“เย้ ในที่สุด เราก็เรียนจบกันแล้ว”
หยาดทิพย์ เพื่อนรักของนับดาวและรัฐภูมิ กระโดดกอดคอเพื่อนรักทั้งสองทันทีที่ออกมาจากห้องสอบวิชาสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา
“เย็นนี้เราไปฉลองกันไหม”
รัฐภูมิถามสองสาว วันนี้เขาโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะชีวิตต่อจากนี้จะถือว่าตัวเองและคนรักเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สามารถตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้เสียที
“ไม่ได้น่ะสิ ฉันต้องรีบกลับบ้าน คุณหญิงแม่จองคิวเลี้ยงฉลองที่บ้านแล้ว”
หยาดทิพย์ที่มักจะชอบเรียกมารดาของตัวเองแบบนั้น เพราะแม่ของเธอเป็นคนเรื่องมากและจุกจิกจู้จี้ ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ แถมยังสอนให้เธอเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างเธอที่มีแต่พี่ชายกลับกระโดกกระเดกราวกับม้าดีดกะโหลกจนคนเป็นแม่ปวดหัวทุกวัน
“งั้นวันหลังก็ได้หยาด แกกลับบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวรถติด เราค่อยโทรนัดกันนะ”
นับดาวกอดกับเพื่อนรักอีกครั้ง พร้อมโบกมือลาจนคนตัวบางวิ่งหายไปกับฝูงชนที่เร่งเดินออกจากอาคารสอบเพื่อรีบกลับบ้านหนีรถติด
“วันนี้ดาวยังต้องไปทำธุระอีกไหมครับ”
“ไม่แล้วค่ะ แต่ดาวมีอะไรอยากคุยกับภูมิ”
“ที่ไหนดีครับ”
“ที่บ้านดาวก็ได้ค่ะ”
“โอเคครับ งั้นเราไปกันเถอะ รถผมจอดอยู่ข้างตึก”
เธอขึ้นรถไปกับเขา เพราะตอนเช้าเธอได้บอกกับชัย คนของผู้ชายคนนั้นแล้วว่าเธอจะต้องกลับพร้อมคนรักเพื่อไม่ให้เขารู้สึกผิดปกติ ถ้าไม่ไว้ใจก็ให้ขับรถตามเธอมา ชัยถึงยอมอนุญาต
เมื่อเข้ามาในบ้านของคนรักสาวที่เขาเคยเข้ามาหลายครั้งแล้ว รัฐภูมิก็ตรงเข้ากอดร่างบางที่หันหลังให้เขาเพราะกำลังจะเดินไปเอาน้ำมาให้เขาดื่ม
“อุ๊ย ภูมิ ทำอะไรคะ”
แม้จะเคยกอดกันมาแล้วหลายครั้ง หรือแม้กระทั่งจูบตามประสาคู่รักทั่วไป แต่วันนี้เขาจู่โจมจนคนที่ใจลอยไม่ทันตั้งตัวสะดุ้งตกใจ
“ภูมิคิดถึงดาวจัง ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อยสิครับ”
เขายืนกอดเธออยู่อย่างนั้น โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ขัดขืน แถมยังวางแขนของตัวเองทับแขนของเขาเพื่อตักตวงความอบอุ่นของอ้อมกอดที่คงเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับเธอ
คนตัวโตหอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนจะจับใบหน้าสวยให้หันเข้าหาเขา แล้วประทับปากลงไปบรรจงจูบเธออย่างอ่อนโยนยิ่งแบบที่เคยทำ
มือใหญ่กำโทรศัพท์มือถือที่กำลังฉายภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องรับแขก กรามแกร่งขบกันแน่นจนสันขึ้นนูน กับภาพหนุ่มสาวที่กำลังยืนกอดจูบกันต่อหน้าต่อตาเขา
“ชัย เปิดประตูรถ”
“คุณเอก ใจเย็นๆ ครับ”
“จะให้กูใจเย็นได้ยังไง มึงไม่เห็นเหรอว่ามันกำลังจูบผู้หญิงของกูอยู่”
“คุณเอกครับ เราต้องให้เวลาสองคนนั้นนะครับ เด็กสองคนเป็นแฟนกัน รักกันมาตั้งนาน จะให้เธอบอกเลิกแฟนเธอปุบปับก็คงจะยาก ผมว่า..”
“มึงจะรอให้มันเอาผู้หญิงของกูก่อนใช่ไหม ถึงยอมให้กูลงไป”
“ใจเย็นครับ คุณนับดาวเธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ถ้าเธอกับเด็กนั่นทำอะไร หรือหายไปจากรัศมีกล้อง เดี๋ยวพวกผมลงไปจัดการไอ้เด็กนั่นให้คุณเอกเอง”
เอกอนันต์ทิ้งตัวพิงเบาะรถ หอบหายใจถี่เพราะหัวใจเต้นกระหน่ำด้วยแรงโทสะ ดวงตาแดงก่ำอำมหิตจ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือตาไม่กะพริบ เพราะกลัวว่าคนตัวบางจะโดนมันลากไปกินต่อหน้าต่อตาเขา ถ้าเป็นแบบนั้น เขาคงได้กระทืบมันจมตีนแน่ๆ
นับดาวผินใบหน้าหนีสัมผัสแสนหวานของผู้ชายที่เธอรักหลังจากยอมให้เขาจูบเธออย่างลึกซึ้งอยู่นานหลายนาที
“ดาว..”
“พอแล้วค่ะ”
“วันนี้เราเรียนจบแล้วดาว เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าภูมิจะขอ..”
“ภูมิ ไหนว่าจะไม่เร่งรัดดาวไงคะ”
รัฐภูมิถอนหายใจยาว พยายามระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่านตามแรงขับเคลื่อนของชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ที่ไม่ได้แตะต้องเรือนร่างของผู้หญิงคนไหนอีกเลย ตั้งแต่คบกับเธอเป็นแฟน
เขารอเธอมานานเหลือเกิน เธอก็ไม่เคยยอมใจอ่อนกับเขาจนถึงขั้นให้เขาลึกซึ้งกับเธอแม้เพียงครั้ง แต่เพราะรักมากจนหมดหัวใจ เขาจึงยอมทรมานและอดใจรอเธอด้วยความเข้าใจเสมอ
“ก็ได้ครับ ภูมิขอโทษ ภูมิรักดาวมากนะ”
“ดาว..เอ่อ เดี๋ยวดาวไปเอาน้ำมาให้ภูมินะคะ นั่งรอที่โซฟาก่อนนะ”
เธอเลี่ยงออกไปรินน้ำใส่แก้วสำหรับเขากับเธอคนละแก้ว ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัดถัดจากเขาไป ไม่ได้นั่งลงเคียงข้างกันเหมือนทุกทีจนเขานึกแปลกใจ
“ดาวครับ ภูมิไม่ทำอะไรดาวแล้ว ไม่ต้องกลัวภูมิจนไปนั่งไกลขนาดนั้นก็ได้”
“ดาวไม่ได้กลัวค่ะ แต่ดาว คือดาว มีอะไรจะบอกกับภูมิ”
เขามองใบหน้าสวยของคนรักก็เห็นนัยน์ตาโศกของเธอวันนี้แสนเศร้ากว่าทุกที
“ดาว มีอะไรหรือเปล่าครับ พูดกับภูมิตรงๆ ได้เลย”
เธอมองหน้าผู้ชายที่เธอรัก กวาดตามองเก็บทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเขาราวกับต้องการจดจำให้ขึ้นใจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเลือนรางลงเรื่อยๆ เพราะดวงตาคู่สวยมีหยาดน้ำตามาเอ่อคลอ
“ดาว..”
เขาขยับตัวมานั่งใกล้เธอ ก่อนจะจับมือที่สั่นเทาเย็นเยียบราวกับไม่มีเลือดเนื้อ
เธอกะพริบตาไล่หยาดน้ำตานั้นให้ไหลลงมา พยายามอย่างถึงที่สุดแล้วที่จะไม่ร้องไห้ แต่มันก็ยากเกินไป เธอทำไม่ได้จริงๆ
“ภูมิคะ เราเลิกกันเถอะ ดาวไม่ได้รักภูมิเหมือนเดิมแล้ว”
คนที่ถูกบอกเลิกโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเบิกตาค้าง จ้องหน้าผู้หญิงที่ตัวเองรักนิ่งนาน อยากจะพูดจะถาม แต่ก็หาเสียงของตัวเองไม่เจอ
หัวใจดวงโตวูบโหวงปวดหนึบ ราวกับมีใครมาเด็ดมันออกจากขั้ว ไม่รู้ว่าที่เธอบอกเลิกเขาจะจริงจังแค่ไหน แต่แค่ได้ยินคำนี้ที่ไม่คิดว่าจะมีวันออกมาจากปากของเธอ เขาก็เจ็บปวดไปทั้งหัวใจแล้ว
“ทะ ทำไม ทำไมดาวพูดแบบนี้ครับ มันเกิดอะไรขึ้น ดาวล้อภูมิเล่นใช่ไหม ใช่ไหมครับดาว”
“ไม่ค่ะ ดาวพูดจริง ดาวต้องการเลิกกับภูมิจริงๆ”
“เพราะอะไร..”
เสียงที่ออกมาจากริมฝีปากหยักได้รูปของเขาช่างแผ่วเบาราวกับไร้เรี่ยวแรง ดวงตาที่เบิกกว้างจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวยของคนรักเพื่อค้นหาความรู้สึกที่แท้จริง แต่วันนี้เขากลับอ่านมันไม่ออก เหมือนเธอคนนี้คือคนที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
“ดาว..”
เธอกลั้นก้อนสะอื้นที่ตีขึ้นมาจุกอก กัดกรามแน่น กำมือจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อฝ่ามือจนเป็นรอย แต่กลับไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดสักนิด เพราะที่เดียวที่เธอรู้สึกว่ามันเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว ก็คือที่หัวใจดวงน้อยของเธอนั่นเอง
“ดาว ไม่ได้รักภูมิแล้ว ไม่ได้รักแล้วจริงๆ”
“ภูมิผิดอะไร มันเกิดขึ้นได้ยังไง เมื่อคืนเรายังบอกรักกันอยู่เลย”
นับดาวสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่ช่วงสุดท้ายของลมหายใจกลับปนสะอื้นจนตัวโยน
“ภูมิไม่ได้ผิด ดาวผิดเอง ภูมิเกลียดดาวได้เลยที่ดาวเปลี่ยนใจไปจากภูมิ”
“ดาวมีคนอื่นหรือ ไม่จริงใช่ไหมดาว”
“ค่ะ ดาวมีคนอื่น”
คราวนี้คนตัวโตไม่อาจกลั้นความเสียใจไว้ได้อีกแล้ว ชายหนุ่มร้องไห้ออกมาพร้อมสะอื้นจนตัวโยน เขาลุกขึ้นคว้าคนตัวบางมากอดแน่นๆ ไม่ยอมปล่อย เขาจะไม่ยอมเสียเธอไป เขาไม่ยอม
“ไม่ยอม ภูมิไม่เลิก ภูมิไม่ยอมให้ดาวมีใคร เรารักกันมากไม่ใช่เหรอครับ ดาวต้องการให้ภูมิทำอะไรให้ ภูมิยอมทำให้ทุกอย่างเลย ดาวบอกมาสิครับ บอกภูมิมา”
“ภูมิ ปล่อยดาวก่อน ดาวเจ็บ”
“ไม่ ภูมิไม่ปล่อย เราไม่เลิกกันนะ ภูมิไม่เลิกกับดาว ภูมิต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่มีดาว”
ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องตายแน่ๆ เธอเองก็คงตายแน่ๆ เหมือนกัน ตายทั้งที่ยังหายใจ
“ปล่อยนับดาวเดี๋ยวนี้”