“คุณแม่ขา…รีบนอนนะคะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
บุศรินรีบตะโกนเสียงแจ๋ว ไล่หลังผู้เป็นแม่ไป เมื่อเห็นว่าอยู่ตามลำพังกับพ่อเลี้ยงเพียงสองคนแล้ว บุศรินจึงแกล้งถาม ในสิ่งที่เธอเองก็พอรู้สาเหตุแล้ว
“เพลีย…เหนื่อย…เหนื่อยอะไรเหรอคะ…แม่หนูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมต้องเหนื่อยด้วย”
เด็กสาวแสร้งทำหน้าสงสัย ก่อนจะสบตากับพ่อเลี้ยงหนุ่มแบบเล่นหูเล่นตา
“อะไรกันลูก พ่อไม่เข้าใจที่ลูกพูดเลย”
“แหม...คุณพ่อล่ะก็ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องงงเลย แค่นอนเฉย ๆ ก็เหนื่อยได้เหรอคะ”
เด็กสาวพูดแบบมีลับลมคมใน ความจริง…บุศรินก็ไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสาแล้ว เธอโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งเรื่องอย่างว่าด้วยแล้ว เธอยิ่งสนใจเป็นพิเศษและยิ่งอยากรู้อยากเห็น
อยากลิ้มอยากลอง จนทำให้เด็กสาวอย่างเธอมองข้ามความถูกต้องไป และในหลาย ๆ ครั้ง บุศรินก็อยากจะให้พ่อเลี้ยงเจ้าเสน่ห์คนนี้สอนบทรักแบบที่ทำกับแม่ที่เธอแอบได้ยินอยู่บ่อยๆ ให้กับเธอบ้าง
“หนูรู้นะ...ว่าคุณแม่เป็นอะไร พ่อทำแม่หนูจนเพลีย หนูเห็นและได้ยินทุกอย่าง”
“ห๊า!...นี่อย่าบอกนะว่า รินแอบดูพ่อกับแม่ทำ
อะไรกัน แล้วเห็นยังไงบ้าง”
ทรงเผ่ารู้สึกตกใจ และร้อนผ่าวในเวลาเดียวกัน
“หนูก็เห็นทุกขั้นตอนแหละค่ะ...อีกอย่าง…ตั้งแต่หนูกับแม่เข้ามาอยู่ที่นี่…ยังไม่เห็นแม่มีแรงสักวันเลย…บ่นเพลียบ่นเหนื่อยตลอด…แล้วพ่อลืมไปแล้วเหรอคะ…ว่าเดี๋ยวนี้น่ะ เทคโนโลยีมันไปถึงไหน ๆ แล้ว…ไอ้มือถือรุ่นล่าสุดที่พ่อซื้อให้เนี่ย…กล้องชัดแจ๋วเลยค่ะ…แค่ยกขึ้นมาอัด หนูก็ได้หนังโป๊ดุเดือดของพ่อกับแม่ไว้ดูเล่นๆ ในห้องละ”
เธอทำหน้าระรื่น
“ยัยเด็กบ้า…เธอนี่มันร้ายกาจจริง ๆ”
ทรงเผ่าจ้องตาลูกเลี้ยงสาวไม่กระพริบ เขารู้ดีว่าเธอก็มีความต้องการในเรื่องอย่างว่าไม่น้อย
“แรก ๆ หนูก็ไม่ได้จะแอบดูหรอกค่ะ แต่พอมันได้ยินบ่อย ๆ หนูก็เลยเริ่มชิน แล้วก็....เอ่อ”
“แล้วก็อะไร บอกมาตามตรงนะ”
“แล้ว...ก็...ติดใจน่ะ อยากดูอยากเห็นบ่อย ๆ พ่อเซ็กซี่มากเลยเวลาร่อนเอวน่ะ”
“พอ ๆ พอแล้ว…ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว”
เขาแอบเขินนิด ๆ แต่ก็ทำเสียงแข็งดุไปอย่างนั้นเอง ทรงเผ่าเป็นคนหัวสมัยใหม่และค่อนข้างเข้ากันได้ดีกับบุศริน
เธอจึงไว้ใจที่จะพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กับเขาได้อย่างเปิดเผยแบบสุด ๆ ซึ่งแตกต่างจากบุษบาผู้เป็นแม่ของเธอเองซะอีก รายนั้นเลี้ยงลูกสาวมาแบบตามใจ และไม่ค่อยมีเวลาสนใจถามไถ่เรื่องของลูกซักเท่าไหร่
“หนูอยากให้แฟนหนูเป็นแบบพ่อจังเลย”
“เป็นยังไง”
“ก็...เก่ง อึด แข็งแรง แล้วก็...ใหญ่ยาวแบบพ่อไงคะ”
“เอ่อ…นี่มันจะเกินไปแล้วนะ เธอล้ำเส้นเกินไปแล้ว เด็กก็อยู่ส่วนเด็ก อย่างมาลามปามกันแบบนี้ ฉันเป็นพ่อเธอนะเกรงใจกันบ้าง”
“คุณเป็นผัวแม่หนูต่างหากล่ะ ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของหนูซะหน่อย”
เด็กสาวพูดจายียวน
“เธอนี่มันร้ายกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ ยัยเด็กดื้อ”
ทรงเผ่าเริ่มโมโห แต่เขารู้ดีว่าถ้าพูดอะไรออกไปแรง คงไม่เป็นผลดี เพราะลูกเลี้ยงสาวคนนี้อาจจะหนีออกจากบ้านหรือทำอะไรที่ไม่คาดคิดได้
เขามักจะเรียกตัวเองว่าพ่อเวลาอารมณ์ดี แต่ตอนนี้เขาอยากจะลุกขึ้นไปแล้วจับลูกเลี้ยงจอมกวนให้นอนคว่ำหน้าลง แล้วใช้ฝ่ามือตีก้นให้หนักที่บังอาจมากวนประสาทเขา
“แหม…ก็แค่…แหย่เล่นเองค่ะ…อย่าคิดมากสิ”
เธอทำตาเป็นประกาย น้ำเสียงออดอ้อน จนพ่อเลี้ยงเริ่มใจอ่อนระทวย
“เอาหละ ๆ พ่อไม่โกรธเธอหรอก มีอะไรก็มาคุยมาปรึกษาพ่อได้ เพราะถึงยังไงเราก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ถึงจะแค่พ่อเลี้ยงก็เถอะ”
“อืม…งั้น…ถ้าหนูมีปัญหาอะไรหรือมีอะไรอยากรู้…หนูจะมาบอกพ่อเป็นคนแรกเลยนะคะ คุณพ่อสุดหล่อ”
พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหอมแก้มเขาอย่างแนบแน่นหนึ่งฟอด ก่อนจะรีบเดินกลับขึ้นห้องไป
หนุ่มใหญ่ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง เมื่อริมฝีปากบาง ๆ และปลายจมูกของลูกเลี้ยงสาวมาสัมผัสกับใบหน้าของเขา วินาทีนั้นเลือดลมมันสูบฉีดไปทั้งตัว จิตใจมันกระชุ่มกระชวยอย่างบอกไม่ถูก
เพราะกลิ่นไอสวาทจากกายสาวมันหอมหวนจนอยากจะดึงร่างอรชรมาสั่งสอนเสียให้เข็ด โทษฐานที่ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่
ทรงเผ่าได้แต่นั่งนิ่ง ๆ อยู่ที่โต๊ะอาหารต่อ เพียงลำพัง และพยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่านที่กำลังเกิดขึ้น อย่างยากลำบาก
บ่ายวันต่อมา ระหว่างที่ทรงเผ่ากำลังนั่งดูหุ้นจากโน๊ตบุ๊คอยู่ที่ห้องรับแขกและบุษบาก็ออกไปสปาไม่รู้ว่าจะกลับตอนไหน เป็นเวลาเดียวกับที่บุศรินลูกเลี้ยงสาวของเขากลับมาจากมหาวิทยาลัยพอดี
เธอสวมชุดนักศึกษารัดติ้ว ทั้งกระโปรงก็สั้นจู๊ดจู๋ แถมเสื้อก็ตัวเล็กจนกระดุมแทบจะขาดออกจากกัน ต้นขาขาวเนียน เนินอกอวบอิ่มล้นใจ ทำเอาพ่อเลี้ยงอยากจะเข้าไปอบรบให้หนักเสียจริง ๆ
“แต่งตัวซะอย่างกับจะไปล่อเสือล่อตะเข้อย่างนั้นน่ะ”
เขาบ่นใส่เธอ ตาเขียว
“วันนี้ช่วงบ่ายหนูไม่มีเรียน ก็เลยพาเพื่อนมาติวหนังสือกันที่บ้านค่ะ”
เธอพูดพลางจูงมือหนุ่มหล่อขาวตี๋เข้ามา ก่อนจะแนะนำให้พ่อเลี้ยงของเธอรู้จัก