ชู้ลับฮูหยินหม้าย

3

หลายวันก่อน

เล่าถึงมือปราบเหวิน (เหวินมู่ถัง) ก่อนพบอวี้เพ่ยเอ๋อร์

ร่างสูงใหญ่ของบุรุษในเสื้อสีเข้มซึ่งเปียกชุมด้วยเหงื่อ น้ำฝน และยังมีเลือดแห้งเกรอะกรัง รวบรวมพลังอย่างลำบาก เขาจำต้องหาที่ซ่อนตัวสักพัก แล้วจึงส่งของสำคัญให้แก่ฝ่ายรัชทายาท

ก่อนหน้านี้ เขาส่งข้อความผ่านนกพิราบสื่อสารแล้ว โดยที่ป้ายคำสั่ง และข้อมูลลับทั้งหมดต้องไปถึงเมืองหลวงอย่างเร่งด่วนที่สุด มิเช่นนั้นทุกอย่างอาจสายเกินไป

เนื่องจากตอนนี้คดีนี้เกี่ยวพันถึงราชบุตรเขยต้องสะสางโดยด่วน มิเช่นนั้น คงมีคนถูกฆ่าปิดปากมากกว่านี้ อีกทั้งมีคำสั่งให้ทำลายเขื่อนด้านเหนือของเมืองฮุ่ย เพื่อจงใจสร้างความวุ่นวายแก่ทางการ เบี่ยงประเด็นที่เหล่าขุนนางกังฉินต้องการก่อกบฏ ทว่าไม่ทันสะสางเรื่องสำคัญแล้วเสร็จ กับเกิดเรื่องร้ายแรง ด้วยมีมือสังหาร ซุ่มโจมตีคนของเหวินมู่ถังจนเสียชีวิตทั้งหมด ส่วนเขายังไม่รับทราบข้อมูล เนื่องจากสถานการณ์บีบบังคับ จำต้องอารักขาท่านหญิงสูงศักดิ์ให้เดินทางอย่างปลอดภัย โดยแท้จริงคือแผนชั่วนาง จนเขาพลาดพลั้งได้รับกำยานเร่งกำหนัด และพิษราคะที่ผสมในสุราหมัก

แต่เดิมเหวินมู่ถังคงไม่หลงกลผู้ใดง่ายๆ หากครั้งนี้ สตรีสูงศักดิ์เป็นฝ่ายลงมือทำด้วยตนเอง เขาจึงพลั้งเผลอ นางมีจุดประสงค์ใดนั้นหรือ หากให้เขาคาดเดาก็คือ ม่านกุ้ยหนิง ต้องการอำนาจ และนางอยากอยู่ฝ่ายที่สามารถสร้างความมั่งคั่งให้นางสุขสบายไปตลอดชาติ ดังนั้นสกุลม่าน จึงร่วมมือกับขุนนางเหล่ากังฉิน

“มือปราบเหวิน สาวใช้ของข้า ไม่งดงาม หรือเอวอ่อนพอที่จะขึ้นควบม้าให้ท่านหรอกหรือ” เสียงหวานถามไถ่ ระหว่างพักดื่มชา และกินอาหารในจุดพักม้า

“ท่านหญิงม่าน ขออภัยที่ทุกอย่างไม่เป็นตามที่ต้องการ ข้าทำหน้าที่ตนแล้วเสร็จ ระยะทางจากนี้เข้าใกล้กองกำลังเสออ๋อง หวังว่าท่านจะเดินทางปลอดภัย”

เหตุการณ์ก่อนหน้าคือ ม่านกุ้ยหนิง อยากมาพบพี่ชาย ฝ่ายนั้นคือ เสออ๋อง โดยที่เหวินมู่ถังต้องตามสืบคดีในพื้นที่ดังกล่าวพอดี นางจึงหวังใจอยากร่วมทาง ด้วยเป็นคนรู้จักกันตั้งแต่เล็กๆ ทว่าการร่วมทางครั้งนี้ ได้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลแอบแฝง

จากนั้น เหวินมู่ถังก็พยายามรวมรวบพลังของตน กระบี่ที่อยู่ในฝักใช้เป็นหลักยึดให้เขาก้าวไปข้างหน้า เพื่อหาที่ซ่อนตัวแล้วขับพิษออก หากทุกอย่างไม่ง่ายดาย

สองสาวใช้ของม่านกุ้ยหนิงพุ่งตรงเข้ามาหามือปราบหนุ่ม พวกนางฝีมือย่อมไม่ต่ำทรามเคลื่อนไหวร่างกาย รวดเร็ว มาด้วยกำลัง

“พักผ่อนสักหน่อยเถิด แล้วจงส่งป้ายคำสั่ง รวมถึงข้อมูลลับทั้งหมดที่มือปราบเหวินหามาได้ มอบแก่ข้าเสียดีๆ”

ม่านกุ้ยหนิงกล่าว พอเห็นมือปราบหนุ่มพยายามเคลื่อนตัวหลบสาวใช้ตน นางยิ่งหัวเสีย

“คนผู้เดียว ทั้งยังถูกยาสั่งของข้า พวกเจ้ามัวโอเอ้ อันใด”

“ท่านหญิง สำหรับมือปราบตุลาการ ผู้มีฉายา ‘เสือดำ’

หาได้แตะต้องตัวเขาอย่างที่ตั้งใจไม่ ดูเอาเถิดฝีมือล้ำเลิศเช่นนี้อาจต้องเพิ่มยาให้แรงอีกสองเท่าตัว”

สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยจบ ม่านกุ้ยหนิงจึงซัดเข็มเงินในมือออกไป เข็มชุดแรกเหวินมู่ถังหลบได้อย่างหวุดหวิด แต่ชุดสาม กลับมีหนึ่งเล่มปักเข้าหลังใบหูชายหนุ่ม

“เสือดำผู้งามสง่า หากเจ้ารูปงามน้อยกว่านี้ ข้าคงไม่ต้องเสียเวลามาเล่นสนุกด้วยหรอก”

ม่านกุ้ยหนิงเอ่ยจบก็ยิ้มชอบใจ หากได้ป้ายคำสั่ง และเอกสารจากมือปราบหนุ่มมาอยู่กับตัว นางคงไม่ต้องตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือคนชั่วอย่างราชบุตรเขย

ชายผู้นั้นคือบุรุษคนแรกที่นางมีใจ เมื่อสามปีก่อน นางกับราชบุตรเขย ซึ่งก็คือไป๋ซือหลาง ลักลอบมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง ซึ่งฝ่ายนางได้ให้กำเนิดทายาทแก่เขา เรื่องนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ มีแต่นางกับเขาเท่านั้นที่ล่วงรู้ ยามนี้ไป๋ซือหลาง ใช้มันเพื่อบีบบังคับม่านกุ้ยหนิงเป็นแขนขาให้ตน ทว่าหากนางครอบครองสิ่งที่เหวินมู่ถังตามหามาได้ หมากกระดานนี้ ย่อมพลิกผลัน และนางจะมีอำนาจต่อรองคนชั่ว ฝ่ายไป๋ซือหลางคงสยบอยู่แทบเท้าสตรีเช่นนาง ไม่กล้าเผยอมาต่อรองสิ่งใด

สองชั่วยามต่อมา เหวินมู่ถังพยายามขยับตัว แต่เขาไม่อาจทำได้โดยง่าย ยามนี้เขาถูกมัดไว้กับเก้าอี้ สิ่งที่น่าอดสูคือ ร่างกายไร้อาภรณ์ปกปิด ต้นแขนมีแผลถูกเล็บข่วนกับรอยกัด ลำคอเป็นจ้ำแดงช้ำหลายแห่ง ทั้งหมดเกิดจากการถูกพวกไร้ยางอาย ตั้งใจหยามเกียรติเขา

“มือปราบเหวิน ป้ายคำสั่ง และสิ่งของสำคัญเล่า ท่านซ่อนมันไว้ที่ใด”

ม่านกุ้ยหนิงถาม ขณะเดียวกันนางก็ใช้กัวซาหยกเขี่ยยอดหน้าอกมือปราบหนุ่ม พร้อมยกยิ้มยั่วยวนบุรุษร่างกายสูงใหญ่ ที่ยามนี้ขาที่สามพองขยาย และมันกราดเกรี้ยวพอๆ กับสายตาแดงก่ำคู่นั้น ที่จ้องนางเขม็ง

ในขณะที่ม่านกุ้ยหนิงใช้กัวซาเขี่ยยอดหน้าอกอีกฝ่าย นางเห็นว่าสีหน้าคมคายบิดเบี้ยว ริมฝีปากบางเม้มชิด เขากำลังหักห้ามใจอย่างที่สุด ปิดกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอด

เม็ดเหงื่อพราวใส เกาะบนหน้าผากเขา หัวคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน บุรุษผู้นี้ช่างเร่าร้อน ทว่าในเวลาเดียวกัน เขาก็มีไอสังหารแผ่ขยาย ทั้งยังชวนให้นางอยากพลีร่างให้เหวินมู่ถังโจนจ้วงขาที่สามอันใหญ่โตเข้าใส่กลีบสวาทที่กำลังเต้นตุบๆ ของนาง

ภายในห้องดังกล่าว ยามนี้สาวใช้ของม่านฮุ่ยหมิง กำลังบดเบียดเนื้อตัวเข้าหากัน ทั้งสองนางเปลื้องผ้า อวดเรือนร่างที่ชโลมด้วยน้ำมันหอมระเรย กลิ่นของมันเพิ่มไฟราคะให้เหวินมู่ถังตึงเครียดกว่าเดิม เสียงเนื้อเสียดสีกัน เสียงลมหายใจเร่งเร้าถี่กระชั้น และภาพกอดรัด คือมายากิเลสที่ม่านกุ้ยหนิงสร้างขึ้นเพื่อล่อลวงชายหนุ่ม พอนางหันไปพยักหน้า สาวใช้ผู้หนึ่งจึงนำลึงค์ไม้หัวบานใหญ่ ยาวราวๆ หนึ่งคืบแทรกผ่านเข้าสู่กลีบกุหลาบฉ่ำแฉะของสาวใช้อีกคนที่นอนบนพื้น ฝ่ายนั้นกางขากว้าง อวดพื้นที่ของตนให้ผู้อื่นชมอย่างไร้ยางอาย และลึงค์ไม้แท่งเขื่องดังกล่าวถูกกลีบนางตอดรัดอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ จากนั้นพวกนางต่างจูบกัน บีบเคล้นคลึงเต้าอีกฝ่ายอย่างสิเน่หา

มินาน น้ำเมือกลื่นๆ ซึมเอ่อที่กลีบงาม และมันส่งกลิ่นอ่อนหวานยั่วตัณหาเหวินมู่ถัง และเสียงคราง เสียงซ่านสยิว กับการบิดร่างด้วยความซ่านใจของสองสาวใช้ ทำให้ม่านกุ้ยหนิง ต้องหนีบสองขาของตนเข้าหากัน ด้วยนางอยากเสร็จสม อยากขึ้นสวรรค์เหลือเกินแล้ว