ตอนแรกเขาฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าลืมกระเป๋าเป้ที่เตรียมเสื้อผ้ามาเพียงสองชุดไว้ใส่นอนและใส่กลับในวันเดินทางกลับแม่ฮ่องสอนพรุ่งนี้ กระเป๋ายังอยู่ในรถ เขาจึงต้องปล่อยร่างนังเด็กบ้าจอมพยศลงก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาสั่งสอนทีหลัง แต่ปากดีแบบนี้ต้องสั่งสอนกันยาวแน่วันนี้
คิดแล้วก็ก้าวฉับ ๆ ไปยังรถของตัวเอง ไม่สนใจว่าคนร้องโอดโอยข้างหลังจะอยู่ในสภาพไหน
“อูย...”
บั้นท้ายอวบตึงกระแทกลงพื้นดินแข็งข้างขอบบ่อ โชคดีที่ไม่ไถลลื่นลงไปในบ่อปลาอีกฟากที่วิดไปแล้ว เวลานี้ตากบ่อทิ้งไว้ สภาพจึงเป็นก้นบ่อเฉอะแฉะเป็นโคลนตม
“เจ็บเป็นบ้า ไอ้คนบ้า ไอ้คนใจร้าย” ถ้าพ่อเธอยังอยู่ เขาถูกต้อนรับด้วยลูกปืนแน่
อิ่มอุ่นเจ็บจนน้ำหูน้ำตาไหล ตั้งแต่เกิดมาจากท้องแม่เธอยังไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนถ่อย เถื่อน ได้เท่าผู้ชายคนนี้
“ไอ้คนบ้า ไอ้คนถ่อย ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย ไป ออกไป” เธอไล่เขาตามหลังด้วยน้ำสียงดังอย่างโกรธเคือง หน้าขาวเวลานี้แดงไปหมด แล้วกำดินแข็งแห้งขึ้นมาไล่ปาใส่หลังเขา
แต่ร่างสูงเดินไปถึงรถแล้วรีบคว้ากระเป๋าเป้ จากนั้นปิดประตูรถ กดกุญแจล็อกเรียบร้อย ขายาวก้าวฉับ ๆ พาความสูงเกือบร้อยแปดสิบเซนติเมตรเดินดุ่ม ๆ เข้ามาหาเธอที่ยังนั่งอยู่ขอบบ่อเหมือนจุกจนลุกไม่ขึ้น แววตาไม่มีความอาทรปราดมองอย่างเยาะหยัน
“แค่นี้อย่าสำออย” ก่อนจะกระชากแม่ตัวแสบให้ลุกขึ้นยืนตาม “ใครกันแน่ที่ต้องออกไป ที่นี่มันกลายเป็นที่ของฉัน บ้านเธอก็ตกเป็นบ้านของฉัน ส่วนตัวเธอ แม่ก็เสนอให้ฉัน ตอนแรกที่ฉันมาที่นี่ตั้งใจมาพูดจากับเธอดี ๆ จะช่วยหาผัวรวย ๆ ให้สักคน สองคน แล้วจะไปขอร้องแม่ให้ท่านปล่อยให้เธอกับคนงานได้อยู่ที่นี่ทำมาหากินกันต่อไป แต่เห็นความร้ายกาจของเธอแล้ว นอกจากรักไม่ลงยังเกลียดเข้าไส้ ฉันเปลี่ยนใจไม่ทำแบบนั้น ถ้าไม่อยากถูกฉันเฉดหัวออกไปจากที่ดินผืนนี้ ทำตัวให้ดี ๆ แล้วเรียกฉันใหม่ อย่าให้ฉันได้ยินว่าเธอเรียกฉันว่าลุงอีก”
นิ้วชี้แข็งเกร็งตรงมาที่เธอพร้อมกับสายตาคาดโทษเอาจริง
อิ่มอุ่นขบริมฝีปากแดงระเรื่อที่ปราศจากการเคลือบแต่งใด ๆ ที่เขาพูดมา เธอเถียงไม่ออก ตามกฎหมาย ที่ผืนนี้กว่าสามร้อยไร่ตกเป็นของเขาอย่างถูกต้อง รวมทั้งบ้านของเธอที่บิดามารดาร่วมปลูกสร้างมา เขายื่นหน้าหล่อแต่ดูห่ามเข้ามาใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวโชยลงบนใบหน้าซีด ดวงตาแข็งกร้าวปราศจากความเห็นใจ
“เรียกฉันใหม่นังหนู เรียกดี ๆ เร็วเข้า”
อิ่มอุ่นผงะถอยหนี “แล้วจะให้เรียกอะไร ถ้าไม่ให้เรียกว่าลุง”
“ห้ามเรียกฉันลุงอีก อยากเจอดีหรือไง”
เขาขู่ฟ่อ ๆ ไม่รู้ตอนเกิด แม่รีดพิษงูเห่ายัดใส่ปากแทนนมหรือไงถึงได้โตมาเป็นคนแบบนี้ อิ่มอุ่นโกรธจัดจนกำมือแน่น เธอไม่เคยถูกใครบีบบังคับจิตใจแบบนี้มาก่อน
เหมราชครุ่นคิดเพียงแวบเดียว ดวงตาเจ้าเล่ห์ปรากฏรอยวาบขึ้น ก่อนจะยกยิ้มสะใจ “ต่อไปนี้เธอจะต้องเรียกฉันว่า...สามีที่รัก”
“กรี๊ด...”
อิ่มอุ่นไม่ใช่ผู้หญิงที่เจออะไรก็ต้องกรีดร้องเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เขาเกินไปแล้ว และเธอก็ตั้งรับไม่ทันกับสรรพนามที่เขาบังคับให้เรียก
“ไม่ ฉันไม่เรียกแบบนั้นเด็ดขาด”
“ทำไมจะเรียกไม่ได้ ในเมื่อฉันมารับเธอไปเป็นเมีย”
“อายุตั้งสี่สิบ จะให้ฉันเป็นเมียลุงคงไม่ไหว แต่ถ้าให้เป็นพ่อก็คงพอได้” เธอก็คอยเขาอยู่เหมือนกัน ตั้งใจจะพูดดี ๆ ให้เขาช่วยพูดให้แม่เลี้ยงบุหงายอมให้เธอและคนงานอาศัยพื้นที่แห่งนี้เพื่อทำมาหากิน โดยจะขอจ่ายค่าเช่าที่ดินเป็นรายปี แต่เมื่อเจอตัวเป็น ๆ ของเหมราช เขาไม่ใช่คนที่เธอจะโน้มน้าวได้เลย มาถึงก็กล่าวหาว่าเธอ ‘เน่า’ อย่างกับว่าเกลียดกันมาสักชาติ
อิ่มอุ่นรู้ทันทีว่าความคิดของเธอไม่มีวันเป็นจริง เพราะผู้ชายตรงหน้าไกลจากคำว่าสุภาพบุรุษ แล้วยังใจร้าย มีแต่ความถ่อย เถื่อน ปรากฏให้เห็น
“พ่ออย่างนั้นเหรอ” เขาโกรธจนตัวสั่น งอนิ้วชี้แกร่งเกร็งเข้าหาตัว “มันจะมากไปแล้ว หน้าฉันไม่ได้ดูแก่ขนาดนั้น”
สายตาร้อนระอุของเหมราชวนเวียนอยู่บนใบหน้าใสดวงตากลมแป๋ว แล้วเรียกชื่อเธออย่างดุดัน
“อิ่มอุ่น พ่อของเธอตายไปแล้ว ต่อไป คนจะดูแลเธอคือพ่อเลี้ยงเหมราชคนนี้ เป็นพ่อให้ไม่ได้แต่เป็นผัวเธอได้ ฉันจะพยายามทำใจก็แล้วกัน”
ก่อนจะยื่นมือแข็งแรงราวเหล็กคีมบีบคางเล็กราวกับต้องการกำราบว่าที่เมียเด็กให้หวาดกลัวผัวในอนาคต
“อย่าปากกล้ากับฉันอีก เข้าใจไหม”
ใบหน้าหล่อเหลาดุดันก้มลงมาประทับจุมพิตร้อนแรงหนักหน่วงยิ่งกว่าแสงแดดร้อนของเที่ยงวัน เขาทำให้ริมฝีปากนุ่มที่ไม่เคยผ่านการประทับรอยจากผู้ชายคนไหนเจ็บระบม ห้อเลือดขึ้นทันที
เธอพยายามผลักไสเขาออกห่างอย่างเต็มเรี่ยวแรง ทั้งทุบตีอย่างสุดกำลัง จนกระทั่ง...เขาขยับเตรียมช้อนอุ้มร่างหญิงสาวขึ้นสู่อ้อมแขนแข็งแรง
เหมราชรู้สึกสังหรณ์ใจจึงหันหลังกลับไปมองด้านหลัง พบว่าตนเองยืนอย่างหมิ่นเหม่ จวนเจียนจะตกขอบบ่อถูกวิดแห้งไปแล้ว พื้นบ่อลึกประมาณร่วมสองเมตรเต็มไปด้วยโคลนตม
ดวงตาที่เคยใสซื่อไร้พิษสง บัดนี้เปี่ยมไปด้วยประกายระยับแฝงเล่ห์มองชายหนุ่มที่ปล้นจูบกันซึ่ง ๆ หน้าตั้งแต่พบกันครั้งแรก เธอรู้เท่าทันความคิดเขา เหมราชกำลังก้าวขยับเข้ามาเพื่อไม่ให้เหยียบพลาดตกลงไป
บ่อฝั่งนี้ที่เหมราชยืนอยู่มีเนื้อที่ห้าสิบไร่เศษ ก้นบ่อเต็มไปด้วยขี้โคลนรอตากบ่อให้แห้งก่อนที่จะปรับหน้าดินและปล่อยปลานิลแม่พันธุ์ลงไปใหม่ ซึ่งเมื่อวันก่อน เธอเพิ่งจะสั่งคนงานให้ลงไปจับปลาช่อน ปลาหมอ ที่ยังค้างก้นบ่อส่งขายให้กับแม่ค้า ปลาพวกนี้ไม่ใช่ปลาที่เลี้ยงไว้แต่เป็นปลาธรรมชาติที่มาอาศัยอยู่ในบ่อแล้วกินลูกปลา ถ้าเหลือมากแสดงว่าลูกปลาก็ถูกพวกมันกินไปจำนวนมากเช่นกัน
อิ่มอุ่นหัวเราะร้าย เหมราชเห็นดวงตาของสาวน้อยตรงหน้าก็รู้ทันทีว่าเธอจะทำอะไร
“อย่าเชียวนะ”