ไวเท่าความคิดหลิวเยี่ยนจือ จึงไม่รอช้าอีกต่อไป นางตรงไปที่ประตูและออกไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่บริเวณรอบตำหนัก ด้วยใจที่ลุ้นระทึก
"จริงๆ ด้วย เหี่ยวหมดเลย" ไม่รอช้านางจึงสัมผัส ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเหล่านั้นทีละดอก เป็นอย่างที่ได้คาดเอาไว้ เพียงแค่มือของนางสัมผัสไปยังดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเหล่านั้น พวกมันก็กลับฟื้นคืนมามีชีวิต มิหนำซ้ำยังงดงามและเจริญเติบโตเร็วกว่าปกติอีกด้วย
"ในความโชคร้ายก็ยังคงมีความโชคดีอยู่ในนั้นสินะ แต่ความสามารถพิเศษแบบนี้ จะนำมาใช้ทำอันใดในโลกใบนี้ได้กัน" หลิวเยี่ยนจือมองไปที่มือทั้งสองข้างของตนเองอย่างใช้ความคิด
"มันจะต้องมีประโยชน์สักอย่างสินะ หาไม่แล้ว สวรรค์คงไม่นำมันมามอบให้กับข้าเป็นแน่" เพียงแค่คิดได้เท่านี้ นางก็นั่งลงใช้มือแตะไปที่พื้นดิน พร้อมกับใช้สมาธิของตนเอง ทันใดนั้นดอกไม้ทั้งแปลงที่อยู่บริเวณโดยรอบ ก็กลับฟื้นคืนมามีชีวิตอีกครั้ง
และเพียงนางส่งพลังไปที่พื้นดิน และคิดว่าต้องการให้ดอกไม้เหล่านี้ออกดอกออกผล พวกมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเช่นที่นางต้องการ
ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!
"ดีจริง ข้าจะต้องได้ใช้ประโยชน์จากความสามารถนี้เป็นแน่"
เพียงแค่คิดมาถึงตรงนี้นางก็ยกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข การจะได้ออกไปจากตำหนักแห่งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวเสียแล้ว
นางจะหนีออกไปจากตำหนักแห่งนี้ พร้อมกับใช้ความสามารถพิเศษนี้ในการหาเลี้ยงชีพ นางไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายหลังจากที่หนีออกไปจากที่นี่ ถึงแม้นว่าสินเดิม ที่นางมีอยู่นั้นจะมีมากมาย แต่ในสักวันหนึ่งมันจะต้องหมดไป หากนางไม่รู้จักวิธีหามาเพิ่ม
แต่การมีพรสวรรค์นี้ นางจะสามารถปลูกพืชผักและสมุนไพรหายาก ที่นางต้องการได้โดยไม่จำกัด ถึงแม้นว่า พืชพันธุ์เหล่านั้นจะตายไปแล้ว นางก็สามารถที่จะทำให้มันกลับมามีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย
"คอยก่อนเถิดอิสรภาพ"
เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเสี่ยวจิ่วก็ต้องตกใจ เมื่อได้เห็นว่าดอกไม้ต้นเล็กๆ ที่พระชายาได้ปลูกเอาไว้ ต่างก็เจริญเติบโตขึ้นมาเป็นต้นใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ นางก็ให้ตกใจ จนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
ด้วยมิคาดคิดว่าจะมีเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อคิดทบทวนกลับไป นางจึงคิดว่า นี่อาจจะเป็นลางบอกเหตุที่ดีก็เป็นได้
"พระชายาทรงกำลังตั้งครรภ์และดอกไม้เหล่านี้ก็เจริญเติบโตออกมาอย่างงดงาม นี่คงจะเป็นลางที่สวรรค์ได้บอกเอาไว้เป็นแน่ ผู้มีบุญกำลังจะมาเกิดแล้ว"
นั่นคือความคิดของสาวใช้ตัวน้อยอย่างเสี่ยวจิ่ว ที่คิดเข้าข้างเจ้านายของตนเอง
มิหนำซ้ำท่าทีของท่านอ๋อง ยังได้เปลี่ยนไป พระองค์ยังสั่งให้พ่อบ้านเก๋อ นำยาบำรุงมากมาย มาให้กับพระชายา และยังกำชับอีกว่าพระชายาจะต้องดื่มสมุนไพรบำรุงเหล่านี้ทุกวัน แล้วเช่นนี้ จะไม่ใช่เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ได้เช่นไร เสี่ยวจิ่วยกยิ้มขึ้นอย่างมีความสุข เพียงแค่คิดว่าต่อจากนี้ ชีวิตของพระชายาในตำหนักแห่งนี้ จะมีแต่เรื่องราวดีๆ ผ่านเข้ามา…
"เสี่ยวจิ่วนั่นคือสิ่งใดกัน" เมื่อหลิวเยี่ยนจือตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ก็พบว่าเสี่ยวจิ่วได้ยกถ้วยยาเข้ามาภายในห้อง กลิ่นเหม็นของมัน โชยเข้ามาในจมูก ทำให้นางแทบอยากจะกลั้นหายใจเอาไว้
"ยาบำรุงครรภ์นี้ ท่านอ๋องได้มอบให้กับพระชายาเพื่อเอาไว้บำรุงพระครรภ์เพคะ" เสี่ยวจิ่วตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข แตกต่างกันกับหลิวเยี่ยนจือ ที่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น
"นี่คือยาที่ชินอ๋องเฉินเทียนอี้ มอบให้กับข้าเช่นนั้นหรือ"
"เพคะ เห็นหรือไม่ ว่าเพียงแค่ท่านอ๋องทรงทราบว่าพระชายาทรงพระครรภ์ ก็ดูแลพระชายาเป็นอย่างดีเช่นนี้ อีกสักหน่อยหากพระชายา ทรงให้กำเนิดพระโอรสแก่ท่านอ๋อง คงจะทรงโปรดปรานพระชายามากยิ่งขึ้นเป็นแน่"
"หึ!!! โปรดปรานหรือไม่โปรดปรานแล้วอย่างไร ข้าไม่ได้ต้องการเศษเสี้ยวความรู้สึกเหล่านั้นของเขาเสียหน่อย เจ้าก็อย่าได้คิดไกลไปจนถึงเพียงนั้น"
"โธ่พระชายา ความรักความโปรดปรานของบุรุษคือสิ่งที่สามารถกำหนดทิศทางของสตรีในเรือนหลัง นะเพคะ จะมิให้คำนึงถึงได้เช่นไร"
"นั่นมันอาจจะใช่สำหรับสตรีในยุคสมัยนี้ แต่สำหรับ ชีวิตของข้าต่อจากนี้ จะไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ความโปรดปรานของบุรุษเป็นผู้กำหนด แต่ข้าจะเป็นผู้กำหนดมันด้วยตัวของข้าเอง"
"พระชายาทรงตรัสอย่างกับว่าพระองค์ไม่ใช่สตรีในยุคสมัยนี้เช่นนั้นแหล่ะ" เสี่ยวจิ่วกล่าวออกมาอย่างไม่เข้าใจ แต่นางก็คร้านที่จะเข้าใจพระชายาของนางผู้นี้เสียแล้ว เพราะตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น พระชายาก็ทรงเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน เหมือนกับว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดสลักสำคัญกับนางอีกต่อไป
แม้นแต่เรื่องราวของท่านอ๋อง ที่แต่ก่อนพระชายาจะทรงสนพระทัยยิ่งกว่าสิ่งใด ในตอนนี้ก็หาได้มีความสำคัญแม้แต่เพียงสักนิดกับพระชายา
แต่นางก็คร้านที่จะไปใส่ใจ เกี่ยวกับความคิดและพฤติกรรมในช่วงนี้ของพระชายา นางจึงหันมาสนใจกับถ้วยยาบำรุงยังเบื้องหน้า และยื่นมันไปให้กับหลิวเยี่ยนจืออย่างระมัดระวัง
"อี้... เสี่ยวจิ่วเจ้าแน่ใจหรือ ว่านี่คือยาบำรุงครรภ์เหตุใดกลิ่นของมันถึงได้ เหม็นเน่าเช่นนี้เล่า มิหนำซ้ำสีของมันยังดำสนิท มันทำให้ข้าไม่ต้องการจะกลืนมันลงไปเลยแม้แต่น้อย"
"หือ มันจะเป็นเช่นนั้นได้เยี่ยงไร ในเมื่อกลิ่นของมัน ช่างหอมหวลอบอวลไปทั่วทั้งห้องเช่นนี้ มิหนำซ้ำสีของมันยังมีสีน้ำตาลอ่อนๆ หาได้เป็นสีดำสนิทอย่างที่พระชายาทรงกล่าวมาเลยแม้แต่น้อย"
หลิวเยี่ยนจือจ้องมองไปที่ถ้วยยานั้นอีกครั้ง อย่างแปลกใจ ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามันเป็นสีดำ มิหนำซ้ำกลิ่นของมันยังเหม็นคาว จนนางไม่สามารถทนกลิ่นของมันได้เช่นนี้
หรือว่าจะมีความผิดปกติอันใด เกี่ยวกับถ้วยยานี้กันแน่ นางมีลางสังหรณ์แปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลิวเยี่ยนจือจึงได้ให้เสี่ยวจิ่ว ไปตามหมอประจำตำหนักอ๋องมาที่ยังตำหนักของนาง
"ท่านหมอเป็นคนจัดเทียบยานี้ให้กับข้าใช่หรือไม่" เมื่อหลิวเยี่ยนจือเห็นท่านหมอหลี่มาถึงยังตำหนักของนาง ก็ไม่รอช้ารีบถามประเด็นที่นางสงสัยออกไปทันที
"มิใช่พ่ะย่ะค่ะ ผู้ใดเป็นคนมอบยาบำรุงเหล่านี้ให้กับพระชายากัน นี่มันหาได้เป็นยาบำรุงพระครรภ์ แต่มันคือ ยาที่ทำให้ตกเลือด เป็นยาต้องห้ามสำหรับสตรีตั้งครรภ์ เพียงแค่ดื่มยาเหล่านี้ติดต่อกันไปนานๆ ก็จะทำให้ไม่สามารถรักษาทารกในครรภ์เอาไว้ได้อีก มิหนำซ้ำจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง แต่ยาเหล่านี้ หากไม่ใช่ผู้ที่มีความชำนาญจริงๆ เกรงว่าคงจะไม่สามารถแยกออกได้ ดีที่กระหม่อมเคยศึกษาและพบเจอมันมาก่อน จึงสามารถรู้ได้ในทันที"
"ท่านหมอว่าเช่นไรนะเจ้าคะ เป็นไปได้เช่นไร ก็ในเมื่อยาเหล่านี้ คือยาบำรุงพระครรภ์ที่ท่านอ๋องทรงมอบให้กับพระชายา ท่านอ๋องทรงจะทำเช่นนี้กับพระชายาไปเพื่อเหตุใด" หลังจากที่เสี่ยวจิ่วได้ยินถ้อยคำ ที่ท่านหมอกล่าวออกมาเช่นนั้น นางก็แทบจะซวนเซไปหลายก้าวด้วยความตกใจ แม้แต่หลิวเยี่ยนจือเองก็นิ่งเงียบไปนานเช่นกัน
"หือ เป็นเช่นนั้นเองหรอกหรือ ขอบใจท่านหมอมาก" หลิวเยี่ยนจือกล่าวออกมาเท่านั้น ก็หัวเราะออกมาอย่างสมเพชตนเอง
"เสี่ยวจิ่ว เจ้าช่วยมาแต่งตัวให้กับข้าที และส่งคนไปส่งท่านหมอด้วย"
"เพคะ" เสี่ยวจิ่วสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่เยียบเย็นนั้นของเจ้านายตนเอง นางจึงไม่รอช้า รีบไปทำตามคำสั่ง ของหลิวเยี่ยนจือ ด้วยใจที่เจ็บปวดแทน
ในขณะที่เสี่ยวจิ่วดูแลแต่งตัวให้กับหลิวเยี่ยนจือน้ำตาทั้งสองข้างของนางก็ไหลลงมาอาบแก้ม ด้วยความเสียใจ ด้วยมิคิดว่าบุรุษอย่างชินอ๋องเฉินเทียนอี้จะสามารถทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้ได้