บทที่ 2
อย่าหาว่าไม่เตือน (2)
“กูยังไม่ได้ทำไรเลย” ชายหนุ่มยักไหล่มองเพื่อนสนิทด้วยความสายตาเรียบนิ่งอย่างไม่สะทกสะท้าน
จนกระทั่งเป็นจังหวะที่พนักงานเดินมาเสิร์ฟเครื่องประจำร้านที่โต๊ะพอดีซึ่งเป็นแก้วช็อตเล็ก ๆ ผสมกับน้ำหวานหลากสีรวม ๆ แล้วประมาณสิบแก้ว ใบหน้าหวานหันมองตามอย่างนึกสนใจจึงนึกสนุกขึ้นมา
“มีนนั่งด้วยได้ไหมพี่ มากันสองคนเหงาอะ”
“ยัยมีน แกทำอะไร” น้ำรีบจับมือเพื่อนสนิทและเค้นถามคำตอบให้รู้แล้วรู้รอด ปกติก็มาเที่ยวเล่นกันสองคนออกบ่อยแล้วทำไมวันนี้ถึงได้บอกว่าเหงาขึ้นมาได้
“เอาดิน้อง ดี ๆ มีสาวสวยมานั่งด้วยจะได้สนุก”
“หยุดเจ้าชู้ก่อนเลยไอ้เสือ นั่งรุ่นน้องครับ” เพื่อนอีกคนถึงกับต้องออกปากห้ามและรีบดึงเจ้าตัวกลับมานั่งประจำที่เพราะรู้นิสัยเพื่อนตัวเองว่าเรื่องผู้หญิงนั้นร้ายกาจไม่แพ้ใคร
“อย่างพี่เขาไม่ชอบหนูหรอก ต้องขาว ๆ อึ๋ม ๆ อกโต ๆ แบบวันก่อนเนอะ” หญิงสาวแทรกขึ้นพร้อมกับยกยิ้มร้ายเนื่องจากเมื่อวันก่อนเธอนั้นเห็นเต็มสองตาว่ารุ่นพี่ร่วมคณะนั้นขับรถสปอร์ตคันหรูไปรับสาวสวยหน้าห้างสรรพสินค้าหลังเลิกกิจกรรมรับน้อง
“เชี่ย! ใครวะไอ้โอ๊ต นี่มึงหมกเหรอวะ”
“โห่น้องมีน จำผิดคนหรือเปล่า” อีกฝ่ายถึงกับยิ้มเจื่อนและรีบปฏิเสธพัลวันแต่มีหรือที่เพื่อนสนิทจะเชื่อในคำพูด
“น้องเขาน่ะจำถูกแล้ว แต่มึงอะมานี่เลย สรุปใครครับบอกกูมาเดี๋ยวนี้”
“น้องแม่งร้ายโคตร ยินดีต้อนรับเข้าแก๊งครับโผม!” คนตัวโตเฉไฉพลันมองหน้าหญิงสาวที่ดูท่าแล้วร้ายกาจไม่แพ้ตัวเขาเองเลย เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่ความร้ายระดับตัวแม่ เผลอ ๆ ยิ่งกว่าเสืออย่างเขาอีก
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ” มีนายิ้มรับกับคำพูดนั้น เธอไม่ได้รู้อะไรแถมยังดีใจด้วยซ้ำเพราะผู้หญิงอย่างเธอรู้ทันผู้ชายทุกคนและแน่นอนว่าเธอน่ะแสบเกินใครเป็นไหน ๆ
“ก็เอาไปคนละช็อตเลยสิค้าบ!” รุ่นพี่หนุ่มส่งแก้วช็อตให้กับมีนาและน้ำก่อนที่ทั้งสองจะยกขึ้นดื่มจนหมดเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
มือเล็กวางแก้วช็อตลงบนโต๊ะพร้อมกับยักคิ้วส่งให้คนตรงหน้าเป็นการท้าทายซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พีทเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“น้องแม่งโคตรเจ๋ง”
“มีนกับน้ำนี่ไม่ธรรมดานะพี่”
“ถึงไม่บอกพี่ก็รู้ ดีเหมือนกันจะได้สนุกหน่อย” รุ่นพี่หนุ่มหังเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางของหญิงสาวทั้งสองคนตรงหน้า ดูท่าแล้วคงจะแก่นเซี้ยวแสบสนแน่ ๆ
"อ้าวไอ้พีทจะไปไหนวะ" เสียงเข้มเรียกเอาไว้เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทเดินออกจากโต๊ะไปโดยไม่บอกกล่าวหรือหันมาตอบคำถามเลยแม้แต่น้อย
"ไอ้เวรนี่ เย็นชาโคตร"
ชายอีกคนมองตามเพื่อนสนิทก่อนจะส่ายหน้าออกมาเบา ๆ พยายามจะทำความเข้าใจกับนิสัยของเพื่อนแต่ก็ยังไม่ชินชาเสียที
"ช่างมันเหอะ สงสัยไปสูบบุหรี่มั้ง"
"เฮ้ย! โทรศัพท์ฉัน!" มีนาน้องขึ้นเมื่อหาโทรศัพท์ของตัวเองไม่พบทั้งที่ก่อนหน้าที่เธอมั่นใจว่าใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นของตัวเองไว้
"มีอะไรเหรอมีน"
"โทรศัพท์ฉันหายอะน้ำ" หญิงสาวก้มลงมองที่พื้นเผื่อว่าจะเผลอทำตกหล่นอยู่แถว ๆ นี้แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
"แล้วแกเอาไปวางที่ไหนหรือเปล่า เดี๋ยวฉันลองโทรดูแล้วกัน"
"อยู่ที่โต๊ะเราหรือเปล่าลองดูดีก่อน" ชายหนุ่มทั้งสองคนช่วยกันมองหาอีกแรง
"ไม่ใช่หรอกพี่มีนมั่นใจว่าใส่กระเป๋ากางเกงไว้แล้ว"
"หรือว่าจะลืมไว้ที่ห้องน้ำ" น้ำพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เธอและมีนาได้ไปเข้าห้องน้ำกันซึ่งอาจจะเป็นจังหวะที่ทำให้เผลอวางทิ้งไว้ก็เป็นได้
"งั้นเหรอ...อืม...ฉันขอกลับไปดูก่อนแล้วนะ แกก็รออยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันมา"
"เอางั้นก็ได้" น้ำพยักหน้ารับตามคำบอกของเพื่อนสนิททำให้มีนารีบเดินกลับไปยังห้องน้ำเพื่อหาโทรศัพท์ของตัวเองทันที
ขาเล็กก้าวฉับ ๆ ตรงไปยังห้องน้ำที่ตอนนี้แทบจะไม่มีคนอยู่เลยทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบจะต้องต่อคิวกันเข้าห้องน้ำ อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ดีเจขึ้นบนเวทีหรือเรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ช็อตสำคัญของทางร้านที่จะไม่มีใครอยากพลาดเลยทำให้บริเวณนี้คนน้อยกว่าทุกครั้ง
มีนาชะงักไปชั่วครู่เมื่อสายตาของเธอหันไปเห็นชายหนุ่มที่เข้ามาขอเบอร์ของเธอเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วและเธอเองก็ปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างไร้เยื่อใยเพราะไม่คิดสนใจหรืออยากสานต่อในความสัมพันธ์
หญิงสาวหันหน้าหนีและพยายามเดินเลี่ยงไปอีกทางเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหาโทรศัพท์ของตัวเองให้เธอเท่านั้น
ทว่า...
"หาโทรศัพท์อยู่เหรอครับ" เสียงเข้มเอ่ยเมื่อร่างบางเดินผ่านไปได้เพีบงไม่กี่ก้าว
มีนารีบหันควับกลับมามองชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังถือโทรศัพท์ของเธอเอาไว้ในมือและเธอมั่นใจว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นคือโทรศัพท์ของเธอแน่นอน
"ขอโทรศัพท์ฉันคืนด้วยค่ะ" เสียงเล็กเอ่ยก่อนจะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองกลับคืนแต่ทว่าอีกฝ่ายกลับชักมือกลับจนทำให้ร่างของเธอเซถลาเข้าหาอกแกร่งโดยไม่ทันตั้งตัว
หมับ!
ทันทีที่คนตัวอล็กเสียหลักวงแขนแกร่งจึงจับไหล่มนให้ร่างของเธอแนบชิดกับกำแพงก่อนที่ร่างสูงจะตามทาบทับโดยที่ใบหน้าอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงหนึ่งคืบ
"ทำอะไร ปล่อยฉัน!"
แม้ว่าตอนนี้จะกลัวคนตัวหน้ามากแค่ไหนแต่ก็ต้องสกัดกลั้นความรู้สึกตัวเองเอาไว้ เธอไม่มีทางแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นเด็ดขาด
"หยิ่งจริง ๆ เลยนะคนสวย" คนตัวโตยกยิ้มพร้อมกับเค้นเสียงหัวเราะเมื่อเห็นความเย่อหยิ่งของหญิงสาวตรงหน้า
"ปล่อย อย่าหาวาฉันไม่เตือน" มีนากดเสียงต่ำและจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ถึงจะเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าเธอหลายเท่าแต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้เธอก็ต้องสู้เพื่อปกป้องตัวเอง
"น่ากลัวจังเลยนะครับ"
"อย่าเอามือสกปรกของแกมาแตะต้องตัวฉัน!"
เสียงเล็กสั่นเทาเมื่อมือหนาจับที่เอวคอดกิ่วของเธออย่างถือวิสาสะ ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็ไม่พบผู้คนที่จะสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้
"ปากดีแบบนี้สงสัยต้องสั่งสอนสักหน่อย"
มีนาหลับตาแน่นเมื่อคนตรงหน้าโน้มใบหน้าลงมา หญิงสาวตัวสั่นระริกด้วยความกลัวเมื่อคิดหาหนทางแต่ก็ไม่พบ ทั้งพยายามดีดดิ้นหรือผลักไสด้วยแรงทั้งหมดที่มีแต่ก็ไม่สามารถต้านแรงคนตรงหน้าได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่า...
หมับ!
ตุ้บ!
"อึก! มึงเป็นใครวะ!!" ร่างของคนตรงหน้าถูกกระชากก่อนตะล้มลงที่พื้นอย่างแรงพลันทำให้หญิงสาวรีบลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ
"แล้วมึงล่ะเป็นใคร" เสียงทุ้มที่เคยได้ยินทำให้มีนายิ่งแปลกใจความเดิมเพราะคน ๆ นั้นคือ 'พีท' คนที่เธอมีปัญหาด้วยเมื่อวันก่อน!
"พะ...พี่" หญิงสาวเอ่ยเสียงแผ่วเธอทั้งตกใจและแปลกใจที่เจอเขาอยู่ตรงนี้
"ถ้ายังทำตัวต่ำ ๆ อย่าหาว่ากูไม่เตือน" พีทกดเสียงต่ำมองคนตรงหน้าด้วยความเรียบนิ่งแต่ทว่าสายตาคู่นั้นกลับเหมือนกันมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงจนรู้สึกเจ็บแสบ
"รู้ไหมว่ากูเป็นใคร"
"แต่กูเป็นเจ้าของที่นี่" ชายหนุ่มย้ำชัดในคำพูดของตัวเองพลันทำให้มีนาที่ยืนอยู่ด้านหลังถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"นี่พี่เป็น..."
"กลับไปในตอนที่ยังมีโอกาส อย่าหาว่ากูไม่เตือน!"