ตั้งแต่เด็ก ไอเดนก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางกฎระเบียบที่แสนเคร่งครัดของวังหลวง เขามองท่านพ่อที่เป็นเพียงองค์ชายที่เกิดจากสาวใช้ต้องใช้ชีวิตในแบบที่ยินยอมโอนอ่อนตามคำสั่งของท่านลุงมาโดยตลอด ทว่าเมื่อไอเดนอายุได้สิบสามปี
เคาน์โอนิกซ์ก็นำทัพมาก่อกบฏ ท่านเคาน์ฆ่าล้างบางองค์ชายทุกพระองค์ในพระราชวัง เรื่องเหตุผลเขาไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร แต่ท่านเคาน์โอนิกซ์ไว้ชีวิตพ่อของเขาที่คุกเข่าร้องขอชีวิตเอาไว้
“เจ้าอยากจะเป็น..องค์จักรพรรดิรึเปล่า วิชเชอร์?”
วินาทีนั้นมันเหมือนกับว่าโลกกำลังถล่มลงมา ถึงแม้จะเอ่ยถามเช่นนั้น แต่ท่านเคาน์มิคิดให้โอกาสพ่อของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว มันเหมือนกับคำถามว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อมาเป็นหุ่นเชิดให้ข้า หรือไม่อย่างนั้นก็จงตายเสีย
“ข้า..ยินยอม ได้โปรดไว้ชีวิตลูกชายของข้าด้วย”
เมื่อท่านพ่อของเขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ท่านเคาน์ก็หัวเราะดังลั่น ชายผู้นั้นยกมือที่เปื้อนเลือดขึ้นมาจับใบหน้าของเขาเอาไว้
“แน่นอนว่าเด็กคนนี้จะมีชีวิตอยู่ ในฐานะ..องค์รัชทายาท ขอแสดงความยินดีด้วย เราได้ดวงอาทิตย์ดวงใหม่ของอีเทนแล้ว ประกาศก้องออกไปให้เกรียงไกรทั่วทั้งจักรวรรดิ เพื่อเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีแก่องค์จักรพรรดิวิชเชอร์..”
หลังจากนั้นพ่อของเขาก็ได้เป็นองค์จักรพรรดิ ครอบครัวของเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เขาคิดว่าบางที การเป็นองค์จักรพรรดิหุ่นเชิดก็ไม่ได้เสียหายอะไร..
จนเมื่อนกของไอเดนหลุดลอยออกจากกรง เขาปีนกำแพงหนีออกมาจากพระราชวังเพื่อมาตามหานกตัวนั้น..และได้พบความจริงที่ด้านนอกพระราชวังว่า ตระกูลโอนิกซ์คือปลิงตัวใหญ่ที่กำลังดูดเลือดดูดเนื้อของประชาชนทุกคนในจักรวรรดิอีเทน ประชาชนก่นด่าองค์จักรพรรดิกันเสียงดังลั่น ชื่อพ่อของเขาพ่นออกมาทุกๆ ห้านาที..
ภาพความสวยงามในพระราชวังล้วนแล้วแต่เป็นภาพลวงตาทั้งนั้น เขาเป็นองค์รัชทายาทที่ดูเหมือนจะมีอำนาจแต่ทว่าเขากลับไม่มีอะไรเลย..
คืนนี้ดวงจันทร์ลอยเด่นบนนภา ไอเดนยังคงหลบหนีออกมาจากพระราชวังเช่นเดิม เขาเดินไปเรื่อยๆ ตามท้องถนนก่อนจะเดินเข้าไปในประตูไม้บานเก่าที่ด้านในเป็นกิลข้อมูลลับ
เขาจะไม่มีวันยอมแพ้เคาน์โอนิกซ์อีกแล้ว พ่อของคิลเลี่ยนทำให้พ่อของเขาเสียเกียรติมากแค่ไหน เขาจะส่งคืนความเจ็บปวดนั้นกลับไปอย่างสาสมเลยคอยดู
...........
ฟาเดลสวมเสื้อคลุมเพื่อปิดปังผมสีอเมทิสต์ของเธอ โชคดีที่คืนนี้ไม่ได้หนาวมากสักเท่าไหร่ เธอสามารถมานอนที่ชุมชนคนไร้บ้านได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก
ฟาเดลทาหน้าตัวเองด้วยดินโคลน แน่นอนว่าการนอนนอกบ้านไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ อีกทั้งคนของทางการล่วงรู้บ้านของเธอ พวกเขาจะต้องรู้จักใบหน้าของเธออย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นเพื่อความปลอดภัย ต้องเก็บซ่อนใบหน้านี้เอาไว้
เพราะภาษีที่เก็บมากจนเกินไปทำให้มีคนไร้บ้านจำนวนมาก ยังไม่รวมกับโจร ขโมยที่มีมากขึ้นทุกวัน
ในนิยายเคยบรรยายจักรวรรดิอีเทนเอาไว้ว่าทุกคนที่นี่มีพืชผลทางการเกษตรเอาไว้ให้เก็บเกี่ยวอย่างมากมายในช่วงต้นฤดูหนาว ประชาชนมีความสุขเพราะความเที่ยงธรรมขององค์จักรพรรด์ และวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นดั่งตัวแทนพระเจ้า
แต่ตอนนี้วิหารศักดิ์สิทธิ์ถูกสั่งรื้อ พร้อมกับขับไล่นักบุญออกไปจากที่นี่ แน่นอนว่านั่นคือราชโองการแต่มันคงจะเป็นความต้องการลึกๆ ของเคาน์โอนิกซ์ เพราะนางเอกของเรื่องนี้เป็นนักบุญผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตา..
ฉันนี่..ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เพราะว่าเข้ามาสวมร่างในช่วงที่นิยายจบแล้วก็เลยไม่ได้มีสกิลโกงๆ อย่างเช่นการล่วงรู้อนาคต แถมยังเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าที่ใช้ชีวิตคนเดียวอีกต่างหาก ไม่ได้มีครอบครัวหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่คนเดียว
ชีวิตของฟาเดล..ช่างน่าเวทนามากเหลือเกิน
“ต่อแถวมารับอาหารได้แล้ว”
เสียงทหารประกาศขึ้นมาพร้อมกับหม้อโจ๊กร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวน คนไร้บ้านที่นั่งอยู่รอบๆ บริเวณต่างก็รีบเข้าแถวเพื่อรับโจ๊กนั่นมาประทังความหิวโหย และฟาเดลเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
เธอยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อตอนกลางวัน ตอนนี้ท้องก็เลยส่งเสียงร้องออกมาเสียงดัง เธอไม่อยากจะไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือว่าคนรู้จักอื่นๆ เพราะว่าฟาเดลไม่อยากจะทำให้ใครเดือดร้อน
เมื่อได้โจ๊กมาแล้ว ฟาเดลก็ยกถ้วยโจ๊กไปนั่งทานไกลๆ จากผู้คน นางนั่งลงใต้ต้นไม้พร้อมกับค่อยๆ ตักโจ๊กที่ส่งกลิ่นหอมในถ้วยทาน
“เรียบร้อยดีไหม..”
“แน่นอนครับท่านเซอร์ ข้าวางยานอนหลับให้กับคนไร้บ้านพวกนี้แล้ว รับรองได้เลยว่าพวกเขาจะหลับสนิทหลังจากทานโจ๊กของเราไป..ถึงเวลานั้นค่อยนำร่างพวกเขาไปกำจัดตามที่นายท่านสั่ง..”
เซอร์ลูอิสพยักหน้า
“ดี อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว..ต้องฆ่าให้หมดเพราะคนไร้บ้านพวกนี้มีแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวเมือง..”
“ครับ..เชื่อมือของข้าได้เลย”
ฟาเดลยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง และเมื่อเธอฟังทหารทั้งสองคุยกันจบ เธอก็บ้วนโจ๊กในปากออกมาอย่างรวดเร็ว
ชีวิตของเธอมันจะซวยมากไปหน่อยไหม ทั้งๆ ที่คิดว่าที่นี่ปลอดภัยแต่มันกลับกลายเป็นว่าเคาน์โอนิกซ์ดันสั่งให้คนของเขามากำจัดคนไร้บ้านพวกนี้อีก จริงอยู่ที่คนพวกนี้ส่วนหนึ่งคือพวกขโมย แต่มันถึงขั้นจะต้องฆ่ากันเลยงั้นเรอะ
ไม่ได้การ ฟาเดลคิดว่าตัวเองกินโจ๊กในถ้วยไปเยอะพอสมควรนางจะต้องหนีออกไปให้ไกลจากตรงนี้ก่อนที่ยานอนหลับพวกนั้นจะออกฤทธิ์
เธอถือถ้วยโจ๊กไปด้วยเพราะไม่ต้องการทิ้งร่องรอยเอาไว้ตรงนั้น หลังจากนั้นฟาเดลก็ค่อยๆ ปลีกตัวออกมาช้าๆ นางวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าไปในเมือง เมื่อพบเจอจุดปลอดภัยฟาเดลก็ทิ้งถ้วยโจ๊กเอาไว้ก่อนที่นางจะหลบหนีไปอีกทาง ครั้งหนึ่งเธอเคยรับจ้างดูแลสวนของขุนนางผู้หนึ่งอยู่ และในสวนของเขามันติดกันกับทะเลสาบ ที่นั่นมีห้องเก็บของที่ใหญ่มากพอที่นางจะซุกหัวนอนในคืนนี้ได้ แค่ต้องรีบแอบเข้าไปที่นั่นให้ทันก่อนที่เธอจะนอนหลับ
ฟาเดลมุดเข้าไปทางรั้วที่ทำจากต้นไม้ เธอรู้เส้นทางในสวนแห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าที่นี่จ่ายค่าจ้างค่อนข้างมากกว่าที่อื่น เธอจึงมาทำสวนที่นี่บ่อยๆ
หลังจากวิ่งมาไกลพอสมควร เรือนเก็บของก็อยู่เบื้องหน้าของฟาเดลแล้ว เพียงแต่ในยามนี้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอกำลังจะปิดลง..
อีกไม่กี่ก้าว..เท่า นั้น เอ...ง
“ตุบ!”
เธอนอนหลับสนิทที่ด้านหน้าของเรือนเก็บของในคฤหาสน์ที่แสนหรูหราแห่งหนึ่ง
ฝีเท้าที่ก้าวเดินด้วยความมั่นคงกำลังเดินไปตามทะเลสาบขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับคฤหาสน์ของท่านแม่ซึ่งเขาพึ่งจะได้รับมอบกรรมสิทธิ์ ดวงตาคมของเขามองผืนน้ำในทะเลสาบยามค่ำคืนก่อนที่เขาจะหลับตาลงช้าๆ
“ที่ทุกคนทอดทิ้งข้าไปหมด เพราะว่าข้าใจร้ายอย่างนั้นหรือครับ..หรือเพราะว่าพวกท่านอ่อนแอไปเอง..”
เขาเดินมาเรื่อยๆ จนถึงด้านหน้าของห้องเก็บของ ฝีเท้าของเขาหยุดชะงักเมื่อเขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งที่กำลังนอนบนพื้นหญ้า นางหลับสนิทถึงขนาดที่เขานั่งลงข้างๆ นางยังไม่รู้สึกตัวเลย