตุผลมั้ยครับว่าทำไม... แค่เธอมาบ้านเพียงครั้งเดียวเอง"
คนเป็นแม่ยกน้ำขึ้นจิบทำหูทวนลมไม่สนใจในสิ่งที่ลูกชายพูด มันไม่ใช่ว่าเธออยากจะขัดขวางความรักของลูก แต่เลือกมาแต่ละคนคือไม่น่าจะเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลได้เลย
"แม่ให้ลูกเลือกคนรักเองได้ แต่ควรจะเลือกที่มันเหมาะสม เราเป็นใครจะมาคบหาผู้หญิงที่ไปเจอกันที่ร้านเหล้าเจอข้างทางมันไม่เหมาะสม"
"แล้วต้องเป็นประเภทไหนครับถึงจะคบกันได้ ลูกนายกรัฐมนตรีเลยหรือไงแม่ถึงจะพอใจ"
"ได้แบบนั้นก็ดีนะสิ ระดับนั้นเหมาะสมกับตระกูลของเราที่สุด ไม่ใช่ได้แค่ผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูก แต่ยังได้คอนเนคชั่นและอิทธิพลระดับประเทศอีก"
วิลล์ถึงกับถอนหายใจออกมา หันไปมองหน้าพ่อที่ตอนนี้ยิ้มขำไม่ช่วยอะไร น้องก็มีทำไมไม่บังคับบ้างก็ไม่รู้ เอาความหวังทุกอย่างมาลงคนเป็นพี่อย่างเขาซึ่งไม่มีโอกาสได้เปิดใจคุยกับใครได้นานเลยด้วยซ้ำ พอพามาที่บ้านก็จะหนีไปทันทีไม่รู้ว่าแม่ของเขาไปพูดอะไร
"ผมว่าแม่อย่าคาดหวังเลยครับ คนเราจะรักใครซักคนมันไม่ได้อยู่ที่ฐานะเลย อีกอย่างบ้านเรารวยขนาดนี้ จำเป็นต้องมีสะใภ้รวยอีกเพื่ออะไรครับ"
"ก็เพื่อบารมีของตระกูลไงลูก แม่มีแนะนำให้ลูกนะเผื่อจะชอบ เพิ่งจบจากเมืองนอกมาด้วยเป็นลูกสาวของอธิบดีกรมเกษตร ลูกอยากรู้จะ.."
"ไม่ครับ ไม่อยากรู้จักและผมมีเมียแล้วไม่ต้องหามาให้นะครับ"
วิลล์เอ่ยออกมาเสียงเรียบ คนเป็นแม่ถึงกับอ้าปากค้างอย่างตกใจ จะมีเมียได้ยังไงในเมื่อคนล่าสุดเธอเพิ่งจัดการไปเองแท้ๆ
"จะบ้าเหรอไงตาวิลล์ แกจะมีเมียได้ยังไงคนล่าสุดเพิ่งจะเลิกไปไม่ใช่เหรอ"
"ผมเมาแล้วเผลอไปนอนกับเธอมาครับ แล้วไม่ได้ป้องกันด้วยถ้าเธอท้องขึ้นมาเด็กคนนั้นจะเป็นหลานของคุณแม่ แม่จะทิ้งหลานตัวเองได้ลงคอหรือไงครับ"
วิลล์เอ่ยออกมาเสียงเรียบ คนเป็นแม่ยังช็อคไม่หายแต่ไม่ได้เชื่อลูกชายร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะบางทีก็พูดเพื่อไม่ให้ตัวเองได้ไปดูตัวกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้เท่านั้น
"แม่ไม่เชื่อหรอกแกก็แค่อยากจะเลี่ยงการไปดูตัวก็เท่านั้น เตรียมตัวไว้เลยอาทิตย์หน้าแม่จะพาไปเจอครอบครัวของท่านอธิบดีกรมเกษตร"
"ไม่ครับผมไม่ไป ถ้าแม่ไม่เชื่อผมจะพาเมียผมมาเจอแม่และจะพามาอยู่ที่นี่ด้วย รอดูแล้วกันครับแม่"
พูดจบวิลล์ก็เดินขึ้นห้องไปทันที คนเป็นแม่ถึงกับหน้าเสียมองสามีที่อมยิ้มอยู่ข้างๆเธอ
"ยิ้มอะไรคะ"
"เปล่านี่.. คุณจะจับคู่ให้ลูกทำไมนักหนา เผื่อใจไว้บ้างเถอะคนมันจะคู่กันจะไปบังคับโชคชะตาได้ยังไง"
"ฉันเนี่ยแหละคือโชคชะตาของลูก เพราะฉะนั้นอย่าหวังเลยว่าผู้หญิงที่ไร้หัวนอนปลายเท้าไร้การศึกษาไม่มีชาติตระกูลจะได้มาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน ฝันไปเถอะ"
คุณหญิงโวยวายออกมาเสียงดังลั่นบ้าน เขาคือลูกชายคนโตของตระกูลจะต้องเพอร์เฟคในทุกๆด้านแม้กระทั่งเรื่องคู่ครอง
ทางด้านของวิลล์เมื่อมาถึงในห้องนอนก็กุมขมับตัวเองแน่นอย่างเซ็งสุดขีด ตลอดเวลาไม่เคยสานสัมพันธ์กับใครมาได้ถึงขั้นมีความคิดจะแต่งงานด้วยกันเพราะคนเป็นแม่ขัดขวางทุกวิถีทาง และตอนนี้เขาหมดความอดทนแล้ว เขาจะทำให้แม่รู้จักสุภาษิตคำนี้
'เลือกนักมักได้แร่'
"ถ้าเลือกมากนักก็เอาลูกสะใภ้สวนทางความต้องการของแม่ทุกอย่างเลยเป็นไง ผมจะจัดให้งามๆเลย หึ!"
เวลาผ่านไปในตอนนี้ดาหวันมาช่วยเพื่อนดูแลร้านใหม่ และต้องคิดสูตรเด็ดให้เพื่อเพิ่มจุดขายของร้านให้เด่นขึ้นมา เป็นอาหารไทยประยุกต์ไม่เคยมีร้านไหนทำมาก่อนแน่นอน และรับรองว่าสูตรเด็ดใครได้กินต้องติดใจ เธอถือจานเมนูใหม่ที่ยังไม่ได้จัดเป็นเมนูไปให้ชายตรงหน้าลองชิม
"อ่ะ กินสิ"
วิลล์เงยหน้ามองดาหวันก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ เขาใช้ช้อนตักอาหารลองชิมก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
"อร่อยดีนะ แต่ไม่เผ็ด"
"อยากกินเผ็ดมีพริกให้เติม นี่มันรสชาติกลางๆสำหรับคนปกติเขายะ แล้วนี่มาทำอะไรนักหนาทุกวัน งานการไม่มีทำหรือไง"
ดาหวันนั่งลงตรงข้ามกับชายหนุ่ม เขามาวุ่นวายที่ร้านได้หลายวันแล้วทั้งๆที่เพื่อนอย่างณภัทรก็ไม่ได้อยู่ที่นี่
"งานนะมีทำ แต่ปวดหัวเรื่องที่บ้านอยากหาที่ระบายมากกว่า"
ดาหวันมองเขาอย่างแปลกใจ คนรวยนี่เขามีเรื่องครอบครัวให้คิดมากด้วยเหรอ
"อะไรนักหนาถึงได้เครียดขนาดนี้"
เธอจะทำตัวเป็นคนดีรับฟังซักหน่อยแล้วกัน มาที่นี่เพื่อหาที่ระบายก็คงจะไม่มีใครรับฟังได้เท่ากับเธอคนนี้แล้ว
