พอมาถึงห้องพักของตนที่อยู่ตรงข้ามกับห้องของเจ้านายหนุ่มหล่อนก็เดินเข้าไปในห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงอย่างอ่อนแรง ตั้งแต่ออกจากสนามบินมาก็ไม่ได้สบายเลย ต้องคอยหิ้วถือของให้พวกรวยไร้จิตสำนึก
เฮ้อ!
“มาทำงานถึงฝรั่งเศสก็เอายัยโคโยตี้นั่นมาด้วย ขาดกันคงจะตายสินะ ไม่ได้จิ้มได้เสียบโยกกันคงจะขาดใจตายสินะ” หล่อนอดแขวะห้องตรงข้ามไม่ได้
บ่นพึมพำให้เจ้านายหนุ่มไปหลายตลบจนเผลอหลับทั้งๆ ที่ยังใส่แว่นอยู่ หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ จนต้องสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เมื่อมีคนมาเคาะประตูห้องนอนของเธอ ร่างเล็กงัวเงียตื่นไม่เต็มตาสติไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ เดินโซเซไปยังประตูห้อง พอถึงหน้าประตูห้องสาวเจ้าก็กะพริบตาไล่ความง่วง จัดเสื้อผ้าทันทีเมื่อตื่นเต็มตาสติมาครบแล้ว ก็จัดแต่งผมที่ยุ่งเหยิงของตนให้เข้าทรง ก่อนจะส่องตาแมวหน้าประตูเพื่อดูว่าใครกันมารบกวนตนเวลานี้ได้ พอส่องแล้วเห็นหน้าบึ้งตึงของเจ้านายที่รักยิ่งก็ต้องรีบผลักเปิดประตูทันที
“ทำอะไรอยู่ยัยแว่น ชักช้า!” พูดพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาในห้องโดยที่เจ้าของห้องยังไม่ทันได้อนุญาต
“นะ...นอนค่ะ....”
รีบปิดประตูห้องเดินตามนายหนุ่มไปที่โซฟารับแขกกลางห้องพัก แล้วหล่อนก็เพิ่งสังเกตว่าเขาถือถุงอะไรมาด้วยก็ตอนเขายื่นส่งให้เธอนั่นแหละ
“ฉันซื้อขนมมาฝาก เห็นเงียบไปเลยเป็นห่วง”
เหรียญชัยไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอพูดความรู้สึกห่วงใยลึกๆ ของหัวใจตนออกมา แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าความห่วงใยที่มีต่อหล่อนมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหนยังไงหรือว่ามันแอบซุกซ่อนอยู่ในอกเขานานแล้วกันแน่
“ขะ...ขอบคุณค่ะ”
เนตรนภาเอ่ยเสียงสั่นกับประโยคที่นายหนุ่มเปล่งออกมาพร้อมกับยื่นมือรับถุงขนมมาไว้ในมือแล้วเอาวางไว้ตรงหน้าตน ถามนายหนุ่มด้วยความสงสัยว่ามาหาเธอทำไมกัน แล้วคู่ขาของเขาไปไหนกัน ทำไมไม่ตามมาด้วย ปกติตัวติดกันราวกับปาท่องโก๋ แต่ทำไมตอนนี้ถึงมาคนเดียวได้เล่า
“คุณเหรียญชัยมีธุระอะไรกับดิฉันคะ แล้วเธอคนนั้น...”
“มาบี๊บงานก่อนจะไปคุยกับมิสเตอร์หว่อง ส่วนอิงกี้ก็เพลียหลับอยู่ที่ห้อง” ชายหนุ่มพูดแทรกประโยคของคนตัวเล็กก่อนที่เธอจะเอ่ยจบความ
“งั้นรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันขอตัวไปเอาเอกสารในห้องนอนแป๊บนึงค่ะ” ว่าแล้วก็รีบลุกขึ้นสาวเท้าเดินไปยังห้องนอนของตน
สายตาคมของเหรียญชัยจับจ้องตามร่างน้อยของเนตรนภาไม่วางตา ทุกการเยื้องย่างก้าวเดิน เอวบิดตามแรงเดินขยับกายมันดูกลมกลึงสวยดีไม่น้อย แต่แล้วก็ต้องส่ายหัวไปมาด้วยความตลกขบขันตัวเอง
“บ้าน่า!....ยัยแว่นจะเซ็กซี่ได้ยังไง แกคิดมากไปแล้วไอ้ห่า”
บ่นพึมพำขบขันกับความคิดของตัวเอง แล้วหยิบโบรชัวร์ของทางโรงแรมที่วางไว้บนโต๊ะตรงหน้าขึ้นมาเปิดดูไปพลางๆ ระหว่างรอเจ้าหล่อนกลับมา เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีเนตรนภาก็เดินกลับมาพร้อมกับเอกสารมากมายในมือ และสมุดโน้ตพร้อมกับปากกาเตรียมจดรายละเอียดงาน
“ว่ามาเลยค่ะเจ้านาย ดิฉันพร้อมแล้ว” เอ่ยพร้อมขยับแว่นของตน แล้วเปิดสมุดโน้ตและปากกาเตรียมจด
“เธอไม่หิวรึไง ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วนะยัยแว่น” เอ่ยอย่างเป็นห่วงอีกครั้ง
“ดิฉันค่อยกินหลังคุยงานเสร็จก็ได้ค่ะ”
ตอบพร้อมกับแหงนเงยขึ้นสบตาเจ้านายหนุ่ม แล้วในจังหวะนั้นเองสายตาของทั้งสองสบประสานกันก็เกิดกระแสไฟแล่นเข้าหากัน เกิดแรงดึงดูดบางอย่างขึ้น จนทำให้ร่างใหญ่โตของเหรียญชัยขยับขึ้นนั่งบนโต๊ะคั่นกลางระหว่างตนกับหญิงสาวมาชิดใกล้ใบหน้านวลอย่างไม่รู้ตัว
“ยัยแว่น...” เอ่ยเสียงสั่นพร่า ยกมือหยาบกร้านขึ้นโอบประคองใบหน้าสวยซึ้งของเธออย่างเผลอตัว
สติของเนตรนภากลับมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าเอ่ยเรียกตน แล้วสติเร็วเท่าความคิด สองมือน้อยที่จับปากกาและสมุดโน้ตอยู่ก็รีบผลักร่างใหญ่ออกไปให้ห่างตน
โอ้ย!
เหรียญชัยหงายหลังล้มไปกับโซฟาตัวนุ่มแล้วนั่นแหละสติของชายหนุ่มถึงได้กลับมา เมื่อประมวลเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่จะถูกผลักแล้วก็ต้องรีบดีดตัวลุกขึ้นมาแล้วนั่งตัวแข็งตีหน้าขรึมเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณเหรียญชัยเป็นอะไรมากไหมคะ ดิฉันขอโทษค่ะ” เจ้าหล่อนลนลานเอ่ยคำขอโทษพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่มด้วยความรู้สึกผิด
“ลองถูกผลักดูไหมล่ะ ถ้างั้นเธอไปกินขนมแล้วนอนพักเถอะ พรุ่งนี้หวังว่าเธอจะพร้อมกับงานที่เราจะไปนะ งานนี้มันสำคัญมาก” เอ่ยจบก็ลุกขึ้นขยับเสื้อของตัวเองแล้วเดินออกไปจากห้องพักของคนตัวเล็ก โดยไม่ลืมล็อกห้องให้เธอ
สาวเจ้าได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างกะพริบตาถี่ๆ ด้วยความมึนงง บอกจะมาบี๊บงานแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็กลับไปเสียแล้ว พอคิดถึงตรงนี้ใบหน้าสวยก็ซับสีเลือดขึ้นมาทันที เมื่อภาพเหตุการณ์หวาดเสียวสยิวกิ้วมันย้อนวนเข้ามาในความทรงจำของเธอ
อร้ายยยยย
“บ้า! บ้า! บ้าไปแล้วยัยเนตร ก็แค่อุบัติเหตุ คนอย่างไอ้คุณห่ามีเหรอจะสนใจผู้หญิงแบบเรา อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชื่นชอบอะไรเขาสักหน่อย แถมวิ่งแจกตามตลาดนัดเรายังวิ่งหนีเลย เชอะ! แต่ก็มีน้ำใจเหมือนกันนะ” พูดเองตอบเองพร้อมยกถุงขนมของชายหนุ่มขึ้นมาดูแล้วยิ้มกับถุงขนมอยู่เนิ่นนาน