กำราบรัก 1
“คุณพ่อ หนูไม่ไปนะคะ ทำไมหนูต้องไปด้วย”
กุญแจซอลโอดครวญเมื่อพ่อบังเกิดเกล้าของเธอยกเรื่องที่เธอดันไปวิ่งชนแขกคนสำคัญของท่านล้มมาลงโทษเธอ ก่อนหน้านี้พ่อเลี้ยงอธินติดธุระที่ต่างประเทศเลยยังไม่มีเวลาลงโทษลูกสาวตัวดีของเขาจนวันนี้ เขาพึ่งกลับมาถึงบ้านเลยได้เวลาจัดการเธอสักหน่อย ลูกสาวตัวเล็กจะได้รู้ตักโตเสียบ้าง
“ลูกจะไม่ไปช่วยงานคุณทีเขาก็ได้แต่ทริปที่ลูกขอไปเที่ยวบาหลีกับเพื่อน อดแน่นอน”
“โธ่ว คุณพ่อขา คุณพ่อไม่รักหนูซอลคนนี้แล้วหรอคะ”
พ่อเลี้ยงอธินเผลอลูบหัวลูกสาวที่กำลังเข้ามาออดอ้อนเขาก่อนจะดึงมือกลับเนื่องจากคิดขึ้นได้ว่าครั้งนี้เขาต้องห้ามใจอ่อนกับลูกสาวคนนี้เด็ดขาด
“พ่อยื่นคำขาด หนูซอลทำตัวเองนะเรื่องนี้”
“หนูซอลไม่ผิดสักหน่อย”
กุญแจซอลยกมือขึ้นกอดอก ทำหน้ามู่ทู่อย่างไม่ยอมเช่นกัน
“ได้ ถ้าหนูซอลยืนยันแบบนี้”
“คุณพ่อจะไม่ให้หนูซอลไปแล้วใช่มั้ยคะ”
“ใช่ แต่เรื่องนี้ต้องมีคนรับโทษ ถ้าหนูซอลไม่ผิดแสดงว่าคนที่ผิดก็คือ สา นิด ไอสิน ไอชัยสินะ”
ลูกน้องที่โดนพาดพิงสะดุ้งกันเป็นแถว หน้าตาซีดเผือดเมื่อรู้ว่าจะถูกลงโทษ กุญแจซอลมองบรรดาลูกน้องพ่อเธอพลางถอนหายใจ เธอรู้ว่าเธอเองก็มีส่วนผิดอยู่บ้างและเธอไม่ยอมให้คนอื่นต้องมารับแทนแน่
“ก็ได้ค่ะ คุณพ่อห้ามทำอะไรพี่ๆของหนูซอล สาขา นิดขา พี่สิน พี่ชัยไม่เกี่ยวสักหน่อย”
คนเป็นพ่อยกยิ้มพึงพอใจ เขารู้จักนิสัยลูกสาวดี ถึงจะดื้อแต่เจ้าตัวก็มีจิตใจที่ดีมากทีเดียว และเพราะเธอเป็นอย่างนี้นี่แหละ ลูกน้องเขาถึงได้โอ๋เธอกันนัก
“ถ้าคุณหนูไม่อยากไป พวกพี่ยอมโดนลงโทษก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไร หนูซอลจะปกป้องทุกคนเอง”
คุณหนูของพวกเขาพูดอย่างหนักแน่นก่อนเธอจะหันไปต่อรองกับผู้เป็นพ่อ พวกเขาเลยได้แต่มองเธอยิ้มๆปนเอ็นดู ตั้งแต่เลี้ยงมาจนโต คุณหนูของพวกเขาก็น่ารักไม่เคยเปลี่ยนเลย
“แต่หนูซอลมีข้อแม้นะคะ”
“ว่ามาสิ ถ้าข้อแม้หนูซอลพอรับได้ พ่อถึงจะโอเค”
“หนูซอลจะไปช่วยงานคุณทีตามที่คุณพ่อสั่งแต่ถ้าคุณทีเป็นคนไล่หนูซอลกลับมาเองถือว่าข้อตกลงระหว่างเรายุติ และคุณพ่อห้ามเอาเรื่องนี้มาบังคับหนูซอลอีก”
กุญแจซอลเสนอข้อตกลงก่อนจะหันมาแอบลอบยิ้มให้กับพี่เลี้ยงของเธอ เพียงแค่เห็นรอยยิ้มของคุณหนู พี่เลี้ยงทั้งสองก็รับรู้ได้ทันทีว่าเรื่องในหัวคุณหนูของพวกเธอต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ คิดแล้วก็อดนึกสงสารคนที่คุณหนูจะไปช่วยงานไม่ได้
“โอเค ตกลงตามนั้น”
“คุณพ่อห้ามคืนคำนะคะ มาเลย มาเกี่ยวก้อยสัญญากัน”
พ่อเลี้ยงอธินมองนิ้วก้อยเล็กของลูกสาวพลางส่ายหน้าไปมาแต่ก็ยอมยื่นนิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยวกับเธอเพื่อทำสนธิสัญญา
“ไปจัดกระเป๋ากันสาขา นิดขา”
เมื่อข้อตกลงเป็นที่พึงพอใจของทั้งสองฝ่าย กุญแจซอลจึงลุกขึ้นดึงมือพี่เลี้ยงทั้งสองให้ไปจัดกระเป๋า
“ใครบอกว่าสากับนิดจะไปกับลูก”
ขาเรียวหยุดชะงัก หันมองบิดาอย่างไม่เข้าใจ
“คุณพ่อหมายความว่าไงคะ?”
“หมายความว่าหนูซอลต้องไปคนเดียวครับลูกสาว”
“เอ่อ มันจะดีหรอคะพ่อเลี้ยง”
กลับกลายเป็นพี่เลี้ยงที่เป็นคนแย้งขึ้นมา อาจเป็นเพราะพวกเธอรักคุณหนูของตัวเองมาก ดูแลกันมาตั้งแต่อ๋อนแต่อ่อนถึงตอนนี้คุณหนูของพวกเธอจะอายุ22ปี ปีหน้าก็จะขึ้นปี4แล้วก็ตาม
“เดี๋ยวนี้คำสั่งฉันมันไม่ดีแล้วรึไง”
น้ำเสียงดุดันของพ่อเลี้ยงทำเอาพี่เลี้ยงก้มหน้าแทบทันที กุญแจซอลเมมปากตัวเองแน่นก่อนจะประกาศออกมาเสียงกร้าว
“ได้ค่ะคุณพ่อ หนูซอลจะตั้งใจทำงานให้คุณที คนสำคัญของคุณพ่อให้กระอักเลือดเลยทีเดียว”
ถึงแม้คำพูดของลูกสาวฟังดูขัดกันชอบกลแต่พ่อเลี้ยงก็มั่นใจว่า ที ธีรภัทร ทวีพัฒนานี่แหละที่จะเอาลูกสาวตัวดีของเขาอยู่
ภายในห้องทำงานหรูใจกลางเมือง ประธานบริษัทหนุ่มหล่อเจ้าของสายการบินกำลังเคร่งเครียดกับงานตรงหน้าก่อนที่ความเครียดนั้นจะหายไปเมื่อเขาได้รับข่าวดีจากพ่อเลี้ยงอธิน ผู้มีพระคุณของเขา
‘แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะหนูซอล’ ทีคิดในใจ
“หึ”
ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มเมื่อมองภาพเด็กสาวในอินสตาแกรม หลังจากวันนั้นที่เจอกับกุญแจซอล เขาได้สั่งให้ลูกน้องสืบประวัติเธอ ในตอนแรกแอบตกใจเหมือนกันเพราะไม่คิดว่าเธอจะเรียนปี 3 แล้ว ดูจากหน้าตาเธอเหมือนเด็กมัธยมเสียมากกว่าแต่ก็ดีเหมือนกัน บรรลุนิติภาวะแบบนี้ อะไรๆมันจะได้ง่ายขึ้น
“เอ่อ ขอโทษครับท่านประธาน”
รอยยิ้มบนใบหน้าเข้มหุบลงเมื่อลูกน้องเข้ามาแต่ก็ไม่เร็วพอที่จะรอดพ้นสายตาลูกน้องได้ กรแปลกใจเล็กน้อยเพราะไม่เคยเจ้านายตัวเองยิ้มแบบนั้นแต่ก็รีบปรับสีหน้าให้ปกติ รายงานเรื่องที่ตั้งใจมาบอกเจ้านาย
“มีคนมาขอพบท่านประธานครับ”
คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย เท่าที่จำได้วันนี้เขาไม่ได้นัดใครไม่ใช่หรอ
“เธอบอกเป็นลูกของพ่อเลี้ยงอธินครับ”
นั่นยิ่งทำให้ทีขมวดคิ้ว ก็เมื่อครู่เขาพึ่งวางสายจากพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงบอกว่าลูกสาวเขาจะเข้ามาพรุ่งนี้แล้วไหงถึงโผล่มาวันนี้ได้ล่ะ
“ให้ผมไปแจ้งให้เธอกลับไปก่อนมั้ยครับ”
“ไม่ต้อง ให้เข้ามา”
“ครับท่านประธาน”
ทีวางเอกสารลงบนโต๊ะเพื่อรออีกคนเข้ามา เขาพอจะรู้ฤทธิ์ของคุณหนูซอลมาบ้างจากผู้เป็นบิดาของเธอแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไปรับปากว่าจะช่วยดัดนิสัยเธอ ทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องทำเลยสักนิดแต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเขาจึงตอบตกลงแบบไม่คิดตอนที่พ่อเลี้ยงโทรมาขอความช่วยเหลือ
ก๊อก ก๊อก
ประตูบานใหญ่เปิดออกเผยให้เห็นร่างเล็กในชุดเอี๊ยมสีฟ้าสดใส ดวงหน้าเล็กถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อย ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกเปียเป็นเปียหลวมๆไว้ด้านหลังนั่นยิ่งให้เธอดูเด็กเข้าไปอีก
‘นี่มันเด็กมัธยมชัดๆ’
ทีคิดในใจก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของกุญแจซอลเอ่ยทัก
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
เมื่อคำว่าลุงหลุดออกจากปากกระจับนั่น ลูกน้องคนสนิทของทีถึงกับกลั้นขำในความน่ารักของเธอ
ทีกระแอมเล็กน้อยในลำคอก่อนจะพูดออกมาเสียงนิ่ง
“ฉันอ่อนกว่าพ่อเธอเกือบสามสิบปี”
“อิอิ หนูซอลแค่แกล้งเล่นเองค่ะ คุณพ่อให้หนูซอลมาช่วยงานคุณทีเพื่อเป็นการไถ่โทษวันนั้นที่หนูซอลชนคุณทีล้มค่ะ”
กุญแจซอลยิ้มตาหยี่เผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง ทำเอาคนมองถึงกับชะงักไปชั่วขณะก่อนจะรีบปรับเสียงและสีหน้าให้เป็นปกติ
“ไหนลองแนะนำตัว”
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อกุญแจซอล เรียนวิศวะ กำลังจะขึ้นปี4 ชอบฟังเพลงแต่ไม่ชอบร้องเพลง ชอบกินก๋วยเตี๋ยว ผัดไท ผัดซีอิ๊ว แล้วก็...”
นิ้วเล็กเคาะคางตัวเองเหมือนพยายามคิดถึงอาหารที่ชอบกิน
“เอ่อ หนูชอบกินทุกอย่างเลยค่ะ กิจกรรมยามว่างนอนค่ะ ไม่ชอบผู้ชายขี้เก๊ก วางมาด หน้านิ่ง พูดน้อย...”
“พอ”
ทียกมือขึ้นขัดกุญแจซอลเพื่อไม่ให้เธอพูดต่อเมื่อรู้สึกว่าประโยคหลังเริ่มเข้าตัวเขายังไงก็ไม่รู้
“ทำไมล่ะคะ หนูซอลยังพูดไม่จบเลยนะคะ”
กุญแจซอลเอ่ยถามด้วยแววตาใสซื่อแต่ในใจนั้นกลับยิ้มร้าย วันนี้เธอกะมากวนประสาททีเท่านั้นและดูเหมือนมันเป็นไปได้ด้วยดีเสียด้วย
“เอ่อ คุณหนูซอลพอจะถนัดงานอะไรบ้างครับ”
กร ลูกน้องคนสนิทของทีเอ่ยถามอย่างสุภาพ เขาต้องการช่วยกุญแจซอลเพราะคงทำใจไม่ได้ถ้าต้องทนเห็นเธอโดนเจ้านายตัวเองดุ เธอดูน่าเอ็นดูเกินไปที่จะต้องเจอกับโหมดดุของเจ้านายเขา
“ถนัดหรอคะ อ่า พวกเชื่อมเหล็ก อ๊อกเหล็กนี่หนูซอลทำได้หมดเลยนะคะ”
แต่คำตอบของกุญแจซอลทำเอากรถึงกับกุมขมับ
“แล้วพวกงานบ้านอะไรอย่างนี้ล่ะครับ”
ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ลดความพยายามที่จะช่วยเธอ
“อ๋อ ถ้างานบ้านไม่เป็นเลยค่ะ”
“ไม่เป็นสักอย่างเลยหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ประสบการณ์ล่าสุดในการทำงานบ้าน ซอลกวาดบ้านแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรไม้กวาดดันลอยไปโดนแจกันราคาสามแสนของคุณพ่อแตก ซอลถูพื้นแต่ไม่รู้ทำไมมันแห้งช้านัก ทำเอาคนในบ้านลื่นล้มกันเป็นแถว ล่าสุดนิดขาสอนซอลล้างจานปรากฏว่าคุณพ่อต้องซื้อจานใหม่ยกเซ็ทเลยเพราะซอลทำแตกทุกใบ”
เจ้าของเรื่องราวเล่าออกมาด้วยรอยยิ้มภูมิใจในวีรกรรมของเธอ ส่วนกรนั้นอ้าปากค้างไปแล้ว เขาเหลือบมองเจ้านายเล็กน้อยแต่น่าแปลกที่เจ้านายเขากลับนั่งมองกุญแจซอลนิ่งไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจใดๆ
“พรุ่งนี้เข้ามา เก้าโมงเช้า”
กุญแจซอลเบิกตาโต อ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำสั่งจากบุคคลหน้านิ่ง นี่ขนาดเธอกวนเขาไปขนาดนี้ เขายังจะอยากเจอเธออีกหรอ ส่วนทีนั้นเมื่อเห็นอาการของกุญแจซอล เขาจึงกระตุกยิ้มมุมปาก ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าเธอแกล้งกวนเขาเพื่อให้เขาไล่เธอไปแต่ฝันไปเถอะเด็กน้อย เขาไม่มีทางหลงกลเด็กอย่างเธอหรอก
“ถ้าคุณต้องการคนดูแล ซอลจ้างให้ก็ได้นะคะ”
“หึ เธอจะเอาเงินที่ไหนจ้าง?”
“ซอลมีเงินเดือน รับรองคนดูแลที่ซอลจัดมาจะต้องถูกใจคุณทีค่ะ”
“เธอคงยังไม่รู้”
ดวงตากลมโตกระพริบตาปริบๆ ด้วยความสงสัยว่ามีเรื่องอะไรที่เธอไม่รู้
“เงินเดือนเธอถูกลดเหลือ 6 พันต่อเดือน”
“ห๊ะ 6 พัน คุณล้อเล่นรึเปล่า”
“ลองถามพ่อเธอดูแล้วกัน”
ริมฝีปากอวบอิ่มเมมเข้าหากัน เธอนึกเจ็บใจที่ทำอะไรทีไม่ได้แถมยังโดนเอาคืนแบบนิ่งๆอีก แต่สายตาพลันเหลือบไปเห็นไอแพดบนโต๊ะทำงานของที เธอเลยเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะทำงาน
ทีเงยหน้าจากเอกสารมองหยั่งเชิงว่าเธอต้องการอะไร
“เคสไอแพดสวยจัง ซอลขอดูนะคะ”
ไม่รอให้เจ้าของอนุญาติ มือเล็กก็หยิบไอแพดขึ้นมาพลิกไปมาราวกับชื่นชอบเคสสีดำสนิทนั่นเสียเหลือเกิน และเมื่อสำรวจจนพอใจเธอเลยส่งกลับให้เจ้าของ
ทีมองมือขาวเนียนนิ่งจนกรต้องรีบเสนอตัวเข้ามารับแทน เขารู้ดีว่าปกติเจ้านายเขาไม่รับของจากใครโดยตรงแต่เหมือนครั้งนี้เขาคิดผิดเพราะเจ้านายเขากลับรับไอแพดคืนจากกุญแจซอลเองเสียอย่างนั้น
“ซอลลานะคะ see you tomorrow ค่ะคุณลุง”
กุญแจยิ้มกว้างกล่าวลาด้วยน้ำเสียงสดใสผิดปกติก่อนที่เธอจะเดินอารมณ์ดีออกจากห้องไป ทีส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะจัดการวางไอแพดลงบนโต๊ะ แต่เมื่อเขาจะปล่อยมือจากไอแพดกลับทำไม่ได้เพราะเหมือนมือเขาจะติดแน่นเข้ากับเคสไอแพดของตัวเอง
“หึ ยัยหนูซอล”
ทีขบกรามตัวเองแน่น เมื่อนึกขึ้นได้ถึงสาเหตุรอยยิ้มและแววตาขบขันของคนที่พึ่งเดินออกไป
ร้ายนักนะ หยิบไปแค่แปบเดียว เธอเอาเวลาที่ไหนไปทากาวบนเคสไอแพดเขากัน สงสัยจากที่คิดว่าจะรับมือกับคุณหนูซอลได้ง่ายๆเขาคงต้องคิดใหม่เสียแล้ว
———————