กลับบ้านต่างจังหวัดคนเดียว

2882 Words
หลังจากที่อินถวา บอกลาทุกคน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านที่เพชรบูรณ์ เช้านี้ที่สถานนีขนส่งหมอชิต อินทวา เตรียมตัวขึ้นรถทัวร์ โดยมีสร้อยสนและคนขับรถช่วยขนสัมภาระมาส่ง “ยี่หวา เดินทางปลอดภัยนะ แล้วถ้าจะขึ้นมากรุงเทพฯ เมื่อไหร่ บอกสร้อยด้วย ” “ได้เลย ยี่หวาขอบใจสร้อยนะ อุตสาห์มาส่ง ” "ถ้ายี่หวามาเอง สร้อยว่าไม่ทันรถแน่ ใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุด รถเยอะจังเลย” “ได้เวลาแล้ว สร้อยกลับเถอะ ยี่หวาจะไปขึ้นรถ” สองสาวแยกกัน สร้อยสนติดอินถวามาก จริงๆแล้วถ้ายี่หวาไม่ต้องรีบกลับบ้าน เธออยากให้เพื่อนทำงานเสียด้วยกันที่โรงงานเสื้อผ้าของบ้านเธอ หรือถ้าไม่อยากทำก็อาจจะให้ทำที่โรงงานพี่ภาษ แต่นั่นแหละ ก็ต้องแล้วแต่อินถวา บางทีเพื่อนเธออาจอยากกลับไปอยู่บ้านจริงๆ ระหว่างที่อยู่บนรถ พี่ชายก็คงยังส่งข้อความมาถาม ว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้าน อินถวาขี้เกียจตอบ ขี้เกียจคุยด้วย ตอนนี้คนที่เธอคิดถึงที่สุดก็คือ พ่อ แม่ ปู ย่า ไม่รู้ว่ากลับไป จะเจอกับอะไร แต่เธอรู้ว่าไม่ค่อยดีนัก เมื่อคืนไลน์คุยกับปู่ ย่า บอกว่าให้รีบกลับบ้าน พ่อกับแม่อาการไม่ค่อยดี คิดมากกับลูกชายคนโต ไม่ยอมทำอะไรเลย เธอไม่ได้บอกใครที่บ้าน ว่าจะกลับวันนี้ อินถวาคิดถึงวันข้างหน้า รู้ว่าตัวเองต้องแบกรับกับอะไรมากมาย หญิงสาวถอนหายใจ เป็นไงเป็นกัน การเดินทางด้วยรถทัวร์ ใช้เวลาเกือน 5 ชั่วโมง อีกหน่อยถ้ามีเรื่องต้องเข้ากรุงเทพฯ สงสัยเธอต้องใช้รถที่บ้าน ระหว่างทางเห็นร้านขายข้าวแกงข้างทาง แล้วคิดถึงร้านของที่บ้าน เกือบปีที่อินถวาไม่ได้กลับบ้านเลย เพราะไม่ว่าจะปิดเทอม หรือมีเวลาว่าง เธอเป็นต้องทำงานพิเศษตลอดเวลา บ้านของอินถวา อยู่อำเภอไกลจากตัวจังหวัดหลายสิบกิโลเมตร ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว เป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวผ่านไปผานมาตลอด เธอเคยคิดไว้ว่า จะมาเปิดร้านกาแฟสด หรือไม่ก็ร้านอาหารเล็กๆ สวนกุหลาบของที่บ้านเธอก็อยากทำต่อ ไว้ดูหน้างานก่อนล่ะกัน ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ภาพตรงหน้าของอินถวา คือร้านอาหารที่เคยใหญ่ที่สุด ทันสมัยที่สุด และขายดีที่สุดในย่านนี้ อยู่ห่างจากถนนเข้าไปประมาณสิบเมตร ที่เวลานี้ประตูเหล็กพับปิดสนิท คาดว่าน่าจะไม่ได้เปิดมานานหลายเดือนแล้ว ส่วนด้านหลัง เยื้องๆกัน ห่างจากร้านอาหาร ลึกเข้าไปอีกประมาณห้าเมตร เป็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ทรงทันสมัย ด้านบนสร้างด้วยไม้ทั้งหมด ด้านล่าง เป็นปูน อินถวายืนอยู่หน้าบ้าน ขวามือของเธอคือศาลพระภูมิเจ้าที่ หญิงสาวสัมผัสได้ ถึงบางสิ่งบางอย่าง อยากไปหาปู่ กับย่า ก่อน แต่ก็อยากเจอพ่อกับแม่ ช่วงเวลาที่สมัยเธอยังอยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้มาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของพ่อกับแม่ ไม่รู้สึกอะไรมากนัก เมื่อมาเห็นกับตาตัวเอง รู้สึกเหี่ยวเฉายังไงพิกล คงจะถึงเวลา ที่เธอต้องกลับมาฟื้นฟูหัวใจของพ่อและแม่ และกลับมาทำมาหากินอยู่บ้านอย่างถาวรแล้วซินะ อินถวาเดินเข้าไปยืนหน้าบ้านส่งเสียงเรียกพ่อกับแม่"พ่อ แม่ ยี่หวากลับมาแล้วค่ะ " สองสามีภรรยาที่นอนพักผ่อนดูทีวี หันมามองหน้ากัน "เสียงใครกัน ยี่หวาหรือเปล่าพ่อ" นายก้านลูกจากที่นอน ไปเปิดประตูหน้าบ้าน สองสามีภรรยาอาศัยอยู่ชั้นล่าง แก่แล้วไม่อยากเดินขึ้นชั้นบน สมัยก่อนขายของดี ยิ่งไม่มีเวลาขึ้นไปเลย ถ้าเป็นไปได้ ย้อนเวลากลับไป เขาจะไม่สร้างบ้านสองชั้นแน่ เพราะลำบากตอนแก่ “พ่อสวัสดีค่ะ คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ”ยี่หวาโผเข้ากอดผู้เป็นพ่อ เมื่อนายก้านเปิดประตูบ้านออกมา “เป็นยังไงบ้างลูกสาวพ่อ กลับมาสักทีนะลูก” นายก้านโอบกอดลูกสาวคนเล็ก “ยี่หวาเหรอลูก ลูกสาวแม่ เป็นยังไงลูกจะมาก็ไม่ยอมส่งข่าวกันบ้างเลย” อินถวาเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่ รู้สึกได้เลยว่า พ่อกับแม่ผอมลงมาก หน้าตาดูหม่นหมองทั้งคู่ บ้านทั้งบ้านมีแต่ความเศร้าหมอง ดูไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย “มานั่งก่อนลูก แล้วมารถอะไร ทำไมไม่บอกพ่อ จะได้ขึ้นไปรับ” ยี่หวานั่งน้ำตาไหล พ่อเปลี่ยนไปมาก หรือว่าสมัยก่อนเธอคิดไปเอง ว่าพ่อไม่ค่อยรักเธอเท่าพี่ชาย พ่ออายุมากกว่าแม่ สองปี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ทั้งพ่อและแม่ เหมือนคนแก่ อายุเกือบเจ็ดสิบปี ดูแก่กว่าอายุมากๆ “ยี่หวาไม่อยากให้พ่อกับแม่ลำบากค่ะ เลยนั่งรถทัวร์มาเอง” “ลำบากอะไรกันลูก แล้วนี่ขนมาได้ยังไงสองสามกระเป๋า” “ไม่ลำบากหรอกค่ะแม่ คนรถเขายกให้ค่ะ มานี่ก็เรียกสามล้อมา ลุงคนขับก็ยกให้ ยากตอนที่เข็นเข้าบ้านแค่นั้นเอง” “มานั่งพักก่อนลูก “นายก้านตบมือลงที่เก้าอี้หวายตัวใหญ่ “พ่อกับแม่สบายดีนะคะ “ “ไม่ค่อยสบายหรอกลูก เจ็บออดๆแอดๆ พ่อกับแม่ไม่ได้เปิดร้านมาหลายเดือนแล้วนะ” “ดีแล้วค่ะพ่อ พ่อกับแม่ทำมานานแล้วค่ะ พักบ้างก็ไม่เป็นไรหรอก” อินถวาสังเกตรอบบ้าน เห็นทีว่าเธอจะต้องทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ก็ดีจะได้มีเวลาคิดว่าจะต้องทำอะไรต่อ อยู่เฉยๆไม่ได้แน่ๆ เห็นทีเธอต้องทำให้มีรายรับเข้ามาแล้วล่ะ นี่คงเป็นสาเหตุที่พ่อกับแม่ ไม่มีเงินส่งให้พี่ชายที่ต่างประเทศ หญิงสาวนั่งลงกับพื้น ก้มกราบที่เท้าพ่อกับแม่ เธอรู้ว่าพ่อกับแม่สะเทือนใจหลายอย่าง “พ่อกับแม่พักผ่อนนะคะ เดี๋ยวยี่หวาขอขึ้นไปทำความสะอาดข้างบนสักหน่อย แล้ะเดี๋ยวจะลงมาทำกับข้าวเย็นให้กิน” ผู้เป็นพ่อหันมามองหน้าภรรยา แววตามีความรู้สึกผิด เขาทุ่มเทกับลูกชาย แต่คนที่กลับมาบ้านคือลูกสาว เขาเจ็บช้ำในใจ กับคำพูดของลูกชาย ตรอมใจ ทำให้ไม่มีแรงที่จะทำงานเลย อินทร์นที ขอเงินเพิ่ม จากที่ส่งให้เดือนละแสน ขอเพิ่มเป็นเดือนละสองแสน อ้างว่า เรียนปริญญาเอก ต้องใช้เงินมากขึ้น ยื่นคำขาดว่าต้องได้ และถ้าไม่ได้ จะไม่กลับเมืองไทยอีกเลย สองสามีภรรยา ตัดสินใจก่อนที่จะหมดตัว และก่อนที่จะไม่มีที่อยู่ ไม่ยอมส่งเงินให้ตามที่ลูกชายขอ และค่อยๆลดลง จากที่เคยส่งเดือนละแสน ลดลงมาเรื่อยๆ เหลือเพียง ห้าหมื่นบาท เขากับภรรยาให้ลูกชายหางานทำ บอกว่าพ่อกับแม่ ไม่สามารถที่จะส่งเสียได้แล้ว จบปริญญาโทแล้วก็ขอให้กล้บบ้านมาหางานทำ หรือไม่ก็หางานทำที่ต่างประเทศเลย พ่อกับแม่ไม่มีกำลังที่จะส่งเสียแล้ว การที่ลูกสาวคนเล็กกลับบ้าน ทำให้สองสามีภรรยามีกำลังใจ ทำไมเขาจะดูแววตาของลูกสาวไม่ออก ว่าคิดอะไรอยู่ ลูกสาวคนเล็กของพวกเขาเข้มแข็งมาก ไม่เคยพูดเคยบ่น เรื่องที่เขาลำเอียง รักลูกชายมากกว่าลูกสาว อาการที่เข้มแข็งของลูกสาว เมื่อมาเห็นร้านอาหารที่เคยเปิด เคยขายดี เคยเป็นที่หนึ่งของอำเภอนี้ปิดตัวลง พ่อกับแม่ที่ดูแก่ และเศร้า ท่าทางของยี่หวา ไม่มีอ่อนแอให้พ่อกับแม่เห็นเลย มีแต่แววตาที่ดูมีความหวัง เข้มแข็ง คนเป็นพ่อและแม่ จะอยู่เฉยได้ยังไง สองสามีภรรยารู้สึกมีพลังขึ้นมาทันที อินถวาขึ้นไปชั้นสองของบ้าน รู้สึกถึงความหม่นหมอง ไม่สดใส ไม่มีชีวิตชีวา ห้องของเธอยังคงปิดสนิท เกือบปีที่ไม่ได้กลับบ้าน ขวามือเธอเป็นห้องพระ ยี่หวาเข็นกระเป๋าเข้าไปไว้ในห้องของตัวเอง เริ่มที่จะทำความสะอาดห้องพระ และห้องนอนของตัวเอง เสร็จแล้วถึงจะลงไปทำกับข้าวให้พ่อกับแม่กิน หญิงสาวเปิดประตู้ห้องตัวเอง เห็นสภาพแล้ว คงนอนไม่ได้แน่ๆ ฝุ่นและหยากไย่ จับเต็มไปหมด จัดการเปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อให้อากาศถ่ายเท และเลยไปเปิดประตูห้องพระ พ่อกับแม่คงไม่มีเวลา ขึ้นมาไหว้พระ บนโต๊ะหมู่บูชา น้ำในแก้วใสบนหิ้งแห้งเหือด แก้วเป็นคราบน้ำ ไม่รู้ว่าทิ้งไว้นานเท่าไรแล้ว ดอกไม้ในแจกันก็เหี่ยวจนกรอบ องค์พระฝุ่นจับเต็มไปหมด ข้างๆกันพระอีกหลายองค์ตั้งลดหลั่นกันลงมา ฝุ่นเกาะเช่นกัน เห็นทีจะต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ ดีที่ชั้นสองมีห้องน้ำ สะดวกในการทำความสะอาด หญิงสาวไม่รอช้า รีบลงมือทำความสะอาดทันที อินถวาง่วนอยู่กับการทำความสะอาดห้องพระเสร็จแล้ว เลยมาทำห้องตัวเอง ใกล้จะสี่โมงเย็น ยังไม่สะอาดดี ไม่เป็นไร ลงไปทำกับข้าวให้พ่อกับแม่กินก่อน เปิดหน้าต่าง ประตูชั้นบนไว้เพื่อระบายอากาศ “พ่อกับแม่ทำอะไรคะ” อินถวาได้ยินเสียงพ่อกับแม่อยู่ในครัว “พ่อเขาอยากทำต้มโคล้งปลากรอบให้ยี่หวากินน่ะลูก เห็นว่าเป็นของโปรด” “โอ้ย...พ่อขา ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แทนที่ยี่หวาจะทำให้พ่อกับแม่กิน นี่พ่อกับแม่ต้องมาลำบากทำให้ยี่หวากินอีก” “ไม่เป็นไรหรอกลูก ยี่หวาเดินทางมาเหนื่อยๆ นี่อย่าบอกนะว่าทำความสะอาดข้างบน ”นายก้านถามบุตรสาว เมื่อเห็นว่าหน้าตาของลูกสาว มีแต่ฝุ่นผง “ใช่ค่ะพ่อ ยี่หวาทำความสะอาดห้องพระ ยังไม่เรียบร้อยดี ยี่หวาเปลี่ยนน้ำที่โต๊ะหมู่บูชาแล้วนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำต่อ ” “นานเท่าไหร่แล้ว ที่พ่อกับแม่ ไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนเลย”เสียงนายก้านเนือยๆ “พ่อ แม่ คะ หรือว่าเราจะย้ายห้องพระลงมาข้างล่างดี พ่อกับแม่จะได้ไหว้พระด้วย สะดวกกว่าเยอะเลย” “พ่อว่าก็ดีนะ ข้างล่างมีห้องว่างอีกห้อง ถ้าจะขึ้นไปชั้นบนทุกวันก็ไม่ไหว แม่จะได้เปลี่ยนน้ำบนหิ้งทุกวันได้” “งั้นตามนี้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ยี่หวาจัดการให้” “พ่อคะ แม่คะ ยี่หวาขอมาอยู่บ้านถาวรเลยนะคะ จะไม่กลับไปกรุงเทพฯ อีกแล้ว” “พ่อกับแม่ไม่ว่า ดีใจเสียอีก ที่ลูกกลับมาอยู่บ้าน เราจะได้ไม่เหงา “ “มีหลายอย่างเลยค่ะพ่อ ที่ยี่หวาอยากทำ อันดับแรกต้องทำอะไรที่ให้ได้เงินมาก่อน” “แม่ยังมองไม่เห็นอะไรเลยนะลูก บ้านเราคนหนุ่ม สาว ก็ไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้ว เหลือแต่คนสูงอายุ” “ดีค่ะแม่ ไม่มีคนหนุ่มสาวแหละดี ยี่หวาชอบ “ “ดียังไงลูก ชอบยังไง”นายก้านสงสัยกับความคิดของลูกสาว “ยี่หวาขอเปิดร้านขายข้าวนะคะพ่อ แม่ แต่จะทำไม่เยอะ เหมือนสมัยที่พ่อกับแม่ทำมา” “จะทำไหวเหรอลูก “นางกลอยแววตาเป็นประกาย เมื่อได้ยินลูกสาวคนเล็กพูดว่าจะเปิดร้าน “ก็พ่อกับแม่ ช่วยยี่หวาไงคะ เราทำไม่เยอะ เอาแค่ที่ไหว ยี่หวาจะทำข้าวแกง แต่จะไม่ทำอาหารตามสั่ง” อินถวาดีใจที่เห็นว่าพ่อกับแม่ กระตือรือร้นขึ้นมา พ่อกับแม่เธออยู่กับการค้าขาย ทำอาหาร หยุดไปนานแบบคนสิ้นหวัง พอเธอกลับมา และบอกว่าจะสานต่อ นั่นทำให้ท่านทั้งสองดีใจ แค่นี้เธอก็มีความสุข ที่ทำให้พ่อกับแม่ยิ้มได้ “เอาไงเอากัน พ่อก็คันมือเหลือเกิน อยากเจอคนแล้วล่ะ”นายก้านพูดอย่างอารมณ์ดีขึ้นมา “พ่อกับแม่พักมานาน ยี่หวาก็น่าจะรู้นะลูกว่าเพราะอะไร” นางกลอยพูดไม่เต็มปากนัก รู้สึกละอายใจกับการที่เธอและสามีรักลูกลำเอียง เอาใจใส่แต่กับลูกชายคนโต ไม่ค่อยคิดถึงลูกสาวคนเล็ก ดูเถอะลูกสาวนาง อายุแค่นี้เอง มีความคิดที่จะทำมาหากิน แต่ถ้าอินทวาทำงานที่กรุงเทพฯ นางกับสามีก็จะไม่ว่าอะไร กลับกลายเป็นว่า อินทวาไม่เลือกความสบายของตัวเอง เลือกที่จะกลับบ้านดูแลพ่อกับแม่ “รู้ค่ะแม่ ต่อไปนี้ไม่ต้องคิดมากแล้วนะคะ ไม่ต้องห่วงพี่อินทร์ เขามีความรู้ เขาอยู่ได้ค่ะ” “ก็คงต้องแบบนั้นล่ะลูก พ่อบอกตามตรงว่า ถ้าจะให้พ่อส่งต่อเดือนละสองแสน บ้านเราไม่เหลืออะไรแน่” “เราเลิกคุยเรื่องพี่อินทร์ดีกว่า ต่อไปนี้ยี่หวา จะเป็นคนดูแลพ่อกับแม่เองนะคะ” “พ่อคะ แม่คะ ไม่ต้องคิดมากแล้วนะคะ ที่ผ่านมายี่หวาไม่คิดมากเลย อย่าไปคิดถึงอดีต เรามาทำปัจจุบันให้ดีที่สุดดีกว่านะคะ” “ถ้ากิจการขายกับข้าวเราอยู่ตัว ยี่หวาจะขอพื้นที่ตรงหน้าบ้าน ขายน้ำนะคะพ่อ” “น้ำอะไรลูก น้ำเปล่ารึ” นางกลอยสงสัย “ยี่หวาหมายถึง ร้านกาแฟสดค่ะแม่ ยี่หวาสำรวจแล้ว แถวบ้านเรายังไม่มี หน้าบ้านเราเป็นทางผ่านไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยี่หวามั่นใจค่ะแม่ ขายได้แน่นอน ส่วนร้านขายข้าวแกง เราไม่ต้องทำกับข้าวหลายอย่าง เอาแค่ไหว เราจะขายควบคู่กับกาแฟสด “ยี่หวาจะทำไหวเหรอลูก มันจะยากไหม” “แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ สี่ปีที่ยี่หวา อยู่กรุงเทพฯ ยี่หวาทำงานที้ร้านกาแฟ ร้านเบเกอร์รี่ ร้านอาหาร โรงแรม ยี่หวาได้วิชามาเยอะค่ะ ยี่หวาจบด้านอาหารมานะคะ เอามาประยุกต์ใช้ด้วยกันได้” “หนูเอาเวลาไหนไปทำลูก”นายก้านถามลูกสาว “ก็เสาร์ อาทิตย์ ที่ยี่หวาเรียน แล้วก็บางวัน เขาเรียนไม่เต็มวันค่ะ ช่วงปิดเทอมอีก เวลาเหลือเฟือค่ะพ่อ” “พรุ่งนี้ยี่หวาจะ ทำความสะอาดห้องที่จะใช้ทำห้องพระ แล้วก็จะทยอยทำความสะอาดร้านอาหาร ยี่หวาว่าต้นเดือนนี้เราเปิดร้านได้เลยนะคะ” สองสามีภรรยาหน้าบาน เมื่อได้ยินคำว่าเปิดร้าน หน้าตาดูมีความสุขมากขึ้น “แม่คะ แม่ยังปลูกผักอยู่ใช่ไหมคะ” “ใช่ ก็ตั้งแต่ปิดร้าน ไม่รู้จะทำอะไร แม่ก็ปลูกผัก ออกไปดูสวนกุหลาบบ้าง” แล้วกุหลาบได้ขายบ้างไหมคะแม่” “ก็อยู่ได้กับกุหลาบนั่นแหละลูก มีเจ้าประจำที่เขามารับ พ่อกับแม่ก็พอได้หายเหงา” อินถวารู้ว่า เงินจากการขายดอกกุหลาบ มากพอสมควร พ่อกับแม่เก็บเงินส่วนนั้นไว้ให้พี่ชายของเธอ หลังจากกินข้าวเก็บล้างทำความสะอาดถ้วยจานแล้ว ยี่หวาไม่รอช้า เธอให้พ่อกับแม่พักผ่อน ลงมือทำความสะอาดห้องข้างล่าง เพื่อใช้ทำเป็นห้องพระ ดีที่ห้องนี้ยกพื้นสูงกว่าพื้นบ้าน เหมาะกับการทำเป็นห้องพระมาก ทิศทางก็เหมาะ พรุ่งนี้เธอจะแวะไปหาปู่กับย่า อยากให้ปู่มาจัดวางห้องพระให้ ปู่กับย่าคงดีใจ ทำความสะอาดห้องด้านล่างเสร้จ ยังพอมีเวลา ยี่หวา ลากสายยางไปที่ศาลหน้าบ้าน ลมแรงพัดมาจนผมยาวของเธอกระจายเต็มหน้า ข้างหน้าของเธอ ภายในบ้านหลังน้อยสวยงามที่มีแต่ฝุ่น ปรากฏมีแสงไฟระยิบระยับขึ้นมา ทั้งๆที่ยังไม่มีใครเสียบไฟ เสียงดนตรีไทย ยี่หวายิ้มเล็กน้อย หันหน้าหนี ก้มหน้าก้มตาขัดล้างรอบๆศาล ยังไม่อยากทักทายตอนนี้ ขอทำความสะอาดก่อนล่ะกัน ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สะอาดมาก อินถวาเดินดูรอบๆ ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลพระพรหม ใช้ผ้าแห้งเช็ดภายในบริเวณศาลทั้งสอง รู้ว่ามีคนอยากคุยกันด้วย แต่ถ้าคุยก็จะนาน ไว้ให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนค่อยทักทายกัน นานเท่าไหร่แล้ว ที่เธอไม่เคยเปิดรับ กลับกลายเป็นว่ารำคาญ แต่ต่อไปนี้ เธอต้องกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ ก็ต้องคุยกันซินะ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา อบอุุ่นในหัวใจ อย่างน้อย ทุกช่วงเวลาที่เธออยู่ในเขตบริเวณบ้านหลังนี้ เธอก็จะปลอดภัย รวมถึงพ่อกับแม่ของเธอด้วย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD