ตอนที่ 5
“ดูเธอสบายดีครับเจ้านาย” จีโอเอ่ยตอบเสียงเรียบ ก่อนเหลือบตามองไปยังห้องขังเชลยสาว ที่ไม่รู้ว่าจะออกฤทธิ์ด้วยการเคาะประตูห้องอีกหรือไม่
“ก็แน่ล่ะ ได้มาอยู่บนห้องพักหรูๆ โดยไม่เสียเงินสักบาท หล่อนก็ต้องสบายอยู่แล้ว” คนพูดบิดปากอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเดินไปทั้งตัวที่โซฟาเรียบหรู ยกเท้าทั้งสองพาดไปบนโต๊ะกระจก แล้วหันไปรับเครื่องดื่มจาก เลเนียร์ แม่บ้านวัยเกษียณ แต่ยังไม่เกษียณตัวเองเสียทีเพราะเป็นห่วงเจ้านาย หญิงชราจึงอยู่ดูแลเจ้านายหนุ่มต่อไปจนกว่าจะไม่มีแรง
“ขอบคุณครับ ป้าเลเนียร์” ดื่มจนหมดแก้วก็หันไปขอบคุณพร้อมรอยยิ้มมีเสน่ห์ ก่อนจะสั่งให้เอสก้าไปส่งป้าเลเนียร์ที่บ้านพัก แต่ก่อนไปก็ได้บอกให้ป้าเลเนียร์หยุดพักผ่อน ไม่ต้องมาดูแลเขา
“แล้วใครจะมาดูแลคุณเคลย์ริกของป้าคะ” แม่บ้านเลเนียร์ ยังนึกห่วง กลัวไม่มีใครดูแลเจ้านาย
“ป้าเลเนียร์ไม่เป็นต้องห่วงครับ ผมมีคนมาดูแลแน่นอน” เคลย์ริก แม็คเคลตัน นักธรุกิจหนุ่มเสน่ห์แรงและเป็นผู้ดูแลเดอะฟรอนเทียร์ คาสิโน โฮเทล บอกแล้วยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ซึ่งรอยยิ้มนั่นก็ทำให้เลเนียร์เบาใจ เพราะเดาได้ว่าตอนนี้เจ้านายหนุ่มคงหาแม่บ้านคนใหม่มาได้แล้ว
“แต่ถ้าคนใหม่ดูแลคุณเคลย์ริกของป้าไม่ดี คุณเคลย์ริกก็เรียกป้าได้ตลอดนะคะ”
“ครับ” เจ้าของเสียงยิ้มกว้าง แล้วหันไปพยักหน้าให้กับเอสก้าพาป้าเลเนียร์ไปส่งบ้าน และคล้อยหลังป้าเลเนียร์ไปเล็กน้อย เคลย์ริกก็สั่งให้ลูกน้องแยกย้ายกันไปพัก โดยไม่ลืมสั่งให้ลูกน้องโทรตามคู่ขาให้ไปรอในห้องที่มีไว้สำหรับทำกิจกรรมบนเตียง
ภายในห้องพักจึงเหลือเพียงหนุ่มหล่อทายาทคนโตของตระกูลแม็คแคลตันและเชลยสาว ที่เวลานี้เจ้าตัวก็กำลังพยายามจับการเคลื่อนไหวด้านนอก สลับกับมองไปที่จานข้าวซึ่งยังมีอาหารเหลืออยู่ครึ่งจานอย่างหมายมั่น
‘ทำไมมันเงียบแบบนี้ล่ะ หรือว่าพ่อหนุ่มร่างยักษ์กลับไปแล้ว เฮ้ย! แล้วจะทำไงดี อุตส่าห์วางแผนหนีเสียดิบเสียดี’ เพราะวันนี้เธอคิดว่าจะเอาจานใส่อาหารฟาดหนุ่มร่างยักษ์แบบจังๆ แล้วจากนั้นเธอก็จะเผ่นออกไป แต่ดูเหมือนแผนที่วางไว้คงล่มไม่เป็นท่าซะแล้ว
‘คนหน้าโหดนั่นก็หายหัวไปเลย’ มธุราเบ้ปากอย่างนึกชังหน้า เมื่อต้องมานึกถึงคนหน้าโหด ที่นึกอยากจะไปฉุดใครมาก็ฉุดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
แก๊ก!
‘นั่นมันเสียงดังมาจากประตูนี่!’ มธุรารีบโดดลงจากเตียงไปคว้าเอาคว้าจานข้าวมาถือไว้ และตอนนี้ก็รอจังหวะให้มีคนเข้ามา
เพล้ง!
“บ้าฉิบ!” อาวุธในมือเล็กหล่นกระแทกพื้นแค่เสี้ยววินาทีเสียงสบถดังลั่น ที่ไม่ต้องมองหน้าก็เดาออกว่าเวลานี้เจ้าของเสียงสบถอยู่ในห้วงอารมณ์ไหน
ทว่าคนที่เอาภาชนะใส่อาหารฟาดใส่คนที่เปิดประตูเข้ามา ไม่ได้คิดจะสนใจอารมณ์ใครหน้าไหน เพราะหญิงสาวคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะต้องรีบวิ่งผ่านคนตัวโตออกไปให้ได้ แต่กลับถูกคว้าตัวเอาไว้แล้วก็เหวี่ยงลงพื้น
“อูยย...เจ็บชะมัดเลย” หญิงสาวร้องครางโอดโอยหลังถูกเหวี่ยง
“นี่เธอทำบ้าอะไร!!” เสียงห้าวห้วนดังจนหูคนฟังแทบจะบอด ก่อนที่เจ้าตัวจะลนลานไปยืนอยู่ห่างๆ
“คือ...คือ...” มธุราตอนนี้ปากคอสั่นไปหมด เพราะไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอคนหน้าโหด
“คืออะไร” เคลย์ริกยกมือเท้าเอว ตาคมดุปราดมองไปยังร่างเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในผ้าม่านอย่างนึกขำ เพราะแค่ผ้าม่านมันไม่ได้ช่วยอะไรเธอได้เลยสักนิด แต่หล่อนก็ยังโง่เอาตัวเข้าไปซ่อน!
“เลิกตะคอกฉันสักทีได้ไหม ไอ้…ไอ้บ้า หน้าโหด” เสียงหวานแต่ขุ่นจัดเอ่ยออกมา ตาก็จ้องไปยังคนหน้าโหดอย่างระแวดระวัง
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง!” เคลย์ริกยังไม่เลิกตะคอก และคิดว่าเขาจะต้องจัดการผู้หญิงคนนี้ให้หลาบจำก่อนถึงจะไปล้างตัวเอากลิ่นอาหารออก เพราะถ้าเดินดุ่มๆ ออกไปตอนนี้เจ้าหล่อนคงจะยิ้มเยาะเขา
“ก็แล้วคุณล่ะ มีสิทธิ์อะไรมาตะคอกใส่ฉัน” มธุราเชิดหน้าขึ้นอย่างอวดเก่ง ทั้งที่ใจนั่นกลัวแสนกลัว
“ปากเก่งดีนี่” ปากหยักสวยราวกับผู้หญิงยกยิ้ม สาวเท้าเข้าไปใกล้ร่างเล็กที่ไม่มีแม้โอกาสหนี เมื่อเท้าใหญ่ก้าวไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวคนปากเก่งเรียบร้อย
“จะ…จะทำอะไรฉัน ไอ้หน้าโหด” ความกล้าและอวดเก่งเมื่อครู่ของเธอหายวับไปกับสายลมเมื่อคนตัวโตมายืนปล่อยรังสีอำมหิตอยู่ใกล้ๆ
“ผู้หญิงปากเก่งแล้วก็แพศยาอย่างเธอ คิดว่าผู้ชายแมนทั้งแท่งอย่างฉันควรจัดการคนแบบเธอยังไงดีล่ะ” เป็นอีกครั้งที่คนหน้าโหดขยับปากยิ้มด้วยรอยยิ้มหยัน ที่ตอนนี้มธุรากำลังทั้งช็อกทั้งงงเป็นไก่ตาแตก เมื่ออยู่ดีๆ ก็โดนด่าว่าเป็นผู้หญิงแพศยาจากปากของผู้ชายที่เธอก็เพิ่งจะเคยเห็นหน้า!
‘เขามากล่าวหาเธอทำไม?’
“เสนอความคิดมาสิ อย่าเอาแต่เงียบ” น้ำเสียงยังเย้ยหยันและสายตาก็ดูแคลนจนคนถูกถามชาไปทั้งหน้า พลางคิดทบทวนว่าตั้งแต่เกิดมาไปทำเรื่องเสียหายอะไรไว้งั้นหรือ อยู่ดีๆ ถึงได้โดนตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงแพศยา แต่มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่าไม่เคยทำตัวอย่างที่เขากล่าวหา
“ตอบ!”