bc

จางเฟยอีสตรีผู้พลิกชะตา

book_age16+
1.4K
FOLLOW
7.4K
READ
HE
time-travel
lighthearted
scary
poor to rich
like
intro-logo
Blurb

ใช้ชีวิตเป็นคุณหนูสบายๆ ไม่ต้องทำงานหนักก็มีเงินใช้ตลอดชาติอยู่ดีๆ ตื่นมารู้ตัวอีกทีก็อยู่ในโลกยุคโบราณซะงั้น!!

.

นางเอกของเรื่องนี้ ต้องเสียพ่อแม่และพี่ชายจากอุบัติเหตุทางบินไม่พอ ได้รับมรดกและเงินประกันชีวิตจำนวนมหาศาลไม่ทันไร ก็เสียชีวิตในบ้านตัวเองไปอย่างกระทันหัน แล้วไปเกิดใหม่ยังโลกยุคโบราณในครอบครัวแสนยากจนที่กำลังวางแผนจับเธอไปขายแลกเงิน!

.

อ่านมาถึงจุดนี้ ดูเหมือนชีวิตใหม่ของนางเอกเราจะแสนดราม่า แต่ขอบอกว่าไม่เลย ที่ว่าจะจับไปขาย ก็เพราะมีเหตุจำเป็นทั้งนั้น แถมยังอยู่ในขั้นตอนถกเถียง คุณปู่และลุงๆ ยังไม่เห็นด้วย นางเอกที่มาเกิดใหม่ได้จังหวะพอดีเลยเสนอทางออกที่แฮปปี้กับทุกฝ่าย สร้างความสัมพันธ์แสนอบอุ่นในครอบครัวที่ว่าจะอ่านกี่ครั้งก็ต้องอมยิ้มตาม!

จางเฟยอี เด็กสาวในยุคปัจจุบันได้เสียชีวิตไปอย่างกระทันหันขณะที่อยู่ในบ้านของตนเอง เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่า เธอได้เข้ามาอยู่ในร่างของเด็กสาวอีกคนที่มีชื่อเดียวกัน แต่อยู่กันคนละยุค อายุเพียงแค่ 15 ปี ก็เสียลงจากความเหน็ดเหนื่อย และขาดสารอาหารจนตาย โดยที่คนในครอบครัวไม่มีใครรับรู้เลยสักคน แถมป้าสะใภั ยังพยายามจับเธอขายไปแต่งงานนอกหมู่บ้านแลกเงิน โชคดีที่คุณปู่และลุงๆ ไม่เห็นด้วย จางเฟยอี ที่มาเกิดใหม่แบบงงๆ เลยยังรอดพ้นจากการคลุมถุงชน ใช้ชีวิตเป็นสาวโสดต่อไปได้

.

แต่! จะให้เธอใช้ชีวิตต่อไปในครอบครัวใหญ่แบบนี้ เห็นถ้าจะไม่ใช่ความคิดที่ดี แม้ครั้งนี้รอดตัวไปได้ และป้าสะใภ้ไม่ได้คิดร้ายต้องการขายเธอออกไปเพราะความโลภ แต่ทำไปเพราะไม่มีทางเลือก อีกฝ่ายแค่ต้องการเงินมารักษาลูกสาวของตัวเองที่กำลังจะป่วยตายเท่านั้น

.

จางเฟยอี ที่มาเกิดใหม่พอดี แล้วได้ยินการถกเถียงทั้งหมด จึงตัดสินใจเสนอความช่วยเหลือ มอบเครื่องประดับที่มารดาเจ้าของร่างเก็บไว้เป็นสินเดิมเจ้าสาวให้ครอบครัวเอาไปขาย แลกกับการแยกบ้านให้เธอและน้องๆ มีอิสระไปใช้ชีวิตกันเอง!!

แม้ครอบครับที่ จางเฟยอี มาเกิดใหม่จะยากจน แต่ยังดีที่คุณปู่และลุงๆ ยังมีความยุติธรรมและหวังดีต่อหลานสาวอย่างจริงใจ การแยกบ้านจึงผ่านไปด้วยดี จางเฟยอี และน้องชายได้ย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านเดิมของผู้เป็นย่าที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ได้รับพื้นที่เพราะปลูกเล็กๆ เป็นต้นทุนในการใช้ชีวิต และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นชีวิตในโลกโบราณของจางเฟยอีอย่างเป็นทางการ เธอต้องการเพียงใช้ชีวิตสงบสุขไปวันๆ เลี้ยงดูน้องชายทั้งสองให้เติบโตได้ดี

.

แต่นั่นเป็นความคิดของ จางเฟยอี ในตอนแรกเท่านั้น เพราะหลังจากที่เธอแยกออกมาใช้ชีวิตเองได้ไม่นานก็ได้ค้นพบความจริงว่า… เธอไม่ได้แค่ย้อนเวลามาเกิดใหม่ แต่กลับทะลุมิติมาอยู่ในนิยายเรื่องที่เคยอ่านต่างหาก!!

.

โดยนิยายเรื่องนี้มีพระเอกเป็นแม่ทัพใหญ่ผู้เก่งกาจ นางเอกเป็นหมอหญิงที่มีวิชาการแพทย์สูงส่งจนได้รับฉายาว่าหมอหญิงเทวดา

.

และในอนาคตไม่นานแคว้นที่เธออาศัยอยู่จะต้องเผชิญหน้ากับการโดนฝูงตั๊กแตนบุกโจมตีทำลายพืชผลทางการเกษตรจนเกิดวิกฤติขาดแคลนอาหาร ประชาชนล้มตาย เกิดโรคระบาดลุกลามไปทั่ว แถมยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แคว้นรอบข้างฉวยโอกาสก่อสงคราม ชาวบ้านถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร… รวมถึงครอบครัวใหม่ของจางเฟยอีด้วย!!

เมื่อมีชีวิตธรรมดาไม่ได้

ก็ขอทำภารกิจช่วยเหลือชาวบ้านให้ถึงที่สุด!

เมื่อล่วงรู้ถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอจึงต้องล้มเลิกแผนการในอนาคตที่ตอนแรกตั้งใจจะใช้ชีวิตเป็นหญิงสาวชนบทยากไร้ไปเรื่อยๆ ทำสวนปลูกผักสไลว์ไลฟ์ไปวันๆ แล้วคิดว่าแผนใหม่เปลี่ยนจากแค่ทำสวนผักเล็กไว้บังหน้า แล้วใช้ชีวิตพึ่งพาอาหารในมิติส่วนตัวที่ได้มาตอนเกิดใหม่ เป็นวางแผนขยายพื้นที่เพาะปลูกให้กว้างขวางมากขึ้น สร้างโรงงานส่งออกผักดอง กุนเชียง ขยายการค้าให้กระจายออกไปทั่วแคว้นเพื่อใช้เป็นเสบียงสำรองช่วยเหลือชาวบ้านในยามฉุกเฉิน

.

แต่แผนการนี้มันใหญ่เกินที่ จางเฟยอี จะสามารถทำคนเดียวได้สำเร็จนี่สิ เพราะเธอเป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น งานนี้นางเอกของเราจะหาตัวช่วยจากไหนมาทำให้แผนการปกป้องครอบครัวของเธอสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี มาตามลุ้นกัน!!!

จางเฟยอีสตรีผู้พลิกชะตา เป็นนิยายแนวทะลุมิติไปเกิดใหม่ในโลกนิยายที่เปิดมาตอนแรก เหมือนจะดราม่า แต่จริงๆ ฟีลกู๊ดมาก ญาติที่ตอนแรกมีทีท่าว่าจะร้าย กลับไม่ร้ายกาจอย่างที่คิด พอเคลียร์ปัญหาคาใจกันลงตัวก็กลายเป็นดีใจหาย ช่วยเหลือนางเอกของเราเต็มที่ ชวนให้อ่านแล้วอบอุ่นละมุนใจกันสุดๆ แถมเด็กๆ ในเรื่องนี้ก็ยังน่ารักมากไม่ว่าจะน้องชายนางเอก น้องชายพระเอก แต่ละคนคือเป็นตัวป่วน ตัวตึงกันทั้งนั้น เห็นแล้วปวดหัวแทนนางเอกที่ต้องมาดูแลเด็กดื้อพวกนี้เลยค่ะ

ใครชอบแนวทะลุมิติไปในโลกนิยายที่ไม่ดราม่า เน้นอบอุ่น ตลกเฮฮา ตัวละครตบมุกกันตะลึงตึงโป๊ะ ก็เชิญมาคลิกอ่านเรื่องนี้กันเลย รับรองว่าอ่านแล้วต้องยิ้มและหลุดขำตลอดทั้งเรื่องค่ะ

chap-preview
Free preview
สกุลจาง
หมู่บ้านน่าหลาง บ้านสกุลจาง   “ข้าไม่เห็นว่ามันจะน่าละอายตรงไหนเลยนะ นางก็อายุสิบห้าปีแล้ว หากท่านยังไม่อยากรีบให้นางออกเรือนไปก็ทำการหมั้นหมายไว้ก่อนได้นี่ บิดามารดานางก็ไม่อยู่ ผู้อาวุโสในสกุลจะทำการหมั้นหมายให้มันแปลกตรงที่ใดกัน” “หากว่าเจ้าคิดจะหาคู่ครองให้นางอย่างบริสุทธิ์ใจ ข้าจะคัดค้านเจ้าหรือชุนเถา แต่นี่เป็นเพราะเจ้าหวังเอาเงินสินสอดของนางมาใช้เรื่องส่วนตัว เจ้าไม่ละอายแต่ข้าละอาย เจ้าหยุดปากไปเสีย!!” “แล้วบุตรสาวของท่านล่ะ ท่านจะปล่อยให้นางตายไปเช่นนี้หรือจิตใจท่านทำด้วยอะไร ข้าไม่มีหนทางแล้ว ท่านจะให้ข้าทำเช่นไร ฮือ..ฮือ..”           เสียงร้องไห้โวยวาย และการโต้เถียงกันระหว่างสามีภรรย***านสกุลจาง ดังแว่วออกมานอกเรือนเกือบชั่วยามแล้ว ชาวบ้านใกล้เคียงต่างก็ชะเง้อคอมอง ลอบสอดส่ายสายตาอยู่ตามริมกำแพงอย่างสอดรู้สอดเห็น “ต้าฉวน เจ้าโวยวายเสียงดังอะไรกันแต่เช้าขนาดนี้” จางอู่เกินชายชราผู้เป็นบิดาของจางต้าฉวนรีบออกมาจากห้อง เมื่อได้ยินเสียงของบุตรชายและลูกสะใภ้ทะเลาะกันเสียงดัง “ท่านพ่อ.. ชุนเถานางกังวลจนเลอะเลือนไปเท่านั้นขอรับ ข้าโมโหจึงได้เผลอเสียงดังตำหนินางไปนิดหน่อยขอรับ” “ท่านพ่อสามี ข้าไม่ได้เลอะเลือน พวกท่านเห็นใจข้าเถิด จื่อเหมยต้องการหมอจริงๆ ข้าไม่อาจทนเห็นนางเป็นอะไรไปโดยไม่ทำอะไรได้นะเจ้าคะ หากให้เฟยอีออกเรือนไปเสียเรายังได้เงินค่าสินสอดพาจื่อเหมยไปหาหมอ  ถ้าจื่อเหมยหายดีแล้วข้าจะหาทางค*****นให้บ้านสามจนครบเลยเจ้าค่ะ ข้าขอร้อง..ข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ฮือ..ฮือ" “เรื่องนี้ข้าพูดกับเจ้าไปแล้วนะชุนเถา ข้าไม่ยินยอมจะขายหลานสาวออกไปเช่นนี้หรอก" จางต้าฉวนขมวดคิ้วแน่น เขาทั้งโกรธทั้งอายจนตัวสั่น จางจื่อเหมยบุตรสาวคนโตของเขาออกไปช่วยงานในทุ่งนา แล้วเกิดเป็นลมศีรษะกระแทกพื้นจนสลบไปตั้งแต่เมื่อวาน ครอบครัวเขาไม่มีเงินพอที่จะพานางไปหาหมอ คนในหมู่บ้านก็ล้วนแล้วแต่ยากจนไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็หาที่พึ่งไม่ได้  หลี่ชุนเถาภรรยาของเขาร้อนใจรีบกลับไปที่บ้านเดิมของนาง หวังจะไปขอยืมเงินพ่อตาแม่ยายเพื่อพาบุตรสาวไปหาหมอก่อน แต่แล้วนางก็ได้แต่ร้องไห้ผิดหวังกลับมา  ทางหมู่บ้างฉางนั้นก็ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเช่นกัน พ่อตาแม่ยายของเขาก็แทบจะไม่มีอะไรกินกันอยู่แล้ว เขาจึงได้แต่ให้บุตรสาวนอนพักอยู่แต่ในเรือน และดูแลกันเอง จนข้ามวันนางก็ยังไม่ได้ฟื้นขึ้นมา    เมื่อวานตอนที่หลี่ชุนเถาเดินทางกลับไปหมู่บ้านถูวั่งบ้านเดิมของนาง เผอิญได้รู้ข่าวมาว่า มีพ่อหม้ายผู้หนึ่ง ทำงานเป็นคนเชือดหมูอาศัยอยู่ในหมู่บ้านฉาง ประกาศให้สินสอด 1 ตำลึงเงิน เพื่อหาภรรยามาดูแลลูกสามคนที่เกิดจากภรรยาเก่าของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว  พ่อหม้ายคนนี้เนื้อตัวสกปรกมอมแมม ผิวดำหยาบกร้านทั้งยังมีลูกติดจึงไม่มีใครคิดจะแต่งให้กับเขา จนกลายเป็นเรื่องพูดคุยสนุกปากของชาวบ้าน หลี่ชุนเถาที่กำลังกระวนกระวายใจเรื่องบุตรสาว จึงเอ่ยถึงหลานสาวจางเฟยอีกับจางต้าฉวน ว่าหลานของเขาถึงวัยออกเรือนแล้ว จางเฟยอีเป็นเด็กสาวทึ่มทื่อไม่มีปากเสียงกับผู้ใด ซ้ำบิดามารดาก็หายสาบสูญไปนานกว่าสี่ปีแล้ว ถ้าผู้ใหญ่ในบ้านจัดการให้ย่อมยินยอมแต่งออกไปโดยไม่ขัดแย้ง หากได้ค่าสินสอดนั้นมาก็จะได้เงินพาจางจื่อเหมยไปรักษาตัวได้ เขาโกรธภรรยาจนดุว่าไปครั้งหนึ่งตั้งแต่เมื่อวาน หลานสาวของเขาเพิ่งจะอายุสิบห้าปี แต่พ่อหม้ายนั่นอายุเกือบจะสี่สิบปีแล้ว ซ้ำยังมีลูกติดอีกสามคน จะให้หลานสาวของเขาแต่งไปเป็นคนรับใช้ของบ้านนั้นหรืออย่างไร  หลี่ชุนเถานั้นทั้งทุกข์ใจทั้งกลัว นางเองก็เลี้ยงดูหลานสาวมาตั้งแต่เล็กเช่นกัน แต่พอหน้าสิ่วหน้าขวานก็คิดหาทางออกอื่นไม่ได้ พอเห็นสามีต่อต้านรุนแรง จึงได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญดูแลเช็ดเนื้อตัวให้บุตรสาวไปตลอดทั้งคืน ไม่คิดว่าพอเช้านี้ จางจื่อเหมยกลับมีไข้สูง เรียกอย่างไรก็ไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อยสีหน้าก็ดูย่ำแย่กว่าเมื่อวานมาก ทำให้นางชุนเถาถึงกับคลุ้มคลั่งไล่ตีเขาให้ออกไปหาเงิน เขาเองก็ไม่รู้จะทำเช่นไรเหมือนกัน เขาไปหาสหายมาหลายคนแล้ว แต่ละคนล้วนผ่ายผอมยากลำบากยิ่งกว่าเขาเสียอีก “ต้าฉวน เช่นนั้นเจ้าก็ไปหาท่านหัวหน้าหมู่บ้านบอกให้เขาช่วยขายที่นาของเราออกไปเสียเถิด ต้าหลางเจ้าก็ไปบ้านอ้ายกัวขอยืมเกวียนเขามาเตรียมพาจื่อเหมยไปหาหมอในเมืองก่อน ค่ารักษาหลังจากขายที่ดินได้แล้วเราก็รีบนำไปจ่ายท่านหมอเสีย” จางอู่เกินสั่งความบุตรชายทั้งสองอย่างเศร้าสร้อย  “ท่านพ่อ หากขายที่ดินแล้วต่อไปพวกเราจะทำอะไรกินกัน ตลอดสามปีมานี่พวกเราก็ทยอยขายจนเหลือเพียงที่นาไม่มากแล้วนะขอรับ”    จางต้าหลางเอ่ยเตือนผู้เป็นบิดา โดยมีภรรยาของเขาลอบกระตุกแขนเสื้ออยู่ข้างๆ พวกเขาเคยปรึกษากันเรื่องนี้แล้วว่าหากบิดาจะขายที่ดินออกไปอีก เขาจะคัดค้านเพราะหากไม่มีที่ดินเหลือไว้เพาะปลูกทำกิน ก็เท่ากับตัดอนาคตของทุกคนในบ้านสกุลจางทั้งหมด   “ท่านพ่อ ที่ดินเวลานี้ก็ใช่ว่าจะขายได้ง่าย ภัยแล้งยาวนานมาสองปีกว่าแล้ว ที่ดินต่างก็ราคาตกต่ำคงจะขายไม่ได้โดยไวหรอกขอรับ”  จางต้าฉวนกล่าวกับบิดา ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องการขายที่ดินออกไป แต่เป็นเพราะอยากขายก็ไม่มีใครต้องการต่างหาก เวลานี้ทุกคนในหมู่บ้าน ต่างก็ไปบอกฝากขายที่ดินไว้กับหัวหน้าหมู่บ้านกันแทบทุกคนแล้ว หากจะลดราคาก็คงต้องแข่งกันลดจนแทบจะยกให้เปล่าๆ ความคิดนี้จึงเป็นอันต้องพับไป หลี่ชุนเถาหรือนางหลี่ซื่อ ยิ่งฟังสามพ่อลูกพูดคุยตอบโต้กันไปมา ก็ยิ่งร้อนรน “นั่นก็ไม่ได้! นี่ก็ไม่ได้! พวกท่านจะให้ข้าทำเช่นไร หากส่งเฟยอีออกเรือนไปก็ลดคนกินข้าวไปอีกหนึ่งคน" นางพยายามหาข้ออ้างมากล่าว ถึงแม้จะรู้สึกผิด แต่เพื่อบุตรสาวแล้ว เวลานี้นางยอมกลายเป็นคนชั่ว นางหลี่ซื่อหันไปเห็นน้องชายสามีและภรรยาที่ยืนฟังอยู่ ก็รีบเรียกพวกเขา  "ต้าหลางน้องสะใภ้ หากให้เฟยอีออกเรือนไปบุตรชายหญิงของพวกเจ้าก็จะได้กินอาหารมากขึ้นไม่ใช่หรือ เจ้าช่วยขอร้องท่านพ่อกับพี่ชายใหญ่ของเจ้าให้ข้าอีกแรงเถิด” หลี่ชุนเถาโผมาหาสะใภ้รอง ร่ำไห้ปานจะขาดใจ จางต้าฉวนเห็นผู้เป็นภรรยาร่ำไห้ ก็ได้แต่นึกโทษตัวเองรีบไปพยุงร่างนางหลี่ซื่อเอาไว้ “ข้าขอโทษชุนเถา ข้ามันเป็นพ่อไม่เอาไหน ข้าจะไปในเมืองขายตัวเองเป็นบ่าวทาสให้สกุลใหญ่ เจ้าเลิกร้องไห้เสียเถิด จื่อเหมยต้องได้ไปหาหมออย่างแน่นอน   ท่านพ่อ..ท่านไม่ต้องขายที่ดินหรอกขอรับพวกเราไม่มีอาชีพอื่นแล้ว หากไม่มีนาไว้ปลูกข้าวกินเอง ทุกคนในบ้านต้องอดตายอย่างแน่นอน ข้าจะไปในเมืองกับน้องรอง ได้เงินแล้วก็ให้น้องรองรีบพาจื่อเหมยไปหาหมอเงินส่วนที่เหลือก็เอามาซื้ออาหารไว้ให้คนในบ้านเถิดขอรับ” “จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร เจ้าเป็นบุตรชายคนโตของข้าบ้านสกุลจางต่อไปก็ต้องเป็นเจ้าคอยดูแลน้องและหลานๆ ต้าฉวนเอ้ย… อย่าพูดเรื่องขายตัวเป็นทาสอะไรพวกนี้อีกเลย”  จางอู่เกินกุมหน้าอกพูดออกมาพร้อมๆ กับร่างของเขาก็ค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น “ท่านพ่อ!!” “ท่านพ่อ!!” จางต้าฉวนและจางต้าหลาง รีบเข้ามารับร่างของบิดาโดยเร็ว ยังดีที่เขายังไม่ทันล้มลงไปเวลานี้หากบิดาเจ็บป่วยไปอีกคน นั่นจะเป็นเรื่องใหญ่ที่พวกเขาไม่อาจรับได้อีกต่อไป “ไม่เป็นไรๆ ข้าเพียงหน้ามืดไปเท่านั้น ” จางอู่เกินบอกกับบุตรชาย หลังจากที่ได้นั่งพักลงสักครู่ เขาจึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง           “ท่านพ่อ เช่นนั้นข้าจะขายตัวเองไปเป็นบ่าวเอง ข้าก็ทนมองทุกคนอดอยากอยู่แบบนี้ไม่ไหวแล้วขอรับ”  จางต้าหลางเอ่ยน้ำตาคลอเบ้า เดิมทีเขามีอาชีพช่างไม้ เป็นลูกจ้างเถ้าแก่ร้านขายเครื่องเรือนที่อยู่ในเมือง แต่หลายปีก่อนประสบอุบัติเหตุแขนขวาของเขามีแผลขนาดใหญ่บริเวณข้อศอก หลังจากแผลหายดีแล้วแขนของเขากลับมีแผลเป็น ผิวหนังบริเวณนั้นยึดติดกันเป็นพังผืด ไม่สามารถยืดออกได้เหมือนคนปกติอีกเลย         การเป็นช่างไม้ต้องใช้กำลังที่แขนและมือเป็นอย่างมาก เถ้าแก่กลัวว่าเขาจะทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงบีบให้เขาลาออกจากงาน และจำต้องเดินทางกลับมาช่วยครอบครัวทำไร่นาอยู่ที่บ้าน  ช่วงแรก ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแต่สองสามปีที่ผ่านมานี้ เกิดภัยแล้งไปทั่วทุกแห่ง ปัญหาการขาดแคลนอาหารกระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน การต้องทนมองภรรยาและลูกนอนหลับลงไปโดยที่ไม่มีอาหารตกถึงท้องอยู่บ่อยๆ นั่นมันทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งนัก  

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.2K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook