กฎที่ต้องปฎิบัติ

1496 Words
ฉันมาเรียนในตอนเช้าก็เรียนไม่รู้เรื่อง ก็พี่โอมนะซิตั้งกฎบ้าอะไรไม่รู้ฉันละปวดหัวจริงๆ เมื่อวานนี้เขามาส่งฉันที่คอนโดแพรเสร็จก็กลับไป ฉันเลยต้องนั่งรถกลับคอนโดเอง ก็คอนโดเดียวกับพี่เค้านั่นแหละ แต่ฉันไม่กล้าบอกเขาเลยต้องโกหกไปก่อน แต่ที่ทำให้เช้านี้ของฉันต้องปวดหัวก็คือ “ทำไมสาย...แล้วทำไมถึงตัวเปียกขนาดนี้ อาบน้ำไม่ได้เช็ดตัวหรือไง” ยังจะมีหน้ามาพูด นี่เหงื่อของฉันล้วนๆเลยค่ะ ก็วิ่งมาจากป้ายรถเมล์แล้วอ้อมมาด้านหลังเพื่อไม่ให้พี่เขารู้นี่แหละ “ทำไมพี่ต้องนัดแก้มเช้าขนาดนี้ด้วย แก้มมีเรียนตั้ง 11 โมงนะ กะว่าจะนอนตื่นสายๆซะหน่อย” “จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง ไปได้แล้ว...” “ไปไหน...?” “ตามมาเหอะน่า อย่าพูดมาก...รำคาน” อ้าว นี่โทรไปปลุกกันแต่เช้าเพื่อเรียกมาด่าหรอ คนบ้า! รู้มั้ยว่าฉันต้องตื่นเช้าแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวมากแค่ไหน แถมยังเกือบตายเพราะวิ่งไล่รถเมล์ เกือบโดนรถชนแล้วยังต้องรีบวิ่งกว่าจะมาถึงคอนโดนี้เองเหนื่อยสุดๆเลย “คิดอะไร..หรือว่ากำลังด่าฉันอยู่ในใจ” เขาหันมาเห็นฉันที่ทำหน้าหงุดหงิด ตั้งแต่เข้ามาในห้องสมุดที่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเรา 2 คน “เปล่า...แก้มไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย” ฉันรีบปฏิเสธทันที ทำไมต้องมาที่ห้องสมุดด้วยนะ แล้วเขาจะเดินไปไหน “....” เขานำฉันไปด้านหลังของห้องสมุด ที่มีมุมแอบๆที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าในห้องสมุดมีมุมแบบนี้ด้วย “เข้ามาซิ ...ยืนเฉยทำไม” ฉันกำลังตกใจกับความพิเศษของประตูที่มันเปิดออกได้ แล้วด้านในมีโต๊ะเก้าอี้คู่หนึ่งเอาไว้นั่งอ่านหนังสือแล้วก็โซฟาสีแดงตัวใหญ่ “นั่งซิ...” ฉันสะดุ้ง...แต่ก็รีบนั่งลงตรงโซฟาตัวสีแดง ที่มีเขานั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ “แก้มไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า..ห้องสมุดเราจะมีห้องลับเล็กๆที่อยู่ด้านในแบบนี้ด้วย” เขามองหน้ามาที่ฉันนิ่งๆ “มีแค่ฉันที่รู้ว่าห้องนี้มีอยู่ในห้องสมุด และเธอเป็นคนที่ 2 ที่รู้ต่อจากฉัน..” อ้าวซวยละ นี่พี่เขากำลังจะสื่อว่า ถ้าเรื่องนี้มีคนรู้ว่าห้องนี้มันมีอยู่ในห้องสมุดคือ ฉันจะโดน...ใช่มั้ย? “เข้าใจที่ฉันจะสื่อใช่มั้ย...ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูใครว่าห้องนี้มีอยู่ในห้องสมุด ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่...” นั่นไง ทำไมซื้อหวยไม่ถูกวะอีแก้ม “แล้วพี่จะพาฉันมาที่นี่ทำไมละ ทำไมเราไม่คุยกันข้างนอก หรือพี่ก็โทรมาคุยกับแก้มก็ได้ไม่เห็นต้องพามาให้แก้มรู้เลยว่าในนี้มีห้องแบบนี้ของพี่อยู่ด้วย..” ฉันเถียงเขาข้างๆคูเพราะฉันก็กลัวตัวเองจะหลุดปากจริงๆนั่นแหละ “ไม่...ฉันอยากทำข้อตกลงระหว่างเรา คนอย่างเธอถ้าไม่ทำเป็นลายลักอักษรก็คงจะหวังอะไรไม่ได้...” “แก้มดูแย่ขนาดนั่นเลยหรอ...ชิส์” ฉันทำหน้าบึ้งๆใส่เขาแล้วเขาก็ลุกขึ้นมายื่นกระดาษตรงหน้าให้ฉัน 1 แผ่น “นี่เป็นกฎที่เธอต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ลองอ่านดูเธอโอเคมั้ย...?” ฉันก้มหน้าไปดูแผ่นกระดาษที่เขาวางไว้แล้วหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างเริ่มไม่พอใจ “นี่กฎบ้ากฎบออะไรของพี่เนี้ย ทำไมมันถึงได้เอาเปรียบกันขนาดนี้หละ..แก้มไม่โอเคอะ” ฉันรีบวางมันลงอย่างไม่พอใจแล้วก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ถ้าเธอไม่โอเคฉันก็จะไม่ทำตามที่เธอขอเหมือนกัน...” ฉันจ้องหน้าพี่โอมอย่างไม่พอใจ “แล้วพี่มาถามแก้มทำไมว่าข้อไหนที่แก้มไม่โอเค ต่อให้แก้มบอกว่าข้อนี้แก้มไม่โอ ข้อนี้แก้มให้เปลี่ยน พี่ก็จะไม่ยอมอยู่ดี...” ฉันยืนกอดอกทำหน้าบึ้งๆใส่เขาอย่างขัดใจ “เซ็นได้แล้ว แล้วก็ทำตามกฎทุกข้อด้วย..” พี่โอมยื่นปากกามาให้ฉัน “ถ้าแก้มยอมทำตามกฎของพี่ทุกข้อได้จริงๆ พี่จะยอมทำตามที่แก้มขอใช่มั้ย...?” เขาจ้องหน้าเธอนิ่งq “อืม...” เขาพยักหน้าให้อย่างส่งๆแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ..... นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่ฉันเครียด เซ็นปากกาลงไปแล้วในกระดาษที่พี่เขาตั้งกฎขึ้นมาทั้งหมด แล้วฉันก็ต้องมานั่งเครียดนี่แหละ ทำไมฉันจะต้องมายอมเขาด้วยนะ ถ้าฉันไม่ได้อยากไปออสเตรียมากๆฉันคงไม่พยายามขนาดนี้หรอก Line โอม : เย็นนี้เจอกันที่ห้าง The M 5 โมงเยนนะ แก้ม : ไปทำอะไรคะ โอม : มาถึงแล้วก็รู้เอง แก้ม : แต่แก้มต้องรีบกลับนะคะ แก้มมีธุระ โอม : อืม คนอะไรไม่รู้ออกคำสั่งชะมัดแล้วยังพูดห้วนๆกับผู้หญิงอีก ไม่มีครับบ้างหรอ พูดกับผู้หญิงนะคะ “เลือกซิ..” “อะไรคะ..?” ฉันงงอยู่ดีๆเขาก็เดินพาฉันเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้าที่แพงมากๆ ใครจะมีปัญญาไปซื้อหละ แพงขนาดนี้ “ฉันให้เลือกก็เลือกเถอะนะ ฉันไม่ได้จะให้เธอจ่ายหรอก ฉันจะจ่ายให้เอง...” “จริงดิ พี่จะจ่ายให้แก้มจริงหรอ..?” “...” เขานิ่งไม่ตอบ “แล้วพี่มาซื้อให้แก้มทำไมอะ ไม่เอาหรอกนะ ถ้ามาจ่ายให้แล้วตอนหลังมาตามเก็บตังค์ทีหลังอะ แก้มไม่มีตังค์จ่ายให้พี่หรอกนะ...” พี่โอมหันมามองหน้าฉันอย่างรำคาญ เขาตัดสินใจเดินไปหยิบเสื้อผ้าในร้านมาเป็น 10 ชุด แล้วยื่นมาให้ฉัน “ไปลอง..” “หมดนี่เลยหรอ ทำไมต้องลองอะ ไม่เอาอะ แก้มไม่เอาหรอก แก้มกลัวพี่มาเรียกเก็บตังค์แก้ม....” เขาไม่ฟังฉันแต่ลากมือพาฉันไปที่ห้องลองเสื้อแล้วก็ดันฉันเข้าไปในห้องทันที “อย่าช้า เร็วๆ...” เขายังตะโกนเข้ามาในห้องอีก ทำไมฉันจะต้องมาลองไอ้ชุดบ้าๆพวกนี้ด้วยนะ ..... ผมพายัยนี่มาซื้อเสื้อผ้าเพราะนัดกับพ่อแม่ว่าจะพาเธอไปทานข้าวด้วยกันพรุ่งนี้วันหยุด แต่ไม่ไว้ใจกลัวว่าจะแต่งตัวไม่รู้กาลเทสะเลยต้องพามาซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย แล้วตอนนี้ยัยนี้ก็ลองเสื้อผ้าอยู่ในห้องลองเปลี่ยนมาหลายชุดแล้ว ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องรู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่ยัยนี่เดินออกมาด้วยชุดที่ผมเลือกให้ เพราะไม่ว่ายัยนี่จะใส่อะไรมันก็ดูดีไปหมดจนผมไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้เลย “อ๊ะ...พอใจหรือยังคะ ลองจนครบแล้วนะ 10 ชุด” เธอยื่นชุดทั้งหมดมาให้ผมอย่างทำหน้าเบื่อหน่าย “แก้ม ไม่เอาหรอกนะสักชุดด้วยมันแพงเกินไป ถ้าพี่จะมาซื้อให้แก้มแล้วมาเก็บตังค์ทีหลังแก้มก็ไม่เอานะ..แก้มต้องรีบไปทำธุระนะ พี่ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย” แก้มกำลังจะเดินไป “โทษนะครับ ผมเอาชุดพวกนี้ทั้งหมดเลยครับ” “เฮ่ย..นี่พี่เอาหมดเลยหรอ แก้มไม่...” “ฉันซื้อให้ เธอไม่ต้องจ่ายอะไรให้ฉันทั้งนั้นเพราะที่ฉันซื้อให้ฉันมีเหตุผล แล้วเธอก็ห้ามขัดฉัน..” ผมเดินไปจ่ายตังค์เสร็จแล้วก็รับถุงเสื้อผ้ามายื่นให้เธอทั้งหมด “รับไปซิ...” เธอยังยืนนิ่งไม่ยอมรับจากมือผม “แก้ม...” “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันซื้อให้เพราะต้องการให้เธอใส่เพื่อไปหาพ่อกับแม่ฉันในวันพรุ่งนี้...” “ฮะ...อะไรนะ..พรุ่งนี้แก้มต้องไปหาพ่อกับแม่พี่หรอ..ทำไมมันถึงได้ทันด่วนแบบนี้หละ แก้มยังไม่ทันได้..” “เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทำตามที่ฉันบอกก็พอ..รับไปได้แล้ว แล้วจะไปทำธุระที่ไหนก็รีบไป..” “เอ่อ...คะ” เธอรับถุงเสื้อผ้าจากผมเสร็จ ก็รีบก้มดูนาฬิกาตัวเอง “เฮ้ย..ใกล้แล้วนี่ พี่โอม งั้นแก้มไปก่อนนะ เดี๋ยวแก้มไปไม่ทัน ไปนะพี่...” ยัยนั้นวิ่งหน้าตื่นไปเลยอย่างดูรีบๆลนๆ ธุระอะไรจะเร่งด่วนขนาดนั้น ไม่รู้ว่ามันสำคัญอะไรนักหนา

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD