บทที่ 3
เปลี่ยนความคิด (1)
"พะ...พี่ พี่พีทคะ" มีนาตะโกนเรียกพร้อมกับเร่งฝีเท้าเดินตามร่างสูงออกไปด้วยความร้อนรน หลังจากที่พีทเข้ามาช่วยเธอจากเหตุการณ์เมื่อครู่เจ้าตัวก็รีบเดินออกไปโดยที่เธอยังไม่เอ่ยคำใดเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าหล่อเหลาหันมองคนตัวเล็กด้วยแววตาเรียบนิ่งซึ่งสายตาคู่นั้นทำให้หญิงสาวหยุดชะงักราวกับถูกสาป
"มีอะไร" เสียงเข้มเอ่ยพลางมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้เอาแต่เดินตามเขาไม่เลิก
"เอ่อ...เอ่อคือ...คือมีน" หญิงสาวกำมือตัวเองแน่นและนึกหงุดหงิดตัวเองในใจ อุตส่าห์เตรียมคำพูดไว้มากมายแต่พอเจอสายตาเข้ากลับพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น
พีทมองคนตัวเล็กชั่วครู่ก่อนจะหมุนตัวและเดินต่อไปแต่ทว่ากลับต้องหยุดชะงักตามเสียงเรียกของเธออีกครั้ง ในครั้งนี้มีนารวบรวมความกล้าทั้งหมดก่อนที่เธอจะก้มศีรษะลงและยกมือไหว้คนตรงหน้าด้วยความรวดเร็ว
"มีนขอบคุณพี่มากเลยนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่ช่วยมีนไว้" มีนากล่าวขอบคุณด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากเหตุการณ์เมื่อครู่มันทำให้เธอกลัวเป็นอย่างมากแต่เธอก็ต้องสกัดกลั้นเอาไว้เพราะไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น
หากเขาไม่มาช่วยคงไม่อยากคิดสภาพของตัวเองต่อจากนี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"นมเธอ" ประโยคนั้นทำให้มีนารีบเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจก่อนจะรีบยกมือปิดที่หน้าอกตัวเอง เสื้อที่สวมใส่เป็นเสื้อเอวลอยโชว์เอวคอเว้าสีดำทำให้เวลาก้มเวลาเงยจะทำให้เห็นผิวกายได้ง่าย ๆ
หญิงสาวมองคนตรงหน้าตาแข็งเธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะมองแต่อย่างไรแล้วก็รู้สึกไม่พอใจอยู่ดี
"เธอก้มเอง มันเป็นความผิดเธอ" พีทอธิบายต่อเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังทำท่าไม่พอใจ
"ร้อนตัวเหรอคะ"
"ปากเก่งดีนะ รู้งี้ฉันไม่เข้ามาช่วยเธอหรอก" ชายหนุ่มกลอกตาไปมาอย่างนึกรำคาญคนตัวเล็กที่ต่อฝีปากกับเขา คิดแล้วก็อยากจะเฉ่งให้รู้แล้วรู้รอดว่าเป็นรุ่นน้องประสาอะไรทำไม่มีความเกรงใจรุ่นพี่อย่างเขาบ้าง
พีทผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะจัดการถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกและส่งให้กับคนตรงหน้าไป หญิงสาวรับมันมาด้วยความแปลกใจพลางมึงคนตัวโตเป็นเชิงคำถาม เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไรถึงได้ให้เสื้อคลุมของเขาแบบนี้
"คะ?"
"เอาไปคลุม" เสียงเข้มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปทิ้งให้มีนายืนงงและมองตามแผ่นหลังเขาอยู่อย่างนั้นหลายนาที
รอยยิ้มหวานคลี่ออกมาเมื่อรับรู้การกระทำของคนตัวโต วงแขนเล็กกอดเสื้อคลุมตัวโคร่งของเขาเอาไว้แน่นอยู่ ๆ หัวใจดวงน้อยกลับรู้สึกพองโตขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
"เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย เสื้อก็หอมชะมัดเลย"
พลันเมื่อได้เวลากลับเสียงไฟภายในร้านดับลงก่อนที่ผู้คนจะเริ่มทยอยออกจากร้าน หญิงสาวที่ตอนนี้สวมเสื้อคลุมตัวใหญ่กว่าขนาดตัวเองกำลังนั่งมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนสนิทอย่างไม่รู้ตัว
"มีน กลับกันเถอะ"
ประโยคที่ไม่ได้รับคำตอบรับทำให้น้ำหันมามองเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจก่อนที่จะเอ่ยมันอีกครั้ง
"กลับกันเถอะยัยมีน ฉันอยากกลับแล้ว"
เป็นเช่นตอนแรกมีนายังคงจ้องมองรุ่นพี่หนุ่มราวกับต้องมนต์คาถา มือเล็กเท้าคางตัวเองพลางคลี่ยิ้มอ่อน ๆ จนทำให้เพื่อนสนิทมองไปตามระดับสายตาของเธอ
จนกระทั่ง...
