กำราบรัก 4
เวลาล่วงเลยเลยเข้าสัปดาห์ที่สองของการมาช่วยคุณทีทำงานตามคำสั่งพ่อเพื่อแลกกับอิสรภาพของเธอ ซึ่งกุญแจซอลเคยยื่นข้อตกลงกับพ่อว่าถ้าหากคุณทีเป็นคนไล่เธอกลับเองข้อตกลงนี้ต้องเป็นอันยุติ
ในตอนแรกเธอคิดว่าคุณทีจะทนเธอได้ไม่เกินสามวันด้วยซ้ำแต่นี่อะไร เขาทนเธอมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้วแถมยังกุมความลับของเธอไว้ด้วย เธอจึงแกล้งเขาได้ไม่มากเท่าแผนการในหัว
ไลน์ ไลน์
แก๊งสมบัติวิศวะ
สายฟ้า : คืนนี้วันเกิดไอป๊อบ
พายุ : ร้านเดิมนะ
คิม : ไอซอล หายไปเลย
พายุ : หนูซอลของพวกมึงโดนพ่อคุมว่ะ ฮ่าๆ
กุญแจซอล : เงียบไปเลย ไม่มีใครคุมสักหน่อย
สายฟ้า : หรอจ๊ะ ไม่มีคนคุมแต่ออกมาหาเพื่อนไม่ได้เลย
กุญแจซอล : กูแค่ขี้เกียจ
พายุ : หราาาา
กุญแจซอล : เออสิ วันนี้เจอกัน ใครสายเลี้ยง
- chat end -
เจ้าของใบหน้าน่ารักทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มสีดำสนิทในห้องนั่งเล่น สมองกำลังคิดหาวิธีขอออกไปเที่ยวกับเพื่อนคืนนี้ ขืนครั้งนี้ไม่ไปอีก มีหวังพวกมันได้ล้อเธอจนลูกบวชแน่
“คุณหนูซอลสวัสดีครับ นี่ขนมครับ”
กรเดินเข้ามาทักทายกุญแจซอลในห้องนั่งเล่นในมือถือถุงขนมมากมายยื่นส่งให้เธอ
“สวัสดีค่ะ ขนมให้ซอลหรอคะ”
กุญแจซอลรับถุงขนมมาถือไว้ เธอสนิทกับกรที่สุดในบรรดาลูกน้องของทีเนื่องจากเจอกรบ่อยที่สุด จะว่าไปงานของกุญแจซอลก็ไม่ค่อยได้เจอใครสักเท่าไหร่นะ
ก็คุณทีหนะให้เธอคอยดูแลเขาเฉยๆ ในหนึ่งวันก็จะมีแค่ไปปลุกเขาตอนเช้า จัดเตรียมเสื้อผ้า ทำอาหารเช้า อาหารเย็นแต่บางวันกุญแจซอลก็แถมอาหารกลางวันไปส่งถึงบริษัทให้ด้วย และก็เรื่องดูแลบ้านทั่วไปโดยมีแม่บ้าน คนสวนคอยช่วยเธอไม่ห่าง
ตอนไปเล่าให้เพื่อนฟังถึงงานที่เธอได้รับ เพื่อนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่มันหน้าที่เมียชัดๆ แต่กุญแจซอลกลับไม่คิดอย่างนั่น เธอคิดว่านี่มันหน้าที่แม่บ้านต่างหาก
“คุณทีซื้อมาฝากคุณหนูซอลครับ”
“อ๋อค่ะ แล้วคุณทีล่ะคะ”
“คุยโทรศัพท์อยู่ครับ”
กรตอบอย่างสุภาพ เขาค่อนข้างชื่นชอบเธอเพราะเธอเป็นคนที่มีพลังบวกในตัวสูงมาก
ตั้งแต่กุญแจซอลเข้ามาดูเหมือนเจ้านายเขาจะอารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนแถมใจดีขึ้นเป็นเท่าตัวจนพนักงานบริษัทปลื้มใจกันไปตามๆกัน
นี่กระมังที่เขาบอกว่า อยู่ใกล้คนคิดบวก เราจะซึมซับพลังบวกเหล่านั้นเข้าไปด้วย
ก๊อก ก๊อก
กุญแจซอลถือถาดขนมเข้ามาในห้องทำงาน ส่งยิ้มกว้างในทั้งสองคนซึ่งกำลังนั่งทำงานกันอยู่ เนื่องจากมีงานด่วน หลังจากพบลูกค้าเสร็จกรเลยต้องมาทำงานล่วงเวลาในวันหยุดแบบนี้กับท่านประธาน
“ทำไมถือมาเอง”
ทีหันไปเอ็ดเด็กสาวเมื่อเห็นเธอเดินถือถาดขนมที่ดูใหญ่เกินตัวเล็กๆของเธอก่อนจะลุกไปรับถาดขนมจากเธอมาถือไว้เอง กรจึงรีบเข้าไปรับถาดขนมต่อจากเจ้านายอีกที
“ไม่เป็นไร พักสักสิบนาทีแล้วกัน”
กรพยักหน้ารับ เดินออกจากห้องไปทิ้งให้เจ้านายได้มีเวลาอยู่กับสาวน้อยที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ตามลำพัง
เมื่อกรเดินออกไป ทีจึงเดินถือถาดขนมไปวางลงบนโต๊ะซึ่งจัดไว้สำหรับรับประทานอาหารว่างก่อนจะเหลือบมองเด็กซนที่เอาแต่ยืนทำหน้าเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมาสักที
“มีอะไร?”
คนโดนถามยิ้มตาหยีเห็นลักยิ้มสองข้าง ค่อยๆกระดึ๊บ กระดึ๊บเข้าไปหาที
“คือหนูซอลจะขอไปหาเพื่อนอะ”
“ไปสิ กลับมาก่อนหกโมงครึ่งล่ะกัน”
ทีอนุญาตพลางหยิบชาร้อนขึ้นดื่ม เขาไม่ใช่ผู้ปกครองใจร้ายขนาดที่ว่าจะไม่ยอมให้เด็กในปกครองไปไหนเลยแค่เธอบอกเขาทุกครั้งและกลับมาตรงเวลาก็พอแล้วแต่ดูเหมือนคำอนุญาตของเขาจะไม่เพียงพอสำหรับคุณหนูซอล
“หนูซอลนัดกันสองทุ่มอะ”
ดวงตาคมกริบตวัดมองกุญแจซอลนิ่ง ความเย็นยะเยือกแผ่ไปทั่วห้องจนคนโดนมองต้องรีบพูดต่อ
“หนูซอลกลับไม่เกินเที่ยงคืนสัญญา”
“วันนี้ฉันไม่ว่าง”
“หนูซอลไม่ได้ชวนคุณทีสักหน่อย หนูซอลจะไปคนเดียว”
คราวนี้ดวงตาคมส่งรังสีเย็นยะเยือกออกมามากกว่าเดิม ทีวางขนมในมือลง ยกมือขึ้นกอดอกเอนหลังพิงพนักเก้าอี้มองตรงไปยังกุญแจซอลซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล
“ไม่อนุญาต”
“โธ่ว คุณทีอะ ทำไมไม่ให้ไปอ่า”
“อย่างอแง”
กุญแจซอลเดินไปหยุดยืนตรงหน้าร่างสูง ยกมือขึ้นกอดอกตามเขา พูดด้วยใบหน้าแสนงอนอีกครั้ง
“คุณทีไม่มีเหตุผล”
“พ่อเธอฝากฝังให้ฉันดูแลเธอ”
“แล้วยังไงคะ”
ทีเอื้อมมือไปดึงแก้มป่องออกอย่างหมั่นเขี้ยว เขาอยากกัดปากยื่นๆนั่นด้วยซ้ำแต่ก็ต้องอดใจไว้
“ฉันปล่อยเธอไปคนเดียวไม่ได้ มันอันตราย”
“หนูซอลไปกับเพื่อน ไม่ได้ไปคนเดียวสักหน่อย”
เด็กดื้อยังคงเถียงต่อ ทีเลยลุกขึ้นยืนเต็มความสูงวางมือลงบนหัวเจ้าของใบหน้ามู่ทู่
“อย่าดื้อ ไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป”
“ทีเร็กใจร้าย”
กุญแจซอลปัดมือหนาออกจากหัวก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไป ทีหยิบชาขึ้นจิบมองตามหลังเด็กน้อยไปจนลับตา
“คุณหนูซอลเป็นอะไรหรอครับ ทำหน้าน่าเอ็นดูเชียว”
กรเดินเอ่ยถามเจ้านายตัวเองเมื่อเดินเข้ามาในห้อง เมื่อครู่เขาเดินสวนกับกุญแจซอลซึ่งหน้าตามู่ทู่ไม่ยิ้มแย้มเหมือนตอนแรก
“น่าตีหนะสิไม่ว่า”
เวลาล่วงเลยไปเกือบสามสิบนาที กุญแจซอลพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงด้วยอาการเซ็งจัด ยิ่งรู้ว่าวันนี้เพื่อนเธอมากันครบเกือบทั้งรุ่นเด็กสาวมีความต้องการอยากไปมากกว่าเดิม
“คิดสิคิดหนูซอล จะใช้วิธีไหนดี”
กุญแจซอลยังคงกลิ้งไปมาบนเตียงนุ่ม ความหวังเกือบจะดับหายไปจนกระทั่งมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
“หึหึ ต้องเรียกคะแนนสงสารสักหน่อย”
กุญแจซอลเดินมายังห้องทำงาน ครั้งนี้เธอเคาะประตูและขออนุญาตอย่างมีมารยาทดั่งกุลสตรี หญิงสาวแทบคลานเข่าเข้าไปในห้องด้วยซ้ำ
“ซอลมาเก็บจานขนมค่ะ”
“เดี๋ยวผมเอาไปเก็บเองก็ได้ครับคุณหนูซอล”
กรรีบอาสา ส่วนทีนั้นเพียงแค่เหลือตามองเด็กดื้อเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูซอลว่าง”
“ครับ”
เป็นกรอีกครั้งที่ตอบกุญแจซอล กุญแจซอลยิ้มกว้างกลับไปให้แล้วเริ่มถามต่อ
“แล้วนี่ทำงานใกล้เสร็จยังคะ”
“เหลืออีก 30%ครับ”
“ทำกับข้าวเสร็จแล้วหรอ”
ทีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ กุญแจซอลเลยเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานเขาแล้วตอบเสียงใส
“เสร็จแล้วค่ะ วันนี้มีแกงเขียวหวานด้วยนะ”
“ครับ”
ทีอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะก้มลงจัดการเอกสารบนโต๊ะต่อ ถึงจะรู้สึกแปลกๆที่คนอย่างคุณหนูซอลหายโกรธและมาพูดดีกับเขาไวขนาดนี้แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเขารู้สึกดีกับการสนทนาเล็กๆพวกนี้
“หนูซอลรับโทรศัพท์ได้มั้ยคะ”
กุญแจซอลถามเสียงเบา ทีไม่ได้ตอบอะไร นั่นทำให้เธอทึกทักเอาเองว่าเขาอนุญาตให้เธอรับโทรศัพท์ได้
“ฮัลโหล นิวเพื่อนรัก”
“....”
“ฮรือ วันนี่คงไม่ได้ไปหรอก”
“...”
“คิดถึงสิ คิดถึงเพื่อนมากเลย”
ดวงตาคมเหลือบมองเด็กสาวเล็กน้อย เขารู้ดีว่าเธอทำอย่างนี้เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากเขาแต่คนอย่างเขาไม่รู้จักคำนั้นหรอก
“หนูซอลไปคุยด้านนอก”
“หรอ มึงจะไปเมกาวันมะรืนล่ะหรอ ฮรือ เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วหรอเพื่อนรัก”
“หนูซอลฉันจะทำงาน”
ทีพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้ดุมากแต่ดูเหมือนคนตัวเล็กจะยั่วอารมณ์เขาเก่งเหลือเกิน เธอยังคงคร่ำครวญกับเพื่อนทำราวกับไม่ได้ยินเสียงเขา
“หนูซอล!”
ครั้งนี้เสียงทีดังและเข้มกว่าเดิม สายตาที่มองมายังกุญแจซอลเย็นยะเยือกกว่าทุกครั้ง เขาดึงมือถือเธอออกจากมือเล็กก่อนจะโยนลงถังขยะด้านข้าง
“คุณที คุณไม่ทำเกินไปหน่อยหรอ”
กุญแจซอลลุกขึ้นยืน มองตามโทรศัพท์ตัวเองด้วยแววตาสั่นระริก เธอค่อนข้างตกใจกับอาการของอีกคนไม่น้อย
“ขึ้นไปบนห้อง”
“ไม่ เอาโทรศัพท์หนูซอลคืนมา”
แต่ถึงอย่างนั้นกุญแจซอลก็ยังพยายามข่มความกลัวภายในไว้
“ขึ้นไปบนห้องเดี๋ยวนี้!”
“ทำไมคุณทีต้องตวาดด้วย”
แววตาเย็นยะเยือกของทีกระตุกเล็กน้อยเมื่อสบเข้ากับแววตาตื่นตระหนกของอีกคนแต่เขาก็พยายามที่จะไม่ใจอ่อนกับเธอเหมือนครั้งก่อนๆ เธอจะได้ไม่เอาวิธีนี้มาใช้อีก
“แล้วทำไมเธอต้องดื้อด้วย”
“หนูซอลแค่ขอไปเที่ยว ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”
ริมฝีปากอวบอิ่มเมมเข้าหากับ ดวงตากลมเริ่มมีน้ำตาคลอเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเจอใครดุเธอขนาดนี้เลย พ่อของเธอที่ว่าดุแล้ว ยังดุไม่ได้ครึ่งของทีตอนนี้ด้วยซ้ำ
“กร มาพาหนูซอลไปบนห้อง”
ทีหันไปสั่งลูกน้องเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ก่อนจะก้มลงจัดการเอกสารบนโต๊ะไม่เงยหน้ามองกุญแจซอลแม้แต่น้อย
ในช่วงเย็นของวัน แม่บ้านเดินเข้ามาถามทีว่าต้องการให้จัดโต๊ะอาหารกี่โมง
ทีขมวดคิ้วเล็กน้อย ปกติหน้าที่พวกนี้เป็นของกุญแจซอล เธอจะเป็นคนตัดสินใจเองหรือไม่ก็เป็นคนมาถามเขาเอง
“ให้หนูซอลเลือกเลยครับ”
“เอ่อ วันนี้คุณหนูซอลบอกไม่ทานอาหารเย็นค่ะ”
แม่บ้านรายงานอย่างกล้าๆกลัวๆและยิ่งสะดุ้งเข้าไปอีกเมื่อทีเงยหน้ามอง
“ไปบอกหนูซอลว่าฉันจะกินหนึ่งทุ่ม”
ทีตัดสินใจเลื่อนเวลาอาหารออกไปอีกหน่อย เขารู้ดีว่ากุญแจซอลมักจะหิวตอนหกโมงและการที่เธอไม่ลงมาทานข้าวเพราะคงไม่อยากเจอเขา ฉะนั้นเขาจึงลงไปกินช้าหน่อยเพื่อให้หนูซอลได้กินก่อน
เวลาหนึ่งทุ่ม ทีลงมายังห้องอาหารและได้รับรายงานจากแม่บ้านว่ากุญแจซอลยังไม่ยอมลงมาทานข้าว นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย
“กรไปตามกุญแจซอลมา”
“ได้ครับท่านประธาน”
กรพยักหน้ารับ วันนี้เขาอยู่ทำงานล่วงเวลา ทีจึงอนุญาตให้เขานอนที่นี่เสียเลยก่อนหน้านี้พวกเขาทำงานกันแต่มีเด็กซนมาก่อกวน
ทีเลยดุเธอไปจนป่านนี้ยังไม่เห็นหน้าเธอเลย กรรู้ดีว่าเจ้านายแคร์หนูซอลไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เขาไปตามแบบนี้หรอก
“ท่านประธานครับ ท่านประธานครับ”
เสียงร้อนรนของกรทำให้ทีเงยหน้าจากมือถือมองลูกน้องด้วยสีหน้ารำคาญเล็กน้อย
“คุณหนูซอลหายไป”
“หาดีรึยัง”
ทีเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดหรือว่าเมื่อตอนเย็นเขาจะดุเธอเกินไป แอบไปร้องอยู่ที่ไหนรึเปล่าก็ไม่รู้
“เอ่อ ท่านครับ”
ทีมองตามมือกรซึ่งชี้ไปยังจอที่ฉายภาพจากกล่องวงจรปิดบริเวณบ้าน
ภาพคนตัวเล็กกำลังปีนกำแพงข้างบ้านทำเอาทีถึงกับขบกรามตัวเองแน่น
“ดื้อนักนะหนูซอล”
ทีหยิบโทรศัพท์เครื่องบางออกจากกระเป๋ากางเกง พิมพ์ข้อความส่งออกหาเด็กดื้อที่พึ่งปีนกำแพงออกไป
‘ ถ้าไม่เห็นเธอภายใน20นาที โดนดีแน่’
——————-