4

1104 Words
ที่จริงแล้วณัฏฐลักษณ์ไม่ได้โกรธโจนาธาน เพียงแค่น้อยใจที่เขาลืมวันแรกในรอบสี่ปีที่ได้เจอกันเท่านั้น ต่างกับเธอที่เฝ้ารอคอยวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ นั่งนับวัน นับเดือน นับปี รู้สึกตื่นเต้นดีใจล้นปรี่เมื่อได้เห็นหน้าเขา แต่แล้วความรู้สึกนั้นก็มลายหายทันทีที่รู้ว่า เขาลืมนัดหมายระหว่างกันในครั้งนี้ ทว่าเวลานี้ไม่หลงเหลือความน้อยใจอีกแล้วแต่กลับแปรเปลี่ยนเป็นความดีใจแทนที่ เธอโผกอดร่างหนา ซบหน้าลงบนอกอุ่นบึกบึนของโจนาธานที่ยืนตัวแข็ง ราวกับคนไม่เคยถูกสาวกอด ก่อนจะค่อยๆ ยกลำแขนโอบกอดร่างนุ่มนิ่ม “กุ๊กไม่มีวันโกรธคุณอาหรอกค่ะ ขอแค่คุณอาไม่ลืมเด็กคนนี้ก็พอ” ‘เด็ก’ เธอพูดออกมาได้อย่างไรว่าเด็ก จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โตเป็นสาวสะพรั่งแถมสวยชนิดที่เรียกว่าหาตัวจับยาก ซึ่งเขาเชื่อว่าพวกผู้ชายต้องพากันมองเธอจนเหลียวหลังแน่นอน แล้วยิ่งทรวงอกนุ่มแนบชิดกับอกของเขาที่พอจะกะไซส์ได้ว่าใหญ่เกินตัว ย้ำเตือนให้เขารู้ว่า เธอพ้นคำว่าเด็กมาไกลโข “คุณอาไม่มีวันลืมกุ๊ก ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันหน้า” เสียงนุ่มเอ่ยบอกสาวร่างเล็กที่ยิ้มแก้มปริ “คุณอาอยากให้กุ๊กรู้ว่า กุ๊กเป็นคนสำคัญของคุณอาเสมอ คุณอาทำทุกอย่างนี้หมดเลยนะคะ เป่าลูกโป่ง เขียนคำขอโทษและวาดรอยยิ้ม ถ้ากุ๊กไม่สำคัญคุณอาคงไม่ทำให้ถึงขนาดนี้หรอกคะ” ณัฏฐลัษณ์ดันร่างของตนให้ห่างร่างสูงหนา เงยหน้ามองผู้พูดด้วยสายตาเหลือเชื่อ เบนสายตาไปมองลูกโป่งรอยยิ้มที่มีคำขอโทษอยู่ทุกใบด้วยความทึ่ง ตอนแรกเธอคิดว่าเขาคงจะให้ลูกน้องทำ แต่พอรู้ว่าโจนาธานทำเองทั้งหมด หัวใจของเธอพองโตขยายใหญ่เท่าลูกโป่งก็ไม่ปาน “คุณอาของกุ๊กน่ารักที่สุดเลยค่ะ” พูดจบก็เขย่งเท้าหอมแก้มขาวแต่สากด้วยรอยเคราของคุณอาหนุ่มทั้งซ้ายขวา เจ้าของแก้มที่ถูกหอมยืนนิ่ง แทบจะไปไม่เป็น ทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าเธอจะหอมแก้มเขาราวกับว่าตัวเองเป็นเด็กๆ ที่จะกอดจะหอมเขาเหมือนในเยาว์วัย ความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันลิบลับ “กุ๊กของคุณอาก็น่ารักค่ะ น่ารักมาก” ผู้พูดอยากจะต่อท้ายไปอีกว่า ‘และน่ากินมาก’ แต่ก็ต้องยั้งปาก ยั้งอารมณ์ไว้ ท่องไว้ในใจว่า เธอเป็นหลาน เป็นหลาน เป็นหลานที่น่ากินที่สุด “คุณอาขา” เธอเรียกเขาเสียงยานคางชวนขนลุก แต่เขากลับชอบ “ขา” เขาขานรับเสียงเดียวกัน ลูกน้องทั้งสามและคนรับใช้ต่างมองหน้ากันไปมา เพราะไม่เคยได้ยินน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานของโจนาธานแบบนี้มาก่อน แถมยิ่งพูดกับสตรีด้วยแล้วยิ่งไม่เคยเห็น “กุ๊กมีของขวัญจะให้คุณอาด้วยค่ะ ของขวัญอยู่บนห้องของกุ๊ก คุณอาขึ้นไปเอาของขวัญในห้องของกุ๊กนะคะ” คำพูดและหน้าตาของเธอใสซื่อ ไม่ได้คิดว่าการที่กล่าวชวนผู้ชายเข้าไปในห้องจะเป็นเรื่องเสียหาย เพราะคิดว่าคนที่ตนชวน เป็นผู้มีพระคุณที่ตนรักและบูชามากที่สุด ทว่าคนที่ถูกชวนคิดไปไกลสุดกู่ จนต้องลากความคิดเตลิดนั้นให้กลับมาอยู่ที่เดิม ทั้งคู่มาถึงห้องนอนโทนสีชมพูหวานที่เจ้าของบ้านตั้งใจตกแต่งให้คนอาศัยโดยเฉพาะ ห้องนี้โจนาธานตกแต่งใหม่ทั้งห้อง ทาสีใหม่ตามสีที่เธอโปรดปราน เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเขาสั่งซื้อใหม่หมด ข้าวของเครื่องใช้ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์จอแบนรุ่นใหม่ล่าสุด ชุดโฮมเธียเตอร์และของใช้อื่นๆ ก็เป็นของใหม่ทั้งสิ้น เจ้าของห้องเดินถือช่อดอกไม้ไปยังเตียงนอน สูดความหอมจากดอกกุหลาบเข้าไปในปอดหลายครั้ง ก่อนจะวางมันลงบนที่นอน จากนั้นก็หมุนกายเดินไปยังตู้เสื้อผ้า หยิบกล่องของขวัญออกมาจากตู้ แล้วเดินกลับมาหาโจนาธานที่มองดวงหน้าสาวไม่ไหวติง “ของขวัญค่ะคุณอา” เธอยืนกล่องของขวัญสีชมพูลายลูกหมีส่งให้โจนาธาน “ให้อาเนื่องในโอกาสอะไรคะ” มือใหญ่ยื่นมารับกล่องของขวัญใบนั้น มองกล่องในมือสลับกับมองหน้าผู้ให้ น้ำเสียงของเขายังคงอ่อนหวานชวนเลี่ยน “เนื่องในโอกาสที่คุณอาดูแลกุ๊กมาตลอดหลายปีไงคะ กุ๊กไม่มีอะไรตอบแทนนอกจากเรียนหนังสือให้เก่ง ให้คุณอาภูมิใจ แล้วก็มีของในกล่องนี้ที่กุ๊กตั้งใจให้คุณอาค่ะ” เธอตอบเสียงใส ใบหน้าอาบด้วยรอยยิ้ม “คุณอาแกะของขวัญดูสิคะ กุ๊กอยากรู้ว่าคุณอาชอบหรือเปล่า” โจนาธานแกะห่อของขวัญตามที่เธอต้องการ แล้วเขาก็อยากรู้ด้วยว่า ของขวัญที่หลานสาวสุดสวยมอบให้ในวันนี้คืออะไร และทันทีที่เขาเปิดกล่องของขวัญออก เขาก็พบกับบางสิ่งบางอย่างพับวางในกล่องนั้น “ชอบไหมคะคุณอา” คนถามลุ้นกับคำตอบ มองมือใหญ่ที่หยิบของขวัญที่ตนเองตั้งใจทำให้เขาลุ้นระทึก หัวใจเต้นโครมคราม ลุ้นตัวโก่งว่าอาหนุ่มจะชอบหรือไม่ชอบ โจนาธานมองผ้าพันคอทำมาจากไหมพรมสีน้ำตาลเข้ม สลับกับสีเทาที่ตัดกันอย่างลงตัว ฝีมือในการถักทอก็ดูละเอียดเหมือนกับว่าไม่ได้ใช้เครื่องจักรในการทอ น่าจะเป็นงานฝีมือมากกว่า “สวยจังเลยค่ะกุ๊ก” เขาชมจากใจจริง ผู้รอคอยคำตอบยิ้มกว้าง หน้าตาแช่มชื่น “กุ๊กถักเองเลยนะคะ กว่าจะได้ผ้าพันคอผืนนี้ ลองผิดลองถูกตั้งหลายผืนค่ะ” งานฝีมือเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมากๆ แต่เพราะความตั้งใจจะทำให้โจนาธาน ส่งผลให้เธอหัดถักนิตติ้งแรกๆ ถักไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว ถักเบี้ยวบ้าง ผิดจากตำราที่เธอไปซื้อมา แต่สุดท้ายความพยายามบวกกับความตั้งใจสูง ทำให้ผ้าพันคอผืนนี้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่เธอจะเดินทางมาประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งใจว่าจะให้เขาใช้ผ้าพันคอของตน พันไว้รอบคอให้อบอุ่นยามเผชิญกับความหนาวของอากาศ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD