บท3เด็กเสี่ย

1704 Words
ดวงตาคู่สวยค่อยๆ ลืมขึ้นเมื่อโดนแสงสว่างที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา ลมหายใจอุ่นรดต้นคอทำเอาหญิงสาวเสียวสันหลังวาบ ใบหน้าหล่อแสนดุอยู่ห่างกับเธอแค่คืบเดียว ทิวารีบผลักคนตรงหน้าให้ออกห่างด้วยความตกใจ ก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมกายเอาไว้ด้วยความหวาดระแวง “เป็นบ้าอะไรของเธอ” “นายมานอนกอดฉันทำไม!” พันแสงยกมือขึ้นขยี้เส้นผมดกดำของตัวเองด้วยความหัวเสียเมื่อโดนรบกวนจากการนอน เขาปรายตามองร่างเล็กบนเตียงอย่างคาดโทษ “แค่นอนกอด ทำอย่างกับฉันจะปล้ำเธอ” “ลองมาปล้ำฉันดูสิ” “ลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันจะจับเธอแก้ผ้าตรงนี้เลยก็ยังได้” ทิวารีบลุกจากเตียงนอนโดยในทันที แต่ทว่ามือของเธอกลับถูกกระชากลงมาอย่างรุนแรงจนร่างบอบบางถลาล้มตัวลงนอนทับชายหนุ่ม ใบหน้าสวยซบอยู่บนหน้าอกกำยำที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ “ปล่อยนะ!” “ปรนเปรอฉันให้คุ้มกับเงินห้าแสนหน่อย” ริมฝีปากหยักเลื่อนขึ้นไปจูบตามลำคอขาวเนียน ใช้จมูกปัดป่ายสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ประจำกายจนหญิงสาวแขนขนลุกซู่ เรี่ยวแรงที่มีกลับสูญหายไปหมดเมื่อโดนสัมผัสจากมาเฟียหนุ่ม “จะให้ฉันทำหรือเธอจะทำเอง” “สายแล้ว ฉันจะไปมหาลัย” ทิวารีบยกเหตุผลมาอ้างเพื่อเอาตัวรอด ขยับตัวเพื่อหลีกหนีก็ไม่เป็นผลเมื่อถูกชายหนุ่มรั้งร่างเอาไว้แน่น เขายื่นใบหน้าขึ้นมากระซิบข้างใบหูเล็ก “ทำให้ฉันพอใจเดี๋ยวจะปล่อย” พูดจบพันแสงก็นอนลงบนหมอนใบใหญ่ ใช้มือทั้งสองข้างยกขึ้นดันท้ายทอยเอาไว้เพื่อมองดูผู้หญิงของตัวเองด้วยแววตาคมกริบ มือเรียวค่อยๆ เอื้อมไปถอดกระดุมเสื้อนอนสีทึบออกช้าๆ ด้วยมือสั่นเทา แผงอกกำยำที่มีรอยสักมังกรปรากฏขึ้นทำเอาหญิงสาวอดสงสัยไม่ได้ นิ้วเรียวทั้งห้าลูบสัมผัสอย่างลืมตัว “มังกรเหรอ ใหญ่จัง” ชายหนุ่มครางออกมาแผ่วเบา หลังถูกหญิงสาวใช้มือลูบสัมผัสเนื้อตัวเขาไปมา คำพูดที่ไร้เดียงสาอดทำให้ริมฝีปากหยักยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “ตรงนี้ใหญ่กว่า” ทิวาต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมาเฟียหนุ่มจับมือของเธอไปแตะต้องลงใจกลางชายที่แข็งขึง มันใหญ่จนต้องรีบชักมือกลับ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย “ขี้โม้” “หึ กล้าท้าทาย?” หญิงสาวไม่ตอบแต่ก้มลงจูบสัมผัสที่ลำคอขาวเพื่อทำให้เขาพอใจแล้วรีบปล่อยเธอ ใช้ฟันขาวขบเม้นเบาๆ อย่างนึกหมั่นไส้ แต่สร้างความเสียวซ่านให้ชายหนุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “พอใจหรือยัง” “แค่จูบลำคอเนี้ยนะ” “ต้องการอะไรอีก” “สัมผัสตัวฉัน ทุกส่วนของร่างกาย” ดวงตาคู่คมมองไล่ระดับเรือนร่างกำยำของตัวเองจนไปหยุดที่ส่วนนั้น เน้นย้ำมันเพื่อให้คนตัวเล็กช่วยปรนเปรอปลดปล่อยอารมณ์หื่นกระหายที่เธอเป็นคนก่อมันขึ้นมา “ไม่เอา” “ทำเดี๋ยวนี้!” ทิวาจำยอมต้องก้มลงไปสัมผัสเนื้อตัวมาเฟียหนุ่มอีกครั้ง ดวงตากลมโตมองหน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเรียงตัวสวย เสียงครางของชายหนุ่มดังถี่ขึ้นเมื่อเธอใช้ลิ้นร้อนแตะสัมผัส หญิงสาวหลับตาสนิทด้วยความกลัวและอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี ทิวาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะใช้มือลูบคลำ 'ไอ้เจ้ามังกรใหญ่' ตรงส่วนนั้น “อ่า สัมผัสมันสิ” “ยี๋! มันใหญ่ขึ้นน่าเกลียดที่สุด” น้ำเสียงหวาดกลัวพร้อมคำพูดสำทับทำเอาชายหนุ่มหมดอารมณ์ขึ้นมาทันที พันแสงลืมตาจ้องเขม็งคนที่ทำหน้ารังเกียจลูกชายของรักของหวงจนต้องพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “เธอแม่ง! โคตรหมดอารมณ์เลย” ทิวารีบอาศัยจังหวะทีเผลอลุกจากตัวชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นโอกาส ก่อนจะรีบวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ “ให้เวลาเธอสามสิบนาที อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย” “เวลาเที่ยงตรงผมจะมารอคุณทิวาตรงนี้นะครับ” เสียงเอดีสมือขวาคนสนิทของมาเฟียหนุ่มบอกกล่าวผู้หญิงของเจ้านาย รีบเดินลงมาเปิดประตูให้หญิงสาวหลังถึงตึกอาคารเรียน “ค่ะคุณเอดีส” ร่างเล็กหันไปหยิบกระเป๋าและสัมภาระอื่นมาถือไว้ ก่อนจะก้าวลงจากรถหรูสีดำราคาหลายสิบล้าน เสียงฮือฮาของเหล่านักศึกษาในบริเวณดังขึ้นพร้อมต่างหันมามองอย่างสนใจ “นางทิวา! แกเป็นเด็กเสี่ยเหรอ” ทันทีที่นั่งลงบนเก้าอี้ในห้องเรียน เพื่อนสนิทร่างท้วมอย่าง 'ชบา' ก็ถามขึ้นรัวเร็วด้วยความสงสัย พลิกร่างบอบบางให้หันมาสบตาอย่างจับผิด “เอามาจากไหน” “ก็ตอนนี้ในคณะลือกันเต็มไปหมดว่าแกมีเสี่ยเลี้ยง” “แค่เห็นฉันลงจากรถหรูนะเหรอถึงได้คิดว่าเป็นเด็กเสี่ย!” “ก็เออนะสิ โน่นไงคนปล่อยข่าวแก” ทิวารีบตวัดตามองศัตรูคู่แค้นตัวต้นเรื่องที่ไปปล่อยข่าวเสียหาย เพียงเพราะแฟนตัวเองมาจีบเธอ ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้เล่นด้วยนับวันยิ่งเหมือนคนบ้าที่คอยตามหาเรื่องไม่เว้นแต่ล่ะวัน “ไปพูดอะไร!” คนตัวเล็กรีบเดินดุ่มเข้าไปอย่างหาเรื่อง ก่อนจะผลักร่างบางของ ‘แคท’ จนกระแทกผนังห้อง จ้องมองด้วยแววตาเดือดดาลของความโกรธเคืองไม่ใช่น้อย “โอ๊ย! บ้าไปแล้วเหรออีทิวา” “แกนะสิบ้าอีแคท! ปากมีปัญหาอะไรมากหรือไงถึงเอาแต่พูดเรื่องคนอื่น!” “อ้อ เรื่องที่แกเป็นเด็กเสี่ย แล้วมันจริงไม่ใช่เหรอ” “แกมานอนอยู่ใต้เตียงตอนเสี่ยเอาฉันหรือไง ถึงรู้ดีอย่างกับหมาแบบนี้” “อีทิวา!” ทิวากอดอกมองคนตรงหน้าที่ยกมือขึ้นหมายจะตบเธอ ก่อนจะหรี่ตามองเพื่อนสนิทอย่างชบาร่างใหญ่ที่ยืนยกหมัดหนักๆ ขึ้นมาขู่ “ลองตบเพื่อนกูดูสิ เจอสวนหมัดแน่” “ทีหลังเวลาจะพูดอะไรหัดใช้สมองโง่ๆ ของแกคิดบ้าง ส่วนเรื่องที่ว่าฉันเป็นเด็กเสี่ยหนิ ขอปฏิเสธนะ” หญิงสาวเชิดหน้าพูดอย่างไม่เกรงกลัว ใบหน้าคลี่รอยยิ้มปลอมๆ ออกมา พร้อมค่อยเดินดุ่มๆ เข้าไปหาเรื่องศัตรูคู่แค้นที่ยืนหัวหดชิดผนังห้องเรียน “เพราะผู้ชายที่เลี้ยงฉันเขาไม่ใช่เสี่ยแต่เป็นมาเฟีย ถ้าอยากจะกินลูกปืนว่าที่ผัวฉันในอนาคตก็ลองดู” “แกขู่ฉันเหรอ” “หึ ถ้ากล้ามาป่าวประกาศเรื่องของฉันอีกละก็แกได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแน่ จะบอกไว้ให้นะในตอนนี้เขาหลงฉันมาก พูดอะไรไปคงยอมทำให้ทุกอย่าง” ทิวาพูดโกหกตาใสออกไป ยกมาเฟียหนุ่มมาอ้างเพื่อขู่คนตรงหน้า ยิ่งได้เห็นใบหน้าซีดเผือดมีความหวาดกลัวขึ้นมาจนปกปิดไว้แทบไม่มิดก็สะใจไม่ใช่น้อย “ไม่อายปาก คิดว่าตัวเองดีเลิศมากหรือไง ก็แค่ผู้หญิงขายตัว!” “จ้า ไม่มีใครดีเท่าแม่มึงกับมึงแล้วแหละอีแคท!” “ฮ่าๆ กูชอบทิวา” ชบาเอ่ยชมพร้อมระเบิดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ รวมไปถึงเพื่อนในคลาสเรียนที่ต่างมายืนล้อมดูเหตุการณ์ต่างพากันขำเสียงดังลั่น “กรี๊ด อีบ้า!” “ชบาเดี๋ยววันนี้ตอนเที่ยงกูเลี้ยงข้าวมึงเอง เพราะเมื่อคืนแค่กูตกลงเป็นผู้หญิงของเขาก็ได้มาห้าแสน” รีบหยิบแผ่นกระดาษเช็คเงินมูลค่าสูงในกระเป๋าขึ้นมาโชว์ พร้อมคำพูดสำทับ “ไม่เหมือนคนบางคนแถวนี้ นอนจนหลวมแล้วมั้งแต่ฟรีให้ผู้ชายตลอด” “อีบ้า! อีทิวา!” ทิวาเบ้ปากมองบนใส่คนที่ยืนกรีดร้องเหมือนคนบ้า ผลักไหล่บางกระแทกกับผนังอย่างรุนแรงอีกครั้ง ก่อนจะรีบคล้องแขนเพื่อนสนิทเดินไปนั่งเรียนอย่างสบายอารมณ์ “โอ๊ย! เลิกแหกปากโวยวายอย่างกับผีเปตรขอส่วนบุญสักที” “ทิวา!” เสียงร้อนรนเอ่ยเรียกพร้อมร่างสูงสวมเสื้อช็อปคณะวิศวกรรมศาสตร์รีบวิ่งเข้ามาหา หญิงสาวเจ้าของชื่อก้มหน้าทานข้าวในโรงอาหารของคณะขี้เกียจหันไปมองคู่สนทนาที่ยืนอยู่ “ทิวาทะเลาะกับแคทเหรอ” ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่บ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ ใบหน้าหวานละจากจานข้าวเงยขึ้นมอง 'ไอ้ฟิวส์' แฟนศัตรูคู่แค้นที่เพิ่งมีเรื่องกันหมาดๆ ในห้องเรียนเมื่อตอนเช้า “เลิกวุ่นวายได้ไหม รำคาญ!” “เราเลิกกับแคทแล้วนะ” “แล้วไง มาบอกเพื่อ?” ทิวาขมวดคิ้วใส่ไปทันทีอย่างไม่เข้าใจ เธอไม่อยากรับรู้เลยสักนิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะคบกับใครหรือเลิกกับผู้หญิงคนไหน ความรำคาญใจแสดงออกมาอย่างฉายชัดเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ฟิวส์เข้ามาวุ่นวายแบบนี้ “ทิวาไม่ยอมคุยกับเราเพราะไม่อยากมีปัญหาใช่ไหม เรายอมเลิกเพื่อมาหาเธอเลยนะ” “ฟังนะ ถึงนายจะโสดหรือไม่โสดฉันก็ไม่อยากคุยทั้งนั้นแหละ” “เธอมีปัญหาเรื่องเงินใช่ไหม เราพร้อมช่วยนะถ้ามาคบกับเราอ่ะ” หญิงสาววางช้อมส้อมลงกระทบจานข้าวจนเกิดเสียงดัง ดวงตาแทบลุกไฟเมื่อถูกพูดจาใส่แบบนั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงเธอไม่มีเงินใช้ชีวิตอย่างยากลำบากแต่ก็ไม่เคยหวังคบใครเพื่อแลกเงิน ชบาที่เห็นเพื่อนสนิทเริ่มจะกดกั้นอารมณ์โกรธกร้าวไว้ไม่อยู่ก็รีบยกขาเตะเบาๆ เชิงห้ามปราม ตอนนี้ผู้คนในโรงอาหารต่างพากันหันมามองกันแทบทุกโต๊ะ “มีผัวแล้วผัวรวยมากรู้ไว้ด้วย ถ้าไม่อยากกินลูกปืนก็อย่ามายุ่งกันฉัน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD