โซ่ทองคล้องรัก 05

1818 Words
เขากับเธอคงกลายเป็นคู่จิ้นไปแล้ว ถึงว่ามารดาเขาถึงได้โกรธจนควันออกหู บางวันก็ด่าเขา บางวันก็งอนเขาเพราะข่าวไม่ซาสักที "น้องเพนนีเห็นป้ายไฟคู่ไหมคะ รู้ไหมว่าแฟนคลับเชียร์เยอะมาก" "เห็นป้ายไฟค่ะ ขอบคุณมากที่เชียร์ แต่ไม่รู้เลยว่าเชียร์คู่ ตอนนี้เพนนีทำงานเจ็ดวันไม่ได้หยุด ไม่ได้ตามข่าวเลยไม่รู้เลยว่าเป็นกระแสกันขนาดนั้น" "แล้วมีลุ้นไหมครับ มีข่าวลือเยอะอยู่นะว่าน้องเพนนีกับไวท์คบกัน" นักข่าวชายที่อาวุโสหน่อยเปิดคำถามที่ทุกคนรอฟัง "ข่าวลือมาจากไหนคะ อยากรู้ด้วยเหมือนกัน"​ หญิงสาวตอบเสียงเบา ดวงหน้าที่เห็นชัดว่ามีความอิดโรยเพราะแม้เครื่องสำอางจะปกปิดได้ แต่ตาแดงๆ ของเธอบอกชัดว่าไม่ได้พักผ่อนเต็มที่นัก "นั่นสิครับ" วฤทธิ์รับมุก "ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าปฏิเสธใช่ไหมคะว่าไม่ได้คบกัน" "ใช่ค่ะ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพิ่งมารู้จักกันช่วงที่มีข่าวนี่ล่ะค่ะ" หญิงสาวตอบ เอาจริงๆ แล้ว เป็นเรื่องจริงมากที่บอกไปอย่างนั้นเพราะก่อนนี้เขากับเธอแทบจะอยู่คนละวงโคจร ยังไม่ได้เคยได้ร่วมงานกันอย่างจริงจัง อีกอย่างถ้าเจอกันผ่านๆ เธอไม่ได้อยู่ในสายตาเขาแน่นอน "แล้วข่าวน้องเพนนีเลิกกับไฮโซอาร์มแล้วฝ่ายนั้นไปคบกับน้องลูกแก้วเพื่อนสนิทน้องเพนนีเอง น้องเพนนีว่ายังไงคะ" "เพนนีกับพี่อาร์มห่างกันมาพักหนึ่งแล้ว ตอนนี้เราตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้องกันค่ะ"​ หญิงสาวตอบหน้าเจื่อนๆ "แต่เรื่องพี่อาร์มไปสนิทกับเพื่อนเพนนี อันนี้ไม่รู้ค่ะ" นั่นอาจจะเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลก็ได้ เพราะว่าเพื่อนเธอคงบอกไปแล้วหากคนรักเก่าของเธอไปจีบอีกฝ่าย "แล้วน้องไวท์ล่ะคะ ตกใจกับข่าวไหม" "ก็ไม่นะครับ ผมชินกับข่าวแล้ว แต่ตกใจนิดหน่อยว่าคราวนี้ไม่ได้ลือว่าเป็นกิ๊ก แต่บอกว่าเป็นตัวจริงเลย แม่ผมยังถามว่ามีแฟนแล้วทำไมไม่บอกแม่ ผมยังงงอยู่ครับว่าแม่พูดถึงคนไหน ต้องมาอ่านข่าวอีกทีหนึ่งว่าพูดถึงใคร" เขาบอกยิ้มๆ "แต่สองคนนี้ดูเคมีเข้ากันมากเลยนะ แฟนคลับจิ้นหนักมาก" นอกจากแฟนคลับลุ้นเเล้วสื่อเองก็เชียร์เช่นกัน แต่คนที่ไม่เชียร์ก็คือครอบครัวทั้งสองฝ่าย ดูเหมือนคนนอกจะไม่รู้ว่าปัญหาระหว่างครอบครัวเขากับเธอมันร้าวลึกแค่ไหน "ว้าย น้องเพนนี" เสียงนักข่าวที่ยืนข้างปทิตาร้องขึ้น วฤทธิ์หันไปมอง และทันคว้าคนที่เกือบจะร่วงผล็อยลงไปกองกับพื้นได้ทัน เขาเลิกคิ้วอย่างงุนงง อากาศร้อนๆ กองทัพนักข่าวที่รุมจนแทบไม่มีที่ให้ลมพัดผ่านกับการพักผ่อนน้อยของเธอเป็นเหตุผลพอที่เธอจะเป็นลม แต่จะเป็นลมตรงนี้มันจะมารยาสาไถยไปหน่อยหรือเปล่า หรือว่านี่เป็นบทที่เธอต้องการกันแน่ เขาต้องเล่นตามน้ำไปสินะ ชายหนุ่มช้อนอุ้มเธอ พร้อมบอกขอทาง เพื่อพาเธอไปปฐมพยาบาลด้วยท่าทางเป็นห่วงมากกว่าปรกติ สีหน้าเป็นกังวลนั้นไม่ใช่ปัญหาที่นักแสดงตุ๊กตาทองอย่างเขาจะแสดงออกไม่ได้ ผู้หญิงท่าทางซื่อๆ เรียบร้อยแต่เบื้องหลังร้าย เขาจะลองเล่นกับเธอดูสักตั้ง ท่าจะสนุก งานนี้ขอขัดใจแม่หน่อยก็แล้วกัน! กริ๊งงงง สายเรียกเข้าที่เห็นชื่ออยู่บนหน้าจอก็ต้องขยาด แม้ตัวบิดาจะไปดำเนินธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ข่าวของเธอกับวฤทธิ์ที่ว่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ตตอนนี้คงเข้าถึงหูท่านแล้วแน่นอน ท่านถึงได้โทรต่อสายตรงหาเธอเลย ปทิตาทำท่าลังเลก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย "ค่ะพ่อ" "พ่อได้ยินข่าวว่าเป็นลมกลางวงสัมภาษณ์" "ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะพ่อ แค่เพลียเพราะว่าทำงานหนักไป" "ตอนนี้ลดตารางงานบ้างก็ได้นะเพนนี ทุนก้อนที่ได้มาล่าสุด พ่อเอามาต่อยอดได้แล้วรับรองว่าไม่มีปัญหาจนต้องลำบากหนูกับพิมพ์ดาวอีก" "ไม่เป็นไรค่ะพ่อ ตอนนี้เพนนียังไหวอยู่" หญิงสาวยิ้มน้อยๆ บิดายังคงห่วงใยเธอ ท่านรักและทะนุถนอมเธอเหมือนไข่ในหิน แม้บางทีท่านจะเครียดเรื่องธุรกิจแต่ก็ไม่ได้กดดันว่าเธอต้องช่วยเป็นเธอกับน้าพิมพ์ดาวเองต่างหากที่พยายามช่วยท่านถ้าไม่นับเรื่องที่ท่านโกรธเพราะมีข่าวกับศัตรูของครอบครัว เธอคงไม่โดนบิดาต่อว่าใดๆ อีก "เรื่องข่าวกับลูกชายบ้านทิตตาภา" ปทิตากลั้นหายใจ อาการเหมือนจะเป็นลมที่เพิ่งหายไปเหมือนจะเกิดขึ้นมาอีกรอบ "พ่อคะ เรื่องนั้น ไม่ต้องห่วงนะคะ มันไม่มีอะไร วันนี้แค่ทำงานด้วยกันแล้วหนูก็เป็นลมเพราะทำงานเยอะเกินไปแค่นั้นเอง นักข่าวเอาไปโยงว่าท้องกับเขาได้ยังไงไม่รู้" หญิงสาวรีบบอกไป เสียงบิดาถอนหายใจ "ลูกก็รู้ว่าพ่อเตือนแต่แรกแล้วว่าไม่อยากให้ไปยุ่งกับบ้านนั้น" บิดาบอกเสียงเข้มขึ้น "บ้านนั้นมันเพี้ยนทั้งบ้าน เชื่อสิว่าข่าวนี่เขาต้องกล่าวหาว่าลูกเป็นคนกุขึ้นมา เพราะอยากเป็นข่าวกับเขา พวกทิตตาภาไม่เคยเห็นความผิดของตนเอง เอาแต่กล่าวหา เท่านั้นไม่พอยังชอบทำลาย ถ้าหลงเข้าไปปะทะด้วยจบไม่สวยหรอก พ่อถึงไม่อยากให้ไปยุ่งด้วยไง นี่ทำไมยังไปทำงานร่วมกัน พ่อเคยย้ำน้าพิมพ์แล้วแท้ๆ ว่าถึงจะอยู่ในวงการเดียวกันแต่ก็ต้องเลือกงาน ห้ามร่วมงานกัน คนบ้านนั้นลูกไม่ควรไปเฉียดด้วยซ้ำ ทำไมไม่รู้จักฟังพ่อ" ถึงแม้บิดาจะเดาได้ถูกว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน รวมทั้งข่าวที่กระหน่ำถาโถมเข้ามาราวกับโดนแกล้งนี้เธอจะโดนกล่าวหาว่าไปเกาะเขาดัง แต่เธอก็ไม่กล้าบอกว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างนั้น ขืนบอกไปว่าเขาดูถูกลูกสาวของพ่อขนาดไหน พ่อควันออกหูแน่ "คราวนี้ไม่มีอีกแล้วค่ะพ่อ เพนนีขอโทษนะคะ" หญิงสาวบอกเสียงหวิวๆ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม แม้จะนั่งอยู่ในรถที่อากาศถ่ายเทดี "โอเค พ่อจะไม่ไล่บี้กับเราเพราะเห็นว่าเราไม่สบาย แต่กลับไทยไปเมื่อไหร่ น้าพิมพ์ดาวต้องคุยกับพ่อยาวแล้วล่ะ เรื่องรับงานอะไรนี่" "โธ่ พ่อคะ ให้มันจบเถอะค่ะ แค่นี้ก็ต้องปวดหัวคอยแก้ข่าวจะแย่แล้ว สงสารน้าพิมพ์เถอะค่ะ เราสองคนสัญญาว่าข่าวนี้จะไม่มีอีกแน่นอน" เธอบอกไปอย่างนั้นบิดาจึงค่อยวางสายไป หญิงสาวหยิบน้ำดื่มผสมวิตามินรสส้มที่มีวางทิ้งไว้ในรถตู้ออกมาดื่มให้ใจเย็นลง นาทีที่วฤทธิ์ที่อุ้มเธอตอนเป็นลมแล้วมาวางแหมะที่จุดปฐมพยาบาล เธอเห็นสายตาเขาชัดว่ามันเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาคงหาว่าเธอแกล้งทำ แต่เขาก็ไม่พูดอะไรเพราะมีโอกาส เนื่องจากมีคนมากมายมารายล้อมดูแลจนเธอดีขึ้นและขึ้นรถตู้เพื่อจะไปทำงานต่ออีกห้างสรรพสินค้าหนึ่ง ตอนนี้เขาคงรู้พร้อมๆ กับหล่อนแล้วว่าภาพที่เขาอุ้มหล่อนนั้นถูกตีความไปในทางใด กริ๊งงงง เสียงโทรศัพท์ดังอีกรอบ ปทิตามองพิมพ์ดาวที่นั่งข้างหน้าเธอ คอยรับสายจากสำนักข่าวต่างๆ และตอบคำถามให้ หญิงสาวหยิบมารับสายเอง ทั้งที่ตอนแรกว่าจะให้พิมพ์ดาวคุยให้แต่อีกฝ่ายไม่ว่าง "ไง... ตกลงว่าไปฝากครรภ์หรือยัง" เสียงถามห้าวๆ ทำให้นึกถึงแววตาของเขาได้เลย ปทิตาถอนหายใจ "จะโทรมาบอกว่าฉันสร้างข่าวขึ้นมาอีกหรือเปล่า" เสียงปลายสายหัวเราะ "ก็ตั้งใจให้มันเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือไง ผมเห็นใจเลยช่วยแสดงด้วยอย่างสมบทบาทดีเลย อีกหน่อยคงมีข่าวคุณไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์ ผมต้องให้สัมภาษณ์ว่าไงดีล่ะ" "หยุดกล่าวหาฉันนะคะ ฉันเป็นลมเพราะทำงานหนัก คนเขาตีความกันไปเองทั้งนั้น" "แล้วที่ทำเป็นอาเจียนเหม็นไข่เจียวชะอมในห้องแต่งตัว จนช่างแต่งหน้าเอาไปพูดยืนยันว่าคุณมีแววท้องจริงนั่นล่ะ เป็นการจงใจทำให้ตีความไปแบบนั้นหรือเปล่า" "นี่คุณ ฉันอาเจียนเพราะว่าเหม็นจริงๆ ไม่ชอบมาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย ไม่ได้เพิ่งมาเป็นตอนนี้" เธอเถียงกลับไปด้วยเสียงที่ดังขึ้นจนพิมพ์ดาวหันกลับมามอง "อ้อ..." เสียตอบรับเสียงเยาะ แล้วแต่จะแก้ตัว พูดอะไรก็ฟังไม่ขึ้นสักอย่างเพราะว่าสิ่งที่คุณทำตรงกันข้ามกับคำพูดอยู่ตลอด... แต่คราวนี้ผมบอกเลยว่าอยากเล่นกับผม อยากมีข่าวกับผมก็ไม่ขัดศรัทธา เตรียมรับมือไว้ก็แล้วกัน" เขาขู่มาตามสาย คนที่นั่งฟังอยู่ปลายสายนิ่วหน้า จนสายตัดไปนั่นล่ะ หญิงสาวถึงได้วางโทรศัพท์มือถือลง ดวงหน้าสวยมีแววเหนื่อยหน่ายกับทุกอย่างที่กำลังเกิด สถานการณ์ของบ้านที่แย่ การทำงานที่เหนื่อยหนัก ต้องตื่นขึ้นมาบนเตียงกับผู้ชายที่ไม่ใช่คนรัก หนำซ้ำทุกอย่างยังถูกป่าวประกาศจนรู้ทั่วกระหน่ำซ้ำเติมเข้ามาอีก ไม่ใช่ว่าเธอไม่เหนื่อย แต่เท่านั้นยังไม่พอเธอยังถูกกล่าวหาจากเขาว่าเป็นคนสร้างข่าวขึ้นมาเอง หญิงสาวเองยังอยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่ทำให้เป็นข่าวขึ้นมาเพราะตอนรู้กันก็รู้สองคนและต่างคนต่างแยกย้ายกันไปเงียบๆ แต่ที่แน่ๆ เธอคิดว่าฝั่งวฤทธิ์ไม่ได้เป็นคนพูดแน่นอนเพราะว่าเขายังกล่าวหาเธอและโกรธเคืองจนเป็นฝ่ายมาหาเรื่องเธอเพราะว่าคิดว่าเธอเป็นคนปล่อยข่าว... หญิงสาวถอนหายใจยาวๆ ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่วฤทธิ์ แล้วใครกันนะที่เป็นผู้ไม่หวังดีคนนั้น...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD