EP 3/1 จนกว่าฟ้าจะสาง

994 Words
[3] จนกว่าฟ้าจะสาง เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดๆ กัน แต่คนที่นอนฟุบหน้าอยู่กับหมอนก็ไม่ยอมลุกไปเปิด สุดท้ายคนเคาะก็จำต้องถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามา เตชิณเท้าสะเอวด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างยกเบียร์กระป๋องขึ้นกระดก ตาก็จ้องแม่คนมักง่ายที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง “มิน” “อือ...” หล่อนส่งเสียงแต่ยังไม่ยอมลุกมา เขาแลหาผ้าแห้งสักผืน เจอมันพาดอยู่โต๊ะอ่านหนังสือผืนหนึ่ง ก็ดึงไปโยนใส่หัวให้ “ลุกมาเช็ดผมก่อน เดี๋ยวค่อยนอน” “....” เมื่อสั่งแล้วเจ้าตัวเอาแต่เงียบ ไม่ยอมลุกมา คนอนามัยจัดก็ถึงกับวางกระป๋องเบียร์ลงบนที่นอน ก่อนจะนั่งลงข้างมันแล้วดึงแขนมินตราขึ้นมา หล่อนอยู่ในชุดนอนลายลูกปลาสีขาว และเอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองกัน เขาเอาผ้าขยำผมเปียกๆ บนหัวให้ แกล้งเช็ดแรงๆ หล่อนก็ไม่ร้องสักแอะ “เป็นอะไร ยังร้องไห้ไม่หยุดอีกเหรอ” เขาท้วงแล้วประคองใบหน้าน้อยขึ้นมา มีร่องรอยหยดน้ำตาบนใบหน้าหล่อน ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางดูต่างไปจากทุกวัน ดูเกลี้ยงเกลาอย่างประหลาด “ก็พี่เสียงดังใส่มิน มันน่ากลัว...” “ขอโทษก็ได้ ก็...มันเผลอนี่ คนมันโมโหก็ต้องมีเสียงดังบ้าง” “มินจะรีบหาเงินมาใช้หนี้ ยืมพี่ไปเท่าไหร่ จะหามาใช้ทุกบาททุกสตางค์เลย” เธอให้คำมั่น “ช่างมันเถอะน่า จะเท่าไหร่กันเชียว” “เยอะแล้ว เยอะมากด้วย ไม่รู้ชาตินี้จะหามาคืนได้หรือเปล่า” “ก็ไม่ต้องคืนไง พี่หาของพี่ได้ คิดมากน่ะเราอะ” ดวงตากลมโตมองคนพูดอย่างอึ้งๆ ทำไมต้องดีขนาดนี้นะ เป็นพ่อพระหรือไง ไอ้พี่บ้า ร้ายกับเธอบ้างก็ได้ ถ้าวันข้างหน้าไม่มีเขาแล้วเธอจะทำยังไง เธอไม่ต้องโดดเดี่ยวอยู่ลำพังเหรอ มือเรียวของมินตรา ดึงสาบเสื้อของเตชิณเข้ามาใกล้ เตชิณจำต้องขยับร่างตามไป เขามองมินตราด้วยความไม่เข้าใจ กำลังจะเอ่ยปากถามว่าหล่อนจะทำอะไร ทว่าเพียงพริบตา ริมฝีปากอุ่นๆ ก็จุ๊บลงมาอย่างรวดเร็ว มันไม่อาจเรียกว่าจูบด้วยซ้ำ แต่กระนั้น เขาก็รู้ได้ถึงริมฝีปากของหล่อน มันนุ่มหยุ่นเหมือนเจลลี่ใสๆ อุ่นเหมือนเอาปากไปอังกับเปลวไฟ น่าแปลกที่พอได้สัมผัส กลับอยากรั้งไว้ ทั้งที่มันไม่ถูกไม่ควร หล่อนเป็นเหมือนน้องคนหนึ่ง แล้วทำไมเขาถึงได้... ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแรงๆ เธอทำอะไรลงไปก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าหัวใจมันเต้นแรงจนจะทะลุเสื้อออกมา ลมหายใจร้อนๆ ของพวกเธอรินรดกัน เขามองมาเหมือนไม่เข้าใจ คงสงสัยว่าเธอทำแบบนี้ทำไม “นี่เธอ...จุ๊บพี่เหรอ เดี๋ยวก็เดือดร้อนหรอก” “แล้ว...ถ้ามินอยากเดือดร้อนล่ะ พี่จะทำยังไง” เตชิณส่ายหน้าช้าๆ สองมือประคองใบหน้างาม ใช่...ทำไมตอนนี้หล่อนถึงดูสวยนัก เพราะรอยสิวบนหน้าจางลง หรือเพราะตอนนี้หล่อนอยู่บนเตียงกับเขากันแน่ “เธอเมาเหรอ” “พี่ต่างหากที่เมา ไม่ใช่มิน” “พี่กินเบียร์ไปแค่ครึ่งกระป๋องเอง” “แล้วไงคะ” “ไม่ๆๆ มันไม่ถูกต้องนี่นา พี่...” อยากปฏิเสธให้เต็มปาก แต่ใจหนึ่งก็อยากลิ้มลอง รสชาติของความสาว ใครล่ะจะกล้าเมินหน้าหนี “เอามันไปเถอะ” “อะไร” “ครั้งแรกของมินน่ะ ถ้าเป็นพี่ก็คงดี ไม่รู้ว่าเหตุการณ์เหมือนวันนี้จะเกิดขึ้นอีกไหม ถ้าทำกับพี่ คงดีกว่า...ไอ้เสี่ยหื่นกามนั่นแน่ๆ” “เธอแค่ขวัญเสีย อย่าพูดอะไรที่จะทำให้ตัวเองเสียใจสิ พี่น่ะ...เป็นแฟนที่ดีของใครไม่ได้หรอกนะ เธอน่าจะรู้ดีที่สุด” เขาวางมือบนหัวหล่อน พยายามเอ็นดูผู้หญิงตรงหน้าเหมือนน้องนุ่ง ทั้งที่หล่อนเพิ่งบอกให้เขาจัดการหล่อนซะ “แต่พี่ก็เป็นแฟนมินไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยก็ตอนอยู่ต่อหน้าคุณป้า” “อ่า...นั่นสินะ” “หรือว่า...เพราะมินไม่สวยเหรอ มินน่าเกลียดสินะ” “ไม่ใช่แบบนั้น คือ...” เธอปัดมือเขาออกจากหัว ก่อนจะคว้าเอาเบียร์ของเขามากระดกอักๆ เขาห้ามก็ไม่ฟัง มันขมขื่นใจในสภาพหนังหน้าของตัวเอง เตชิณคร้านจะห้าม เพราะต่อให้ห้าม ปากของหล่อนก็อ้างับเอาเบียร์เย็นๆ อยู่ดี แล้วดูนั่นสิ นั่นน่ะ ปากสีแดงระเรื่ออ้างับลงตำแหน่งที่ปากเขาเคยวางลง ราวกับว่าตอนนี้เขากับหล่อนกำลังจูบกันทางอ้อม มันจะเป็นยังไงนะ ถ้าตัดคำว่า ‘ทางอ้อม’ ทิ้งไป โอ...ไม่ได้ๆ หล่อนเป็นน้องนะ เป็นน้อง! “พอแล้วๆ จะหมดกระป๋องแล้วเนี่ย!” เขาแย่งเอากระป๋องเบียร์จากปากคนขี้น้อยใจ เบียร์เลยหกเรี่ยราด มันทะลักออกจากปากสีแดงระเรื่อของหล่อน หยดย้อยลงปลายคางแล้วไหลรวดเร็วลงมาตามแนวลำคอ ก่อนจะหายวับเข้าไปในคอเสื้อ และคงจะไหลลงไปถึงไหนต่อไหนเพราะเจ้าของไม่ใส่ใจจะเช็ดมัน “โอ้ว...มัน...โคตรดี!” “หึๆๆ โคตรดีอะไรของเธอ ไม่ขมหรือไง” “ไม่...มันเย็นๆ ซ่าๆ มันเหมือนว่ามีบางอย่างกำลังวิ่งไปตามเส้นเลือด อู้ว์...มัน...รู้สึกซู่ซ่าบอกไม่ถูก” “แอลกอฮอล์ไงยัยทึ่ม พอเลย ไม่ต้องกินแล้ว เลอะไปหมดแล้วเนี่ย” เขาส่งมือไปเช็ดปลายคางให้ ปลายนิ้วเผลอลูบแตะปากล่างของหล่อน แม่คนขี้แกล้งก็เอาฟันงับนิ้วหัวแม่มือกันไว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD