บรื้น...บรื้น...เสียงมอเตอร์ไซค์สีดำสนิทบิดทะยานฝ่าสายลมกระโชกไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าตรงไปยังเมืองพัทยา
ดวงตาคมกริบเหลือบมองที่นาฬิกาข้อมือของเธอ ก่อนจะบิดเร่งความเร็วแซงรถยนต์เกือบทุกคันที่จอดติดอยู่บนถนนสายนี้
ด้วยความคล่องแคล่วของรถ และความชำนาญในการขับขี่ของเธอ ทำให้เธอสามารถเดินทางมาถึงยังเมืองพัทยาได้ในระยะเวลาที่เฉียดฉิวกับเวลาเริ่มงาน แต่ทว่าในจังหวะที่ต้องเลี้ยวเข้าซอยทางลัดที่จะไปโผล่ยังหน้าบาร์ริมหาด เธอกลับต้องค่อย ๆ ผ่อนแรงบิดลง
เมื่อดันไปเจอกับรถหรูคันหนึ่งที่ขับกินเลนอยู่กลางถนนที่มีแค่สองช่องจราจรเท่านั้น
ซึ่งพอเธอบิดจะแซงขวามันก็เบี่ยงมาขวา พอจะไปซ้ายมันก็...เบี่ยงซ้ายมาจนแทบจะชนกัน
"เฮ้ย...จะเอายังไงกันแน่วะ" เจ้าของใบหน้าสวยตะโกนไล่ตามหลังรถซูเปอร์คาร์หรูป้ายแดงที่ยังคงขับคร่อมอยู่กลางเลน และทำให้เธอไม่สามารถที่จะแซงขึ้นไปได้สักที หลังจากที่ขับตามกันมาเกือบนาที
((พซ 6002) )
((กรุงเทพมหานคร) )
ปิ๊น ๆ ๆ นิ้วโป้งของเธอเลื่อนขึ้นมากดปุ่มบีบแตรรถแบบเน้น ๆ
"เฮ้ย!...เลือกสักเลนไหม" พิมพ์ตะวันเล็งไปที่ป้ายทะเบียนรถอย่างหัวเสียเอามาก ๆ
"นี่ขับรถภาษาอะไรวะ!" พิมพ์ตะวันเปิดหมวกกันน็อกของเธอและตะโกนบอกกับรถคันหรูที่ขับคร่อมเลนอยู่ตรงหน้า แถมยังส่ายไปส่ายมาจนทำให้เธอไม่สามารถจะแซงไปได้สักที และถ้าเฉี่ยวหรือชนขึ้นมามีหวังได้ใช้หนี้หัวโตแน่ ๆ
ท่อนแขนแกร่งขยับออกมานอกรถเพื่อเขี่ยบุหรี่ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจะขับหลบให้ทางเธอเลยสักนิด แถมควันบุหรี่เหม็น ๆ ยังตีเข้าใบหน้าของเธอเรื่อย ๆ จนร่างบางชักจะเริ่มโมโหเต็มทนแล้ว
"นี่นาย!" เธอตะโกนด่าไปพร้อมกับ กดบีบแตรรัว ๆ ก่อนจะใช้จังหวะที่รถเบี่ยงไปทางซ้าย จึงบิดเร่งเครื่องแซงไปขนาบข้างและมองหน้าคนขับอย่างเอาเรื่อง
แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้สนใจ เพราะเขาแทบไม่ได้ยินเสียงอื่นเลยนอกจากเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มภายในรถของตัวเอง ปากของเขายังคงคาบบุหรี่และพ่นควันออกมาไม่หยุด
ขณะที่พิมพ์ตะวันขี่รถมาขนาบข้างทำให้ทั้งสองคนหันสบประสานสายตากันและกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่อีกฝ่ายตาลอย ๆ เคลิ้ม ๆ เหมือนกับคนเมาอย่างไรอย่างนั้น
"นี่...นายเมาเหรอ" เธอกัดฟันกรอดอยากจะด่าออกไปสุดเสียง แต่ก็ยังคงต้องประคองรถขี่ขนาบข้างไปเรื่อย ๆ เพื่อหาจังหวะแซงไปให้ได้ เพราะยิ่งเธอเร่งเครื่อง อีกฝ่ายก็เหมือนเหยียบคันเร่งตีแข่งกันไป
"เธอ...ซี้ด...อ่า...ว่าไงนะ" เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ ที่ดูแล้วไม่เหมือนคนไทยเลยสักนิด เขาหันมามองทางพิมพ์ตะวันด้วยท่าทีงุนงง ควันบุหรี่ฟุ้งไปทั่วทั้งรถหรู
"ขับรถดี ๆ น่ะเป็นไหมวะ!" พิมพ์ตะวันบิดรถไปก็หันไปด่าใส่เขา แต่ก็ยังคงประคองรถเว้นระยะห่างจากกันพอสมควร
"ซี้ด...ไม่เป็น...อ่า...แบบนั้น ๆ !" หนุ่มผมทองสวมแว่นตากันแดดหันมาตอบเธอเพียงเท่านั้น ก่อนจะเอนตัวพิงไปกับเบาะรถ และมีท่าทีแปลก ๆ จะว่าเมาก็เหมือนไม่ใช่
"นี่นาย!" ในจังหวะที่พิมพ์ตะวันต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไปด้วย เธอจึงมองถนนสลับกับคนขับรถที่สุดจะกวนตีนคนนี้ไป แต่แล้วเธอก็สังเกตเห็นว่ามีผู้หญิงอีกคนที่กำลังนั่งก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ตรงหว่างขาของเขาซึ่ง...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า...
"อี๋! อะไอ้...ไอ้ทุเรศ! อุบาทว์! ไอ้...บ้ากาม!" พิมพ์ตะวันที่เห็นแบบนั้นก็รีบหันหน้าหนี และไม่ลืมที่จะตะโกนด่ากลับไปอย่างสุดจะทน
"จะแซงก็รีบ ๆ แซงไปสิ...จะบีบแตรหาพ่อเธอรึไง!" เขากัดฟันตอบเหมือนสุดจะทนแล้วเช่นกัน ขณะที่มือยังคงกดหัวของหญิงสาวคนนั้นลงไปเน้น ๆ
"....." พิมพ์ตะวันอยากจะด่ามากกว่านี้ แต่เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองไม่มีเวลามากพอจะมาทะเลาะกับคนโรคจิตแบบนี้
เธอจึงรีบบิดรถมอเตอร์ไซค์แซงขึ้นไปอย่างหัวเสียไม่แพ้กัน
บรื้น ๆ ๆ
พิมพ์ตะวันไม่ลืมที่จะยกแขนขึ้นพร้อมกับยื่นชูนิ้วกลางไปทางด้านหลัง ใส่หน้าของไอ้หน้าฝรั่งวิตถารเจ้าของรถซูเปอร์คาร์หรูคนนั้น
"ก็ถ้ารีบมาก...ทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวานล่ะวะ!" อีกฝ่ายเองก็ตะโกนไล่ตามหลังเธอมาติด ๆ เช่นกัน
….
@ NOBODY NO BAR
บาร์ริมชายหาดพัทยาใต้
ในช่วงปิดเทอมนี้พิมพ์ตะวันเลือกที่จะมาทำงานพาร์ตไทม์ที่บาร์แห่งนี้ เพราะเธออยากฝึกเป็นบาร์เทนเดอร์ชงเหล้ากับรุ่นพี่ที่สนิทกันอย่างพี่แอมด้วย
ซึ่งรายได้จากงานพาร์ตไทม์ที่นี่ ถือว่าดีกว่าผับบาร์ในกรุงเทพเกือบ ๆ เท่าตัวเลย
เพราะแขกที่บาร์นี้ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติกระเป๋าหนัก และการมาทำงานที่นี่ นอกจากเธอจะได้เรียนรู้การเป็นบาร์เทนเดอร์แบบฟรี ๆ แล้ว เธอยังได้ฝึกภาษาไปในตัวอีกด้วย คุ้มเสียยิ่งกว่าที่ไหน ๆ
"ห้าโมงครึ่งเป๊ะ ๆ " หญิงสาวมองนาฬิกาตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่เธอมาทันเวลาเข้างานพอดี เธอรีบวางหมวกกันน็อกก่อนจะรีบเดินไปช่วยพี่ ๆ เสิร์ฟเครื่องดื่มทันที
"พี่นึกว่าแกจะมาไม่ทันซะแล้วนะพิมพ์...วันนี้ลูกค้าโคตรเยอะเลย" บาร์เทนเดอร์สาวเอ่ยทักทายพิมพ์ตะวัน แต่มือของเธอก็เขย่าเหล้าค็อกเทลตามออเดอร์ลูกค้าไม่ได้หยุดพักเลย
"ก็เกือบจะมาไม่ทันแล้วเหมือนกันพี่แอม" ร่างบางบ่นให้รุ่นพี่ฟัง พลางสะบัดหัวซ้ำ ๆ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองลืมภาพทุเรศ ๆ ออกไปให้ได้ แต่ก็ไม่อยากจะเล่าให้รุ่นพี่ฟังเพราะเห็นว่าเธอกำลังยุ่ง ๆ อยู่
"พี่ว่าวันนี้เด็กเสิร์ฟน่าจะได้ทิปหนัก...โต๊ะ VIP หน้าหาดถูกจองครบทุกโต๊ะเลย" พี่แอมเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางเครื่องดื่มเตรียมใส่ถาดไว้ พร้อมกับป้ายหมายเลขโต๊ะ
"โต๊ะ VIP โต๊ะละห้าหมื่นอะนะพี่แอม...จองครบเลย!" พิมพ์ตะวันอ้าปากค้างไปเลย เพราะว่าค่าโต๊ะริมชายหาดที่นี่แพงมาก ๆ แต่วันนี้คนจองเต็มเนี่ยนะ
"อืม...วันนี้ที่บาร์เรามีงานน่ะ ดีเจสะแน็ก...สะเน็ต...อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ... พวกดารานางแบบเพียบ" พี่แอมเอ่ยตอบไป มือก็ตัก ตวง ชง ค็อกเทลแก้วต่อ ๆ ไป มือแทบเป็นระวิง
"งั้นพิมพ์ไปเสิร์ฟเลยนะพี่" พิมพ์ตะวันรีบหยิบถาดที่วางเครื่องดื่มและตรงไปเสิร์ฟยังโต๊ะตามออเดอร์เหล่านั้น
โต๊ะ VIP 26
"นี่เธอ...สั่งเครื่องดื่มหน่อย!" เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยทักพิมพ์ตะวันจากทางด้านหลัง
"ได้ค่ะคุณผู้หญิง..." คนตัวเล็กหันหน้ากลับขานรับตามเสียงเรียก แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากับ ชายหนุ่มผมน้ำตาลทองที่นั่งอยู่ข้างหลังนางแบบสาวสวยคนนี้เอามาก ๆ เลย
"หึ" เจ้าของใบหน้าหล่อร้ายถอดแว่นกันแดดสีดำออก พร้อมกับหรี่ตามองทางพิมพ์ตะวันแบบหัวจรดเท้าพลางเม้มริมฝีปากเล็กน้อย
"เพอร์ซุส...ยูเอาอะไรดี" นางแบบสาวในชุดว่ายน้ำสีน้ำเงินหันไปถามชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังของเธอด้วยเสียงหวาน ๆ ทั้งคู่นั่งมองเมนูอันเดียวกัน
(เดี๋ยวนะ ๆ ไอ้หน้าฝรั่งนี่คงไม่ใช่...) พิมพ์ตะวันยืนกำปากกาในมือแน่น เพราะเธอรู้สึกคุ้นหน้าของผู้ชายคนนี้มาก ๆ และคุ้นมากจนทำให้เธอนึกขึ้นมาได้แล้วว่า...
" Can I have Sex..." เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นจากเมนูและมองไปที่พิมพ์ตะวันที่ยืนรอจดเมนูเครื่องดื่มอยู่พอดี
.....
.................
"on the beach" คนเจ้าเล่ห์จ้องเข้าไปในดวงตาที่คมกริบของสาวเสิร์ฟผมสีแดงตรงหน้า
และเน้นย้ำในชื่อเมนูค็อกเทลนั้น ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากใส่เธออย่างเจ้าเล่ห์