เสียงหวีดร้องดังอยู่ไม่ห่างจากจุดที่ร่างสูงใหญ่พุ่งตัวเข้ามา และนอกจากกลิ่นคาวจัด จมูกเหวินมู่ถังได้กลิ่นหอมล้ำลึก ซึ่งสร้างกำหนัดให้เขาอย่างที่สุด
“ชะ ช่วยด้วย มี ใครอยู่หรือไม่”
เสียงดังกล่าวดังอีกครั้ง เมื่อเหวินมู่ถังก้าวเข้าไปถึงห้องอาบน้ำ เขาเห็นสตรีนางหนึ่ง ถูกงูดำตัวเขื่องรัดลำคอระหงของนาง!
แม้สติเหวินมู่ถังเหลือน้อยเต็มที แต่กลิ่นหอมล้ำลึกที่แผ่ขยายจากเรือนร่างอรชนส่งให้เลือดในร่างกายร้อนระอุ
เขาพุ่งไปหานาง จับหัวงู พร้อมกันนั้นก็สกัดจุดไม่ให้สตรีเคลื่อนไหว เพื่อนางจะได้ไม่ตกใจจนทำสิ่งขาดสติ
ชายหนุ่มปล้ำงูตัวเขื่องหลายอึดใจ และคาดว่า งูดังกล่าวมีคนเลี้ยง และป้อนพิษให้มัน เช่นนี้คงมีคนประสงค์ร้ายต่อโฉมสะคราญ
“มีด ข้างๆ ถังน้ำใบเล็ก มีมีดทำครัวของข้าอยู่”
อวี้เพ่ยเอ๋อร์บอกอีกฝ่าย แต่เหมือนไม่ทันการ เพราะสิ่งที่เขาทำ ช่างน่าตื่นตระหนกเหลือเกิน
ฟันขาววาบวับของเขากัดลงที่ลำตัวงู ก่อนที่มันจะดิ้นสุดแรง เพื่อหนีตาย หากสุดท้ายงูตัวเขื่องก็สิ้นฤทธิ์
เมื่อหญิงสาวหายตื่นตระหนก จึงถามอีกฝ่าย
“ท่าน... ได้รับอันตรายหรือไม่”
คนตัวโตใช้กำลังเฮือกสุดท้าย เกาะขอบอ่าง แล้วยื่นมือมาคลายจุดให้นาง
ยามที่ปลายนิ้วยาวแข็งแกร่งและหยาบกร้าน แตะเนินเนื้อหน้าอกเปล่าเปลือยของอวี้เพ่ยเอ๋อร์ ความร้อนวูบวาบทำให้นางต้องรีบหลบสายตาเขา ซึ่งสัมผัสจากอีกฝ่ายส่งผลให้นางว้าวุ่นใจ พอคนตัวโตทรุดลงไปกองบนพื้น อวี้เพ่ยเอ๋อร์รีบลุกขึ้นจากอ่างไม้ คว้าผ้ามาคลุมร่าง แล้วเข้าไปให้การช่วยเหลือเขา
“โอ้ เหตุใด ถึงมีบาดแผลมากมายเพียงนี้” อวี้เพ่ยเอ๋อร์กล่าว และคาดว่า การต่อสู้กับงูเมื่อครู่คงทำให้เขาเจ็บตัวเพิ่ม ในตอนนั้น เขาส่งเสียงแหบแห้งออกมา
“งูดำมีพิษ แต่ทำร้ายข้าไม่ได้...”
“แล้วเหตุใด ท่านจึงบาดเจ็บหนักเยี่ยงนี้”
“บาดแผลพวกนี้ไม่ร้ายแรง เท่ากับกำยาน และพิษราคะที่ข้าได้รับจากคนชั่ว และเจ้าอาจขับพิษให้ข้าได้”
หญิงสาวไม่อยากเชื่อถ้อยคำคนแปลกหน้า กระนั้นเขาคือผู้ยื่นมือสังหารงู และทำให้นางพ้นภัย
“ผู้น้อยเพ่ยเอ๋อร์ ยินดีตอบแทนบุญคุณท่าน”
“แม่นาง เกรงว่าสิ่งที่เจ้าต้องทำต่อจากนี้ อาจลำบากอยู่สักหน่อย ธาตุไฟข้ากำลังจะแตก หากไม่รีบปรับสมดุลในร่างกาย”
อวี้เพ่ยเอ๋อร์ยังไม่อาจเข้าใจคำพูดอีกฝ่ายหนัก แต่เห็นว่าอาการเขาย่ำแย่เหลือเกิน
“ขออภัยด้วย ที่ข้าไม่อาจควบคุมร่างกายได้ กลิ่นหอมจากเรือนกายเจ้า ทำให้ข้าฟุ้งซ่าน”
เมื่อคนตัวโตเอ่ยจบ ดวงตาคมกริบก็ทอแสงวามวาว ราวกับต้องการให้อวี้เพ่ยเอ๋อร์ทำในสิ่งเร่าร้อนระหว่างชายหญิง
อวี้เพ่ยเอ๋อร์ สับสนไปหมด เมื่อพอรู้ตัวอีกครั้ง ร่างกายอีกฝ่ายก็สั่น และไอร้อนแผ่ขยายมาถึงนาง!
“แม่นาง ข้าจะชดใช้ให้เจ้าแน่นอน” เหวินมู่ถังกล่าว ขยับร่างเข้ามาใกล้นาง เป็นเหตุให้อวี้เพ่ยเอ่อร์ตื่นกลัว และล้มไปอยู่บนพื้น คราวนี้คนตัวโตจึงคร่อมร่างของนางอยู่
“ทะ ท่านจะทำสิ่งใด!”
“ร่างกายเจ้าหอมเหลือเกิน และข้าไม่อาจทนต่อแรงปรารถนาได้”
สิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวไฉนอวี้เพ่ยเอ๋อร์จะไม่เข้าใจ
“ข้าทำเรื่องผิดบาปเช่นนี้ไม่ได้”
“เป็นข้าที่ทำสิ่งบัดซบเอง ชาตินี้แม้มีสิบชีวิตก็ไม่อาจชดใช้แม่นาง”
หญิงสาวอยากผลักไส และทุบตีเขา แล้วหนีไปให้พ้นเสีย ทว่าสมองกับสั่งการเชื่องช้าเหลือเกิน อีกทั้งน้ำเสียงเขา และสภาพร่างกายมีแผลใหญ่น้อย อย่างไรเสียนางต้องดูแล
ในห้วงเวลานั้น ดวงตาเขาทอแสงแรงกล้า ริมฝีปากบางแสยะกว้าง เขากำลังต่อสู้กับความดำมืดในจิตใจ
“มีด มีดของเจ้า กรีดมันลงที่กลางฝ่ามือข้าได้หรือไม่ ได้โปรด”
เขาบอกนางเสียงสั่นพร่า อวี้เพ่ยเอ๋อร์ตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ถอยออกจากกายแกร่งนั้น แล้วนำมีดสั้นปลายแหลมของตนมา
ในขณะเดียวกันคนตัวโต เปลื้องเสื้อออก และอวี้เพ่ยเอ๋อร์ รีบหลับตาลง แม้แผลหลายแห่งของเขาไม่ได้เป็นแผลสด กระนั้นก็อดสยองใจไม่ได้
“เร็ว กรีดตรงกลางฝ่ามือข้า...”
“เพื่อการใด”
“ความเจ็บปวด จะทำให้ข้า... ไม่ล่วงเกินเจ้า!”
“ฮึ เช่นนั้น ข้าย่อมส่งเสริมให้ท่านทำในสิ่งที่ถูกต้อง”
จากนั้น ปลายแหลมของมีดสั้นก็เตรียมกรีดที่กลางฝ่ามือชายหนุ่ม นางไม่วอกแวกด้วยอยากช่วยเขา ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือ ก็เอ่ยถามว่า
“นอกจากท่านต้องเสียเลือด และได้รับความเจ็บปวด ยังมีสิ่งใดที่จะคลายพิษในร่างกายได้อีก”
ดวงตาคมมองอวี้เพ่ยเอ๋อร์ด้วยความสงสัย
“แม่นาง เราคือคนแปลกหน้า ทว่าไม่รู้เหตุใด ข้าถึงเลือกเข้ามาซ่อนตัวที่นี่ และให้การช่วยเหลือเจ้า อาจเพราะสวรรค์ลิขิตไว้ หรือไม่คงเป็นเพราะกลิ่นกายเจ้า ทำให้ข้าทั้งคลุ้มคลั่ง และปรารถนาในสิ่งที่บุรุษกับสตรีพึงกระทำร่วมกัน”
อวี้เพ่ยเอ๋อร์ใช้สติตรองอยู่นาน แล้วจึงค่อยๆ ถอดเสื้อคลุมตัวบางออก ยามนั้นเผยให้เห็นหัวไหล่กลมสวย และเนินเนื้อยอดหน้าอกที่เป็นสีชมพู
นางหายใจถี่กระชั้น ตื่นเต้น ระคนอดหวาดกลัวนิดๆ
“หากข้าช่วยท่านได้สักเล็กน้อย จงอย่าชักช้าอยู่เลย”
เมื่อหญิงสาวหลับตาลง เสื้อคลุมก็ล่วงลงไปกองบนพื้น ทรวดทรงอรชร ต้องตาต้องใจชายหนุ่มเหลือเกิน หน้าอกคู่งามอวบอิ่ม ยอดของมันกลมสวย เป็นสีผลอิงเถา และเบื้องล่าง เขาเห็นไม่ถนัดนัก ด้วยนางนั่งพับเพียบ หากเอวที่คอด และสะดือลึก ทำให้เขาไม่อาจหักห้ามใจ
“ข้าชื่อ ถัง... จนป่านนี้ ยังไม่ฮูหยินเป็นของตน...”
อวี้เพ่ยเอ๋อร์ขัดเขินยิ่งนัก แม้เขาจะมีหนวดเคราบางๆ เนื้อตัวเต็มไปด้วยแผล หากพิศแล้วไม่อาจหลอกสายตาได้ บุรุษผู้นี้รูปงาม
ฝ่ายนางไม่ได้เอ่ยคำใด กระทั่งได้ยินเสียงเขาขยับร่างกาย แล้วโถมร่างเข้ามาหา
สองมือเขาหยาบกร้านเหลือเกิน ยามที่มันแตะยอดถันนาง สร้างความซ่านใจอย่างที่สุด
อวี้เพ่ยเอ๋อร์อดกลั้นเสียงหวานๆ ของตน แต่นางกระทำได้ไม่ดีสักเท่าใด อึดใจต่อมา นางตื่นเต้น และครั่นคร้ามใจ ก่อนต้องหวีดร้องลั่น
“อ๊ะ... อะ โอ๊ย!” บริเวณหัวไหล่กลมมน เขี้ยวของเขาขบลงอย่างแรง แรงจนอวี้เพ่ยเอ๋อร์ คาดว่าตนถูกกัดเข้าแล้ว!