“แม่ค้าบ...วอมจะเอาเสื้อตัวนี้กลับไปด้วยได้ไหมค้าบ” เสียงเล็กเอ่ยเรียกผู้เป็นแม่ของตัวเองที่กำลังจัดของใส่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เพื่อกลับมายังประเทศที่ตัวเองจากมานานนับสามปีเศษ เมื่อธุรกิจที่เธอต้องบริหารที่นี่สำเร็จลุล่วงไปตามเป้าหมายแล้ว ถึงเวลาที่เธอจึงต้องกลับไปเผชิญหน้ากับปัญหาอันหนักหน่วงที่เธอหนีมาตลอดสามปีเต็ม
“ได้ครับ มาครับแม่จัดให้” เธอหยิบเสื้อจากมือเล็กของลูกชายเพียงคนเดียวแล้วยัดใส่กระเป๋าเดินทางใบเดียวกันกับเธอ แล้วทั้งสองคนจัดของกันอยู่สักพักใหญ่โดยที่มีเจ้าตัวเล็กก่อนกวนบ้างเป็นบางเวลาแบบฉบับเด็กซนทั่วไป
“ไปนอนกันได้แล้วครับ พรุ่งนี้ลูกต้องตื่นเช้าอีกนะครับ” เธอจูงมือเด็กชายวัยสองขวบเศษเข้ามายังห้องนอนกว้างใหญ่แล้วตบตูดลูกเพื่อเป็นการกล่อมนอน เด็กน้อยแก้มขาวนวลใช้เวลาไม่นานก็พลอยเคลิ้มหลับไปในที่สุด
‘อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด’ เพียงขวัญเจ้าของร่างบางมองไปยังใบหน้าเล็กที่นอนหลับตาพริ้มด้วยความไร้เดียงสา การกลับไปครั้งนี้สร้างความกังวลแก่เธอไม่น้อยทั้งปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะแก้ปมจากตรงไหนทำให้เธอรู้สึกกลัวจมกับความคิดนั้นอยู่นาน แล้วเวลาต่อจากนั้นไม่นานเธอกดฝั่งจมูกลงบนแก้มนุ่มแล้วนอนกอดลูกหลับไปในที่สุด
“แม่ครับ แม่ขวัญครับ” มือเล็กเขย่าแขนแม่ของตัวเองที่กำลังเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่
“ครับ ว่าไงครับ” เธอหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองแล้วหันมาสนใจเด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสออกมาจากประเทศฝรั่งเศสมุ่งหน้าไปยังประเทศไทยที่เป็นประเทศบ้านเกิด
“พรุ่งนี้วอมจะได้เจอคุณปู่กับคุณย่าไหมครับ” เด็กชายเอ่ยถามด้วยแววตาใสซื่อ
“ได้ครับ เดี๋ยวแม่พาไปนะครับ แต่วอมต้องไปหาตายายกับแม่ก่อน โอเคไหมครับ” เธอลูบหัวเอ็นดูลูกชายเพียงคนเดียวของเธอที่ตามมาด้วยส่งเสียงออกมาดีใจใหญ่ เพราะตั้งแต่อยู่ที่นู้นเขาจะมีแค่แม่และลุงเรย์หุ้นส่วนบริษัทที่เล่นกับเขาบ่อยๆ ตายายมาเยี่ยมหลานบ้างนานๆ ครั้ง ส่วนปู่กับย่ามาได้เกือบทุกเดือนพลอยทำให้เด็กชายมักจะติดทางฝั่งนั้นมากกว่า
“ครับ วอมคิดถึงปู่ย่า ตายายที่สุดเลยครับ” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยตอบผู้เป็นแม่พลอยทำให้คนข้างๆ ยิ้มให้ทั้งสองด้วยความเอ็นดูในความใสซื่อของเด็กน้อย
“ทุกคนต้องดีใจแน่ๆ เลย”
“แล้ววอมจะได้เจอพ่อไหมครับ พ่อไปทำงานยังไม่กลับมาเหรอครับ” สีหน้าดีใจในตอนแรกเปลี่ยนเป็นใบหน้าเศร้าขึ้นมาทันทีเมื่อพูดถึงบิดาของตัวเอง เพียงขวัญเธอจะบอกลูกเสมอว่าพ่อเขาไปทำงานไกล ไม่สามารถกลับมาหาเขาได้ตอนนี้ เมื่อโตขึ้นเขาพร้อมที่จะพูดความจริงกับลูกแต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้ เขายังเด็กเกินกว่าที่จะต้องมารับรู้ปัญหาที่ผู้ใหญ่ก่อขึ้นมาได้
“ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิครับ” ใจเธอกระตุกวูบทุกครั้งเมื่อเด็กน้อยถามหาบิดาของตน เธอมักจะแอบร้องไห้ทุกครั้งเพราะสงสารลูกตัวเองที่ไม่ได้มีครอบครัวเพรียบพร้อมเหมือนกับลูกคนอื่นทั่วไป ทั้งที่เธอพยายามมอบความรักทั้งในส่วนของพ่อและแม่ให้เด็กน้อยอย่างเต็มที่แล้ว
“พ่อไม่รักวอมแล้วเหรอ” เด็กน้อยเบ้ปากเหมือนจะร้องไห้ออกมาทำให้ร่างบางโผล่เข้าสวมกอดลูกไว้แน่นแล้วชิงน้ำตาไหลก่อน
“พ่อแค่ไปทำงาน วอมต้องเป็นเด็กดีรอพ่อกลับมานะครับ” เธอรีบเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนที่จะผละเด็กชายออกจากอ้อมอกเล็กแล้วปลอบใจลูกน้อย
“ครับ วอมจะไม่ดื้อ ไม่ซนครับ” เด็กน้อยกอดอกแล้วหันหน้าตรงไปทางข้างหน้า ไม่ยอมขยับตัวไปไหน
“แม่รักวอมนะครับ” เธอพูดจบแล้วสวมกอดเด็กน้อยอีกครั้ง ส่งมอบความรักแก่ลูกที่เป็นทั้งชีวิตของเธอ มือเล็กป้อมๆ ลูบหลังแม่แล้วซุกเข้าไปในอกเธอ
“วอมก็รักแม่ครับ” ปากเล็กขยับพูดเสียงอู้อี้ในอ้อมกอดของเธอ