ความเดิม- "พี่นิวคะ ใบตองอยู่นี่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เผยธาตุแท้ออกมาให้ใบตองกับเตี่ยได้เห็น แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ใบตองกับเตี่ยไม่รักพี่นิวได้ยังไงคะ" ณรรรดาพูดมันออกมาจากใจทั้งหมดโดยที่เสียงของเธอได้เล็ดลอดเข้าไปในสายที่มีบิดาของเธอฟังอยู่ในสายด้วย
……………………………………
"เอ่อ อะไรกัน อย่าล้อเล่นซิ พวกคุณเห็นผมเป็นยังไงเหรอ ผมเป็นห่วงคุณกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณแต่พวกคุณล้อเล่นกับความรู้สึกของผม พอกันที ป๋าเข่งผมขอคืนร้านขนมให้ป๋าเดี๋ยวนี้เลยนะครับ จะเสียค่าปรับหรืออะไรเท่าไรผมพร้อมยอมจ่าย ผมพอจะมีเงินเก็บบ้าง" นวนนท์บอกหน้าเคร่ง
"พี่นิวคะ ใบตองขอโทษ ใบตองแค่อยากจะหยั่งใจดูว่าพี่จะเป็นคนยังไง จะเห็นแก่เงิน อยากได้อยากมีเหมือนพี่อาร์มหรือเปล่า ก็เลย…" ณรรรดาอธิบายเสียงสั่น เธอเริ่มรู้สึกตัวเองแล้วว่าเธอแคร์ผู้ชายคนนี้แม้จะพบกันเพียงแค่ไม่กี่วัน
อีกด้านของผู้มาใหม่
"ป๋าขอโทษนะนิว คนที่ผิดคือป๋าเอง" เขมรัฐเอ่ยขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัว
"ผมคงไม่โกรธพวกคุณหรอกครับ แต่โลกของผมมันซื่อ ๆ ตรงไปตรงมา เราคงคนละทางกัน งั้นผมขออนุญาตพักผ่อนเสียทีนะครับ ผมอยากพักแล้ว" นวนนท์บอกไปตามความจริงแล้วเดินเข้าห้องไปอย่างไม่เหลียวหลัง ใครจะยังไงก็ทำไป เขาไม่สนเพราะตอนนี้อยากพักผ่อนมากที่สุด
ด้านณรรรดาที่ยืนอยู่หน้าห้องซึ่งเจ้าของห้องปิดประตูแล้วและเธอไม่สามารถเปิดประตูเข้าไปได้เพราะเป็นระบบความปลอดภัย จึงหันไปส่งสายตากับบิดา ด้านเขมรัฐเข้าใจสถานการณ์ดีจึงเอ่ยขึ้น
"เรากลับกันเถอะลุก พี่เค้าไม่สบายคงอยากพักผ่อนจริง ๆ แหละ ให้พี่เค้าพักเถอะนะ" เขมรัฐเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นกับลูกสาว
"แต่เตี่ยคะ พี่นิวยังไม่ได้กินยา ยังไม่ได้ล้างแผลเลย แผลก็เปียกน้ำ หนูกลัวว่าแผลจะอักเสบติดเชื้อนะซิ" ณรรรดาแย้งขึ้นแอบขมวดคิ้วอย่างรู้สึกกังวล แม้ว่าอาการนี้เป็นอาการที่เธอเกลียดที่สุดเพราะจะทำให้เกิดริ้วรอย แต่วันนี้เธออดไม่ไหวจริง ๆ
"ไปเถอะลูกสาว ถ้าใครรู้มันจะไม่งามนะลูก อย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าพี่เค้าเป็นคนดี เชื่อถือได้ และที่สำคัญทำขนมเป็น ทำกับข้าวก็เก่งกับแกล้มนี่อร่อยอย่างงี้เลย" ความจริงเขมรัฐอยากจะบอกลูกสาวต่ออีกว่าชงเหล้าก็อร่อยแต่กลัวลูกสาวเอาไปเล่าให้ศรีภรรยาฟังถ้านางรู้จะเป็นเรื่องเพราะนางจะซื้อเหล้าชั้นดีมาให้กระผมนั่งกรอกแล้วไม่ต้องกินข้าวขนมหรือผลไม้เลย อันนี้ก็ไม่ไหวนะ ดังนั้นต้องเงียบไว้ในประเด็นนี้
@บ้านพลผลาดล
สองพ่อลูกนั่งรถคันเดียวกันกลับบ้านโดยให้ลูกน้องขับรถของลูกสาวกลับ เมื่อถึงบ้านสองพ่อลูกก็ต้องแปลกใจที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวนั่งรอหน้าสลอนอยู่ก่อนแล้ว
"อยู่กันครบเลย แม่มีอะไรเหรอจ๊ะถึงได้มานั่งรอเตี่ยหน้าเป็นม้าหมากรุกอย่างนี้ พวกลูก ๆ ด้วย งานการไม่มีทำกันเหรอครับ" เขมรัฐพูดยิ้ม ๆ ใจดีสู้เสือไว้ก่อน
"นั่งลงเลยคุณเขมรัฐ มานั่งตรงนี้ ยัยใบตองด้วยมานั่งตรงนี้ข้างเตี่ยเธอเลย" วรรณดาเอ่ยเรียกสามีและลูกสาวตัวดีเสียงขรมน่าเกรงขาม
"เอ่อ…ครับแม่ มาแล้วครับ นั่งแล้วครับ/ มาแล้วค่ะแม่ นั่งแล้วค่ะ แฮร่.." สองพ่อลูกมานั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะอย่างว่าง่าย เพราะนางจัดเตรียมโต๊ะอาหารห้องให้ใหญ่ซึ่งปกติจะใช้ไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญ หรืองานเลี้ยงย่อม ๆ ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นห้องจัดเลี้ยงและห้องประชุมได้ (นางเล่นใหญ่)
"เอ่อ…แม่มีอะไรก็ว่ามาเถอะครับ เตี่ยรอฟังอยู่ เน๊าะลูกสาวเน๊าะ" เขมรัฐเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปอือออกับลูกสาวตัวดีเพื่อหาแนวร่วมกำลังเสริม แต่ดู ๆ ไปแนวร่วมจะไม่เวิร์คเสียแล้ว
"ได้ค่ะ เมื่อเตี่ยขอมา แม่ก็จะจัดให้ค่ะ ข้อที่หนึ่ง เตี่ยมีหน้าที่อะไรที่ต้องประเคนลูกสาวให้ชาวบ้านที่ไม่เคยรู้จักหัวนอนปลายเท้าคะ ข้อที่สอง เตี่ยให้นายบอดี้การ์ดนั่นเซ้งร้านขนมฟรี ๆ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเรื่องลูกสาวใช่มั๊ยคะ ข้อที่สาม เพราะแผนของเตี่ยกับนายนั่นใช่มั๊ยที่ทำให้ลูกสาวเกือบโดนรถชน ตอบค่า.." วรรณดาพูดหน้าเคร่ง
"เอ่อ..ตะ ตอบ ตอบแล้วค่ะ ข้อหนึ่ง ไม่มีหน้าที่ค่ะ ข้อทีสอง ใช่ค่ะเตี่ยให้นายนิวเซ้งร้านขนมฟรี ๆ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเรื่องลูกสาวคะ ข้อที่สามใช่ค่ะเพราะแผนที่จะทำให้ลูกสาวตาสว่างจากไอ้ปลิงนั่นทำให้ลูกสาวเสียใจเดินเช็ดน้ำตาจนไม่ระวังรถ แต่พอดีนายนิวเข้าช่วยไว้ทันจนเจ็บตัวเป็นแผลไข้ขึ้นอยู่ทุกวันนี้" เขมรัฐเอ่ยยอมรับผิดหน้าจ๋อย
"แล้วทำไมถึงไม่ดูแลคนที่ช่วยชีวิตลูกเรา ปล่อยให้เค้านอนเป็นไข้คนเดียวได้ยังไง ติดเชื้อหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ณัฐลูกต้องดูแลนายนิวนะ ไปตอนนี้เลย แม่ดูคลิปแล้ว นายคนนี้เซฟลูกสาวแม่มากยอมเจ็บเองถึงขนาดพลาดนิดเดียวตายแทนได้เลยนะนั่น" คุณนายวรรณดาดุสามีและสั่งลูกชายคนกลางเสียงขรม (เพราะลูกชายคนกลางเป็นแพทย์และบริหารโรงพยาบาล)
"อะ อ้าวไหงกลับลำแบบนี่ล่ะแม่ เตี่ยคิดว่าจะดุเตี่ยเสียอีก" เขมรัฐบ่นภรรยาเสี้ยงอ้อมแอ้ม
"เอ่อ ดะ ได้ครับแม่ เดี๋ยวนี้เลยเหรอครับ แต่เค้าอยู่คอนโดมีระบบเซฟตี้อยู่นะครับแม่" เขมณัฐแย่งมารดาเสียงอ่อย ๆ
"แม่ไม่รู้ รู้แต่ว่าต้องไปดูและ เผื่อนายนิวเป็นอะไรไปต้องมีคนรับผิดชอบ" คุณนายวรรณดาพูดจบก็สะบัดก้นเดินขึ้นห้องไป