บทที่ 8
ทฤษฎีพิชิตใจ 2 - ใส่ใจใกล้ชิด (2)
ระหว่างทางถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัดมีเพียงเสียงเพลงสากลเปิดคลอเบา ๆ และเสียงจากลมแอร์คอยขับกล่อมไปตามทาง ใบหน้าหวานหันมองทางรอบ ๆ ก่อนจะที่สายตาจะสะดุดกับตลาดข้างทางที่ตั้งใจอยากจะมาเดินสักครั้งแต่ก็ไม่มีโอกาสสักที
"โอ๊ะ นั่นตลาดที่เปิดใหม่นี่พี่พีท มีนอยากเดินอะไปเดินกัน" คนตัวเล็กหันไปหาร่างสูงที่ตอนนี้เอาแต่จดจ้องกับทางตรงหน้าโดยไม่คิดสนใจคำพูดของเธอเลยสักนิด
คนตัวเล็กยู่หน้าใส่พลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพื่อให้คนข้างกายรับรู้ว่าเธอกำลังน้อยใจเขาอยู่
"คนใจร้าย จะเย็นชาไปถึงไหนเนี่ย"
"ฉันไม่เคยบอกว่าฉันเป็นคนใจดี" ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบทำให้คนตัวเล็กรีบหันหน้าออกอย่างไม่พอใจ
"ใช่สิ้ มีนลืมไปว่าพี่ชอบไปเดินห้างเนปจูนมากกว่า" ประโยคนั้นทำให้คนตัวโตถึงกับรีบหันมามองหญิงสาวด้วยแววตาแข็งกร้าว ห้างเนปจูนเป็นห้างที่เขาชอบไปเดินเล่นกับคนรักเก่าอย่างเฌอเอมอยู่บ่อย ๆ
มีนาได้ทำการซักถามจากจอมทัพและโอ๊ตก็ได้รับรู้ว่าความทรงจำดี ๆ ระหว่างเขาและแฟนเก่านั้นมีมากมายเลยไม่แปลกใจที่จะทำให้ฟังใจแบบนี้
"ฉันว่าเธอชักจะน่ารำคาญเกินไปแล้วนะมีนา"
ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้าไปในซอยก่อนจะจอดมันเทียบข้างทางและหันมองคนตัวเล็กด้วยความโกรธจัด
"มะ...มีน มีนขอโทษ" มีนเอ่ยแผ่วพลางขยับตัวให้ชิดติดกับประตูเมื่อเห็นท่าทางและคำพูดของคนตรงหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไป
เธอไม่ได้ตั้งใจจะตอกย้ำเพียงแค่น้อยใจเขาก็เท่านั้นแต่ไม่คิดเลยว่าการกระทำที่ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเมื่อครู่จะทำให้เขาโมโหแบบนี้
"มีนขอโทษจริง ๆ มีน...มีนไม่ได้ตั้งใจ" หญิงสาวก้มหน้าลงเมื่อหยาดน้ำตาเอ่อคบอรอบดวงตา
คนตัวโตชะงักตกใจเมื่อเห็นแววตาหวานที่ตอนนี้แปรเปลี่ยนไป เขาไม่เคยเห็นน้ำตาเธอมาก่อนทั้งที่ปกติแล้วเธอมักจะมีแต่ความสดใสร่าเริ่งอยู่ตลอดพลันทำให้เขาเองก็รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองอยู่ลึก ๆ
"จะร้องไห้ทำไม"
"ฮึก...มีนขอโทษ มีนไม่ได้ตั้งใจ"
"โธ่เว้ย! หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้ฉันไม่ชอบน้ำตาผู้หญิง" พีทผ่อนลมหายใจและหันหน้ามองพลางสงบสติอารมณ์ตัวเอง ในใจก็ก่นด่าตัวเองที่ทำอะไรไม่คิดจนทำให้หญิงสาวร้องไห้แบบนี้
แปลกใจตัวเองเหมือนกันทั้งที่ปกติก็ไม่เห็นจะแคร์ความรู้สึกใครแต่พอเห็นน้ำตาของคนตัวหน้ากลับทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้
"ฮึก...ถ้าอย่างนั้นพี่พีทก็ไปเดินตลาดกับมีนสิคะ" คนตัวเล็กปาดน้ำตาออกและเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตอย่างมีความหวัง
"..." พีทยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองขณะที่ยังหันหน้าออกไปอีกฝั่ง
"นะคะพี่พีท"
"อืม จะไปก็ไป"
"เย้! ในที่สุดก็ยอมสักที!" เสียงเล็กร้องตะโกนดีใจผิดกับเมื่อครู่ที่ยังร้องไห้งอแงราวกับคนละคน ใบหน้าหล่อเหลาหันมองและขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาวที่ออกอาการดีใจจนเขาแปลกใจ
"นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้ที่เธอร้องไห้..."
"ถูกต้อง! มีนแกล้งร้องไปงั้นแหละ" มีนาหัวเราะออกมาเสียงดังและยักคิ้วกวน ๆ ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว
ถึงเมื่อครู้เธอจะกลัวเขาจริง ๆ แต่เธอก็ไม่มีทางร้องไห้ออกมาให้ใครเห็นเด็ดขาด!
"ยัย...!"
"อย่านะ อย่านะคะ ขับรถต่อไปค่ะพี่บอกกับมีนแล้วว่าจะไปเดินตลาดด้วยกัน ห้ามผิดคำพูดนะคะ" มือเล็กยกมือขึ้นก่อนจะแตะที่ริมฝีปากของชายหนุ่มเอาไว้ทำให้คนตัวเล็กชะงักไป
นิ้วเรียวสวยที่สัมผัสกับริมฝีปากพร้อมทั้งใบหน้าหวานที่เคบื่อนเข้าไปจนเห็นอย่างใกล้ชิดทำให้คนตัวโตเหมือนกับหลุดไปอีกภวังค์
"เดินตลาดสองคนนี่นับว่าเป็นการเดตไหมคะ" มีนาเอ่ยพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แต่ก็เผลอหลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่เดินด้วยกันมันคงจะมีความสุขน่าดูระหว่างเธอที่ตื่นจาตื่นใจกับทุกอย่างกับคนนิ่งเงียบขรึมอย่างเขาอยู่ด้วยกัน
"เดตบ้าอะไรของเธอแค่ไปเดินตลาด" พีทสะบัดหัวเพื่อเรียกสติเนื่องจากเมื่อครู่เขาเผลอไผลจนไม่รู้ตัวเลยว่าได้จดจ้องใบหน้าของคนตัวเล็กอยู่นานสองนาน
"มันก็เหมือนกันแหละน่าพี่พีท ไปกันเถอะขับไปสิคะเดี๋ยวมันจะดึกเอานะ"
"อย่าลืมว่าฉันเป็นเจ้าของรถ"
"แต่ตอนนี้ทีนอยู่ในฐานะตุ๊กตาหน้ารถของพี่นะ"
ร่างสูงหันหน้าออกพลางกลอกตาไปมาเมื่อเถียงสู้คนตัวเล็กไม่ได้ อย่างไรแล้วก็ต้องยอมทำตามที่เธอบอกอยู่ดีในใจก็นึกบ่นกับตัวเองว่าไม่น่าหลงกลยัยรุ่นน้องตัวแสบอย่างเธอเลย
'ยัยตัวแสบ!'
พลันเมื่อถึงที่หมายคนตัวเล็กก็จับจูงแขนแกร่งเอาไว้และเดินไปตามตลาดเปิดใหม่ด้วยความตื่นเต้น แววตาหวานหันมองซ้ายมองขวาชี้โน่นนี่อย่างนึกสนใจผิดกับอีกคตที่เอาแต่ทำหน้านิ่งราวกับคนไร้ความรู้สึก
"โอ๊ะ เทียนหอม" มีนาหันมองคนข้างกายก่อนจะพาเขาเดินไปยังร้านเทียนหอมที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าจะได้ยินเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ของอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ได้ทำให้คนหน้ามึนอย่างเธอยอมแพ้ได้ เธอเชื่อว่ายิ่งใกล้ชิดยิ่งทำให้จอมหยิ่งอย่างเขาใจอ่อน
"พี่ดูสิน่ารักเนอะ" คนตัวเล็กหยิบให้อีกฝ่ายดูพร้อมรอยยิ้มกว้างก่อนจะเลือกหยิบเทียนหอมขึ้นมาห้าชิ้นและส่งให้กับคนขาย
"นี่เธอจะซื้อมันหมดนี่เลยหรือไง"
"ใช่ค่ะ มีนก็ซื้อให้พี่นั่นแหละจุดตอนอ่านหนังสือจะทำให้ผ่อนคลายมากขึ้นนะคะ^^" คนตัวเล็กพยักหน้ารับหงึก ๆ พลางหยิบเงินในกระเป๋าตัวเองออกมา
"ฉันไม่อยากได้"
"แต่มีนอยากให้" มีนายู่หน้าใส่คนตัวโตทั้งที่เธอตั้งใจจะซื้อให้แท้ ๆ แต่กลับปฏิเสธเสียได้
"ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉัน..."
"ทั้งหมดสามร้อยเก้าสิบบาทค่ะ" มีนาไม่สนใจกับคำพูดของอีกฝ่ายเธอยื่นเงินแบงค์ห้าร้อยให้กับคนขายและรับของตรงหน้ามาถือไว้
"นี่ ฉันว่าบอกว่า..."
"เงินทอนหนึ่งร้อยสิบบาทค่ะ ขอบคุณนะคะ"
"ขอบคุณค่า^^" คนตัวเล็กยิ้มรับก่อนตะเดินออกจากร้านไปโดยไม่สนใจคนตัวโตที่เอาแต่ทำหน้าบึ้งไม่พอใจอยู่อย่างนั้น
"ตามมาเร็ว ๆ สิคะ โซนตรงนั้นมีนยังไม่ได้เดินเลย"
"ยัยบ้านี่"
"ทำไมถึงขี้บ่นแบบนี้ล่ะคะ ขี้บ่นอย่างกับคนแก่" มีนาขึ้นเสียงใส่พลางดึงแขนคนโตมาคล้องไว้แน่นและออกแรงดึงให้เดินตามเธอไป
"เลิกกอดแขนฉันสักที"
"ทำไมคะ เขินเหรอ"
"หึ ฉันเนี่ยนะเขิน"
"โอ๊ะ! ตรงนั้นเป็นตู้ถ่ายรูปนี่นา ไปกันพี่พีทมีนอยากถ่ายรูป" มีนาดึงคนตัวโตให้เธอตามเธอไปอีกครั้งซึ่งข้างหน้านั้นเป็นตู้ถ่ายรูปที่เธอตั้งใจอยากจะถ่ายรูปคู่กับเขาเพื่อเป็นที่ระลึก
จากทฤษฎีที่อ่านมาเขาบอกว่าการที่มีรูปถ่ายเก็บไว้จะทำให้เขานึกถึงเธอและใจอ่อนในที่สุด
"นะ ๆ พี่พีทนะ ถ่ายรูปกัน"
"ไม่" ชายหนุ่มตอบกลับทันควันและเดินหนีไปอีกทางแต่กลับถูกมือเล็กคว้าหมับเอาไว้ได้ทัน
"แต่มีนอยากถ่ายรูปกับพี่" หญิงสาวมองด้วยสายตาออดอ้อนเผื่อว่าอีกฝ่ายจะเห็นใจ ใครต่อใครก็ต่างพ่ายแพ้ให้กับสายตาของเธอทั้งนั้นแล้วมีหรือที่คนอย่างเขาจะรอดพ้นมารยาของเธอไปได้
"ไม่!"
มี! ก็คุณชายจอมหยิ่งคนนี้ยังไงล่ะที่ต่อให้สายตาหวานแค่ไหนก็เอาชนะใจเขาไม่ได้!
"ชิ! ไม่ก็ไม่!"
มีนาสะบัดหน้าออกไปอีกทางเมื่อรู้ว่าต่อให้ขุดมารยากี่ร้อยเล่มมาใช้ก็ไม่สามารถทำอะไรกับหินแข็งแกร่งอย่างเขาได้
หญิงสาวบ่นกับตัวเองและตั้งมั่นไว้ในใจหากหลงรักเธอเมื่อไหร่จะทำให้โงหัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว
'ถ้าพี่เห็นมีนเป็นของเล่นมีนจะเล่นของใส่พี่แล้วนะ!'
- ทฤษฎีพิชิตใจ วิธีที่ 2 : ใส่ใจใกล้ชิด -
ล้มเหลว#.