“ฉันจะทำยังไงดี ณดา...” หลังกลับมาจากสำนักพิมพ์แล้ว วรันธาราก็อดที่จะโทรปรับทุกข์กับเพื่อนรักสมัยเรียนอย่าง ณดา พนารัตน์ ไม่ได้
“ฉันรู้เหมือน... กำลังจะเดินเข้าไปในถ้ำเสือยังไงก็ไม่รู้”
“ใจเย็นๆ ธาร ฉันมั่นใจว่าเธอทำได้ เธอเป็นคนเก่ง มีไหวพริบ และมีความมุ่งมั่นสูง ยังไงเธอก็ต้องทำสำเร็จ”
ณดาหญิงสาวที่ซ่อนดวงตาหวานฉ่ำเอาไว้ใต้กรอบแว่นหนาเตอะกล่าวให้กำลังใจเพื่อนรักด้วยความจริงใจ
“แต่ครั้งนี้ฉันไม่มั่นใจเลยณดา ฉัน... ฉันรู้สึกกลัวผู้ชายคนนั้น”
“คุณเควินอาจจะไม่ได้โหดร้ายเหมือนคำล่ำลือก็ได้นะธาร บางทีอาจจะใจดีก็ได้”
วรันธาราส่ายหน้าดิกกับโทรศัพท์มือถือที่แนบเอาไว้ข้างหู “ใจดีน่ะคงไม่ใช่หรอก ตาหมอนั่นดุ๊ดุ ดุมาก ขนาดฉันเห็นแค่รูปถ่ายนะ ยังอดสะพรึงไม่ได้เลย”
“แต่ฉันเชื่อว่าไม่มีอุปสรรคหรือความรู้สึกใดมาขวางกั้นความมุ่งมั่นของเธอได้หรอกธาร ขอแค่อย่าท้ออย่างเดียวเท่านั้น”
วรันธาราถอนใจออกมาเบาๆ “ขอบใจมากนะณดา และก็ขอโทษที่โทรมารบกวนค่ำๆ มืดๆ น่ะ”
“ไม่รบกวนหรอก ฉันกำลังเหงาอยู่พอดี”
“เหงา?” วรันธาราทวนคำของเพื่อนสนิท ก่อนจะถามกลับอย่างประหลาดใจ
“แล้วพี่ขุนของเธอไปไหนซะล่ะ เห็นปกติจะมากินข้าปกติไม่ได้มากินข้าววด้วยทุกเย็นไม่ใช่เหรอกหรือหรอ หรือว่าวันนี้ทำโอที...””
วรันธาราถามถึงขุนศึกแฟนคนแรกและคนเดียวของณดาที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้นด้วยกันนาน
“อ๋อ ใช่... พี่ขุนทำโอทีน่ะ”
แม้ณดาจะทำพยายามทำสุ่มเสียงให้เป็นปกติยังไง แต่วรันธาราก็ยังรู้ทันอยู่ดี “เสียงแบบนี้ แสดงว่าพี่ขุนนอกใจเธออีกแล้วใช่ไหมณดา”
“ไม่... ไม่ใช่หรอก ธาร ไม่มีอะไรจริงๆ”
“อย่ามาโกหกฉันสิณดาเธอโกหกไม่เก่งณดา มีอะไรก็ต้องเล่าให้ฉันฟังด้วย ไม่ใช่เก็บเอาไว้คนเดียวแบบนี้ ปกติเธอเป็นคนพูดตรงๆ ไม่ใช่เหรอ”
“ฉัน... ฉันแค่ไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ ฉัน...”
กระแสเสียงของณดาสั่นเทาจนวรันธาราอยากจะบินไปหาที่วอชิงตันเสียให้ได้
“เลิกกับพี่ขุนซะเถอะ อย่าให้อภัยผู้ชายเลวๆ แบบนี้อีกเลย”
ณดานิ่งเงียบไป วรันธาราจึงพูดต่อ
“ฉันจำไม่ได้หรอกนะว่าเธอคบกับหมอนี่มากี่ปีแล้ว แต่ที่จำได้แม่นยำก็คือ มันนอกใจเธอหมอนี่คบครบกับเธอมาสิบปีเก้าเดือนสามสิบห้าวัน แต่นอกใจเธอไปแล้วห้ายี่สิบสองครั้ง มันใช้ไม่ได้นะณดา เธอไม่ควรที่จะต้องมาเสียน้ำตาเพราะผู้ชายคนนี้อีกแล้ว”
“ธาร... ฉันสบายดี...”
“อย่ามาโกหกฉันหน่อยเลย สบายดีแล้วเสียงสั่นทำไม เธอร้องไห้ทำไมณดา นี่ถ้าฉันไม่โทรมาปรึกษาเรื่องงาน ฉันก็คงไม่มีทางรู้เลยว่าเธอกำลังถูกผู้ชายเลวๆ ทำร้ายน่ะ” วรันธาราโกรธขุนศึกมาก จนแทบอยากจะกระทืบให้จมดิน “ถ้าฉันทำงานนี้สำเร็จเมื่อไหร่ ฉันจะย้ายไปอยู่ที่วอชิงตัน และไปจัดการไอ้พี่ขุนให้เข็ดหลาบ คอยดูสิ”
“อย่าเดือดร้อนเพราะฉันเลยธาร... ฉันทนได้”
“ณดา... เธอจะทนไปทำไม ผู้ชายแบบนี้ไม่มีเสียดีกว่า”
คนปลายสายสะอื้นไห้อย่างสุดจะกลั้น “แต่พี่ขุนเป็นรักแรกของฉันนะธาร และพี่ขุนก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่เห็นค่าของฉัน”
วรันธารากระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ “ฉันอยากจะบอกเธอมาตั้งนานแล้วนะณดา ไอ้พี่ขุนของเธอน่ะมันเห็นเธอเป็นตู้เอทีเอ็มต่างหาก ตั้งแต่คบกับมันมา มันเคยออกเงินซื้อข้าวซื้อของให้เธอบ้างไหมล่ะ ขนาดแค่ค่าข้าวเธอยังต้องออกให้มันกินเลย”
วรันธาราพูดเรื่องจริงทุกอย่าง แต่ณดาก็ยังใจไม่แข็งพอที่จะตัดรักแรกออกไปจากหัวใจ
“แต่พี่ขุนมีบุญคุณกับฉัน...”
“ก็แค่ช่วยเธอให้พ้นจากไอ้พวกนักเลงหัวไม้ครั้งเดียว มันจะเป็นบุญคุณอะไรนักหนา แถมเงินทองที่เธอเสียให้มันไปก็เกินคุ้มแล้วด้วย”
“พี่ขุนแค่ยืมน่ะธาร”
“ยืม?” วรันธาราทำเสียงเยาะหยันในลำคอ “ยืมแล้วเคยคืนบ้างหรือเปล่าล่ะ กี่หมื่นกี่แสนเหรียญแล้ว”
ณดาเองก็คิดแบบนั้น แต่เพราะคิดว่าเป็นคนรัก หล่อนจึงยินยอมให้ขุนศึกเอาเปรียบมาตลอด “ฉัน...”
“เอาเป็นว่าพยายามตัดใจเสียเถอะนะณดา ผู้ชายดีๆ ยังมีอยู่อีกมากมาย และที่สำคัญบางทีเธออาจจะไม่ได้รักไอ้พี่ขุนอย่างที่เธอพยายามบอกตัวเองก็ได้”
“ธาร...”
“ฉันพูดเรื่องจริงนะ เพราะถ้าเธอรักไอ้พี่ขุนแบบคนรัก แบบชู้สาวจริงๆ แล้วทำไมเธอไม่ยอมนอนกับมันล่ะ”
ใช่ นี่คือเรื่องเดียวที่หล่อนขัดใจขุนศึก
“คือว่าฉัน... ฉันยังไม่พร้อมน่ะ”
“แต่ฉันว่าเธอแค่หลอกตัวเองว่ารักหมอนั่นมากกว่า โลกของเธอมันแคบเกินไป เอาเป็นว่าฉันอยู่ทางนี้จะเฟ้นหาผู้ชายคุณสมบัติยอดเยี่ยมให้กับเธอนะ ณดา แล้วอีกหนึ่งเดือนเราเจอกัน”
“ไม่นะธาร... ฉัน... ฉันไม่อยากมีใครหรอก แค่พี่ขุนก็พอ”
“บอกแล้วไงว่าอย่าหลอกตัวเอง เอาเป็นว่าทำตามที่ฉันพูดก็แล้วกันนะเพื่อนรัก โอเคร งั้นราตรีสวัสดิ์ แล้วจะโทรหาใหม่”
“เดี๋ยวก่อนสิธาร... ธาร...”
ในขณะที่ณดาร้องเรียกแต่ไม่ทัน เพราะอีกฝ่ายตัดสายสนทนาไปเสียแล้ว
ณดาระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ดวงตากลมโตในกรอบแว่นหนาช้อนขึ้นมองแผ่นฟ้ายามค่ำคืนด้านนอกหน้าต่างด้วยความสับสน คำพูดของวรันธารายังคงวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลา