ตอนที่ 2 เจ้าช่างโง่เขลานัก

1844 Words
ไหนเลยที่สตรีสูงศักดิ์เช่นนาง จะได้รับคำปรามาส มากมายเช่นนี้มาก่อนในชีวิต แต่หลังจากที่นางได้ยินคำปรามาสนั้น ออกมาจากปากของบุรุษที่นางรักอย่างสุดหัวใจ นางกลับทำได้เพียงแค่ยิ้มขมขื่นไปให้กับเขา ก่อนที่นางจะลงมือทำในสิ่งที่บุรุษอย่างชินอ๋องเฉินเทียนอี้มิคาดคิด ว่าจะมีสตรีใดในใต้หล้านี้ กล้าทำเช่นนาง หลิวเยี่ยนจือ ค่อยๆ เข้าไปปลดอาภรณ์ของบุรุษตรงหน้าออกอย่างเชื่องช้า ซึ่งในตอนนี้ บุรุษผู้มากความสามารถอย่างชินอ๋องเฉินเทียนอี้ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะต่อต้าน เขาได้แต่ข่มกลั้นความไม่พอใจของตนเองเอาไว้ และจ้องมองไปที่นางอย่างชิงชัง "เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่" "รู้เพคะ" ทำไมนางจะไม่รู้เล่า ว่าการทำเช่นนี้ จะได้รับสิ่งใดเป็นการตอบแทน หลังจากความสัมพันธ์ของเขาและนางในคืนนี้ นางเชื่อว่าในอนาคตบุรุษผู้นี้ จะยิ่งจงเกลียดจงชังนางมากยิ่งขึ้น ถึงแม้นจะรู้ว่าทางข้างหน้ามีอันตรายรออยู่ แต่นางก็เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป เพราะนั่นคือสิ่งที่นางได้เลือกเอาไว้แล้ว ขอแค่เพียงได้อยู่เคียงข้างของบุรุษผู้นี้ ต่อให้ต้องแลกด้วยความสุขทั้งชีวิตนางก็ยอมแลก หลังจากที่หลิวเยี่ยนจือ ได้ปลดเปลื้องอาภรณ์ของบุรุษตรงหน้าออกจนหมดแล้ว นางก็ไม่รอช้า นางใช้ความกล้าทั้งหมด จ้องมองไปที่เรือนร่างเปล่าเปลือยของบุรุษเพศอย่างต้องการ ถึงแม้นจะมีความเขินอาย แต่ในเมื่อเลือกหนทางนี้แล้ว นางก็ไม่มีหนทางให้หวนกลับไปได้อีก ชินอ๋องเฉินเทียนอี้ ได้แต่หลับตาลงอย่างรู้สึก สมเพชตนเอง เขาที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุรุษที่มากความสามารถ ไม่เป็นรองผู้ใดทั้งใต้หล้า แต่ในตอนนี้กลับมาพ่ายแพ้ให้กับสตรีเบื้องหน้า อย่างอัปยศอดสู เขาไม่ต้องการที่จะเห็นเรือนร่าง และการกระทำของสตรีไร้ยางอายผู้นี้ จึงทำได้เพียงแค่หลับตาของตนเองลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลิวเยี่ยนจือขึ้นคร่อมไปยังเรือนร่างของชินอ๋องเฉินเทียนอี้อย่างเก้ๆ กังๆ เนื่องด้วยนางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้มาก่อน แต่เพื่อแผนการในครั้งนี้ เมื่อหลายวันก่อนนางจึงได้ว่าจ้างสตรีหอโคมเขียวเพื่อที่จะมาสอนให้นาง ได้ทราบถึงวิธีการปรนนิบัติเอาใจบุรุษอย่างละเอียด ไม่รอช้านางจึงได้นำความรู้ที่ได้เรียนมา มาใช้กับบุรุษตรงหน้า ด้วยหวังว่าจะทำให้เขารู้สึกพอใจในตัวนาง เพียงเล็กน้อย ก็ถือว่านางได้พอใจแล้ว ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงสดดั่งผลเชอรี่ของนาง ได้พรมจูบไปทั่วเรือนร่างเปล่าเปลือยของชินอ๋องอย่างหลงใหล ด้วยผิวกายอันนุ่มนิ่มของนาง ไม่ว่าจะสัมผัส ไปที่ส่วนใดของบุรุษเพศ ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้บุรุษผู้นั้นรู้สึกเคลิบเคลิ้มได้อย่างน่าประหลาด ถึงแม้นว่าเขาจะหลับตาอยู่ ด้วยไม่ต้องการรับรู้ในรสสัมผัสนั้น แต่ร่างกายของเขากลับตอบสนองความต้องการ ที่กำลังปะทุขึ้นมาได้เป็นอย่างดี เนื้อแนบเนื้อในทุกอณูสัมผัส ความร้อนได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ความต้องการ ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ก็กลับลุกลาม อย่างยากที่จะควบคุมได้อีกต่อไป ชินอ๋องเฉินเทียนอี้ ค่อยๆ ยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงของตนเองขึ้นมา ลูบไล้ไปทั่วเรือนกายขาวผ่องของนางอย่างไม่รู้ตัว สติเริ่มเลือนลาง ไปชั่วขณะ เนื่องด้วยฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัด บทรักอันเร่าร้อนของทั้งสองคนจึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยที่หลิวเยี่ยนจือเป็นผู้นำในบทรักครั้งนี้ ริมฝีปากรูปกระจับของนาง ค่อยๆ พรมจูบไปทั่วอกแกร่ง ละลงไปจนถึงหน้าท้อง ที่มีขนอ่อนขึ้นอยู่รำไร มือบางของนาง ลูบไล้ไปทั่ว ส่วนต่างๆ ของบุรุษเพศ เหมือนกับไม่ได้ตั้งใจในบางจังหวะ ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้โหมกระพือได้เป็นอย่างดี "อ่าาาส์ ข้าไม่คิดเลยว่า สตรีแพศยาเช่นเจ้า จะกล้าทำเรื่องน่าอายได้ถึงเพียงนี้" "แล้วอย่างไรเพคะ หรือว่าพระองค์มิได้ชื่นชอบในรสสัมผัสนี้" กล่าวจบริมฝีปากของนางก็ครอบครองแท่งทวนที่มันกำลังชูชันอยู่เบื้องหน้าอย่างละเมียดละไม เรียวลิ้นเล็กนั้นค่อยๆ ตวัดลงไปที่ปลายป้าน ซึ้งมีน้ำใสๆ ไหลออกมา ก่อนที่จะดูดเลียมันอย่างหิวกระหาย มือบางยังคงถอกมันขึ้นลงเป็นจังหวะ จนทำให้ชินอ๋องถึงกับต้องขบกรามแน่นด้วยความเสียวซ่าน "เจ้า!!! เหตุใดถึงได้กล้าทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ขึ้นมาได้" ถึงแม้นว่าเขาจะกล่าวถ้อยคำเช่นนั้นออกมา เหมือนกับไม่พอใจ แต่ร่างกายกลับตอบสนองกับรสสัมผัสนั้นของนางเป็นอย่างดีเสียนี่ "เพราะหม่อมฉันต้องการที่จะมอบความสุขให้กับพระองค์" กล่าวได้เพียงเท่านั้น หลิวเยี่ยนจือก็ได้ เลื่อนกายของตนเอง ไปขึ้นทับกับแท่งทวนที่มันแข็งชูชันนั้นของบุรุษเพศ ก่อนที่จะจับมันถูไถไปมา ที่กลีบกุหลาบ ที่ปิดสนิทของนางไปมา หัวใจของหญิงสาวกำลังเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ด้วยว่านี่คือครั้งแรกของนางเช่นกัน นางค่อยๆ กดตัวลงไปโดยนำแท่งทวนจ่อเข้าไปในรูสวาทของนาง เพียงแค่มันเข้าไปได้ แค่ส่วนปลายป้าน ก็ทำให้นางต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เมื่อชินอ๋องเฉินเทียนอี้รู้ว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้น เขาก็ได้แต่จ้องมองไปที่นางอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เขาจ้องมองไปที่ตัวตนของตัวเองที่กำลังถูกกลืนเข้าไปโดยช่องทางคับแคบนั้นของนาง ใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวดของนาง ทำให้เขารู้ว่านางกำลังเจ็บปวดมากเพียงใด ในใจก็อยากจะปฏิเสธ และต่อว่านางด้วยถ้อยคำที่รุนแรง แต่ร่างกายกลับตอบสนองนาง อย่างดีเสียอย่างนั้น "อ่าาส์ เจ็บ" หลิวเยี่ยนจือกล่าวออกมาด้วยน้ำตาอาบแก้ม เพราะความเจ็บปวด นางค่อยๆ ขยับสะโพก ของตนเองขึ้นลงเป็นจังหวะ จากเนิบช้าเป็นรัวเร็ว ตามที่นางได้ถูกสอนมาจากสตรีในหอโคมเขียว "พระองค์จะไม่ยอมลืมตาขึ้นมามองหม่อมฉันจริงๆ เช่นนั้นหรือ อ่ะ อ่าส์ อ่ะ ตอนนี้เราได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันแล้วนะเพคะ อ้าาส์" หลิวเยี่ยนจือกล่าวประโยคพวกนี้ออกไปอย่างไร้ยางอาย เพราะนางได้เห็นว่าบุรุษผู้นี้ได้หลับตาลงไปอีกครั้ง และนางก็ได้ก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากหนานั้น พร้อมกับขยับเอวขึ้นลงเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงดังอย่างน่าอายขึ้นไปทั่วห้อง แต่บุรุษผู้นั้นกลับ เบือนหน้านี้จุมพิตของนางเสียอย่างนั้น "หึ!!! อย่าได้คิดมาแตะต้องร่างกายของเปิ่นหวางไปมากกว่านี้" "ถึงอย่างไรในตอนนี้ มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งใดได้แล้ว หม่อมฉันได้กลายเป็นสตรีของพระองค์แล้ว เหตุใดถึงต้องรังเกียจหม่อมฉันถึงเพียงนี้ด้วย" "แล้วเจ้าคิดว่าสิ่งที่เจ้ากำลังทำอยู่นี้ มันคือสิ่งที่ทำให้เปิ่นหวางควรจะพอใจเช่นนั้นหรือ อย่าได้คิดว่าถึงเจ้าจะทำเช่นนี้ เปิ่นหวางจะยอมรับเจ้าเข้าตำหนัก สตรีไร้ยางอายเช่นเจ้า ไม่คู่ควรแม้แต่ตำแหน่งสาวใช้อุ่นเตียงของเปิ่นหวางด้วยซ้ำ" เมื่อหลิวเยี่ยนจือรู้ว่าถึงจะกล่าวสิ่งใดไป บุรุษผู้นี้ก็มีแต่จะจงเกลียดจงชัง และ กล่าวถ้อยคำปรามาสนางออกมา นางจึงใช้มือทั้งสองข้างจับศีรษะของเขาเอาไว้เพื่อไม่ให้หลบหนีจุมพิตของนางในครั้งนี้ ถ้อยคำปรามาสที่กำลังจะกล่าวออกมาของชินอ๋องจึงต้องกลืนลงไป เมื่อถูกปิดปากด้วยริมฝีปากบางของนาง บทรักอันเร่าร้อนของทั้งสอง จึงได้เริ่มต้นขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า โดยที่ในทุกๆ ครั้ง ก็เป็นหลิวเยี่ยนจือเป็นผู้ควบคุมเกมไว้ทั้งหมด เพราะนางรู้ดีว่า เมื่อจบความสัมพันธ์อันใกล้ชิดในครั้งนี้แล้ว เรื่องราวเช่นนี้มันจะไม่เกิดขึ้นอีก บุรุษผู้ที่นางรักสุดดวงใจผู้นี้ จะไม่มีทางแตะต้องเนื้อตัวของนางอีกเป็นแน่ แต่นางขอเพียงแค่ได้ใช้ช่วงเวลาในครั้งนี้กับเขา เพียงแค่นี้ก็รู้สึกพอใจแล้ว ถึงแม้นว่าการกระทำเช่นนี้จะเป็นความคิดที่โง่เขลา แต่จะให้นางทำเช่นไรในเมื่อทั้งหัวใจของนาง ได้มอบให้กับเขาไปตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน ในตอนที่นางอายุได้ 12 หนาว บุรุษผู้นี้ได้ช่วยชีวิตของนางเอาไว้ จนทำให้ทั้งหัวใจของนางตั้งแต่นั้นมีเพียงเขาเรื่อยมา ในขณะที่บทรักอันเร่าร้อนของทั้งสองคนกำลังดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิงทันใดก็ได้มีเสียงดังเอะอะโวยวายขึ้นที่หน้าตำหนัก ที่พวกเขาและนางอาศัยอยู่ "ถอยไปนี่พวกเจ้ากล้า ขวางทางของเปิ่นกงเช่นนั้นหรือ" "มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ" "งั้นก็หลบไป" สิ้นคำของหลิวฮองเฮา ประตูภายในตำหนักก็ได้ถูกเปิดออกโดยคนของพระองค์ เมื่อได้เข้ามาภายในตำหนัก ภาพที่ปรากฎยังเบื้องหน้าของพระนางในตอนนี้ พระนางแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตนเอง น้องสาวแท้ๆ ของนาง กำลังมีสัมพันธ์สวาทอยู่กับบุรุษบนเตียงอย่างหน้าไม่อาย "หลิวเยี่ยนจือ นี่เจ้ากำลังทำสิ่งใดอยู่รู้ตัวบ้างหรือไม่" เนื้อตัวของหลิวฮองเฮากำลังสั่นเทา ไปด้วยความโกรธ น้องสาวของนางผู้นี้ ได้บอกว่าในต้นยามซวี (ประมาณหนึ่งทุ่ม) ให้มายังตำหนักแห่งนี้ โดยนางมีเรื่องเร่งด่วนจะปรึกษา ไม่ต้องบอกให้ทราบ นางก็รู้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ต้องเป็นแผนการของน้องสาวผู้นี้ของนางเป็นแน่เหตุใดพระนางจะไม่ทราบเล่าว่า หลิวเยี่ยนจือนั้นหลงรักชินอ๋อง มาเนิ่นนานเพียงใด แต่การที่คิดทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ มันสมควรแล้วหรือ การที่หลิวเยี่ยนจือได้นัดนางมา เพื่อให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คงไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าเพื่อที่ต้องการที่จะให้นางออกหน้ากดดันชินอ๋อง เพื่อที่จะให้รับนางเข้าไปยังตำหนักเป็นแน่ "หลิวเยี่ยนจือ เจ้าช่างโง่เขลานัก"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD