ตอนที่ 5

3345 Words
เจ็ดชั่วโมงต่อมา… กวินตาก็ไปรับมารียาที่สนามบินแล้วเธอก็พาน้องสาวมาเดินทางมายังคฤหาสน์ของจาซุสที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ทันที ซึ่งมันใหญ่โตจนมารียานั้นมองด้วยความตื่นตาตื่นใจเลยทีเดียว “เข้าบ้านกันเถอะ พี่ให้แม่บ้านเตรียมห้องพักให้มีนแล้วแล้ว…ป่ะ…” กวินตาพูดบอกไปด้วยเสียงอ่อนโยนกับน้องสาวของเธอ “พี่กวางคะ ทำไมบ้านคุณจาซุสเขาใหญ่แบบนี้ล่ะคะ ไหนพี่บอกว่าเขาเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาไงคะ อยู่คฤหาสน์ในดูไบนี่คงไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดาแล้วมั้งคะพี่…” มารียาถามไปเพราะพี่สาวเธอเคยบอกว่าจาซุสนั้นเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาๆเท่านั้น “อ่อ เขาก็พอมีในระดับนึงนั่นแหละ แต่ว่าที่นี่ยังมีคนที่รวยแล้วก็ยิ่งใหญ่กว่าเขาอีกเยอะ เพราะฉะนั้นที่นี่เขาก็เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละ เดี๋ยวไว้เราอยู่ที่นี่ไปอีกสักพักเดี๋ยวเราก็รู้เองแหละน่า” กวินตาพูดบอกไป เพราะยังมีคนที่รวยกว่าจาซุสอีกเยอะ แค่น้องสาวของเธอยังไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาเท่านั้น “แล้วพี่กวางพามีนมาอยู่ด้วยแบบนี้คุณจาซุสเขาไม่ว่าเหรอคะพี่..” กวินตาเอ่ยถามออกไปอย่างเกรงใจ เพราะอยู่ๆเธอก็มาอาศัยอยู่กับพี่สาวกะทันหัน เธอก็ไม่รู้ว่าผู้ชายของพี่สาวนั้นจะโอเคหรือเปล่า “ไม่ว่าหรอกเพราะพี่ขออนุญาตคุณจาซุสเขาแล้ว แล้วเขาก็ดีใจมากด้วยที่พี่จะมีน้องสาวมาอยู่ด้วยน่ะ…ป่ะ เดี๋ยวพี่พาไปสวัสดีคุณจาซุสเขา…” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็จับมือน้องสาวไปทันที เพราะเธอพาน้องสาวเข้าบ้านแล้วเธอก็ควรจะพาน้องสาวเข้าไปไหว้เขา มารียาก็เดินตามพี่สาวเข้าไปแล้วสายตาของเธอก็มองกับความหรูหราของบ้านของชายหนุ่มที่ดูแลพี่สาวเธออยู่ในขณะนี้อย่างชอบใจ เธอล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่สาวของเธอถึงได้ส่งเงินกลับไทยจนครอบครัวของพวกเธอนั้นลืมตาอ้าปากกันได้ “อ่าวมากันแล้วเหรอ เข้ามาก่อนสิ…นี่ใช่ไหมกวางน้องสาวที่คุณพูดถึงน่ะ…” จาซุสหนุ่มหล่อหน้าคมแบบอาหรับเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับกวินตาที่พาน้องสาวของเธอเข้ามา ซึ่งเขาก็รีบเรียกให้ทั้งสองเข้ามา แล้วเขาก็ใช้สายตาพิจารณาน้องสาวของกวินตาอย่างจดจ้อง เพราะเธอดูแตกต่างจากกวินตาผู้หญิงของเขามาก ทั้งหน้าตาและขนาดตัวที่เธอจะอวบอิ่มกว่ามาก เพราะกวินตานั้นจะผอมเพรียวมากกว่า “ใช่ค่ะ นี่มารียาหรือมีนค่ะ พอดีพึ่งมาถึงน่ะค่ะฉันเห็นรถของคุณยังจอดอยู่ก็เลยพามีนเขามาสวัสดีคุณก่อนน่ะค่ะ..มีน…นี่คุณจาซุสนะคะ เขาเป็น…อ่อ…เขาเป็นเจ้าของบ้านที่พี่อาศัยอยู่น่ะ” กวินตาพูดไปก็แนะนำน้องสาวให้จาซุสรู้จัก ก่อนเธอจะแนะนำเขากับน้องสาวไปแบบตะกุกตะกักเพราะไม่แน่ใจว่าเธอจะแนะนำว่าอะไรดี “สวัสดีค่ะคุณจาซุส ขอบคุณที่อนุญาตให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยนะคะ ฉันสัญญาค่ะว่าฉันจะไม่สร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนอะไรให้คุณกับพี่กวางเลยค่ะ” มารียายกมือไหว้แล้วพูดบอกไปแบบอย่างมีมารยาท “ไม่ต้องคิดมากหรอก ทำตัวสบายๆเลยเพราะคุณเป็นน้องสาวของกวางเขาก็เหมือนน้องสาวของผม แล้วคุณคิดไว้หรือยังว่าจะมาทำอะไรที่นี่ ” จาซุสพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้น้องสาวของกวินตาไปแบบเป็นมิตร “ฉันว่าฉันจะหางานที่นี่ทำน่ะค่ะ พอทุกอย่างลงตัวแล้วฉันก็จะย้ายออกไป อีกสักสองสามวันฉันว่าจะเริ่มออกไปหางานทำแล้วค่ะ” มารียาพูดบอกไปถึงแพลนที่เธอเตรียมเอาไว้ “คุณจบด้านอะไรมาล่ะ เผื่อผมจะช่วยหางานที่ตรงสายการเรียนของคุณได้” จาซุสถามออกไปแบบช่วยเหลือแบบเต็มที่ “ไม่เป็นไรค่ะคุณจาซุส ฉันหางานเองดีกว่าค่ะ แค่นี้ก็รบกวนคุณจาซุสมากแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ” มารียาพูดไปแล้วขอบคุณเขา เพราะเธอไม่อยากจะรบกวนอะไรเขามาก เธอเกรงใจทั้งเขาและพี่สาวของเธอน่ะสิ มาอาศัยอยู่ด้วยแล้วยังให้ช่วยหางานให้นี่มันก็เกินไป “โอเค งั้นเอาที่คุณสะดวกก็แล้วกัน หากมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ…” จาซุสพูดบอกไปก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เพราะเธอเป็นน้องสาวของกวินตา เขาก็อยากจะทำดีกับเธอเอาไว้ “งั้นฉันพาน้องไปพักผ่อนก่อนนะคะ คุณทำงานต่อเถอะค่ะ ฉันไม่รบกวนแล้ว” กวินตาพูดไปก็ยิ้ม เพราะช่วงนี้เย็นๆแบบนี้เขาจะทำงานที่บ้านต่ออีก “อืม…” จาซุสพูดตอบไปแบบเข้าใจ เพราะทั้งสองไม่ได้เจอกันนานแล้วก็คงอยากจะพูดคุยกันตามประสาพี่น้องเป็นธรรมดา จากนั้นกวินตาก็พาน้องสาวของเธอไปที่ห้องพักที่เธอนั้นให้แม่บ้านจัดเตรียมไว้ และมารียาก็ชอบห้องที่เธอเตรียมไว้ให้มาก ทำให้กวินตานั้นดีใจเป็นอย่างมากที่น้องสาวชอบ แล้วกวินตาก็ช่วยน้องสาวเอาเสื้อผ้าในกระเป๋ามาจัดเรียงใส่ตู้อย่างเรียบร้อยพร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย “คุณจาซุสเขาก็ดูใจดีกับพี่กวางมากเลยนะคะ ไม่น่าล่ะพี่กวางถึงได้ชอบเขา ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” มารียาพูดแซวพี่สาวของเธอไป “ถ้าเขาไม่ดีกับพี่ พี่ก็คงไม่ทนอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขาหรอก เพราะฉะนั้นเราน่ะตั้งใจหางานดีๆทำแล้วก็อย่าเป็นแบบพี่เข้าใจไหม…” กวินตาพูดบอกไปแล้วมองหน้าน้องสาวแบบจริงจัง เพราะถ้าคนที่ไม่อยู่ในสถานะนี้ไม่รู้หรอกว่ามันลำบากใจแค่ไหนที่ไม่สามารถครอบครัวคนที่ตัวเองรักได้ “เข้าใจค่ะ…แต่มีนพึ่งอกหักมานะคะพี่กวาง มีนไม่รีบเรื่องความรงความรักอะไรพวกนี้หรอกค่ะ ตอนนี้เอาแค่หางานทำที่นี่ให้ได้ก่อนจะดีกว่า ” มารียาพูดตอบไปเพราะเรื่องเดียวที่เธอควรจะกังวลน่ะคือเรื่องหางานทำ ไม่ใช่เรื่องจะมีความรัก “ก็เมื่อกี้ทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมให้คุณจาซุสเขาหาให้เองนิ ถ้าเราบอกนะแค่แปปเดียวเราก็ได้งานดีๆทำแล้วล่ะ” กวินตาพูดตอบไป เพราะเมื่อกี้ถ้าน้องสาวยอมให้จาซุสหางานให้ก็จบไปแล้ว ไม่ต้องมาคิดมากเรื่องที่จะหางานทำที่นี่เลย “ก็มีนเกรงใจนิคะ เขาอุตส่าห์ใจดีให้มีนมาอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าให้เขาฝากงานให้อีกมันก็เยอะไปอ่ะค่ะ อีกอย่างถ้าเขาฝากงานให้มีนแล้วมีนทำไม่ดีขึ้นมา ก็เสียชื่อเขาน่ะสิคะ ไม่เอาค่ะ มีนไม่อยากจะเป็นเด็กเส้น มันอยู่ยาก” มารียาบอกเหตุผลของตัวเองไปแบบตรงๆ เธอคิดว่าเธอหางานทำด้วยตัวเองจะดีซะกว่า “โอเคๆ พี่เข้าใจแล้วล่ะ เรานี่มันขี้เกรงใจจริงๆ… งั้นเดี๋ยวพี่จะช่วยหางานให้อีกคนละกัน อ่อ แล้วถ้าจะออกไปก็บอกคนขับรถที่โรงจอดรถได้เลยนะ พวกเขาเรียกใช้งานได้ตลอดเวลาเลย มีพวกเขาไปส่งเราไปนั่นไปนี่แล้วพี่จะได้สบายใจ” กวินตาพูดบอกไปก็ยิ้มให้น้องสาวไป แล้วเธอก็รู้สึกดีใจที่น้องสาวมาอยู่ด้วยที่นี่ เธอเองก็จะไม่โดดเดี่ยวแบบที่ผ่านมาอีก “ค่ะพี่กวาง รับทราบค่ะ…มีนไม่ทำให้พี่กวางต้องเป็นห่วงแน่นอนค่ะ…ขอบคุณนะคะพี่กวาง…” มารียาพูดไปก็ยิ้มอย่างน่ารักสดใสใส่พี่สาวของเธอแบบอ้อนๆ หลายวันผ่านไป…. อาลีก็ได้ประกาศรับสมัครหญิงที่จะมาอุ้มท้องให้กับฮัสลานเรียบร้อย และตอนนี้พวกเขาก็แค่รอให้คนมาสมัครแล้วก็เรียกเข้ามาสัมภาษณ์รอบเดียวไปเลย “อาลี พรุ่งนี้ราชิดจะจัดแข่งรถที่ทะเลทรายใช่ไหม…” ฮัสลานเอ่ยถามลูกน้องของเขาออกไป เพราะเขาจำได้ว่าเพื่อนของเขานั้นได้ชวนเขาไปงานแข่งรถที่ทะเลอาหรับที่ได้ชื่อว่าเป็นทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกเลยทีเดียว “ใช่ครับนาย…คุณราชิดได้เชิญเจ้านายแล้วก็กลุ่มเพื่อนๆไปหลายคนเลยครับ นายจะไปไหมครับ” อาลีเอ่ยถามออกไปอย่างอยากรู้ “อืม..ไปสิ นายจัดการเตรียมรถของเราให้พร้อมก็แล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะไประบายอารมณ์สักหน่อย ส่งรายชื่อของฉันเข้าไปในรายการแข่งขันด้วย…” ฮัสลานพูดบอกไปเพราะเขานั้นชอบแข่งรถเป็นประจำอยู่แล้ว และครั้งนี้เขาจะพลาดได้ยังไงล่ะ “ครับนาย..งั้นผมขอตัวเลยนะครับ…” อาลีพูดไปก็เดินออกไปทันที เพราะถ้าเจ้านายของเขาจะลงแข่งขันในวันพรุ่งนี้ เขาก็ต้องไปเตรียมรถให้พร้อมแข่ง ด้านมารียาที่มาอยู่ที่ดูไบได้หลายวันแล้วเธอก็เริ่มจะเข้าใจวัฒนธรรมของที่นี่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นประเทศมุสลิมที่ค่อนข้างเปิดกว้างเลยทีเดียว เธอล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมดูไบถึงเป็นเมืองที่เจริญแบบนี้ หลังจากที่เธอนั้นไปตระเวนเที่ยวกับพี่สาวของเธอมา “กลับมากันแล้วเหรอ ผมอยากจะเจอพวกคุณสองคนอยู่พอดีเลย…พรุ่งนี้เพื่อนผมจัดงานแข่งรถที่ทะเลทราย คุณสองคนอยากจะไปด้วยไหม” จาซุสเอ่ยถามออกไป เพราะไม่รู้ว่าสองสาวจะสนใจหรือเปล่า “ไปสิคะ ฉันอยากจะไปเห็นทะเลทรายแบบกว้างๆใหญ่ๆค่ะ” มารียารีบตอบไปแบบดีใจด้วยสายตาลุกวาว จนจาซุสนั้นอมย้ำขำๆ เพราะมันเหมือนกับตอนที่เขาชวนกวินตาไปเที่ยวทะเลทรายยครั้งแรกเลย เธอก็ดีใจแบบนี้แหละ แต่พอจบทริปนั้นเขาชวนเธอทีไรเธอก็ปฏิเสธเขาทุกทีเพราะอากาศมันค่อนข้างจะร้อนมากเลยทีเดียว “แต่มันร้อนมากเลยนะมีน…มันไม่ได้ไปแบบสบายๆอย่างที่เราคิดเลยนะ พี่ว่าเราไม่ไปดีกว่ามั้ง” กวินตาพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ขยาดเต็มที เมื่อได้ยินคำว่าทะเลทราย “ไปเถอะค่ะพี่กวาง มีนมาดูไบทั้งทีก็ต้องไปให้ถึงทะเลทรายสิคะ น่านะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเองค่ะ อดทนเพื่อน้องหน่อยนะคะ นะคะพี่สาวคนสวย…”มารียาพูดอ้อนๆอย่างขอร้องพี่สาวของเธอไป “น้องคุณเขาก็พูกขอร้องซะขนาดนี้แล้วคุณก็พาเขาไปเถอะ ถ้าคุณร้อนก็นั่งตากแอร์ในรถกก็แล้วกัน…เดี๋ยวผมจะเอารถไปสองคัน” จาซุสพูดบอกไปแบบอ่อนโยน เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ชอบอากาศร้อนๆ แต่ที่แข่งก็พอจะมีเต้นท์แอร์ให้อยู่แล้ว ซึ่งเขาสามรถพาสองสาวเข้าไปนั่งพักกับพวกเพื่อนๆของเขาได้ “ทำไมต้องเอาไปสองคันคะ หรือว่าคุณจะแข่งรถกับพวกเพื่อนๆอีก” กวินตาเอ่ยถามออกไปเพราะคราวก่อนเขาก็แข่งมาจนเธอนั้นใจหายใจคว่ำไปหมดเลย “อืม…พอดีฮัสลานมันลงแข่งน่ะ ผมกับราชิดก็ต้องลงแข่งด้วยน่ะสิ…ผมเลยอยากให้คุณไปให้กำลังใจผมไง แล้วคุณก็จะได้พาน้องสาวของคุณไปเปิดหูเปิดตาด้วยไง” จาซุสพูดบอกไปก็ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน มารียาที่ได้ยินทั้งสองพูดคุยกันนั้นมองแล้วยิ้มอย่างชอบใจ เพราะตั้งแต่เธอมาอยู่กับพี่สาวที่นี่ เธอก็เห็นจาซุสนั้นพูดจาและปฎิบัติกับพี่สาวของเธอดีมาก ดีจนไม่น่าเชื่อว่าพี่สาวของเธอจะเป็นแค่นางบำเรอของเขา เพราะการกระทำของจาซุสนั้นคือทำราวกับคนรักกันก็ไม่ปาน “โอเคค่ะ ไปก็ไป…พูดกันขนาดนี้แล้วฉันก็ต้องไปไหมล่ะคะ” กวินตาพูดบอกไปแบบยอมๆ เพราะขอร้องกันขนาดนี้เธอจะไม่ยอมได้ยังไงกันล่ะ “โอเค พรุ่งนี้ผมจะได้มีกำลังใจแข่งหน่อย แล้วถ้าผมชนะสองคนนั้นล่ะก็ ผมจะพาคุณกับน้องไปเลี้ยงฉลองแบบจัดเต็มเลย ฮ่าๆ” จาซุสพูดไปแล้วก็หัวเราะออกมา เพราะทุกการแข่งขันย่อมมีการเดิมเสมอและมันก็ไม่ใช่น้อยๆเลยด้วย “งั้นเราสองคนจะเชียร์คุณเต็มที่เลยค่ะ…” กวินตาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มให้เขาไปอย่างเอาใจ เมื่อเห็นเขาได้ดูท่าทางมีความสุขแบบนี้ วันต่อมา ณ ทะเลทรายอาหรับในดูไบ มารียาพอมาถึงก็เดินตามจาซุสและพี่สาวของเธอไปนั่นไปนี่จนเธอร้อนจนไม่รู้จะร้อนยังไงแล้ว ทำให้เธอเข้าใจเลยว่าทำไมพี่สาวของเธอไม่อยากจะมาอีกเป็นครั้งที่สองที่สามน่ะ แต่พอจาซุสพาพวกเธอเข้ามาในกระโจมใหญ่ๆนี่แล้วเธอก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเลยเมื่อในนี้มันมีแอร์อยู่ “ไงวะจาซุส วันนี้ควงสาวมาสองคนเลยเหรอวะเนี่ย…เอ๊ะ..คนนี้หน้าคุ้นๆเหมือนคนที่แกเอามาด้วยตอนแข่งคราวก่อนนี่หว่า…” ราชิดที่นั่งอยู่เอ่ยทักทายเพื่อนหนุ่มไปแล้วมองสาวสวยทั้งสองคนที่เพื่อนหนุ่มพามาด้วยอย่างจำได้ว่าผู้หญิงคนที่ผอมเพรียวนั้นคือกวินตาซึ่งมันเคยพามาก่อน แต่คนที่อวบอิ่มมีน้ำมีนวลอีกคนนี่สิ แม่ง…น่าฟัดมากเลย ราชิดคิดในใจอย่างอดไมได้ “อืม..ก็คนเดิมนั่นแหละ ส่วนนี่มีนเขาเป็นน้องสาวของกวางเขา…” จาซุสพูดบอกไปด้วยสีหน้าเข้มๆ เพราะเขารู้ว่าเพื่อนหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว เขาจึงพูดแกมอธิบายให้มันได้รู้ว่าเขานั้นไม่ได้ควงสองมากแบบที่มันคิดอกุศล “อ้อ น้องสาวของผู้หญิงของแกนี่เอง ฉันก็นึกว่าแกจะควบสองแล้วซะอีก ฮ่าๆ… คนนี้อยู่นานนิวะจาซุส…” ราชิดพูดไปก็หัวเราะออกมาอย่างขำๆ เพราะไม่คิดว่าเพื่อนหนุ่มจะอยู่กับคนนี้นานขนาดนี้ถ้านับตั้งแต่ที่เขาเจอตอนแข่งคราวก่อน ด้านกวินตาที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้านิ่งๆออกไปเพราะคนพวกนี้นั้นชอบดูถูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และนี่แหละคือหุตผลที่เธอนั้นไม่ค่อยอยากจะมา เพราะเธอไม่ใช่สาวๆที่จะมาคอยพูดเอาใจแบบคนอื่นๆ ส่วนมารียาพอได้ยินเพื่อนของจาซุสพูดออกมาแบบนั้นก็ทำหน้าบึ้งออกมาทันที เพราะไม่ให้เกียรติผู้หญิงเอาซะเลย คิดว่ารวยแล้วจะพูดยังไงก็ได้เหรอ มารียาคิดในใจไปแบบโมโหที่เจอคนแบบนี้ “หุบปากของแกไปเลยราชิด…นี่มันเรื่องส่วนตัวของฉัน และฉันก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายหรือว่าให้ผู้หญิงของฉันด้วย….” จาซุสพูดออกไปด้วยเสียงเข้มพร้อมกับทำสีหน้าดุๆออกไป “โอเคๆ ฉันก็แค่พูดล้อเล่นน่า แกอย่าสนใจคนปากหมาแบบฉันเลยดีกว่า ส่วนคุณสองคนเชิญตามสบายเลยครับ อาหารเครื่องดื่มในนี้ทานได้ทุกอย่างเลย…” ราชิดได้ยินเพื่อนหนุ่มพูดแบบนั้นก็รู้เลยว่าเขาพูดไม่เข้าหูซะแล้ว เขาจึงพูดแบบนั้นออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดราม่านี้ทันที “กวาง เดี๋ยวคุณพาน้องไปหาอะไรทานก่อนนะ ผมขอคุยกับเพื่อนของผมก่อน” จาซุสหันไปพูดบอกกวินตาไป แล้วเขาก็มองหน้าสบตากับเธออย่างเข้าใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าของเพื่อนหนุ่มแบบเอาเรื่อง “ค่ะ…มีน ไปกันเถอะ..” กวินตาพยักหน้าตอบไปก็ชวนน้องสาวของเธอเดินไปหาอะไรมาทานรองท้องรอการแข่งขันทันที พอสองสาวเดินไปจาซุสก็ขี้หน้าเพื่อนหนุ่มทันที “ราชิด ต่อไปแกอย่ามาพูดดูถูกผู้หญิงของฉันอีก กวางเขาไม่ได้เหมือนกับคนอื่นๆที่แกเคยเห็น” จาซุสพูดบอกไปแบบจริงจัง เพราะเขาจะไม่ให้เพื่อนหนุ่มมาพูดเสียดสีอะไรใส่ผู้หญิงของเขาอีก “ตอนแรกฉันก็คิดว่าแกเลี้ยงไว้เล่นๆแบบที่ผ่านมา แต่นี่แกเอาจริงเหรอวะเนี่ย…แกกำลังโกรธฉันเพียงเพราะฉันพูดแค่นั้นกับเขาเนี่ยนะ”ราชิดถามไปอย่างอยากรู้ เพราะเพื่อนเขาไม่เคยพูดแบบนี้กับเขาเลย แต่เพราะผู้หญิงคนนี้ทำให้เพื่อนเขาทำหน้าไม่พอใจใส่เขาได้ มันก็ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ “ใช่…และฉันหวังว่าฉันจะไม่ได้ยินอะไรแบบนั้นจากปากของแกอีกนะราชิด…” จาซุสพูดออกไปก็มองเพื่อนหนุ่มด้วยสายตาจดจ้อง “โอเคๆ ฉันขอโทษ ต่อไปฉันจะระมัดระวังคำพูดของตัวเองมากกว่านี้…มาๆ มานั่งคุยกันรอฮัสลานมันมาดีกว่า อย่ามาเสียเวลากับเรื่องเมื่อกี้เลย” ราชิดพูดบอกไปแล้วก็เอามือตบที่เบอะเรียกเพื่อนหนุ่มออกไป จาซุสก็เดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเพื่อนหนุ่มด้วยสีหน้าเซ็งๆ แล้วเขาก็ถูกเพื่อนหนุ่มสอบสวนเรื่องของกวินตาไป ซึ่งเขาก็เลือกที่จะพูดความจริงไปเลยว่าเขานั้นเลี้ยงกวินตามาปีกว่าๆแล้ว แล้วตอนนี้เขาก็พาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านด้วย ทำให้ราชิดนั้นตกใจมากที่เพื่อนหนุ่มทำถึงขนาดนั้น ด้านฮัสลานก็ขับรถมาจอดที่หน้ากระโจมใหญ่ของเพื่อนหนุ่มก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในกระโจมแบบเท่ห์ๆ แต่ระหว่างที่เขานั้นเอามือแหวกผ้าจะเข้าไป กลับมีคนจากด้านในแหวกผ้าออกมาเช่นกัน ทำให้เขานั้นยื่นหน้าไปใกล้กับคนที่เปิดผ้านั้นอย่างไม่ตั้งใจ มารียาเองก็ตกใจแล้วทำตาโตมองคนตรงหน้าอย่างเกร็งๆเลยทีเดียว เพราะอีกแค่นิดเดียวหน้าเธอจะชนกับเขาอยู่แล้ว และมันก็ทำให้เธอนั้นได้มองสบตากับเขา จนเธอนั้นรีบถอยตัวเองออกมาอย่างเขินอาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD