ตอนที่ 5 ออกอาการ

2020 Words
บทที่ 5 ออกอาการ เข้าเดือนเมษา อาทิตย์นี้จะเป็นการแข่งกีฬาของตำบล คือแข่งกันภายในนะ ทุกหมู่บ้านที่มาร่วมแข่งขัน มันมีประจำทุกปี พอเริ่มเข้าหน้าร้อนเดือนเมษา ก็เริ่มจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อสร้างความสามัคคี กีฬาที่มีก็จะเป็น -เปตอง ชาย - หญิง -วอลเลย์บอล ช - ญ -ตะกร้อ ชาย - ญ -แบดมินตัน ชาย - หญิง -ฟุตบอลอายุไม่เกิน12ปี ชายของเด็ก -ฟุตบอลอายุ 20 ปีขึ้นไป แล้วปีนี้มีเพิ่ม ฟุตบอลหญิงด้วย แบบหมู่ 7 มาท้าแข่งหมู่ 2 ทาง อบต.เลยจัดให้ ซึ่งฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย มียัยมิลานด้วยนะ และเพื่อนๆ หมู่ 2 ส่วนยัยชะเอมนางก็เล่นให้หมู่ 7 บ้านของนาง เรื่องกีฬา ฉันเล่นเป็นหมด นี่ถ้าแยกร่างได้คงรับทุกอย่าง 555+ แต่เวลามันไม่เอื้ออำนวย เพราะบางครั้งการแข่งขันแต่ละชนิดมันชนกัน ปลีกตัวไม่ได้หรอก ฉันเลยรับแต่วอลเลย์บอลกับฟุตบอล แต่บางครั้งก็อยากแต่งตัวสวยๆ เพื่อมาเชียร์กีฬาหรือกรี๊ดผู้ชายบ้างนะ งานกีฬาจะมีผู้ชายมาเยอะ555+ “ หมู่2 สู้ๆ ” เสียงดังมาจากขอบสนามวอลเลย์บอล ฉันก็เป็นหนึ่งในผู้เล่น ตอนนี้พวกเราแพ้อยู่แตมเดียว แต่ใช้เวลาเพียงไม่นานแตมของพวกเราก็นำ “ พี่มิลิน พี่ๆ ” เสียงเรียกชื่อฉันดังจากขอบสนาม ทำให้ฉันต้องหันไปมอง เป็นเมฆลูกของอาแมวนั่นเอง ฉันจึงบอกกรรมการว่าขอเวลานอก “ มีอะไร ” ฉันเดินออกมาจากสนามแล้วถามทันที ปกตินะ เวลาเชียร์กีฬาเขาจะไม่ให้เรียกชื่อผู้เล่นหรอก เพราะกลัวจะเสียสมาธิ ฉันเลยคิดว่าเมฆน่าจะมีธุระสำคัญ “ ลุงกำนันให้มาเรียกพี่ไปเตรียมลงเล่นฟุตบอลได้แล้ว ” “ อ้าว จะแข่งแล้วเหรอ? ” “ อืม ” “ แต่ฉันยังแข่งวอลเลย์บอลไม่จบเลยอะ ” “ ลุงกระซิบมาว่าต้องให้พี่รีบไปให้ได้ งานนี้เขาพนันกันด้วย ถ้าหมู่ไหนจะชนะจะได้เงินรางวัลจากนายกด้วย ” “ อ๋อ แข่งชิงรางวัลเหรอ? ก็คิดว่าแค้นส่วนตัว555+ ” ฉันพูดแล้วหันไปมองเพื่อนๆ ที่ยืนรอในสนามวอลเลย์บอล “ รีบไปเถอะพี่ ” “ แต่ไอ้พวกเล่นวอลเลย์บอลอะ คือคนที่สมัครเล่นฟุตบอลด้วยนะ หลายคนเลย ” “ พี่อะไปก่อน ส่วนพี่วิว พี่หมิว พี่มิลาน ค่อยตามไปพอแข่งวอลเลย์บอลเสร็จ ” เมฆพูด “ อืมๆ งั้นนายช่วยไปบอกเพื่อนให้หน่อย ฉันจะไปที่สนามฟุตบอลแล้ว ” ฉันพูดจบก็เดินไปทันที แต่ระหว่างทางที่เดินต้องผ่านนักฟุตบอลทั้งชายและหญิงของหมู่ 7 ที่นั่งใส่รองเท้าบ้าง ใส่ถุงเท้าบ้าง นวดน้ำมันบ้าง แต่พวกผู้ชายน่าจะเพิ่งแข่งกันเสร็จ เพราะดูแต่ละคนหน้าดำหน้าแดง เหงื่อแตกพลั่ก “ ฮิ้วว! ” มันเป็นปกติแหละ ไอ้ผู้ชายชอบแซว แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร “ อะๆ ลูกกำนันหยิ่งวะ ” “ เล่นฟุตบอลด้วยเหรอลูกกำนัน แวะคุยก่อนสิ จะรีบไปไหน ” “ ให้พี่เช็ดเหงื่อให้ไหมจ๊ะ ” และอ**บลาๆๆ เสียงผู้ชายหมู่ 7 ที่แซวฉัน “ เดินคนเดียวผ่านพวกเราไม่กลัวเหรอ เด็กหมู่ 2 ” อันนี้คือเสียงผู้หญิง ฉันก็ทำได้แค่หันไปยิ้ม แล้วรีบสาวเท้าเดินต่อไปให้พ้นจากตรงนี้แต่ พรึ่บ… จู่ๆ ผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดบ่ามา ก็ตกลงพื้นดิน ฉันต้องหยุดชะงักแล้วหันกลับไปเอา แต่… “ ชะ…ชานนท์ ” คนที่ชิงตัดหน้ามาหยิบให้ก็คือเขา เมื่อกี้ฉันก็ไม่ได้หันไปดูเลยว่าเขาก็นั่งรวมกลุ่มกับพวกที่แซวฉันด้วยและเขาก็น่าเล่นฟุตบอลด้วยเพราะใส่เสื้อทีมเดียวกันอยู่ “ อืม สบายดีไหม ” เขาถาม ตั้งแต่แยกกันวันนั้นวันที่ยี่สิบมีนาคมที่งานเลี้ยงรุ่น เราทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย ประมาณครึ่งเดือนได้ จนตอนนี้ก็เพิ่งมาเจอกันอีกครั้ง และเราทั้งคู่ทำเหมือนเมื่อก่อนแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันยังจดจำวันนั้นได้ไม่เคยลืม รสสัมผัสสวาทวาบหวามที่เขามอบให้ “ สบายดี นายล่ะ ” ฉันตอบและถามกลับในเวลาเดียวใกล้เคียงกัน พร้อมกับที่เขายื่นผ้าขนหนูคืนมาให้ “ ก็สบายดี แล้วลงเล่นฟุตบอลด้วยเหรอ? ” ใบหน้าเข้มเลิกคิ้วสูงเอ่ยถาม “ อืม ใช่ ” “ ไม่เปลี่ยนรองเท้าเหรอผ้าใบนี้มันลื่นนะถ้าเล่นในสนามฟุตบอล ” “ นี่แหละว่าจะไปเปลี่ยน ” “ จะไม่ทันแล้วนะ ยังไม่เตรียมอะไรเลย ” เขาพูดแล้วมองฉันจากหัวจรดปลายเท้า บางครั้งสายตาของเขาก็ทำให้ฉันเขินอายจึงรีบตอบและขอตัว “ ทันแน่นอน งั้นเราไปก่อนนะ ” “ อืม ยังไงก็สู้ๆ นะ ระวังขาด้วยล่ะ ” คำพูดที่คล้ายกับว่าห่วงใยมันทำให้ฉันระบายยิ้ม และก็เข้าใจในคำเตือนของเขา เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่เล่นไม่ค่อยเป็นและเลือกจะขัดขากันด้วย ฉันส่ายหน้าขำขันกับความบันเทิงปะปนวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น งานนี้ต้องมีเจ็บตัวกันบ้างแหละ “ พี่มิลินหมู่ 2 จงแพ้ ” จู่ๆ ก็มีเสียงของยัยชะเอมดังขึ้น ฉันหันไปแลบลิ้นใส่นางแล้วรีบวิ่งไปหาพ่อทันที ( ❌มีต่อในตอนพิเศษนะคะ มันยาวเกินเรื่องกีฬา ไรต์กลัวอ่านจะเบื่อเอา❌ ) สองเดือนต่อมา จากวันเป็นคืน จากคืนเป็นเดือน เวลาล่วงเลยผ่าน เข้าเดือนมิถุนายน หลังจากที่เจอเขาในวันแข่งกีฬาตอนนั้น ฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย หากชีวิตฉันก็ยังดำเนินไปเช่นปกติ ใช้ชีวิตไปวันๆ อยู่กับพ่อกับแม่ น้อง ปู่ย่า ญาติพี่คนอื่น ๆ ซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ การงานก็ไม่ได้ออกไปสมัคร เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบไปไหนไกลบ้าน ไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองที่มีรถรามากมายพร้อมด้วยอากาศที่เป็นมลพิษ แต่ทว่าตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกกังวลกับร่างกายตัวเองที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เริ่มจากอาการหน้ามืดและวิงเวียนศีรษะอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งฉันปวดท้องน้อยมากกว่าปกติตอนนั้นคิดว่าปวดประจำเดือน สิ่งที่ทำให้เอะใจคือปริมาณที่น้อยนิด เพราะปกติคือต้องหนึ่งอาทิตย์และในแต่ละวันก็มีปริมาณมาก นอกเหนือจากนั่นคือฉันง่วงนอนตลอดเวลาเพลียง่าย แบบหลับๆ ตื่นๆ พอตกค่ำก็นอนแล้ว เมื่อก่อนกว่าจะนอนก็ตีหนึ่งตีสอง รวมๆ แล้วทุกอาการทำให้ฉันค่อนข้างกังวลเป็นที่สุด ฉันตั้งใจไว้ว่าถ้าอาทิตย์นี้หากอาการเหล่านี้ยังไม่หาย จะไปหาหมอ เพราะมันต้องมีอะไรผิดปกติบางอย่าง เนื่องเนื่องจากไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน “ อื้ออ แม่ทำอะไร ทำไมถึงเหม็นอย่างนี้ยัยมิลาน ” ฉันตะโกนถามน้องสาวที่อยู่หน้าทีวีในขณะที่ตัวฉันนั้นอยู่หน้าคอม กำลังวาดรูป555+ “ ก็ทอดกุนเชียงของโปรดพี่ไง เหม็นอะไร หอมจะตาย ” มิลานตอบกลับมา ฉันเริ่มขมวดคิ้ว เพื่อความแน่ใจก็เลยเดินไปหาแม่ที่ครัว แต่ระหว่างเดินคือเหม็นมากๆ พะอืดพะอมอยู่หลายครั้ง จะอาเจียนให้ได้ “ แม่ทำอะไรคะ ” ฉันถามขึ้นทำเอาถึงแม่สะดุ้งเล็กน้อย แล้วชูถุงพลาสติกขึ้น ข้างถุงมีอักษรตัวสีแดง เขียนว่า กุนเชียงXX “ ใช่เหรอแม่ ทำไมกลิ่นมันแรงจัง ” ฉันถามต่อ พร้อมเอามือปิดจมูก “ กลิ่นปกตินะ แม่ก็ซื้อเจ้านี้ประจำ มิลินหนูช่วยดูข้าวหน่อยว่าสุกยัง ” แม่พูด แล้วชี้นิ้วไปยังหม้อหุงข้าว ฉันก็เดินตรงไปยังหม้อหุงข้าว มีไอร้อนขึ้นจากหม้อหุงข้าวด้วย แล้วมันก็ส่งกลิ่นเหม็นจะอาเจียนอะ ไม่ไหวแล้ว ทำไมฉันถึงเหม็นกลิ่นข้าวขนาดนี้ “ สุกยัง ” แม่หันมาถาม ฉันไม่กล้าเปิดฝาหม้อดู เลยรีบวิ่งเข้าห้องนอนตัวเองพร้อมกับปิดประตู “ อะไรเนี่ย หรือจมูกฉันจะเป็นรัดสีดวง อื้อๆ ไม่ใช่แน่นอน หรือว่ามันเป็นผลข้างเคียงที่ฉันหน้ามืด …น่าจะใช่มั้ง! ” ครืดด ~ ครืด~ “ ใครโทรมาอีกเนี่ย! ” ฉันหยิบโทรศัพท์บนเตียงมาดูชื่อบนหน้าจอ ( โทรเข้า >> ชะเอม ) “ ยัยชะเอมโทรชวนไปเที่ยวแน่ๆ วันๆไม่คิดจะทำอะไรบ้่างเหรอ? กะจะเที่ยวไม่เว้นวันบ้างเหรอ ” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ ( มิลิน : อื้อ~ ) ( ชะเอม : ทำอะไรอยู่พี่ หรือว่ายังนอนอืดอยู่อีก ) ( มิลิน : จะรู้ไปทำไม ) ( ชะเอม : ก็อยากรู้เฉยๆ ) ( มิลิน : มีอะไรถึงโทรมา ) ( ชะเอม : ก็พี่ไม่ตอบแชทอะ นี่พี่เข้าไปเล่นเฟซบุ๊กบ้างไหม? ) ( มิลิน : ก็ไม่มีอะไรน่าดูอะ เบื่อๆ ) ( ชะเอม : ก็ว่าอยู่ น่าจะไม่รู้ข่าว ) ( มิลิน : ข่าวอะไร ) ( ชะเอม : ก็…. ) ( มิลิน : อย่าลีลาให้มาก! ) ( ชะเอม : ก็…พี่ไม่รู้จริงเหรอ? ) ( มิลิน : แล้วมันข่าวอะไรล่ะ โอ๊ย พูดสักทีเถอะ ) ( ชะเอม : ใจเย็นๆ แล้วอย่าเพิ่งโมโหพี่ ) ( มิลิน : ฉันจะกดวางสายแล้วนะ แกมันลีลาเยอะ ) ( ชะเอม : พี่ไปกินรังแตนมาจากไหนอะ ดูอารมณ์ไม่ดีเลย หรือพี่จะรู้แล้ว ) ( มิลิน : รู้อะไรของแก! ) ( ชะเอม : วันนี้พี่ส่องพี่ชานนท์บ้างไหมอะ ) ( มิลิน : ชานนท์ทำไม เขาเป็นอะไร! ) ( ชะเอม : แหม่ๆ น้ำเสียงเป็นห่วงเชียว แต่เสียใจด้วยนะ ต่อไปคงจะสารภาพรักกับพี่เขาไม่ได้แล้ว ) ( มิลิน : สรุปชานนท์เป็นอะไร! ตอบมา อย่าลีลา ) ( ชะเอม : ก็…พี่ไม่รู้จริงอะ ) ( มิลิน : โว้ย ยัยชะเอมแกอย่ามาเล่นลิ้นซิ ) ( ชะเอม : พี่อะ ตกอกตกใจหมด ทำไมต้องเสียงดังด้วย นี่ถามจริงไปโมโหใครมา ดูอารมณ์พี่ตอนนี้สิ ) ( มิลิน : จะบอกไม่บอก ห้ะ! ) ( ชะเอม : พี่คงไม่รู้จริงๆ ว่าพี่ชานนท์กำลังจะแต่งงานแล้ว ) ( มิลิน : ห้ะ! ) ( ชะเอม : นั่นไง ไม่รู้จริงๆด้วย พี่ชานนท์กำลังจะแต่งงานอีกสองเดือนข้างหน้า ) ( มิลิน : …. ) ( ชะเอม : พี่ พี่ๆๆ พี่มิลินยังหายใจอยู่ไหมเนี่ย หรือช็อกตายไปแล้วอะ ) ( มิลิน : ปากหรือนั่น ) ( ชะเอม : 555+ ก็เห็นเงียบ อกหักเหรอ? ) ( มิลิน : ฉันอกหักมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอย่ะ ) ( ชะเอม : 555+ ก็ใช่ แต่เมื่อตอนแข่งกีฬาวันนั้น พี่ก็ไปกอดพี่ชานน์นะ ) ( มิลิน : ก็แกท้าฉันไม่ใช่เหรอ? ) ( ชะเอม : แต่ใจจริงก็อยากกอดใช่มะ ) ( มิลิน : เออ อยากกอดแค่คนนั้นคนเดียว แหละ ) พูดก็พูดเถอะ ฉันอารมณ์เสียมาก ตั้งแต่คุยกับยัยชะเอม มันขัดใจอะ แล้วยังมารู้เรื่องของชานนท์อีก ทำไมมันถึงรู้สึกใจหวิวๆ ทั้งที่รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว เขารักแฟนมาก ฉันไม่มีสิทธิหรอก แต่พอเอาเข้าจริง รู้ว่าเขากำลังจะแต่งงาน ใจกลับไม่ยินดีด้วยเลย ( ชะเอม : นี่พี่ แล้วพี่ชานนท์ส่งการ์ดเชิญพี่ไหมอะ ) ( มิลิน : ทำไมต้องเชิญฉันด้วย ) ( ชะเอม : อ้าว ก็เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? ) ( มิลิน : ก็ใช่ แต่เขาคงไม่เชิญฉันหรอก ) ( ชะเอม : มั่นใจ! เป็นไร นอยด์พี่ชานนท์หรือไง 555+ นังเมียน้อย ) ( มิลิน : …. ) ถึงจะรู้ว่ายัยชะเอมแค่พูดเล่นตามประสาของนาง แต่คำนั้นมันทำเอาสะอึกไปเลย มันจุกนะ เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ผุดขึ้นทำให้คิดเรื่องราวของเราทั้งสองอีกครั้ง ( ชะเอม : พี่ นี่พี่จริงจังเหรอ ทำไมเงียบ หนูพูดเล่นเอง ) ( มิลิน : เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ) ( ชะเอม : โอ๋ๆ หนูขอโทษๆ ล้อเล่นน่า ) ( มิลิน : อืมๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ ) ฉันไม่รอให้ยัยชะเอมพูดตอบรับ ชิงวางสายทันที ทำไมใจฉันถึงสั่นหวิวๆ นะ ❤️__________❤️ นามปากกาธัญญวรินทร์
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD