3
“นั่นสิ นิเวน่านี่สุดยอดเลยนะ ที่นี่ดีกว่าจริงเหรอ” คำพูดนี้เป็นของหัสดิน
“ฉันก็เลยชวนนายสองคนมาลองไง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ถ้าดีจริงตามที่ไอ้เนบอกมาก็ถือว่าเราโชคดี แต่ถ้าไม่ ครั้งเดียวเลิก”
นิรัติศัยคิดว่าไม่ลองย่อมไม่รู้ การสนทนาของสามหนุ่มยุติลงชั่วคราว เมื่อนงเยาว์ พนักงานต้อนรับเดินเข้ามาต้อนรับขับสู้ลูกค้ารายใหม่
“สวัสดีค่ะ มาครั้งแรกใช่ไหมคะ” นางเยาว์เอ่ยถาม ด้วยหน้าที่ทำให้เธอจำลูกค้าได้ทุกคน สามหนุ่มหล่อต่างสไตล์เธอยังไม่เคยเห็นหน้า นั่นหมายความว่าเพิ่งมาเป็นครั้งแรก “ไม่ทราบว่าจะใช้บริการส่วนไหนดีค่ะ ที่นี่มีให้เลือกใช้บริการครบวงจรค่ะ”
“แบบนั่งดื่ม นั่งฟังเพลงและผู้หญิง” นิรัติศัยตอบ
“ได้ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ”
เมื่อรู้ความต้องการของลูกค้า นงเยาว์พาลูกค้าทั้งสามไปยังโซนที่ต้องการ
นงเยาว์พาลูกค้าใหม่เข้ามาในผับหรูที่ตกแต่งอย่างมีระดับ มีความเป็นส่วนตัว และลูกค้าแต่ละคนที่มาใช้บริการส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่กระเป๋าหนักทั้งสิ้น
“เป็นไง โอเคไหมเอ็กซ์” นิรัติศัยถามหัสดินที่กวาดตามองไปรอบผับด้วยสายตาพึงพอใจ
“โอเลย”
หัสดินตอบ สายตายังคงมองไปทั่วผับ ผับนี้ถือว่าหรูมากทีเดียว ตกแต่งอย่างมีระดับเทียบเท่าผับประจำของเขา ถือว่าคิดไม่ผิดที่มาลองของใหม่
“โอกว่าบางที่ที่พวกเราเคยไปอีกนะ ถือว่าผ่าน” กันต์ธีร์พูดขึ้นบ้าง “คราวนี้ก็ต้องมาดูว่า การบริการกับผู้หญิงจะสอบผ่านหรือเปล่า ถ้าผ่านล่ะก็ พวกเราคงมีที่สิงสถิตใหม่”
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย คลับเอสยินดีต้อนรับค่ะ” มารศรีผู้จัดการร้านโซนผับเข้ามาต้อนรับขับสู้ลูกค้ารายใหม่ เธอพนมมือไหว้สวยงาม ฉีกยิ้มกว้าง “สั่งเครื่องดื่มก่อนดีไหมคะ จะได้แก้คอแห้ง”
สามหนุ่มสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองต้องการกับพนักงานบริกร เมื่อการสั่งเครื่องดื่มเสร็จสิน มารศรีทำหน้าที่ของตนต่อ
“นอกจากเครื่องดื่มแล้ว คุณผู้ชายรับเพื่อนคุยไหมคะ ที่นี่มีสาวๆ สวยๆ เยอะเลยค่ะ คุยสนุก บริการดีด้วยนะคะ ถ้ารับดิฉันจัดมาให้ค่ะ” มารศรีทำตามหน้าที่
“ผมขอแบบออฟได้” นิรัติศัยบอกความต้องการของตน
“ผมขอด้วย” กันต์ธีร์เอ่ยขึ้น
“แล้วคุณผู้ชายล่ะคะ รับไหมคะ” มารศรีเอ่ยถามหัสดินที่พยักหน้าเป็นคำตอบ
“คุณผู้ชายรอสักครู่นะคะ ดิฉันจะไปตามเด็กมาให้”
นงเยาว์เดินจากไปไม่ถึงหนึ่งนาที เธอก็เดินกลับมาพร้อมกับสตรีหน้าตาสวยงามสามคน สามสาวรู้งาน เดินไปนั่งเคียงข้างชายหนุ่มรูปงาม เอาอกเอาใจตามหน้าที่
หัสดิน กันต์ธีร์และนิรัติศัยมีสีหน้าพอใจและมีความสุขกับการท่องราตรีในคืนนี้เป็นอย่างมาก ทั้งสถานที่ถูกใจ เสียงเพลงจากนักร้องทั้งชายและหญิงที่ผลัดเปลี่ยนสร้างความสำราญทางหูก็ไพเราะ ฟังแล้วเคลิบเคลิ้ม บางคนร้องดีกว่าผับประจำของพวกเขาเสียอีก ที่สำคัญที่สุดหญิงสาวข้างกายสวยสมราคาที่จ่ายไป
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” หัสดินบอกเพื่อน จบคำพูดเขาก็ลุกเดินไปยังจุดหมาย
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ หัสดินก้าวเดินมาตามทางที่จะกลับเข้าไปในผับ ระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้นเสียงมือถือของตนดังขึ้น เขาล้วงมันหยิบขึ้นมารับสาย เดินไปคุยไป ด้วยความไม่ระวังจังหวะที่กำลังเดินเลี้ยวตรงมุมทางเดิน ร่างสูงใหญ่ปะทะกับร่างของใครคนหนึ่งเต็มแรง
“ว้าย!” เจ้าของเสียงกรีดร้องตกใจ ร่างเซจากแรงปะทะ ส่งผลให้เจ้าของเสียงแหงนหงายไปทางด้านหลัง หัสดินใช้ความไว คว้าร่างนุ่มนิ่มไว้ในอ้อมแขน
ตาสบตา...
หัสดินมองใบหน้าของสตรีในอ้อมแขนที่อยู่ห่างไม่ถึงหนึ่งฟุตนิ่ง เป็นการมองแบบแช่แข็ง ไม่เคลื่อนไหวสายตาไปที่ใด นอกจากดวงหน้างดงามที่ตราตรึงใจตั้งแต่แรกเห็น นัยน์ตาสาวคู่นี้เหมือนมีพลังบางอย่าง สะกดใจให้ชะงักงัน เขาพบเจอสตรีสวยงามมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีใครเลยที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงประหนึ่งเด็กแรกรุ่นพบสาวถูกใจ
ใช่...เขาถูกใจเธอเหลือเกิน
“ขอโทษนะคะที่ฉันเดินชนคุณ” ฝ่ายหญิงเอ่ยเสียงนุ่ม ใบหน้าแดงระเรื่อจากความใกล้ชิดระหว่างเธอกับชายแปลกหน้า อีกทั้งสายตาของเขาร้อนแรงจนเธอรู้สึกวูบวาบไปทั้งกาย มือเล็กดันอกกว้างเขาเบาๆ “ขอบคุณนะคะที่รับร่างดิฉันไว้”
“อ๋อครับ” หัสดินได้สติ คลายลำแขนอย่างสุภาพ สายตายังไม่เคลื่อนจากใบหน้าพริ้งเพรา “ผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ ผมมัวแต่โทรศัพท์เลยไม่ทันระวังครับ”
“เอาเป็นว่า ต่างคนต่างผิดก็แล้วกันนะคะ” อารยาถอยหลังมาสองสามก้าว น้ำเสียงยังคงนุ่มนวล “ขอตัวนะคะ”
อารยายิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเบี่ยงเท้าเดินไปยังห้องน้ำ หัสดินกำลังจะก้าวเท้าเดินไปสกัดหน้า เพื่อทำความรู้จักให้มากกว่านี้ ทว่าเสียงมือถือกลับดังขัดจังหวะ เขามองรายชื่อของคนที่โทรศัพท์เข้ามา สลับกับมองร่างอรชรที่เดินจากไป ก่อนจะกดรับสายเพราะบุคคลที่โทรเข้ามาสำคัญกว่าและพลาดการรับสายไม่ได้
หัสดินเดินกลับมานั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนในเวลาต่อมา สีหน้าเขาไม่ได้เหมือนตอนลุกไปเข้าห้องน้ำ ต่างกันจนเพื่อนซี้อีกสองคนสงสัย เป็นเพราะหัสดินทำหน้าราวกับว่ากำลังมีเรื่องขบคิด
ใช่...เขากำลังคิด คิดถึงหญิงสาวที่เพิ่งเดินชนเมื่อสักครู่นี้ ตอนนั้นเขาไม่ทันคิดอะไรบางอย่าง เพราะมัวแต่ตะลึงกับภาพใบหน้าอันงดงาม ที่ปิดทับด้วยเครื่องสำอางบางเบา ไม่จัดจ้านจนรู้สึกอึดอัด รอยยิ้มของเธอทำให้หัสดินเคลิบเคลิ้ม หัวใจเต้นถี่แรงกับความหวานบนใบหน้าสาวที่มีเพิ่มมากขึ้น หลงลืมคิดไปอย่างหนึ่งว่า เธอมาทำอะไรในผับแห่งนี้ จะเป็นนักเที่ยวหรือว่าทำงานในคลับเอส หากเป็นข้อแรกเขาโล่งใจ แต่หากเป็นข้อสอง คำถามต่อมาคือ เธอทำงานหน้าที่ใด จากการแต่งกายทำให้เขาคิดว่า เธอน่าจะทำงานที่นี่มากกว่า และทำงานในตำแหน่งที่เขาไม่อยากคาดเดา
แค่คิดว่า สาวถูกใจเป็นผู้หญิงบริการที่นี่ ใจเขาสั่นไหวขึ้นมาแปลกๆ ในความรู้สึก เขาไม่อยากให้ชายใดแตะต้องร่างกายเธอ อยากจะอัดหน้าชายเหล่านั้นอกจากเขาเพียงคนเดียว หัสดินเกิดหวงแหนเธอขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เอ็กซ์เป็นไรหรือเปล่าวะ ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ” นิรัติศัยอดถามไม่ได้
“เปล่าไม่มีไร” หัสดินตอบเสียงห้วน ปัดมือสาวสวยที่นำมือมาลูบแผ่นอกออก สีหน้าบอกถึงความรำคาญ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขายังพออกพอใจกับการเอาใจของเธอ
“ฉันไม่เชื่อว่าไม่มีอะไร บอกมาซะดีดีว่ามีอะไรในใจ”
อากัปกิริยาของหัสดิน ทำให้คนขี้สงสัยอย่างนิรัติศัยไม่เชื่อ เขาคาดคั้นถามทั้งน้ำเสียงและสายตา
“ไม่มีอะไรจริงๆ” หัสดินปรับใบหน้าให้เป็นปกติ หยิบแก้วบรั่นดีมาดื่ม
“แต่หน้านายบอกฉันสองคนว่า มันมีนะ” นิรัติศัยคาดคั้นต่อ
“เมื่อกี้ฉันได้รับโทรศัพท์จากอลัน เขาโทรมาเลื่อนนัดการเซ็นสัญญาในวันมะรืนเป็นอาทิตย์หน้า ฉันกังวลเรื่องนี้แหละ ถ้าหากเลื่อนนัดเซ็นสัญญาไปเรื่อยๆ งานมันก็จะไม่เดิน กลัวไม่ทันวันเปิดโครงการ” หัสดินจำต้องหาคำตอบให้เพื่อน เพราะไม่อย่างนั้นเขาจะถูกถามจนกว่าจะได้รับคำตอบ
“น่าจะทันอยู่นะ อีกตั้งเดือนนึง นายอย่ากังวลไปเลย” กันต์ธีร์ปลอบเพื่อน
“นายเก่งอยู่แล้ว ปัญหาอะไรก็แก้ได้หมด ฉันว่าเรามาพักผ่อนสมองกันต่อเถอะ”
หัสดินยิ้มบาง ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ กวาดตามองไปรอบผับคล้ายกับว่ากำลังมองหาใครอยู่ และแล้วเขาก็พบเจอหญิงสาวที่ทำให้หัวใจสั่นไหวตั้งแต่แรกเห็น
เธอกำลังทรุดกายนั่งลงบนโซฟาข้างชายร่างท้วมดูมีฐานะ แต่ไม่ใช่ว่าจะนั่งแนบสนิทเหมือนกับหญิงสาวข้างกายเขาที่นั่งเบียดชิด เธอทิ้งระยะห่างพอสมควร พนมมือไหว้ชายร่างท้วมคนนั้นอย่างนอบน้อม
“ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร ฉันอยากได้เธอคนนั้นมานั่งแทนเธอตรงนี้”
หัสดินถามสาวข้างกายที่หันไปตามนิ้วของเขาที่ชี้ไปยังสตรีนางหนึ่งที่นั่งอยู่ห่างไม่จากโต๊ะนี้มากนัก ยุพาตกใจเมื่อเห็นว่า หญิงสาวที่หัสดินต้องการคือใคร
“ผู้หญิงคนนั้นชื่อคุณอารยาหรือคุณเปิ้ลค่ะ แล้วสิ่งที่คุณต้องการก็คงไม่ได้ คุณเปิ้ลไม่ได้เป็นสาวนั่งดริ้งหรือสาวขาย เธอเป็นเจ้าของคลับเอสค่ะ”
หัสดินรู้สึกโล่งใจ เสมือนของหนักถูกยกออกจากอกเมื่อได้ยินคำตอบของยุพา เขาแทบจะไม่เชื่อหูว่า หญิงสาวถูกใจจะเป็นเจ้าของคลับเอส อารยายังดูสาว อายุน่าจะไม่เกินสามสิบปี เจ้าของผับส่วนใหญ่ที่เขารู้จัก อายุมากกว่าสี่สิบปีทั้งสิ้น เขาจึงเแปลกใจไม่น้อยที่รู้เรื่องนี้
“ทำไมเจ้าของผับนี้ยังสาวและสวย ปกติจะมีอายุทั้งนั้น ถ้าฉันไม่ได้ยินกับหูจะไม่เชื่อเด็ดขาด” นิรัติศัยเอ่ยขึ้น
“ใครรู้ก็พูดเหมือนคุณค่ะ เดิมทีผับนี้เป็นของพ่อคุณเปิ้ล แต่พอท่านเสียผับนี้ก็ร้างหลายปี จนคุณเปิ้ลมาทำใหม่ค่ะ คงเสียดายธุรกิจของพ่อ ถ้าทิ้งไปก็เหมือนทิ้งเงิน เพราะรายได้ค่อนข้างมากในแต่ละวัน ถ้ารวมทั้งเดือนก็หลายล้านค่ะ” ยุพาบอกข้อมูลที่รู้มา ถ่ายทอดให้คนตื่นรู้
“ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะทำผับนี้คนเดียวได้เหรอ มันต้องมีเส้นสายหรือคนหนุนหลังนะ ฉันรู้มาว่า เจ้าของผับละแวกนี้เสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น โชกโชนการทำธุรกิจกลางคืน หรือว่าคุณเปิ้ลของเธอจะมีแฟนหรือสามีคอยช่วยดูแล” หัสดินหลอกถามข้อมูลที่ตนอยากรู้กลายๆ
“คุณเปิ้ลยังไม่มีแฟนค่ะ เธอทำคนเดียวค่ะ แต่มีเพื่อนอีกสองคนมาช่วยค่ะ ส่วนเรื่องคู่แข่ง มีหลายผับเลยค่ะ แต่คุณเปิ้ลเอาอยู่ ไม่มีใครกล้าแหยมสักคน”
หัสดินยิ้มมุมปากกับคำตอบที่ได้รับ ดวงตามองไปยังใบหน้าสวยของอารยาไม่วางตา ในแววตาของเขามีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่ เป็นประกายตาที่ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต