บทที่ 1 ตกเป็นจำเลย
บุตรชายคนเล็กแห่งตระกูลอัลเล็นโซ่ยืนนิ่ง ซานโต้จ้องมองใบหน้าเรียวคม ผ่านมาถึงดวงตาสีเขียวมรกต จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนา เครื่องหน้าออกหวานละมุนเหมือนหญิงสาวแต่เมื่อครบองค์ประกอบกลับหล่อเหลาไม่ต่างจากพี่ชายมากนัก ในบรรดาบุตรชายลูกคนเล็กมีเค้าโครงกระเดียดไปทางมารดามากที่สุด
ซานโต้ถอนใจออกมาจ้องมองแววตาตัดพ้อ เซย์ยังคงงุนงง ณ ตอนนี้ยังไม่เข้าใจมีเหตุอันใดเกิดขึ้น เหลือบมองพี่ชายคนโตเห็นสีหน้าเย็นชาเหมือนเคยไม่มีคำพูดใด ตนเองทำอะไรผิดไปในเมื่อร้านอาหารหลายพันสาขาเขาบริหารอย่างดีไม่เคยขาดตกบกพร่องตรงไหนเลย
ปัง!
หนังสือพิมพ์ถูกโยนตรงหน้า เซย์จ้องมองสีหน้าสงสัยมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทั้งพี่ชายและบิดาถึงได้มีท่าทีปั้นปึงใส่
“แกไม่เคยอ่านข่าวตามหน้าหนังสือเลยใช่ไหมเซย์!”ซานโต้ถามเสียงแข็ง
“ทำไมเหรอครับพ่อ”
“ถ้าแกอยากรู้ทำไมแกไม่เปิดอ่านดู หืม...”
เซย์หยิบหนังสือพิมพ์ที่โยนไว้ก่อนหน้ามาอ่าน เนื้อหาเกี่ยวกับการขายบริการทางเพศในร้านอาหารและหยุดสายตาลงที่ตัวหนังสือเขียนข่าวเกี่ยวกับร้านอาหารที่ตนเป็นคนบริหาร
ผมได้เดินทางไปทานอาหารที่ร้านพาราไดซ์สาขาหนึ่ง เพราะได้ยินชื่อเสียงเรื่องอาหารและบรรยากาศหลากหลายสำหรับคู่รัก ครอบครัว และสังสรรค์ในหมู่เพื่อน แต่ผมกลับได้รับคำถามจากพนักงานเสริฟ์คนหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องขายบริการทางเพศว่า... ผมสนใจหรือเปล่า ที่นี่ผู้หญิงที่เสริฟ์อาหารสามารถพาพวกเธอไปเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะดื่มต่อ หรือค้างคืนได้ทั้งนั้นขอเพียงแค่คุณมีเงินในมือหนาสักหน่อย ผมไม่นึกเลยว่าร้านอาหารอันมีชื่อเสียงภายใต้การบริหารงานของตระกูลอัลเล็นโซ่ ตระกูลดังแห่งอิตาลีจะมีธุรกิจมืดมาพัวพันด้วยแบบนี้ เห็นทีผมคงเลิกทานอาหารที่นี่แล้วล่ะครับ
เหมือนถูกตอกจนหน้าชาไม่คิดเลยว่าตนเองจะมาประสบพบเจอกับเรื่องราวแบบนี้ ตลอดเวลานับห้าปีที่ทำงานมาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ความรู้สึกตอนนี้อยากจะจัดการพนักงานที่กล้าทำเรื่องอื้อฉาวภายใต้การดูแลให้สิ้นซาก
“แกไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย อย่าให้ฉันเจอข่าวคาวโลกีย์แสนทุเรศนี่อีก!”ซานโต้สั่งเสียงกร้าว
“ครับพ่อ”
ไหล่ถูกบีบเบาๆ จากพี่ชาย เซย์เหลือบมองแววตาหม่นเศร้า
“ไม่เป็นไรเซย์ ค่อยๆ แก้ปัญหาไป”พี่ชายคนโตให้กำลังใจ
“ครับ”
ร่างสูงใหญ่สาวเท้าออกจากห้องบิดา ซาฟหันมองพ่อพลางถอนใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมสีขาว
“ทำไมพ่อต้องดุน้องขนาดนั้นด้วยครับ?”
คนเป็นพ่อถอนใจออกมาเช่นกัน บุตรชายสี่คนมีลูกชายคนเล็กที่ตนห่วงที่สุด ด้วยความเอาแต่ใจเลยทำให้ปกครองคนลำบาก แถมยังดื้อรั้นเป็นที่หนึ่ง
“พ่ออยากให้เซย์แก้ปัญหาเรื่องงานด้วยตัวเอง เมื่อก่อนพอมีปัญหาทีไรก็วิ่งโร่มาให้แกช่วยทุกทีไม่ใช่หรือซาฟ”
ซาฟนิ่ง มันคือความจริงปัญหาสารพัดจากเรื่องการบริหารงานของน้องชาย อีกทั้งเรื่องพนักงานเกือบออกจนหมดร้านเพราะความเอาแต่ใจ ทำเอาเขาแทบกุมขมับมีพักหลังที่น้องชายคนเล็กยอมซาลง
“พ่อแน่ใจเหรอครับ ว่าน้องจะทำได้”
“ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อแกกับเจ้าเซย์ก็ลูกพ่อเหมือนกัน”ซานโต้ย้อน
ร่างสูงลุกยืนสีหน้าเรียบนิ่ง จะรอดูต่อไปเห็นท่าทีบิดาแล้วคงให้เซย์แก้ปัญหาด้วยตัวเองเป็นแน่
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ วันนี้มีประชุม”ชายหนุ่มบอกแล้วสาวเท้าออกมาจากห้องบิดา
ห้องทำงานสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีครีมหน้าต่างติดกระจกสีดำ มูลี่ถูกติดไว้เพื่อบดบังแสงแดด ด้านผนังซ้ายมีตู้เก็บเอกสารไม้เนื้อดีติดกระจกเพื่อให้มองเห็นแฟ้มเอกสารตั้งเรียงกัน เยื้องมาทางขวาเกือบกลางห้องเป็นที่วางโต๊ะทำงานโครงเหล็กพื้นที่บนโต๊ะเป็นกระจกสีดำมีเก้าอี้หนังบุนวมสีดำวางคู่กัน โดยมีคอมพิวเตอร์และเอกสารวางระแกะระกะเนื่องจากเจ้าของยังทำงานค้างอยู่ ที่ตั้งของห้องทำงานอยู่เหนือร้านอาหารสุดหรูแห่งเมืองเวนิชนามว่าพาราไดซ์
เจ้าของห้องก้าวมาถึงหน้าประตูไขกุญแจเข้าด้านใน สองเท้าสาวเดินอย่างรวดเร็วสีหน้าไม่สบอารมณ์ เมื่อถึงเก้าอี้ทำงานทิ้งตัวลงอย่างหงุดหงิด ยกมือขึ้นกุมขมับพิงพนัก ลูกน้องคู่กายเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเจ้านายราวกับต้องการปลดเปลื้องภาระอันหนักหน่วงในห้วงความคิด
เซย์ลืมตาเห็นซากิมองไม่วางตา ชันกายนั่งตรงแล้วผสานมือเหนือโต๊ะทำงาน คิดวนไปวนมาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น อยากจับตัวไอ้คนที่มันกระทำการเรื่องนี้มาลงโทษโดยเร็วที่สุด จ้องมองลูกน้องสัญชาติญี่ปุ่นเข้าทำงานกับเขาเกือบห้าปี ไว้ใจสนิทสนมกันมาลงมือทำงานทุกอย่างที่สั่งไม่ว่าดีหรือชั่วแค่ไหนก็ตาม ซากิไม่เคยขัดคำสั่งเลยสักครั้ง
“ซากิ”
“ครับคุณเซย์”ซากิตอบรับ
“จัดการหาตัวไอ้คนที่มันเขียนข่าวเกี่ยวกับร้านอาหารที่นี่ เชิญมันมาพบฉันที่นี่!”กัดฟันเอ่ยออกมา
“ได้ครับ ผมจะจัดการให้เร็วที่สุด”
มองตามแผ่นหลังลูกน้อง ขอให้ซากิทำสำเร็จเขาไม่อยากถูกต่อว่าจากบิดาอีกแล้ว อยากทำประโยชน์ให้กับตระกูลเหมือนพี่ๆ คนอื่นบ้าง เพราะการสูญเสียแม่ในคราวนั้นพี่ๆ และตนเองเจ็บปวดมาก แต่ทุกคนต่างปลอบใจเขาเพียงคนเดียวเหตุเพราะเป็นน้องคนสุดท้อง มันไม่ถูกต้องเลย เมื่ออายุพอรับรู้อะไรได้
คนที่สมควรจะได้รับการปลอบประโลมคือพี่เซ็ทมากกว่า เพราะพี่เอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นคนทำให้แม่ต้องจบชีวิตลงทุกคนต่างรู้ว่ามันไม่ใช่ แม่ทำเพื่อลูกๆ ทุกคนมันคือการเสียสละที่แม่คนหนึ่งจะทำเพื่อปกป้องลูกเท่านั้นเอง ก่อนแม่สิ้นลมก็บอกพวกเราพี่น้องเช่นนั้นเหมือนกัน