แต่ใจฉันยังรัก 3

1397 Words
I HATE YOU 3 แสงเพชรระยิบระยับประดับบนนิ้วฉันหากเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงจะดีใจและตื่นเต้นแต่สำหรับฉันพิธีหมั้นที่ถูกจัดขึ้นท่ามกลางความเห็นชอบของผู้ใหญ่แต่ไร้ความสมัครใจของฉันและเขามันไม่ได้ทำให้ฉันมีความสุขเลยสักนิด บนนิ้วกรก็มีแหวนอยู่เช่นเดียวกับฉันเพียงแต่แหวนเขาเป็นแบบของผู้ชายมีเพชรเม็ดเดี่ยวประดับอยู่ส่วนบนนิ้วฉันเป็นเพชรเม็ดเล็กประดับรอบวงมันไม่เหมาะกับฉัน ฉันรู้เพียงเท่านี้ พี่ชายยืนยิ้มให้ฉันอยู่ข้างเวทีที่ให้ทำพิธีแขกในงานก็เป็นลูกค้าเพื่อนสนิทของทั้งสองครอบครัวแต่ไร้เงาของเพื่อนฉันส่วนฝั่งกรฉันเห็นว่ามีกลุ่มเพื่อนเขารวมถึงผู้หญิงคนนั้น แฟนของเขา ใช่ฉันเห็นแฟนของเขาอยู่ด้วย ฉันไม่กล้าสู้หน้าใครเลยนอกฉันมันผู้หญิงหน้าไม่อายที่หมั้นกับผู้ชายทั้งที่เขามีแฟนอยู่แล้ว “ยิ้มกันหน่อยสิวันนี้วันดีนะ” เมื่อเสร็จพิธีและผู้ใหญ่ปล่อยให้พัก ฉันเดินหน้างอเข้าไปหาพี่ชายที่ยืนมองฉันพร้อมกับเผยรอยยิ้มเอ็นดูมาให้ “ไม่อยากหมั้น” ฉันขยับปากบอกพี่ชายไม่มีเสียง คนเป็นพี่หุบยิ้มลงทันทีเมื่อเห็นว่าฉันไม่มีแววล้อเล่นหรือว่าเขินอย่างเมื่อก่อนที่เวลาเขาแซ็วเรื่องกร “ยังไม่ได้คุยกันเหรอ?” “คุยอะไรคะ?” “เรื่องแฟนกร...” “พี่ชายหนูไม่อยากคุยเรื่องเขา เราไม่คุยเรื่องนี้ได้ไหมคะ” ฉันจะร้องไห้ แฟนเขาสวยดูดีและน่ารักมากจนฉันรู้สึกผิดที่ต้องหมั้นแบบนี้ “เฮ้อ ก็ได้ๆนู่นพี่สะใภ้เรามานู่นละเสร็จงานนี่ไปทานข้าวข้างนอกด้วยกันนะพี่ว่าเราคงไม่อยากไปทานร่วมกับผู้ใหญ่หรอก” “ขอบคุณที่เข้าใจหนูนะคะ อีกอย่างหนูต้องรีบกลับด้วย” ฉันต้องย้ายห้องแล้วนะ “เรื่องของพี่ให้คนย้ายไปบ้านหมดแล้วล่ะไม่ต้องห่วง ส่วนคอนโดพี่ไม่อนุญาตให้ขายนะเพราะพี่ตั้งใจซื้อให้เรา” “ขอบคุณนะคะ” “ขอโทษที่ต้องมาขัดนะครับ ผมขอพาพริกไปหาเพื่อนก่อน” กรที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยบอกพี่ชายอย่างสุภาพมือหนาเอื้อมมาจับมือฉันไว้แต่เพราะตกใจฉันเลยดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของเขาจนเจ้าตัวหันมามองอย่างดุๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกกลัวแต่อย่างใด “อือ พี่จะรอที่โต๊ะนะเสร็จแล้วมาหาพี่” “พี่จะทิ้งหนูอีก...” ฉันจับชายเสื้อพี่ชายไว้แน่น “ไม่ทิ้งจะรออยู่ตรงนี้” “ไปได้แล้ว เพื่อนอยากเจอ” กรดึงมือฉันให้เดินตามเขาไปแต่เพราะชุดที่ทรงแคบทำให้ฉันเดินได้ช้ากว่าปกติไหนจะสไบที่ยาวลากพื้นนั่นอีก กรปรายตามองก่อนจะย่อตัวรวบสไบไปถือให้ไหนจะชะรอจังหวะเดินให้ช้าลงเพื่อให้ฉันเดินได้ถนัดขึ้น อีกการกระทำเล็กๆของเขามันดูเหมือนใส่ใจที่จะทำทั้งที่ความเป็นจริงเขาอาจจะรำคาญหูรำคาญตาก็ได้ถึงได้ทำแบบนี้ให้ฉันคนที่เขาลั่นวาจาว่าเกลียดนักหนา “แหม ยังไม่แต่งก็กลัวเมียแล้วเหรอวะ” เสียงเพื่อนเขาเอ่ยแซ็วพร้อมกับเสียงโห่จากกลุ่มเพื่อนของเขา ฉันไม่กล้าที่จะมองหน้าใครเลยสักวินาที ฉันกลัวที่จะต้องเจอกับสายตาดูถูกและฉันยิ่งรู้สึกผิดมากกว่าเดิมเมื่อรับรู้ว่าแฟนเขายังอยู่ในกลุ่มเพื่อนของเขา “ตลกละ ไหนบอกจะถ่ายรูป” ที่แท้เพื่อนจะถ่ายรูปนี่เอง พวกเขาจัดที่ยืนและให้ช่างภาพถ่ายรูปให้ไหนจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเองอีกหลายภาพกว่าจะที่พวกเขาจะพอใจ “นั่งด้วยกันก่อน” กรเอ่ยชวนเมื่อฉันกำลังจะลุกจากเก้าอี้เพื่อกลับไปหาพี่ชาย มันคงเป็นภาพที่น่าสมเพชคนอย่างฉันน่าดูเมื่อฉันนั่งข้างเขาส่วนอีกข้างๆเขาอีกด้านคือแฟนของเขาที่ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันยิ้มให้เธอบางๆและรู้สึกผิดในใจเหมือนมันเป็นตราบาปของฉันไปแล้วล่ะ ทั้งที่พวกเขากำลังรักกันดีแต่เพราะฉัน... “จะไปไหนเหรอ? อยู่ด้วยกันก่อนสิ” เพื่อนกรเอ่ยชวน แต่ฉันยิ้มและเอ่ยปฏิเสธเสียงนุ่ม ตอนนี้บ่ายเริ่มแล้วด้วยฉันต้องรีบกลับแล้วล่ะ “เรามีธุระค่ะ ขอตัวก่อนนะขอโทษด้วยนะคะที่เสียมารยาท” “พริก...” กรเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว แต่ฉันยิ้มให้เพื่อนของเขาโดยที่ไม่ยอมมองหน้าเขา “ขอตัวก่อนค่ะ” สุดท้ายฉันดึงมือตัวเองออกจากมือหนาแล้วเดินกลับไปหาพี่ชายที่ยืนรออยู่ไม่ไกล ท่ามกลางสายตาดุๆของแม่และสายตาเป็นห่วงของพ่อฉันแค่ยิ้มให้พ่อก่อนจะออกจากงานพร้อมกับพี่ชายและพี่สะใภ้ คงหมดหน้าที่ของฉันในวันนี้แล้วล่ะ พอกลับไปกรุงเทพฉันก็แค่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและตั้งใจฝึกงานให้ก็แค่นั้น งานหมั้นและคู่หมั้นสองสิ่งนี้ฉันจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน “เหนื่อยเกินไปแล้วนะ!!” ต้นหลิวที่นั่งรออาหารอยู่ตรงข้ามฉันเอ่ยอย่างงอแง ข้างๆคือเท็นแฟนของต้นหลิว เรานัดฝึกงานอยู่กรุงเทพนัดกันออกมาทานข้าวส่วนเพื่อนอีกของคนที่ฝึกต่างจังหวัดก็อดไปตามระเบียบ “เอาน่าอีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วนี่นา” ฉันบอกเพื่อนมือก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเมื่อไลน์มีข้อความเข้า ไม่พอยังมีเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วฉันยังไม่ได้รับอยู่อีกห้าสา ตลอดทั้งวันฉันไม่ได้รับสายจากเขาเลยข้อความก็ไม่ตอบแม้จะเข้าอ่านแต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ตอบ ผ่านมาเกือบสามเดือนแล้วที่เราหมั้นกันมีเพียงเพื่อนฝั่งเราที่รู้ว่าเราหมั้นกันส่วนเพื่อนฝั่งฉันเหมือนจะรู้ว่าฉันมีเรื่องให้เครียดแต่พวกนั้นก็คอบถามไถ่อย่างเป็นห่วง เพียงแต่ฉันมันปอดแหกไม่กล้าจะเล่าอะไรให้เพื่อนฟัง “นั่นสิจะจบแล้ว” “งั้นก็ต้องอดทน” Korn :: เลิกงานหรือยังทำไมไม่รับสาย Korn :: เลิกแล้วโทรมาจะรับไปทานข้าว Korn :: อ่านแล้วต้องตอบเข้าใจไหม ฉันอ่านข้อความเหล่านี้แทบจะทุกเช้าเย็นตอนเที่ยงก็มีมาเป็นบางวันแต่ฉันก็ยังไม่ตอบเขา ฉันไม่รู้จะต้องตอบเขายังไง เชื่อไหมตั้งแต่มีไลน์เขาก่อนหน้านี้มีเพียงฉันที่ส่งไปชวนเขาคุยแต่เขาก็เงียบไม่ตอบแม้จะขึ้นอ่าน ฉันคิดว่าเขาคงไม่สะดวกตอบแต่พอนานเข้าฉันเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขารำคาญแต่บล็อกไม่ได้ฉันเลยหยุดและเลิกที่ส่งข้อความหาเขา ส่วนในโซเชียลทุกช่องทางฉันอันเฟรนด์อันฟอลโลวและบล็อกเขาเช่นเดียวกันในโซเชียลฉันตั้งค่าไพรเวทไว้และมีเพียงเพื่อนสนิทและเพื่อนในกลุ่มของแฟนต้นสนเท่านั้นที่มีการติดตามกันอยู่ ส่วนไลน์เมื่อไหร่ที่เขารู้ว่าฉันบล็อกเขาก็จะเปลี่ยนเบอร์และแอดมาใหม่จนฉันเหนื่อยเลยหยุดบล็อกเขาแต่เลือกที่จะไม่ตอบแทน “ไม่ตอบล่ะเห็นส่งมาบ่อยมากเลยนะ” “อย่าสนใจเลย แล้วตกลงต้นสนจะกลับมาวันไหนนะ” “อันนี้ต้องรอถามก่อน เห็นบอกว่าเซ็นงอแงหนักไม่รู้จะเลื่อนกลับหรือเปล่า” “คิดถึงพวกนั้นแล้วอ่ะ อยากเม้าส์แล้ว” “เนอะ คิดถึงเพื่อนแล้วอ่ะ” Korn :: ออกมาคุยกับลูกค้าแทนพ่ออยากทานอะไรไหมเดี๋ยวซื้อเข้าไปให้ Korn :: ฝนตกด้วยแหละ ที่นู่นตกไหม*
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD