ในโลกปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไกลไปถึงไหนต่อไหน แต่ใครจะรู้ว่ามุมหนึ่งของประเทศยังมีหมู่บ้านที่ยังไม่พัฒนาความเจริญก้าวหน้ายังเข้ามาไม่ถึงมากนัก ชาวบ้านยังคงทำไร่ ไถนา ปลูกผักสวนครัวและเลี้ยงสัตว์เพื่อใช้เป็นอาหารยังชีพ แม้จะมีไฟฟ้าเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกแต่เทคโนโลยีต่างๆ ก็ยังคงมาไม่ถึง
“ฮื่อๆๆ อึก...ฮื่อๆ ...” เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นไปทั่วบ้านไม้ใต้ถุนยกสูง ร่างบางนั่งคุดคู้อยู่มุมในสุดของบ้าน สองแขนกอดเข่าตัวเองไว้เหมือนนั่นคือที่พึ่งเดียวของหญิงสาวในขณะนี้ ซบใบหน้าที่เปื้อนด้วยน้ำตาลงกับเข่า ปล่อยน้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสายนานนับสิบนาที หลังจากฟังบิดาบอกสิ่งที่ตัวเองต้องทำต่อจากนี้
คนเป็นแม่มองบุตรสาวคนโตด้วยความสงสารจับใจ หากเป็นไปได้นางและสามีไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแต่อย่างใด ไม่มีใครอยากทำร้ายลูกของตัวเอง แต่ที่นางและสามีต้องทำเพราะไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้
“ทำใจซะเถอะลูก” นางบัวสายลูบศีรษะบุตรสาวเบาๆ น้ำตาเอ่อคลอดวงตาแทบจะไหลตามบุตรสาวออกมา หากแต่นางก็ต้องฝืนไว้ ไม่อยากร้องไห้ให้ลูกเห็น แม้ภายในใจจะบีบรัดแน่นเจ็บปวดรวดร้าวเพียงใดก็ตาม
“เรา...อึก...ไม่มีทางอื่นเลยเหรอจ๊ะแม่” บัวคลี่ฝืนพูดผ่านก่อนสะอื้นออกมา เงยหน้าที่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาขึ้นมองมารดาด้วยแววตาเศร้าสร้อยและหมดหวัง
“เราไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่านี้แล้วลูก ถ้าหนูไม่ทำเราก็จะไม่มีที่นาทำกิน บ้านก็จะไม่มีที่ซุกหัวนอน ลำพังพ่อกับแม่ไม่เท่าไหร่แต่บัวผันน่ะสิยังเล็กนัก” บัวคลี่หันกลับไปมองน้องสาววัยสิบขวบที่นอนหลับสนิทอยู่บนเสื่อ น้ำตาก็ยิ่งไหลมากขึ้นกว่าเดิม โผลเข้าไปกอดผู้เป็นแม่เอาไว้แน่น ปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ไหว
นางบัวสายกอดบุตรสาวกลับไปไม่ต่างกัน ลูบแผ่นหลังที่สั่นสะท้านจากแรงสะอื้นเอาไว้เป็นการปลอบประโลม เพราะคงไม่มีสิ่งไหนจะทำได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว
บัวคลี่ซบหน้าลงกับอกของมารดาร้องไห้ออกมาปานใจจะขาด เธอขอร้องไห้ให้กับโชคชะตาที่เล่นตลกกับชีวิตของเธอ เธอขอร้องไห้ให้กับความจนที่ทำให้ครอบครัวของเธอต้องมาพบเจอกับเรื่องแบบนี้ เธอขอร้องไห้ให้กับความสุข รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่กำลังจะหายไป
นับจากพรุ่งนี้เป็นต้นไปบัวคลี่ไม่รู้ว่าเธอต้องพบเจอกับอะไรบ้าง จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอต่อจากนี้ เธอต้องจากบ้าน จากน้องสาว จากอ้อมกอดของพ่อและแม่ไปอยู่กับคนแปลกหน้า ที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน ได้ยินเพียงแค่ชื่อเสียงเรียงนามเท่านั้น
ชาติยืนมองภรรยาและบุตรสาวด้วยความสะเทือนใจ หัวใจของคนเป็นพ่อมีหรือที่จะไม่เจ็บปวดแลเสียใจ แต่ที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะไม่มีทางเลือก และคิดว่าการที่ตนยอมให้บุตรสาวไปขัดดอกให้กับนายทุนที่ตนและภรรยาไปกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนจะไม่เจ็บและเสียใจหรือไง แต่อย่างน้อยบุตรสาวของตนก็จะได้ไม่ลำบาก กินอิ่มทุกมื้อไม่ต้องกินอดกินอยากเหมือนอยู่กับตน อีกอย่างนายทุนที่ว่าก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น
หากพูดตามหลักความเป็นจริงถือว่าใจดีอยู่มาก เพราะคงไม่มีนายทุนที่ไหนที่ให้ลูกหนี้ผัดวันประกันพรุ่งมาเป็นสี่ห้าปีโดยไม่มีการขู่กรรโชกหรือส่งคนมาทำร้าย ตรงกันข้ามกับพูดจาดีเสียด้วยซ้ำ แถมยังให้เงินมาทำทุนอีกต่างหาก ส่วนรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แต่อย่างใด ยังหนุ่มยังแน่นเสียด้วยซ้ำ
หากลูกสาวของตนทำตัวดีและนายทุนเอ็นดู วันข้างหน้าบุตรสาวของตนอาจจะสุขสบายอยู่บนกองเงินกองทองก็เป็นได้
เอ้า!!! ตอนแรกบัวคลี่ของไรท์ก็เสียน้ำตาไปซะแล้ว วอนผู้ใจดีช่วยโอบอุ้มและเอ็นดูบัวคลี่ของไรท์ด้วยนะคะ อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน๊า