ตอนที่ 2 ชานนท์

1292 Words
สองสัปดาห์ก่อนภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่วัยยี่สิบหกปีนั่งอยู่ในรถมินิแวนสีดำ “เชิญครับคุณชาร์ล” จรูญคนขับรถและคนสนิทของชานนท์สมัยอยู่ประทศไทยโค้งคำนับให้นายน้อยที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ ชานนท์พยักหน้า แววตานิ่งเฉยดูไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร เดินเข้าไปตามโถงกว้างในตัวคฤหาสน์ สายตากวาดมองไปโดยรอบ สามปีแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านที่ประเทศไทยเลย เพราะมัวแต่เร่งศึกษาเล่าเรียนเพื่อให้จบหลักสูตรโดยเร็ว ชานนท์ จิตตวิสุทธิ หนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน เขากับพี่สาวเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของมารดาหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ชานนท์และเชอร์ลีนจึงต้องดูแลบริหารงานทุกอย่างต่อจากบิดาทั้งหมด ถึงแม้ทั้งสองจะถูกเลี้ยงดูแบบฝรั่งแต่ก็ยังมีนิสัยหลายอย่างที่พี่น้องคู่นี้ยังคงความเป็นไทยไว้เหมือนกัน “กลับมาแล้วหรือลูก คิดถึงจัง” ญาดา จิตตวิสุทธิ ผู้เป็นมารดาโผเข้ากอดลูกชายแล้วยิ้มด้วยความดีใจ เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆ คลี่ยิ้มออกบางๆ โอบกอดผู้เป็นแม่แน่นแววตาวาววับแสดงถึงความคิดถึงที่ได้เจอหน้ามารดา จิตตวิสุทธิเป็นตระกูลดังที่มีความร่ำรวยเป็นอย่างมาก ญาดาพบรักกับหนุ่มชาวอเมริกันตอนไปเที่ยวต่างประเทศแต่ครอบครัวของญาดาไม่ยอมให้ลูกสาวย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แดเนียลจึงต้องมาอยู่ที่เมืองไทยและได้พิสูจน์ความรักที่มีต่อญาดาด้วยการบริหารงานช่วยจิตตวิสุทธิจนเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุดพ่อกับแม่ของญาดาจึงได้ยอมรับในตัวแดเนียล “พี่เชอร์ลีนล่ะครับแม่” ชายหนุ่มเอ่ยถามมารดาสายตามองหาพี่สาวทั่วบ้านแล้วนั่งลงที่โซฟากลางห้องโถง เชอร์ลีนวัยสามสิบเอ็ดปีพี่สาวสุดสวยของชานนท์ ซึ่งตอนนี้เธอดำรงตำแหน่งประธานบริษัท AKP “วันนี้ที่จริงเชอร์ลีนกะจะรอเจอชาร์ลนั่นแหละ แต่บริษัทมีงานด่วนเข้ามาก่อนจึงต้องรีบเข้าไปดู และอีกสองสัปดาห์แม่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกชายสุดที่รักของแม่ด้วย เชอร์ลีนต้องเข้าไปดูความเรียบร้อยของสถานที่” ชานนท์พยักหน้าอย่างเข้าใจ สายตามองไปยังหญิงวัยห้าสิบปลายๆ อย่างสนใจ “น้ำค่ะคุณชาร์ล ไม่เจอคุณชาร์ลหลายปีหล่อขึ้นเยอะเลยนะคะ” ป้าเนียรเดินยกน้ำและของว่างมาให้พร้อมกล่าวทักทายและยิ้มกว้างให้ชายหนุ่มดีใจที่ได้เจอหน้านายน้อยอันเป็นที่รักของบ้านจิตตวิสุทธิ “ก็หล่อเท่าเดิมแหละครับป้า ทำไมไม่ให้เด็กยกมาล่ะครับ” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ ญาดามองจำเนียรแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปลื้มปริ่มในตัวลูกชายของตัวเอง “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ป้าไม่ลำบากอะไร” จำเนียรกล่าวเสร็จก็เคลื่อนกายเข้าไปเตรียมสำรับในครัวต่อ “ไม่เห็นต้องจัดงานเลยนี่ครับ ผมว่ามันไม่จำเป็นเลย” ชานนท์คิ้วขมวดมองมาที่หน้ามารดา รู้สึกไม่ค่อยยินดีกับการจัดงานครั้งนี้ของมารดาสักเท่าไหร่ “ได้ไงล่ะชาร์ล รองประธานบริษัทกลับมารับตำแหน่งทั้งที จะไม่ให้แม่จัดงานต้อนรับได้ยังไง” ญาดาเอ่ยเสียงนุ่มนวลมองลูกชายด้วยความรัก ชานนท์ได้แต่ปล่อยตามน้ำถึงจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แต่ก็เป็นการดีที่จะได้เจอกับพนักงานในบริษัทในเวลาอันสั้นโดยไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องออกเยี่ยมหน้างานอยู่ดี “แล้วนี่จะพักอยู่บ้านแม่กี่วันฮึ” ญาดากุมมือแล้วช้อนตามองหน้าลูกชายอย่างเอ็นดู เพราะปกติตอนที่ชานนท์อยู่ประเทศไทยก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่ เขามีคอนโดส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ก่อนเชอร์ลีนก็ออกไปอยู่คอนโดส่วนตัวเหมือนกัน แต่พอพ่อจากไปเชอร์ลีนจำต้องย้ายมาอยู่กับแม่ตามเดิม ทุกวันนี้ญาดาก็คอยให้ความช่วยเหลือลูกสาวอยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกเบื่อและเธอก็ไม่อยากหาใครมาเป็นภาระทางหัวใจ อยู่คนเดียวสบายใจกว่า รอเลี้ยงหลานจากลูกทั้งสองก็พอ “น่าจะหลังจากที่จบงานเลี้ยงที่บริษัทแล้วน่ะครับ อยู่กับแม่แป๊บนึงก่อนเดี๋ยวค่อยย้ายครับ” “แหม...อยู่นานกว่านี้ก็ไม่ได้นะ แม่ยังไม่หายคิดถึงเลย” ญาดาเอ่ยขึ้น แต่รู้ทั้งรู้ว่าลูกชายไม่กลับมาอยู่บ้านแน่นอน เพราะลูกสาวและลูกชายทั้งสองคนถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ ใครอยากเลือกชีวิตแบบไหนพ่อกับแม่ไม่เคยห้าม แต่เรื่องการศึกษาต้องมุมานะอย่างหนักทั้งพี่ทั้งน้อง ชานนท์เลยกลายเป็นหนุ่มที่โตเกินกว่ารุ่นเดียวกัน เพราะต้องเตรียมตัวมาทำหน้าที่รองประธานบริษัท ถึงใจเขาจะยังไม่พร้อมก็ตาม “เดี๋ยวผมจะมาหาบ่อยๆ นะครับแม่” ชานนท์และเชอร์ลีนเรียนรู้งานบริษัทกับพ่อแม่ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนถึงปัจจุบัน ทำให้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับงานในบริษัทเป็นอย่างดี ระหว่างที่ชานนท์อยู่ต่างประเทศเชอร์ลีนก็โทรปรึกษาน้องชายตลอด เมื่อมีบางเรื่องที่ตัดสินใจเองไม่ได้เกี่ยวกับบริษัท โต๊ะอาหารตอนเย็นภายในคฤหาสน์ สามแม่ลูกกำลังนั่งทานข้าวด้วยกันอย่างมีความสุข เพราะบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ กว่าจะดึงตัวน้องชายสุดหล่อมาทานข้าวด้วยกันแบบนี้นั้นสุดแสนจะลำบากยิ่งกว่าการสร้างตึกสิบชั้นเสียอีก “น้องชายพี่หล่อจนเป็นนายแบบได้เลยนะเนี่ย ไม่เจอกันแค่สามปี โตเป็นหนุ่มเต็มตัวเชียว” เชอร์ลีนมองน้องชายด้วยความชื่นชม “แบบนี้มีสาวๆ เพียบเลยดิ” “ยังไม่มีใครเลยครับ แล้วคู่หมั้นไปไหน ไม่เห็นมาด้วยเลย” ชานนท์มองหน้าพี่สาวแล้วถามเสียงเรียบ ญาดามองลูกทั้งสองด้วยความภูมิใจที่ทั้งสองสวยหล่อแถมเก่งงานอีกต่างหาก เธอช่างเป็นแม่ที่โชคดีจริงๆ ถ้าแดเนียลสามีของเธอยังอยู่คงภูมิใจลูกทั้งสองคนเป็นแน่ เชอร์ลีนทำหน้าตาหาเชื่อไม่กับคำปฏิเสธของน้องชาย เพราะถึงแม้ท่าทางภายนอกจะดูเป็นคนนิ่งขรึม ไม่ค่อยพูด แต่นั่นล่ะคือเสือร้ายชัดๆ “พี่ภูมิไปต่างประเทศ น่าจะกลับมาทันวันงานเดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว” “แล้วนี่เมื่อไหร่พี่จะแต่งงาน มีหลานให้แม่ซะทีอายุก็ปาเข้าเลขสามแล้วนา แก่แล้วรู้ตัวบ้างรึเปล่า แม่อยากอุ้มหลานจะแย่” ชานนท์พูดพร้อมชำเลืองหางตามองหน้ามารดา แม้ในใจจะไม่ได้คิดอย่างที่พูดก็ตาม แท้จริงแล้วเขากลัวว่าญาดาจะบังคับตัวเขาเองให้แต่งงานมากกว่า “แหม…ก็พูดซะ พี่ออกจะสวยและอ่อนเยาว์ขนาดนี้ นายอย่ามีแฟนแก่กว่าละกัน จะรอซ้ำอย่างเดียวเลยล่ะ และจะกีดกันทุกวิถีทางเลยเชียว จะเอาให้ร้อง” ชานนท์กับญาดาหัวเราะท่าทางกระเง้ากะงอดของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู “ไม่มีทาง รอกีดกันได้เลยครับพี่สาว” ชาร์ลพูดเสียงทุ้มต่ำด้วยความมั่นใจในตัวเองว่ายังไงก็ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่าแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD