: คลื่น :
เวรเอ๊ย! นี่มันฝันร้ายชัดๆ
ผมนั่งทึ้งหัวตัวเองในรถ ตามหายัยเหมยอะไรนั่นไปทั่วแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงา
แมร่งเอ๊ย! แค่คิดว่าเมื่อกี้มีอะไรกับผู้ชายผมก็ขนลุกซู่ไปหมด ขยะแขยงว่ะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกแปดเปื้อนอย่างนี้มาก่อน
อย่าให้เจอตัวนะผมเอาคืนเป็นร้อยเท่าแน่!
ผมกัดฟันกรอดขับรถเข้ามาที่ไลฟ์เฮาส์ด้วยอารมณ์คุกรุ่น ยาที่กินเข้าไปมันทำผมจะคลั่งตายอยู่แล้ว ความจริงที่ผมถูกเกย์ทับไอ้นั่นทำผมปั่นป่วนแทบอยากอ้วก
ผมต้องการลบภาพเหล่านั้นออกจากหัวสมองให้เร็วที่สุด
“อ้าวไอ้คลื่น สภาพมึงโดนรุมโทรมมาเหรอวะ”
กุนเดินสวนกับผมที่ทางเข้าหยุดมองผมด้วยสายตาประหลาดใจ
“เออ กูเพิ่งผ่านเรื่องเหี้ยๆ มาขอเด็ดๆ ให้กูสักคนสองคนด่วน!”
“หา! อะไรของมึงวะ”
ผมเดินชนไหล่ไอ้กุนเข้ามารอในห้องรับรอง ปลดเสื้อผ้าทิ้ง เดินเข้ามาเปิดน้ำเย็นล้างหัว สาวๆ ที่ผมขอไปก่อนหน้านี้กำลังทอดตัวรออยู่บนโซฟา มองผมที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จด้วยสายตายั่วยวนสุดๆ
“ทำไมรีบอาบละคะ ไม่รอพวกเราเลย”
“อาบแล้วก็อาบอีกได้นี่นา ใช่มั้ยคะ” น้องสาวอีกคนลุกขึ้นมาลูบไล้แขนผม ส่วนอีกคนก็ไม่ยอมน้อยหน้าเดินเข้ามาเกลี่ยนิ้วบนแผงอกลากลงไปใต้สะดือ เธอจ้องผ้าคาดเอวผมพร้อมกับรอยยิ้มซุกซน ภาพเกย์หวนกลับมาในหัว เวรเอ๊ย!
ผมสะบัดหัวแรงๆ ไล่ภาพที่น่าสะอิดสะเอียนออกไปจากหัว
“พี่คะ?”
“ไม่มีอะไร มาสนุกกันดีกว่า”
ผมเชยคางผู้หญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้ามืออีกข้างโอบสะโพกของอีกคนเอาไว้ แต่ต่อให้สาวๆ เร่าร้อนแค่ไหนในหัวผมกลับปรากฏภาพยัยนั่น เหมย!
ผมหลับไปพร้อมกับฤทธิ์ยาที่ทุเลาลง ตื่นมาอีกทีสองสาวก็ไม่อยู่บนเตียงแล้ว กี่โมงแล้ววะเนี่ย ผมควานหาโทรศัพท์ระหว่างนั้นเสียงเตือนโทรเข้าก็ดังขึ้น
ผมมองเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอ ไอ้เจ...
“ว่าไง”
(คลื่นอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกพบว่ะ)
“มีเรื่องอะไร”
(เออ มึงรีบมาแล้วกันท่าทางจะเรื่องสำคัญ)
“.....”
◇ ◆◇ ◆◇ ◆
คณะแพทยศาสตร์
“ได้ยินเพื่อนบอกว่าอาจารย์เรียกพบ”
“นั่งก่อนสิ”
“แล้วอาจารย์มีอะไรจะคุยกับผม”
“ผมไม่ได้ติดใจเรื่องรสนิยมของคุณหรอกนะ แต่สิ่งที่ร้ายแรงคือคุณไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณแพทย์”
“ครับ!? ผมไม่เข้าใจ...”
อาจารย์เลื่อนกระดาษสองแผ่นมาตรงหน้าผมแทนคำตอบ แผ่นหนึ่งคือใบเสร็จส่วนอีกแผ่นเหมือนจะเป็นประวัติคนไข้
“นี่อะไรกันครับ”
ผมมองลายเซ็นตัวเองในใบเสร็จจำไม่ได้ว่าเซ็นไว้ตอนไหน
“คุณจะบอกว่าไม่รู้เรื่องเหรอ”
ผมส่ายหน้า
“ดูดีๆ สิ”
คำพูดของอาจารย์ที่ปรึกษาทำให้ผมก้มลงมองกระดาษสองใบตรงหน้าอย่างละเอียด
...เอกสารการตรวจร่างกายของนางสาว... กำลังตั้งครรภ์สี่สัปดาห์
ผมเลื่อนสายตาผ่านตัวหนังสือนั่นอย่างรวดเร็ว แต่จะไม่หวั่นใจเลยถ้าชื่อที่เห็นอยู่ตอนนี้ไม่คล้ายกับชื่อน้ำอิง หลายวันก่อนยัยนั่นเข้ามาปรึกษาเรื่องเด็กในท้อง น้ำอิงขอให้ผมช่วยกำจัดเด็กแต่ผมปฏิเสธเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องเข้าไปยุ่ง
แล้วทำไมรายงานการตั้งครรภ์ของยัยนั่นถึงมาอยู่นี่นั่นแหละที่ผมยังสงสัย ผมเลื่อนสายตามาที่ใบเสร็จข้างๆ สังหรณ์ใจไม่ดีตงิดๆ
“คลินิกแพทย์ K รับปรึกษาปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์”
ผมอ่านลายน้ำบนหัวกระดาษ มีทั้งเบอร์โทรและเว็บไซต์สำหรับติดต่อที่ถูกประทับด้วยตรายาง
ชำระค่ารักษา 5000 บาท
ลงชื่อแพทย์ : (ลายเซ็นผม)
หลักฐานตรงหน้าเริ่มปะติดปะต่อเป็นรูปร่างในหัว แต่...ผมยังไม่อยากเชื่อสัญชาตญาณตัวเองเท่าไหร่ ตวัดสายตาขึ้นมองอาจารย์ที่ปรึกษา
“อาจารย์กำลังจะบอกว่า...ผมรับทำแท้ง?”
“แล้วคุณทำจริงหรือเปล่า”
“เหอะ! นี่อาจารย์ล้อผมเล่นหรือเปล่า? ใครเป็นคนปล่อยข่าว” ผมทั้งโกรธทั้งหัวเสีย
“คุณเปิดเว็บไซต์หราขนาดนั้น คิดว่าจะไม่มีคนเห็นเลยรึ”
“เว็บไซต์?” ผมขมวดคิ้ว รีบเช็กเว็บไซต์ที่อยู่บนใบเสร็จทันที
นัยน์ตาผมกระตุกไหวเมื่อเห็นรูปตัวเองแปะอยู่บนหัวเว็บไซต์รับปรึกษาการตั้งครรภ์อย่างไม่พึงประสงค์ ในนี้มีทั้งข้อความโฆษณา ข้อมูลการติดต่อ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยาคุมกำเนิดอื่นๆ อีกมากมาย
“นี่มันภาพตัดต่อชัดๆ”
ผมโกรธจนสั่นไปทั้งตัว
“อาจารย์ครับ นี่ไม่ใช่ผมนะ มีใครสักคนกำลังเล่นตลก”
ที่ปรึกษาเงียบไปครู่หนึ่ง แต่สายตาที่มองผมยังคงเรียบสนิท
“ผมเองก็คิดว่าคุณไม่น่าจะทำแบบนั้น แต่หลักฐานมัดตัวคุณแน่นเกินไป ผมไม่ใช่คนเดียวที่ทราบเรื่องนี้”
“หมายความว่ายังไง”
“หลักฐานพวกนี้มันถูกส่งมาจากอธิการบดี”
“ครับ!?”
“ผมไม่รู้ว่าคุณไปทำอะไรไว้ แต่อธิการบดีไม่พอใจมาก ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่ควรเสี่ยง... ผมลำบากใจนะที่ต้องพูดแบบนี้แต่ทางมหาวิทยาลัยอยากให้คุณลาออก”
“อะไรนะ!”
เหมือนโดนตบหน้าแรงๆ ผมยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วนี่มันไม่ด่วนตัดสินไวไปหน่อยเหรอ!
“เดี๋ยวสิครับแบบนี้มันไม่แฟร์!”
“เฮ้อ... ผมเสียดายคุณจริงๆ เพราะงั้นจึงช่วยพูดกับอธิการบดีให้ช่วยลดหย่อนโทษ ทางมหาวิทยาลัยให้โอกาสคุณพิสูจน์ความจริงแต่จนกว่าจะยืนยันได้ว่าคุณบริสุทธิ์คุณต้องพักการเรียนไปก่อน”
“ครับ!?” นั่นไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นสักนิด
“คุณรู้จักกับเด็กคนนี้หรือเปล่า” อาจารย์ชี้ชื่อจริงของน้ำอิง
“เพื่อนผมเอง”
“ทำไมคุณไม่ลองขอให้เธอช่วยล่ะ ถ้าเธอยืนยันว่าแพทย์ที่ทำแท้งไม่ใช่คุณเรื่องที่คุณโดนใส่ร้ายก็จะมีน้ำหนักขึ้น”
“ผมจะลองดู”
“มีอีกเรื่องที่ไม่ได้พูดถึง”
“อะไรอีกครับ”
“คลิปที่คุณมีอะไรกับผู้ชาย... เพลาๆ ลงหน่อยนะ ผมได้ข่าวว่าก่อนหน้านี้คุณก็เพิ่งมีคลิปหลุดกับผู้หญิง คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย”
เหมือนโดนสายฟ้าเส้นที่สองผ่าลงกลางหัว คลิปมีอะไรกับผู้ชายงั้นเหรอ เหอะ! ...อย่าบอกนะว่าทั้งหมดนี่เป็นฝีมือเธอ
“ผมขอดูคลิปหน่อย”
“อยู่ที่อธิการบดีท่านเปิดให้ผมดูแล้วก็ลบทิ้งทันที”
“งั้นเหรอ ขอบคุณครับ”
ผมเดินออกจากห้องอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง โธ่โว้ย! นี่มันเรื่องห่าเหวอะไรวะ
: เหมย :
ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน....
มหาวิทยาลัย G ห้องอธิการบดี
จริงๆ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าพบได้แต่เพราะว่าฉันค่อนข้างพิเศษ เป็นเด็กผู้หญิงในคลิปฉาวท่านจึงยอมให้เข้าพบ และฉันว่านามสกุลฟู่หงส์ก็น่าจะมีส่วนช่วยไม่น้อย
ฉันเคาะประตูห้องตามมารยาทก่อนเดินเข้ามาข้างใน
“นักศึกษาที่นัดไว้ใช่มั้ย?”
“สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้พลางส่งยิ้มเบาๆ ให้คนตรงหน้าก่อนเดินมานั่งด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม
“หนูมาคุยเรื่องคลิปค่ะ”
“อืม ผมทราบเรื่องแล้ว ตกลงว่าคนในคลิปเป็นคุณจริงๆ ใช่มั้ย”
“ค่ะ หนูเอง”
ฉันยอมรับตรงๆ แอบแก้มชาเล็กน้อย
“หนูไม่มีอะไรจะแก้ตัวเรื่องคลิป ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะความประมาทของตัวหนูเอง ถึงแม้คลิปโดนลบและหนูไม่ต้องถูกพักการเรียน แต่หนูรู้สึกอายและคิดว่าไม่สามารถกลับมาเรียนที่นี่ได้”
“อืม งั้นก็เอาตามที่คุณสบายได้แล้วกัน” อธิการพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ความจริงวันนี้หนูมีอีกเรื่องที่จะอยากจะพูดค่ะ”
“หืม?”
“นี่ค่ะ”
อธิการมองซองสีน้ำตาลที่ฉันยื่นให้ด้วยสายตาสงสัย
“อาจารย์เปิดดูเองจะดีกว่านะคะ”
ท่านเปิดดูของด้านในด้วยท่าทีไม่ไว้ใจ ไม่ถึงหนึ่งนาทีนัยน์ตาคมกริบก็ฉายแววแข็งกร้าว
“นี่มันหมายความว่ายังไง”
“มีนักศึกษาแพทย์ที่นี่ลักลอบเปิดคลินิกทำแท้งเถื่อน ...ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกค้าของคลินิกเธอเองก็เป็นนักศึกษาของที่นี่”
อธิการมีสีหน้าเครียดขึ้นมาถนัดตา มองเอกสารประวัติทำแท้งของน้ำอิงและหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคลื่นคือหมอเจ้าของคลินิกนิ่งก่อนสะดุดสายตาเข้ากับ USB drive
“แล้วนี่?”
“แค่วีรกรรมของนักศึกษาแพทย์คนนั้น หนูคิดว่าท่านควรรับรู้...”
“ฮะ!?”
“หมดเรื่องแล้ว...งั้นหนูลานะคะ”
คณะบัญชี
ตอนนี้ยังเช้าอยู่นักศึกษาส่วนใหญ่นัดพบกันใต้ถุนอาคาร ฉันกวาดตาไปรอบๆ เผื่อว่าน้ำอิงจะอยู่แถวนี้
อ๊ะ! นั่น...เจอจริงด้วย ยัยนั่นกำลังนั่งก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์อยู่กับเพื่อน หึ!
ฉันเดินตรงไปที่โต๊ะ สวมแว่นดำ และปล่อยผมตรงทำให้มันปิดหน้าด้านข้างไปเยอะ ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็จะดูไม่ออกว่าเป็นฉัน
น้ำอิงเงยหน้าขึ้น
“เธอ!”
“มีอะไร” เพื่อนน้ำอิงมองตาม แต่พวกเธอจำฉันไม่ได้ในทันที ช่างเถอะคนเดียวที่ฉันสนคือน้ำอิง
“เหมย... มาที่นี่ทำไม!”
“หึ ฉันมาเตือน”
“เตือน?” ยัยนั่นยิ้มเยาะ ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“เตือนเรื่องอะไรเหรอเหมย เอ๊ะหรือว่าเรื่องคลิป! นี่ฉันเห็นแล้วนะ เธอนี่มันร่านกว่าฉันคิดซะอีกขนาดพี่แทนยังบอกเลยว่ารับไม่ได้”
ยัยนั่นจงใจพูดเสียงดังเพื่อให้คนอื่นๆ หันมาสนใจ อยากให้ฉันอับอายมากที่สุด
ฉันยิ้มหยันท่าทีน่าสมเพชของน้ำอิง ฉันผ่านเรื่องคลิปหลุดมาได้คิดเหรอว่าแค่นี้จะทำให้แก้มฉันสะเทือน
“ต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนเหรอพี่แทนถึงจะรับได้ เอ...หรือว่าต้องเป็นพวกเลือดเย็นที่ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กในท้อง อุ๊บส์! เผลอหลุดปากไปซะละ โทษนะบังเอิญว่าฉันไม่ได้ตั้งใจน่ะ”
ฉันเองก็เปล่งเสียงดังไม่แพ้น้ำอิง ทุกคนที่ได้ยินตกอยู่ในอาการอึ้งไม่เว้นแม้แต่เพื่อนของหล่อน เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดึงขึ้น สายตาหลายคู่เปลี่ยนเป้าหมายจากฉันไปเป็นน้ำอิงแทน
“เธอพูดบ้าอะไร! ใครฆ่าเด็กในท้อง”
“ก็เธอไง”
“อย่ามามั่วนะ ไม่งั้น...ไม่งั้นฉันเอาเรื่องเธอจริงๆ ด้วย”
“คนอย่างฉันไม่พูดอะไรพล่อยๆ ถ้าไม่มีหลักฐาน”
ฉันหยิบเอกสารอีกชุดที่สำเนาเอาไว้มาพัดหน้า
“ในนี้ร้อนชะมัดว่ามั้ย”
“นี่มัน.... ไม่จริง!” ใบหน้าขาวๆ นั่นซีดเผือด “เธอ....เธอไปได้มาจากไหน”
ฉันเหยียดยิ้มเลือดเย็น “ก็พี่แทนไงล่ะ”
“....!!!!”
น้ำอิงนิ่งอึ้ง น้ำตาร่วงผล็อย
“โกหก!”
“อยากคิดแบบนั้นก็ได้ แต่ฉันอยากจะเตือนอะไรอย่าง” ฉันกระชากต้นแขนยัยน้ำอิงเข้ามาใกล้ “อยากให้พ่อแม่เธอรู้เรื่องนี้มั้ย”
“อย่านะ! ห้ามบอกพ่อแม่ฉันนะ” เธอส่ายหน้า ท่าทางหวาดหวั่นถึงขีดสุด ฉันว่าเธอคงจะสติแตกในไม่ช้านี้แน่ๆ
บาปที่ฆ่าเด็กในท้องคงจะหนักหนาน่าดู
“อยู่ให้ห่างจากคลื่นไว้ ถ้าฉันรู้ว่าเธอช่วยเขาไม่ว่าจะอะไรก็ตามฉันจะบอกพวกท่าน”
“ไม่...” น้ำอิงสะอึก “อย่านะ ห้ามบอกเด็ดขาด”
“งั้นก็ทำตามที่ฉันบอก เข้าใจมั้ย”
ยัยนั่นยืนเหม่อเหมือนไม่ได้ยินที่ฉันพูด ฉันเลยต้องตะคอกเสียงดัง
“ฉันถามว่าเข้าใจมั้ย!”
“ขะเข้าใจเข้าใจแล้ว”