bc

ทาสพิศวาสจอมมาร

book_age16+
88
FOLLOW
1K
READ
billionaire
revenge
HE
mafia
blue collar
drama
bxg
brilliant
like
intro-logo
Blurb

เขาคิดเสมอว่านรกส่ง ‘หล่อน’ มาให้เขา แต่เขาจะพาหล่อนขึ้นสวรรค์ในฐานะ ‘ทาสสวาท’

เขาไม่สนหรอกว่าหล่อนจะดิ้นมากแค่ไหน เพราะตอนนี้เขาก็เหมือนเจ้าชีวิตของหล่อน เขามีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวหล่อน จะฉุดหล่อนขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นเงื่อนไขที่เอวิตาเต็มใจยอมรับมันเอง หล่อนก็ต้องยอมเขาได้... ทุกอย่าง

เอวิตาสั่นสะท้านเมื่อตกอยู่ใต้ร่างแกร่งเกือบเปลือยของเขา โซลดอนจะรู้หรือเปล่าว่าเธอหวาดกลัวเขามากแค่ไหน

chap-preview
Free preview
EP.1 ทัณฑ์สวาทของซาตานร้าย
“นั่นมันเสื้อตัวโปรดของฉันนี่!” เสียงตวาดก้องด้วยความโกรธจัดของคนที่เดินเข้ามา ทำให้เจ้าของร่างเล็กที่กำลังยืนรีดผ้าสะดุ้งโหยง พร้อมหันมามองเจ้าของร่างสูงเกือบสองฟุตในวัยสิบเก้าปี กำลังย่างสามขุมเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าท่าทางเอาเรื่อง ส่งผลให้เด็กสาวรูปร่างผอมบาง ต้องรีบผละออกจากงานที่กำลังทำแล้วถอยร่นหนีด้วยความตกใจกลัว ไม่กี่วินาทีต่อมา กลิ่นไหม้ก็ลอยเข้าแตะจมูกของทั้งสองคน เด็กสาวนึกได้จึงรีบก้าวไปที่โต๊ะรีดผ้าหมายจะจับเตารีดออกจากเสื้อ แต่เด็กหนุ่มก็กระชากเสื้อของเขามาไว้ในมือเสียก่อนด้วยความโมโห เตารีดหล่นตุ้บเสียงดังสนั่น ยิ่งทำให้เอวิตาอกสั่นขวัญแขวนเข้าไปใหญ่ กลัวเหลือเกินว่าเจ้าของเสื้อราคาแพงตัวนั้นจะโกรธเอา และเขาก็โกรธเธอจริงๆ ดวงตาสีเทาเข้มคมกล้าคู่นั้นที่ตวัดมามองหน้าสาวน้อย ดั่งมีเปลวเพลิงนรกคุโชนอยู่ในนั้น ก่อนที่เรียวปากบางเฉียบสีสดจะขยับเพียงเล็กน้อย แต่คำที่เอ่ยออกมานั้น ไม่ต่างจากมัจจุราชที่หมายจะเอาชีวิตเธอเลย “เธอทำเสื้อของฉันไหม้! เธอต้องชดใช้!” เอวิตาเบิกตากว้างเมื่อเห็นโซลดอนก้มลงหยิบเตารีดแล้วก้าวตรงรี่เข้ามาหาเธอ ในมือถือเตารีดที่ขีดความร้อนยังไม่ได้หมุนมาอยู่ในตำแหน่งปิด กำลังจะโฉบมานาบที่มือข้างขวาของเธออยู่รอมร่อ “กรี๊ด! อย่าค่ะ! พี่โซลดอนอย่า! โอ๊ย! ร้อนๆๆ กรี๊ดดดดด!...” “โซลดอน! หยุด!!! แกทำอะไรน้อง!” เด็กหนุ่มถูกผู้เป็นบิดาตวาดใส่เสียงดังก้อง ก่อนจะถูกลากแขนไปทำโทษอีกห้อง ขณะที่มารดาของสาวน้อยรีบวิ่งมาหาลูกสาวที่กำลังกุมมือตัวเองสั่นๆ “เอวี่ลูกแม่!!” “ฮือๆ แม่ขามือหนู มือของหนูแสบร้อนเหลือเกิน” สาวน้อยเอามือข้างหนึ่งจับประคองมือข้างที่โดนเตารีดนาบขึ้นมาดูมือไม้สั่น คนเป็นแม่น้ำตาไหลพรากๆ เมื่อเห็นมือของลูกสาวพุพอง ดวงตาคู่สวยตวัดลงต่ำก้มมองหลังมือของตนเอง พลางใช้มืออีกข้างลูบคลำไปมา ความเจ็บปวดและแสบร้อนเมื่อสิบเอ็ดปีที่แล้ว ยังฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเธอเสมอมา เอวิตายกมือข้างขวาขึ้นมาดูใกล้ๆ มันยังคงเห็นรอยแผลเป็นจางๆบนหลังมือ ทว่าความรู้สึกเจ็บแสบในคราวนั้นยังคงแจ่มชัดในความรู้สึกของหญิงสาวอย่างไม่มีวันลบเลือน และเมื่อตวัดสายตามองตรงไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่สะท้อนภาพอยู่ในกระจกเงา เธอก็เหลือบไปเห็นรอยแผลเป็นเส้นเล็กๆเหนือคิ้วด้านซ้าย แล้วความทรงจำเมื่อแปดปีก่อนก็หวนกลับมาอีกครั้ง วันนั้นนอกจากเธอกับแม่บ้านแล้วไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน เธอเพิ่งกลับมาจากโรงเรียน และเดินเข้าไปในห้อง กำลังเปลี่ยนชุดนักเรียน แต่จู่ๆประตูห้องก็เปิดผางออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เมื่อหันไปมองทางประตู ใจของสาวน้อยก็กระตุกวูบ “พี่โซลดอน!” เอวิตาตกใจจนหน้าซีดเป็นกระดาษขาว รีบยกมือสองข้างขึ้นมาปกปิดหน้าอกของตนเองที่มีเพียงบราเซียไซส์มินิผืนเดียวที่ปลดตะขอแล้วอย่างสั่นๆ ขณะที่เจ้าของร่างสูงเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้อย่างคุกคาม สายตาคมวาวจ้องมองไปที่หน้าอกของหญิงสาวราวกับจะเปลื้องผ้า มันเป็นสายตาที่หยาบโลน และโลมเลียจนใบหน้าของสาวน้อยเห่อร้อนขึ้นมา เธอทั้งอายและทั้งกลัว “เอวี่ เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดเธอกับแม่ของเธอมากแค่ไหน โดยเฉพาะแม่ของเธอที่หว่านเสน่ห์มอมเมาแด๊ดของฉันแทบทุกคืน ฉันได้ยินนะเวลาที่พวกเขาร่วมรักกัน เธออาจจะไม่ได้ยินเพราะเธอนอนกับพี่เลี้ยงข้างล่าง แต่ฉันได้ยินเต็มสองหู... บ่อยๆ เพราะฉันนอนติดกับห้องของแด๊ด” เอวิตายังไม่รู้ว่าที่โซลดอนพล่ามมาทั้งหมด เขาต้องการจะสื่ออะไรนอกจากจะบอกว่าเขาเกลียดเธอกับแม่ของเธอมาก “และตอนนี้แด๊ดกำลังพาแม่ของเธอไปช้อปปิ้ง เพื่อซื้อของขวัญวันเกิดให้กับเธอ” เด็กสาวเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบเก้าปีเต็มของเธอ จากนั้นก็ฟังเขาพูดต่อ “และฉัน ในฐานะพี่ชายที่แสนดี” คำว่าแสนดีของเขามาพร้อมกับแววตาเหยียดหยันที่แฝงความชั่วร้ายไว้ภายในจนส่องประกายวาววับออกมาอย่างน่ากลัว โดยที่เอวิตาเองก็ยังรู้สึกครั่นคร้ามไม่กล้าสบตาคมกล้านั่น แต่ก็ยังฟังชายหนุ่มพูดต่อด้วยใจที่หวาดหวั่น “ฉันก็มีของขวัญจะให้เธอเช่นกัน” บอกเสียงเย็นยะเยือกแล้วเดินเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนเด็กสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองแล้วพยายามจะเบี่ยงตัวหลีกหนี แต่ก็ถูกมือใหญ่จับล็อกข้อมือเล็กทั้งสองข้างของเธอเอาไว้กับผนังห้องแน่น ก่อนจะโน้มใบหน้าคมสันลงมาเป่าลมหายใจรินรดพวงแก้มที่แดงเรื่อสลับกับขาวซีดนั้นอย่างนึกสนุก “พี่โซลดอนจะทำอะไรเอวี่คะ” “ก็ทำอย่างที่แด๊ดทำกับแม่ของเธอยังไงล่ะ” จบคำที่ชวนผวานั้น ปากบางเฉียบสีสด ก็โฉบลงมาบดขยี้เรียวปากนุ่มอย่างป่าเถื่อน เอาแต่ใจ “อื้อ...” คนโดนรังแกพยายามสะบัดหน้าหนีแต่ก็ถูกคนที่มีกำลังเหนือกว่าล็อกท้ายทอยเธอเอาไว้ และใช้ลำตัวของเขาล็อกตัวเธออีกทีจนร่างเล็กไร้ทางหลีกหนี จูบนั้นไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย เธอเจ็บจนรู้สึกได้ถึงความเค็มปะแล่มๆ ก่อนจะถูกคนตัวโตฉุดลากผลักลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่ปรานี แล้วตามขึ้นคร่อมทับอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เด็กสาวจะทันได้ตั้งตัว “พี่โซลดอน อย่าทำอะไรเอวี่นะ อย่า! ได้โปรด” “อย่าอ้อนวอนเสียให้ยากเลย ฉันตั้งใจจะมอบของขวัญให้กับเธอ ก็จงรับมันไว้ซะ” “ไม่เอา! กรี๊ด! ปล่อยเอวี่นะ! ปละ...อุ๊บ!” ปากเล็กที่บวมเจ่อด้วยฝีมือคนใจร้ายก็ถูกครอบครองอีกครั้ง ครั้งนี้เร่าร้อนรุนแรงกว่าเดิมจนเอวิตาน้ำตาเล็ด เวลาแห่งความหวาดกลัวเดินไปอย่างช้าๆ ขณะที่ร่างเล็กกำลังดิ้นรนตะเกียกตะกายหาทางหลีกหนี จนถึงเฮือกสุดท้ายที่คนตัวโตกำลังผละตัวออกเพื่อจะถอดเสื้อผ้า ด้วยความกลัวสุดขีดทำให้เอวิตาออกแรงเฮือกสุดท้ายถีบร่างใหญ่สุดแรง ตุ้บ! “โอ๊ย!” โซลดอนกลิ้งตกลงจากเตียงอย่างไม่เป็นท่า พอลุกขึ้นได้ก็ตรงรี่เข้าหาแม่ตัวแสบที่กล้าถีบเขาจนเสียหลักด้วยความโกรธสุดขีด ขณะที่เอวิตาลุกขึ้นยืนได้พอดี เตรียมจะวิ่งหนีแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่นแล้วผลักร่างบางจนชิดติดข้างฝา ออกแรงเอาคืนเธออีกด้วยการก้มลงจูบปากเล็กอีกครั้งอย่างรุนแรงกว่าเดิม “อื้อ ปละ...” เอวิตาดิ้นขลุกขลักด้วยความกลัวลนลานจนตัวสั่นไปหมด นาทีนี้เธอกลัวความบ้าคลั่งของโซลดอนมากเหลือเกิน ชายหนุ่มเหมือนโดนซาตานเข้าสิง ออกแรงกอดปล้ำเธอราวกับเธอไปทำให้เขาโกรธสักสิบชาติ เมื่อสอดลิ้นเข้าไปสำเร็จ มือกร้านข้างหนึ่งก็พยายามดึงทึ้งเสื้อผ้าของหญิงสาวออก มืออีกข้างก็กอบกำบีบเคล้นทรวงอกอิ่มอย่างจวบจ้วงรุนแรงตามไฟอารมณ์ที่กำลังลุกโชน จนเอวิตาต้องหวีดร้องออกมาอย่างหวาดผวา แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมาก็เป็นเพียงเสียงร้องอู้อี้เท่านั้น เพราะปากเล็กถูกปากร้อนๆครอบครองแนบสนิทจนแทบไม่มีโอกาสได้พักหายใจ “อ๊ะ...” สาวน้อยพยายามดิ้นรนสุดชีวิต และเมื่อได้โอกาสต่อสู้เธอก็สู้สุดใจ “โอ๊ย! ยัยบ้าเอ๊ย!” ตุ้บ! โซลดอนถูกกัดลิ้นจนรู้สึกได้ถึงความเค็มปะแล่มๆ เขารีบผลักหญิงสาวออกอย่างแรง ส่งผลให้ร่างเล็กซวนเซจนล้มลงศีรษะกระแทกขอบตู้อย่างแรง แต่ไม่มีเสียงร้องสักแอะเดียวจากเธอ ทุกอย่างดูเงียบงัน เห็นเพียงสาวน้อยยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับขมับเหนือคิ้วของตนเองอย่างสั่นๆ มีเลือดติดนิ้วมือออกมา แล้วสายตาตัดพ้อก็ช้อนมองคนใจร้ายด้วยความคาดไม่ถึง ว่าเขาจะโหดร้ายกับเธอถึงเพียงนี้ มีคำถามมากมายอยู่ในดวงตาหวานเศร้าของสาวน้อยที่อายุเพียงสิบเก้าปี ที่แอบหลงรักจอมมารร้ายอย่างเขามาตั้งแต่อายุได้เพียงสิบสี่ เธอไม่เคยเข้าใจสักครั้งว่าทำไมทั้งที่เขารังเกียจเธอถึงเพียงนี้ เขาร้ายกาจกับเธอถึงขนาดนี้ เธอยังไม่สามารถบอกใจตนเองให้เกลียดเขาได้เลย ทำได้เพียงแค่น้อยใจ ชั่ววูบหนึ่งที่ดวงตาคมกล้าของจอมมารร้ายอย่างโซลดอนไหววูบอ่อนแสงลง แต่ก็เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ดวงตาคมเข้มคู่นั้นก็กลับมาเย็นชาดังเดิม แล้วเจ้าของร่างสูงเกือบสองฟุตก็เดินจากไปอย่างไม่ไยดี เสียงปิดประตูดังปัง ทำให้ร่างเล็กที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้ง แล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาเป็นทาง แต่ถึงกระนั้นเอวิตาก็ไม่ได้โกรธคนที่ทำให้เธอเจ็บแสนเจ็บ เพราะมารดาบอกกับเธอเสมอว่า ครอบครัวของวิสเลอร์มีบุญคุณกับครอบครับของเธอมาก มากเสียจนชั่วชีวิตนี้พวกเธอสองแม่ลูกคงหาทางตอบแทนพวกเขาไม่หมด ‘แล้วทำไมพี่โซลดอนถึงได้เกลียดเอวี่มากขนาดนี้ล่ะคะแม่ เพราะอะไร?’ คำถามเดิมๆที่สาวน้อยเฝ้าถามมารดา และถามคนใจร้ายในใจ โดยที่ไม่มีใครอธิบายเหตุผลให้เธอฟังได้ มาจนถึงทุกวันนี้ “เอวี่” เสียงเรียกอ่อนโยนจากมารดาเรียกให้สาวน้อยหลุดออกจากภวังค์ แล้วหันมามองผู้หญิงคนหนึ่งที่แม้วัยจะล่วงเลยเข้าสู่เลขห้าสิบแล้วก็ยังดูสวยโสภา ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่รักเธอ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเธอมาโดยตลอด “มีอะไรคะแม่” “เอวี่ เดี๋ยวเย็นนี้แม่กับคุณคลินต์จะไปดินเนอร์ครบรอบงานวันแต่งงานของเรา เอวี่อยู่คนเดียวได้ไหมลูก” “ได้ค่ะแม่”

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook