หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
"ให้พ่อออกจากที่นี่เถอะ" เสียงอภิชาติที่อาการเริ่มดีขึ้นแล้วจากการรักษาของโรงพยาบาลใหม่เอ่ยกับลูกสาวเพียงคนเดียว ซัมมายด์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้ายู่ถามคนเป็นพ่อ
"ทำไมล่ะคะ"
"ที่นี่มันแพง"
"ซัมไหวค่ะพ่อ ดูสิ...อาการพ่อดีขึ้นมาจริง ๆ”
"แต่..."
"ตอนที่พ่อดูแลซัม พ่อยังไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยเลย ตอนนี้ถึงซัมจะต้องมาดูแลพ่อ ซัมก็ไม่เหนื่อยค่ะ ซัมไหว ซัมหาได้"
"..." อภิชาติก็นอนบนเตียงผู้ป่วยนิ่งจ้องมองยังใบหน้าใสของคนเป็นลูกด้วยความสงสารไม่อยากให้ลูกสาวต้องลำบาก โดยซัมมายด์ที่เห็นสายตาของคนเป็นพ่อก็ค่อย ๆ เคลื่อนมือเข้าไปจับมือแกร่งเข้ามากอบกุม
"อย่ารู้สึกผิดหรืออะไรเลยนะคะ ซัมไหวจริง ๆ เพื่อพ่อ...ซัมทำได้ทุกอย่าง"
"พ่อไม่อยากให้ซัมเหนื่อย"
"ซัมยินดีค่ะ ถ้าพ่อไม่อยากให้ซัมเหนื่อย ก็สัญญากับซัมนะ ว่าจะไม่คิดมาก และรีบหายกลับมาดูแลซัมเหมือนเดิม"
"..." ชายวัยกลางคนก็นอนนิ่งเม้มปากแน่นน้ำตาคลอ ซัมมายด์ที่เห็นแบบนั้นก็น้ำตาคลอไม่ต่าง เพราะทั้งสองเหลือเพียงแค่กันและกัน คนตัวเล็กจึงทำใจไม่ได้หากจะต้องสูญเสียพ่อผู้เป็นทุกอย่างไป
"เดี๋ยวซัมจะลงไปซื้อของ พ่ออยากได้อะไรไหมคะ"
"ของที่พ่ออยากได้ มันเป็นของที่หมอห้ามหมดเลย"
"ฮ่า ๆ ถ้าแบบนั้น ห้ามค่ะ...เดี๋ยวซัมมานะ" เจ้าของใบหน้ายิ้มหวานบอกคนเป็นพ่อ
"อืม" อภิชาติก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินออกไป ทว่าขณะที่กำลังเดินออกจากห้องผู้ป่วย
"สวัสดีค่ะ ญาติของคุณอภิชาติใช่ไหมคะ" เสียงพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาเอ่ยถามหญิงสาว
"ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" ซัมมายด์ยิ้มหวานตอบ
"เรียนเชิญที่ห้องการเงินหน่อยได้ไหมคะ" ทันทีที่พยาบาลสาวพูดจบ ซัมมายด์ก็ชะงักไปเล็กน้อย
"ค่ะ" เรียวปากเล็กตอบกลับพลางเดินตามพยาบาลสาวไป โดยทันทีที่ไปถึงบริเวณหน้าห้องการเงิน ก็มีพยาบาลวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่
"ญาติคุณอภิชาติค่ะพี่นภา"
"อืม" พยาบาลคนนั้นพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันกลับมาพูดคุยกับซัมมายด์ด้วยท่าทีนอบน้อม
"สวัสดีค่ะญาติคนไข้ พอดีทางเราจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับค่ารักษาของคุณอภิชาติค่ะ"
"อ๋อค่ะ"
"รบกวนญาติคนไข้ลองเช็กดูค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ก่อนนะคะ" พูดจบ พยาบาลวัยกลางคนก็ยื่นใบเอกสารให้กับร่างเล็กที่ยืนอยู่ ซัมมายด์ก็หยิบเข้ามามองดูรายละเอียดต่าง ๆ ด้วยสีหน้าเริ่มไม่สู้ดี
"สะ...แสนกว่าแล้วเหรอคะ"
"ใช่ค่ะ เป็นค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดแล้ว เนื่องจากคุณอภิชาติจำเป็นต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รวมถึงวินิจฉัยโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ทำให้ค่าใช้จ่ายจะค่อนข้างสูงค่ะ"
"..." ซัมมายด์ก็นิ่งเริ่มเม้มปากแน่น พยาบาลวัยกลางคนที่เห็นจึงเอ่ยต่อตามหน้าที่
"ในส่วนของค่าใช้จ่ายงวดแรก ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องให้ทางญาติชำระใบเสร็จแรกให้หมดก่อน หลังจากนั้นถึงจะสามารถแบ่งเป็นงวด ๆ ได้ค่ะ"
"คือ...ต้องจ่ายแสนกว่านี้ก่อนเหรอคะ"
"ค่ะ ภายในสามวัน"
"สามวันเหรอคะ"
"..." พยาบาลวัยกลางคนก็พยักหน้าตอบกลับพร้อมกับพยายามมองไปทางอื่นด้วยความรู้สึกเห็นใจร่างเล็กตรงหน้าอยู่ไม่น้อย
"แล้วถ้าภายในสามวัน หาไม่ทันล่ะคะ"
"ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องเชิญคนไข้ออก และไม่สามารถรักษาต่อหรือส่งตัวกลับให้ได้ค่ะ จนกว่าทางญาติจะชำระทั้งหมด" คนตัวเล็กที่ได้ยินแบบนั้นก็ก้มหน้าแสดงความอยากร้องไห้ออกมากับความไร้หนทางของตัวเอง
"มากกว่าสามวันนี้ไม่ได้เหรอคะ"
"ไม่ได้จริง ๆ ค่ะญาติคนไข้ มันเป็นนโยบายของโรงพยาบาล"
"..." ซัมมายด์ก็นิ่งคิดไม่ตก โดยในตอนนั้นเอง ดวงตาสวยก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังจะเดินผ่านไปเข้าพอดี ใบหน้าใสค่อย ๆ ชะงักไปก่อนจะนึกอะไรขึ้นมา
"จอร์แดน..." เสียงหวานพึมพำชื่อของชายในชุดกาวน์ที่กำลังจะเดินผ่านไป พยาบาลวัยกลางคนที่ได้ยินก็หันถามร่างเล็ก
"รู้จักคุณหมอจอร์แดนด้วยเหรอคะ"
"เอ่อ...ค่ะ" ว่าแล้ว ซัมมายด์ที่ตอนนี้ไร้หนทางทุกอย่างก็ไม่รอช้าที่จะรีบวิ่งเข้าไปขวางร่างสูงที่กำลังเดินอยู่
ตึก
จอร์แดนก็ชะงักฝีเท้าจ้องมองร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ
"จะ...จอร์แดน"
"..." ร่างสูงก็นิ่งไม่พูดหรือตอบกลับ ดวงตาคมกริบยังคงจ้องมองซัมมายด์นิ่งผ่านแว่นตาราคาแพง
"ระ...เราขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม" เจ้าของใบหน้าใสตัดสินใจเอ่ย ทว่านักศึกษาแพทย์หนุ่มก็เงียบไม่ตอบ ทำท่าจะเดินหนีออกไปด้วยความไม่สนใจ ทว่า...
หมับ
มือเล็กเคลื่อนเข้าไปคว้ายังแขนหนาด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ ปนขอร้อง
"นะจอร์แดน..." สิ้นเสียงหวานร้องขอ ดวงตาคมก็ยังคงจ้องมองคนที่อยู่ตรงหน้าอยู่อย่างนั้น ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
"ตามมา" พูดจบ คนตัวสูงก็เดินนำออกไปยังห้องตรวจของตัวเองในทันที ซัมมายด์ที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่รีรอที่จะรีบเดินตามนักศึกษาแพทย์หนุ่มผู้เป็นลูกชายคนเล็กของโรงพยาบาลแห่งนี้ไป
ตึก
ตึก...
ปึง
ทันทีที่เสียงประตูห้องตรวจถูกปิดลง จอร์แดนก็เดินเข้าไปนั่งยังที่นั่งประจำของตัวเอง โดยซัมมายด์ที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าไปนั่งลงยังที่นั่งตรงข้ามกับนักศึกษาแพทย์หนุ่ม
"มีอะไร" เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยใบหน้านิ่งเรียบตามประสา ร่างเล็กที่ได้ยินก็รู้สึกเกร็งอยู่ไม่น้อย ทว่าความเป็นห่วงการรักษาของพ่อนั้นมีมากกว่า
"พะ...พอดีเรามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาพ่อเรา"
"แล้วยังไง"
"คะ...คือว่า พี่พยาบาลเขาบอกว่าจะต้องจ่ายเต็มจำนวนในใบเสร็จแรก แต่ว่าเรา...คือเรามีเงินไม่พอ เราเลยอยากจะขอ..."
"ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่การเงิน"
"เรารู้ แต่ว่า..."
"...เราขอพูดตรง ๆ เลยแล้วกัน ช่วยเราหน่อยได้ไหมจอร์แดน เรารู้ว่าจอร์แดนเป็นลูกเจ้าของที่นี่ เราสัญญานะว่าจะไม่หนี ไม่หายไปไหนแน่นอน"
"..." ร่างสูงก็นิ่ง
"เราขอร้องนะจอร์แดน เราขอร้อง..."
"มันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน" ปากหนาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางทำท่าไม่สนใจไยดีในปัญหาของคนตรงหน้าแม้แต่น้อย ซัมมายด์ที่เห็นก็รู้สึกเจ็บปวดแต่ก็ยังคงพยายามที่จะทำทุกวิถีทาง
"เราขอร้องนะจอร์แดน ขอร้องจริง ๆ ช่วยเราหน่อยได้ไหม เรามีพ่อแค่คนเดียว..."
"นั่นมันก็เรื่องของเธอ"
"จอร์แดน..."
"ออกจากห้องฉันไป" คนตัวสูงเอ่ยบอกด้วยสีหน้าราบเรียบ
"..." ซัมมายด์ก็ส่ายหน้าตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ จอร์แดนที่เห็นจึงจ้องมองใบหน้าเล็กนิ่ง
"ออกไป"
"มะ...ไม่ ฮึก จอร์แดน เราขอร้องละนะ ช่วยเราสักครั้งได้ไหม"
"..."
"จอร์แดน..."
"ฉันไม่ชอบช่วยอะไรใครฟรี ๆ”
"ฮ...ฮะ? อ๋อ...ได้สิ จอร์แดนอยากให้เราทำอะไร เราพร้อมทำให้ทุกอย่างเลยนะ"
"ทุกอย่างเลยงั้นเหรอ"
"อื้ม! ทุกอย่างเลย" เมื่อเห็นว่าเริ่มมีหนทาง ร่างบางก็ไม่รอช้าที่จะรีบพยักหน้าตอบกลับคว้าโอกาสนั้นไว้ คนตัวสูงที่เห็นท่าทีของคนตรงหน้าก็นิ่ง
"งั้นพรุ่งนี้มาหาฉันที่คอนโด"
"หื้อ??"
"ถ้าอยากให้พ่อเธอได้รักษาต่อ ก็มา"
"ได้สิ เราจะไป..."
"...ว่าแต่คอนโดจอร์แดนอยู่ที่ไหนเหรอ"
"ที่เดิม" ทันทีที่เรียวปากหนาตอบกลับมา เจ้าของใบหน้าใสก็ชะงักไปเล็กน้อย คำว่าที่เดิมของเขา หมายถึงคอนโดเขาที่เธอเองก็เคยไปมาอยู่หลายครั้งสินะ
"อื้ม ให้เราไปกี่โมงดี"
"สิบโมงเช้า"
"โอเค..."
"รหัสเดิม" อยู่ ๆ นักศึกษาแพทย์หนุ่มก็เอ่ยออกมา ทำเอาร่างเล็กที่ได้ยินชะงัก
"ถ้ามาถึง ก็กดรหัสนั้น" สิ้นเสียงทุ้มนิ่งบอก ซัมมายด์ก็พยักหน้าตอบกลับหลังจากที่ได้สติ
"อะ...อ๋อ อื้ม"
"ออกไปได้" เจ้าของใบหน้าหล่อบอก คนตัวเล็กก็พยักหน้ารับรู้ แต่ก็ไม่วายที่จะหันถามคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
"แปลว่าเราไม่ต้องจ่ายภายในสามวันแล้วใช่ไหม พ่อเราจะยังคงรักษาที่นี่ต่อได้ใช่ไหม"
"อืม ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ค่อยคุยวันพรุ่งนี้"
"ดะ...ได้สิ แล้วเจอกันนะ"
"..." หมอหนุ่มก็เงียบไม่ตอบหันหน้าหนีไปอีกทางด้วยสีหน้าราบเรียบถือเป็นการตกลงนัย ๆ ซัมมายด์ที่รู้ในท่าทีพวกนั้นก็พยักหน้าด้วยความโล่งใจก่อนจะค่อย ๆ สาวเท้าเดินออกจากห้องตรวจไปด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนจากที่ดูโอเคในตอนแรกกลับเต็มไปด้วยความเศร้าหมองเหม่อลอย