"ยัยมีน! ยัยเพื่อนโรคจิต!" น้ำตะโกนเสียงดังทำให้มีนาหลุดจากภวังค์รวมถึงพีทและกลุ่มเพื่อนที่หันมามองตามเสียงตะโกน
"ไอ้น้ำ! แกจะตะโกนทำไมเนี่ย!" มีนาถลึงตาใส่เพื่อนสนิทและรีบลุกขึ้นไปยืนอยู่ข้าง ๆ เธอ หากไม่ถูกเรียกไว้คงได้มีเวลาเพ้อฝันคำนึงหาไปหลายฉากหลายตอนเป็นแน่
"ฉันเรียกแกหลายรอบแล้วยัยมีน ฉันเห็นนะว่าแกกำลังมองพี่...อุ้บ!"
มีนาเบิกตากว้างและรีบตรงเข้าไปปิดปากเพื่อนสนิทเอาไว้อย่างรวดเร็วซึ่งการกระทำนั้นทำเอาอีกฝ่ายมองด้วยความแปลกใจและหัวเราะออกมา
"พวกน้องแม่งตลกดีว่ะ ไว้คราวหน้ามาตี้ด้วยกันอีกนะ"
"จัดไปอย่าให้เสียเลยพี่!" หญิงสาวตอบรับคำหนักแน่นโดยไม่มีท่าทีปฏิเสธหากเป็นเรื่องเที่ยวแบบนี้เธอพร้อมแสตนบายทุกเมื่ออยู่แล้ว
"อื้อ! ไอ้อีน ไอ้เอื้อนอ้า! (ไอ้มีน ไอ้เพื่อนบ้า!) " มีนาปล่อยมือออกโดยไม่ลืมส่งสายตาคาดโทษใส่เพื่อนสนิท หากพูดโพล่งออกไปคงต้องรีบมุดหน้าหนีเป็นแน่
"พวกน้องพักอยู่ไหนกัน แล้วกลับยังไงให้พี่ไปส่งไหม"
"เฮ้ย ๆ ไอ้เสือนั้นน้องครับห้ามเจ้าชู้ใส่"
"ไอ้เพื่อนเวร! กูไม่ได้จะจีบน้องเขา!" ชายหนุ่มส่ายหน้าพัลวันกับคำแซวหากคิดจะจีบจริง ๆ เขาคงเดินหน้าไปตั้งแต่แรกที่เจอแล้ว
"มีนกับน้ำพักอยู่ในซอยมิราเคิลสิบเก้าค่ะส่วนเรื่องกลับก็คงเรียกแท็กซี่เอา"
"อยู่ซอยเดียวกับไอ้พีทเลย ให้เพื่อนพี่ไปส่งก็ได้จะได้ไม่เปลืองค่ารถ"
"น้องเขาไม่ได้กลัวเปลืองเงินแต่เขากลัวไอ้พีทมากกว่ากูว่า"
"เงียบปากไป" พีทเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับส่งสายตาดุให้กับเพื่อนสนิทที่คุยกันแซวกันสนุกปาก
"โอ้โห นึกว่าไม่ได้เอาปากมาจากบ้านกูนึกว่ามีงเป็นใบ้ไปแล้วนะเนี่ย"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่น้ำกับมีนกลับเองดีกว่าทางใกล้ ๆ แค่นี้เอง"
"ทางแค่นี้ยิ่งต้องกลับด้วยกันนะน้อง ไม่เปลืองน้ำมันแถมยังช่วยลดโลกร้อนด้วยนะ" รุ่นพี่หนุ่มเอ่ยแทรกขึ้นเสริมทัพซึ่งทำให้มีนาและน้ำต่างมองหน้าเพื่อตัดสินใจ
"กูก็บอกอยู่ว่าน้องเขากลัวไอ้พีท พูดง่าย ๆ ก็คือรังเกียจนั่นแหละ"