"ก็แม่นะสิชอบหาคู่ให้ ผมพาไปกี่คนต่อกี่คนก็ไม่ชอบ บอกว่าไร้สกุลบ้าง ตระกูลไม่ดีบ้าง จนตอนนี้โคตรเบื่อที่จะคุยเรื่องนี้แล้วอ่ะ"
ดาหวันพยักหน้าอย่างพอเข้าใจ ใครไม่โดนบังคับจิตใจไม่รู้หรอกว่ามันไม่เป็นอิสระเลย เธอไม่รู้จะปลอบใจยังไงด้วยเพราะชีวิตก็อยู่ตัวคนเดียวมาเป็นสิบกว่าปี ไม่มีใครมาบังคับชีวิตด้วยสิ
"แล้วนายจะทำยังไงล่ะ"
"ล่าสุดผมบอกแม่ไปว่ามีเมียแล้ว ไปได้กันแถมไม่ได้ป้องกันด้วย ขู่ว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นท้องขึ้นมาแม่ก็จะมีหลาน เรื่องนัดดูตัวกับลูกอธิบดีจึงหยุดไปก่อน แต่ก็นั้นแหละแม่ต้องหาวิธีจัดการกับผู้หญิงคนนั้นแน่นอน"
"นายก็พาเธอไปอยู่ด้วยที่บ้านสิ ถ้าเธอท้องขึ้นมาจริงๆแม่นายอาจจะใจดียอมรับทั้งลูกทั้งหลานก็ได้"
ดาหวันเสนอความคิด ผู้ใหญ่ปากก็พูดไปแต่พอเห็นหน้าหลานตัวเล็กก็ต้องมีใจอ่อนบ้างแหละ ใครจะเกลียดหลานตัวเองได้ลงล่ะจริงมั้ย
"ประเด็นคือผู้หญิงคนนั้นไม่มีอยู่จริงไง"
"เอ้า! แล้วไปพูดมั่วๆแบบนั้น จะไปหาใครมาหลอกแม่นายล่ะ ตลกป่ะ"
"ก็นี่ไงถึงเครียดอยู่ ช่วยคิดหน่อยสิว่าจะทำยังไงดีให้แม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจในการจับคู่ให้สักที"
ดาหวันเท้าคางมองหน้าเขาก่อนจะใช้สมองคิดว่าจะแนะนำชายตรงหน้ายังไง มันจะมีวิธีไหนที่จะทำให้คุณหญิงผู้สูงส่งยอมลงให้ลูกบ้าง
"นายก็ลองไปจ้างผู้หญิงที่แสบๆมาป่วนแม่นายดูสิ ถ้าคุณแม่นายปวดหัวจนประสาทจะกินท่านอาจจะยอมลงให้ก็ได้ เค้าเรียกหนามยอกเอาหนามบ่งไง ร้ายนักก็เอาคืนวิธีเดียวกัน ร้ายมาร้ายกลับเพราะแม่นายไม่เคยเจอผู้หญิงที่ร้ายพอกันไง ลองวิธีนี้ดูสิเกลียดอย่างไหนได้อย่างนั้นนะสะใจออก"
วิลล์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย วิธีนี้แม่เขาอาจจะล้มเลิกวุ่นวายกับการเลือกคู่ให้เขาเลยก็ได้ อย่างน้อยเป็นใครก็ได้ที่ไม่วุ่นวายขนาดที่แม่ต้องปวดหัว
"แล้วจะไปจ้างใครที่ไหนมาล่ะ"
"ไม่รู้สิโรงเรียนการแสดงเยอะแยะไป หาจ้างเอาสิไม่คุยด้วยละต้องไปทำงานต่อ"
ดาหวันลุกขึ้นเดินออกไปทันที เขานั่งหน้าเคร่งในหัวคิดว่าจะไปหาใครมาป่วนแม่ดี มันจะมีซักกี่คนกันที่จะแสบขนาดทัดเทียมกับแม่ของเขาได้
'ใครกัน....'