"กลับไปกับข้านะ ข้าคิดว่าเราสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้...."
"ที่รักคะ!! ข้าซื้อของมาฝากท่านเยอะแยะเลย"
รอยยิ้มที่แสนดีใจนั่นเริ่มจางหายไปจากใบหน้าของสตรีที่เดินออกมานอกระเบียงเพื่อจะอวดข้าวของที่ซื้อมากับสามีของเธอ เมื่อเธอเห็นสามีนั่งคุกเข่าลงแทบเท้าของสตรีแปลกหน้าผู้หนึ่ง
"ดัชตินนี่มันเรื่องอะไรกัน!!"
จูเลียถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย เธออุตส่าห์เลือกห้องชั้นบนเพื่อที่จะได้อยู่อย่างสงบ แต่กลับต้องมาเจอเรื่องราววุ่นวายที่เธออยากจะหนีไปให้พ้น
"รักษาครอบครัวของเจ้าให้ดีเถอะดัชติน หวังอย่างยิ่งว่าชีวิตนี้เราจะไม่ต้องเจอหน้ากันแล้ว"
จูเลียเลือกที่จะเก็บของออกจากห้องนี้ เธอคิดว่าเธอควรจะไปหาเช่าโรงแรมที่อื่นซะยังจะดีกว่า การต้องมาทนเห็นหน้าของคนที่เธอเกลียด
"ขออภัยด้วยนะคะ เนื่องจากมีงานเทศกาลห้องพักก็เลยเต็มหมดแล้วค่ะเลดี้"
ให้ตายเถอะ ไอ้เวรนั่นถือเป็นตัวซวยของเธอจริงๆด้วยสินะ... ตอนนี้มืดแล้วเธอยังไม่สามารถหาที่พักได้เลย นี่อย่าบอกนะว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนข้างถนน...
ชีวิตมันคงจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นหรอกมั้ง
"ปัง!!!"
เสียงดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้นมามากมายหลายสิบลูก จูเลียพาตัวเองเดินขึ้นไปนั่งยังม้านั่งริมทะเลสาบ เธอนั่งมองดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นมาลูกแล้ว ลูกเล่าด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
คงจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าเธอสามารถมองเห็นมันจากที่ห้องพัก แต่นี่เธอยังหาห้องพักไม่ได้เลย...
อันที่จริงการนอนข้างทางก็คงไม่ได้แย่อะไรสักเท่าไหร่ เพราะในตอนที่เธอเดินทางไปที่ฮอตมิสครั้งแรก สภาพของตัวเธอนั้นสะบักสะบอมมากทีเดียว หลงบ้างถูกปล้นบ้าง วิ่งหนีนักเลงที่กำลังตีกันบ้าง
นี่สินะรสชาติของชีวิต...
"นี่น้องสาว มานั่งคนเดียวงั้นเหรอ ข้ามีห้องพักสำหรับนอนคืนนี้ได้แบบสบายๆเลยนะ สนใจจะไปนอนด้วยกันรึเปล่า"
ไม่บ่อยนักที่เธอจะถูกเรียกว่าน้องสาว.. และชายที่กำลังเมาอยู่นี่ก็ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าเธอด้วยซ้ำ
"สนใจสิ พอดีเลยข้ากำลังไม่มีที่นอนอยู่พอดีเลยค่ะ"
เขายกยิ้ม ใบหน้าของเขาไม่ได้จัดว่าแย่แต่ท่าทางที่หื่นกามของเขาทำเธอรับไม่ได้จริงๆ
"เช่นนั้นก็ไปกันเถอะนะ ข้ามีเงินอีกหลายเหรียญเลย หากว่าคืนนี้เจ้าสามารถทำให้ข้าประทับใจได้ ข้าจะมอบมันให้เจ้าหมดเลยนะ.."
อ่า...ใจป้ำซะด้วยสินะ
บนโลกนี้สิ่งเดียวที่จูเลียไม่เคยกลัวนั่นก็คือบุรุษ เธอคิดว่าตัวเองนั้นสามารถเอาชนะทุกเล่ห์เหลี่ยมของบุรุษได้อย่างง่ายดาย
และเธอไม่คิดจะนอนกับหมอนี่หรอกนะ แต่จูเลียไม่อยากจะมีปัญหาและอีกอย่างเขาก็บอกเองว่าเขามีที่พักนี่นา..
"หมับ!!!"
ชายที่ยืนอยู่ข้างเธออยู่ๆก็ล้มลงกับพื้น และมีมือของบุรุษผู้หนึ่งมาจับมือของเธอเอาไว้ ทว่าพอมองดูดีๆที่ตรงก้นของชายที่เมาสุรานั้นมีรอยเท้าอยู่ เธอคิดว่าชายที่กำลังจับข้อมือเธออยู่คงจะเป็นคนถีบเขาอย่างแน่นอน
"ถึงจะเป็นโสเภณีแต่ก็ช่วยเลือกลูกค้าหน่อยสิ..."
จูเลียยกยิ้ม ชายเบื้องหน้านั้นเป็นชายวัยกลางคนที่ใบหน้าของเขานั้นค่อนไปทางโหด อีกทั้งเขายังไม่ยอมสบตาเธอในเวลาที่เขาพูดกับเธออีกด้วย
ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาช่วยเธอ แต่หน้าตาที่แสนโหดร้ายของเขานั้นมันดูน่าแกล้งดีจริงๆ
"ท่านชายทำร้ายลูกค้าของข้าจนเขาสลบไปแล้ว เช่นนี้ท่านจะต้องรับผิดชอบข้าด้วยนะคะ ข้าเสียรายได้ก็เพราะท่านเลย"
ใบหน้าของเอลวินนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ เขาแค่เข้ามาช่วยนางจากพวกนักเลงขี้เมา แล้วเหตุใดถึงกลับกลายเป็นว่าเขาต้องมารับผิดชอบนางด้วยเล่า
นี่คือสตรีประเภทใดกัน!!!
"หากว่าเจ้าไม่มีที่พัก..."
"อ่า ข้ากำลังกังวลเรื่องนั้นอยู่พอดีเลยค่ะ ข้าไปพักกับท่านได้ใช่ไหมคะ"
เธอจับแขนเขาแน่น จูเลียคิดว่าหนึ่งในความสามารถพิเศษของเธอก็คือการมองคน ถึงใบหน้าของชายผู้นี้จะเย็นชาและโหดเหี้ยม แต่ทว่าเขาต้องเป็นคนที่จิตใจดีอย่างแน่นอน
และสุดท้ายเอลวินก็ต้องพาสตรีที่เขายื่นมือเข้าไปช่วยเหลือกลับมาที่โรงแรมด้วย และสิ่งที่น่าตลกคือโรงแรมที่เขาพักนั่นคือโรงแรมที่เธอมาเข้าพักในทีแรก...
และที่เธอตกใจอีกอย่างคือชั้นบนสุดของโรงแรมมีสามห้องไม่ใช่สองห้องอย่างที่โรงแรมกล่าวแจ้งเอาไว้...
ชายผู้นี้จะต้องเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่โรงแรมเก็บห้องเอาไว้ให้เขา...หรือว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมกันนะ
เขาเปิดประตูห้องพร้อมกับส่งกุญแจห้องให้เธอ
"คืนนี้เจ้าพักที่นี่เถอะ ข้าจะพักอีกห้อง มีอะไรก็..."
ในห้องขนาดใหญ่นี้ถูกแบ่งเป็นสองห้องนอน แต่ทว่าเธอรับจับแขนของเขาเอาไว้
"ข้ายังไม่ทราบชื่อนายท่านเลยค่ะ"
"....เรียกข้าว่าเอลวิน"
"ค่ะนายท่านเอลวิน ข้าชื่อจูเลียนะคะ ท่านสามารถเรียกชื่อข้าได้เช่นกัน"
เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะยอมปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ
"เจ้าดูไม่เหมือนโสเภณีเลย หากว่าเจ้าเดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆควรจะไปทำงานอื่นที่..."
"ตรงไหนที่ดูไม่เหมือนกันคะ ในเมื่อนายท่านพาข้ามาที่นี่ก็เพราะว่าข้าเป็นโสเภณีไม่ใช่รึไง"
"ทุกอย่าง...เสื้อผ้าที่เจ้าสวมใส่นั้นมีราคาที่แพงเกินกว่าที่สตรีทั่วไปจะสวมใส่ มือทั้งสองข้างนี้อีก มันไม่ได้มีความหยาบกร้านอยู่เลย นั่นบ่งบอกว่าเจ้าไม่เคยแม้แต่จะชงชาด้วยมือคู่นี้ด้วยซ้ำ"
ในคราแรกเป็นเธอที่จับผิดเขา และทำไมอยู่ๆถึงกลายเป็นเขาที่มาจับผิดเธอแทนซะล่ะ
จูเลียยกมือขึ้นมากุมใบหน้าของเอลวินเอาไว้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราเขียวครึ้ม ตรงแก้มของเขานั้นมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ที่บางคนอาจจะคิดว่าเขาดูน่ากลัว แต่ทว่าสำหรับเธอนั่นคือรอยแผลที่แสดงความกล้าหาญของเขา
เขายกมือขึ้นมาจับแขนเธอเอาไว้แต่ทว่าก็ไม่ได้ออกแรงผลักออก ราวกับว่าเขานั้นหวาดกลัวว่าเธอจะเจ็บปวดจากการกระทำของเขา
เพราะเธอเป็นสตรีร่างเล็กที่ดูบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่หากว่าเขาสัมผัสเธอแรง เธออาจจะแตกสลายคามือของเขาได้
น่าแปลกใจที่เธอส่งสายตาเย้ายวนถึงเพียงนี้ เขาก็ยังไม่ก้มหน้าลงมาจุมพิตเธอเลย หมอนี่เป็นตาทึ่มโดยแท้จริงเลยสินะ
"ข้าคิดว่านี่ดึกมากแล้ว และเราควรจะแยกกันไปนอน"
เขาปัดมือของเธอที่กำลังกุมหน้าเขาอยู่ออกเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน ส่วนจูเลียได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆให้กับตัวเอง
บางทีอายุเธอคงจะมากขึ้นจนเสน่ห์ที่เธอแสนมั่นใจในตัวเอง มันจางหายไปตามกาลเวลาแล้วละมั้ง
ให้ตายเถอะ เสียความมั่นใจชะมัด!!