@เช้าวันต่อมา
"เอื้อยคำหล้า คำแพงไปเรียนไป่" (พี่คำหล้า คำแพงไปเรียนยัง)
หนุ่มหล่อสาขายานยนต์มีเรียนเช้าคาบเดียวกันกับคำแพงเมื่อไหร่จะแวะมาหาตลอด เพื่อจะชวนอีกคนนั่งรถบิ๊กไบค์ไปเรียนด้วยกัน
"ยัง เดี๋ยวเอื้อยบอกให้" (ยัง เดี๋ยวพี่บอกให้)
เอ่ยแล้วเดินเข้าไปเรียกคำแพงในบ้าน น้องสาวก็เดินถือรองเท้าออกมาพอดี
"คำแพง โจ้มันมาซวนนั่งรถไปกับมันน่ะ" (คำแพง โจ้มันมาชวนนั่งรถไปกับมันน่ะ)
เธอรู้ว่าโจ้ชอบน้องสาวตัวเอง จีบมาตลอด แต่คำแพงไม่ตกลงปลงใจสักที สงสัยคำแพงคงไม่ได้รักโจ้แบบนั้น
ส่วนเธอน่ะไม่ติดหรอกนะหากว่าน้องสาวจะชอบใคร หล่อหรือไม่หล่อก็ได้ ฐานะทางบ้านไม่ว่ารวยหรือจน
เพราะครอบครัวพวกเราก็ไม่ได้เริศหรูขนาดที่ต้องเลือกคนมีโปรไฟล์โดดเด่นเท่านั้นมาเป็นคู่ชีวิต ขอแค่รักกันและมีความจริงใจให้กันก็พอ พากันสร้างเนื้อสร้างตัวได้ก็โอเคแล้ว
แต่ทางบ้านโจ้ก็ถือว่ามีฐานะมากนะหากเทียบกับคนในหมู่บ้าน เพราะบ้านของอีกฝ่ายมีอู่ซ่อมรถยนต์ขนาดใหญ่
คำแพงเดินออกจากบ้านไปยิ้มให้โจ้ เราสองคนมีตารางเรียนตรงกันอาทิตย์ละสองวัน นอกนั้นเธอเข้าเรียนเช้ากว่าหรือสายกว่า
หันมารับเงินกับพี่สาว แล้วเดินไปซ้อนท้ายรถบิ๊กไบค์สีดำคันโตอย่างทุลักทุเลเพราะกระโปรงมันตึง รับหมวกกันน็อกที่โจ้เตรียมมาให้ทุกครั้งใส่หัว กอดเอวอีกฝ่าย แล้วรถก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป
คำหล้ากำลังจะเดินไปปิดบ้านเพื่อออกไปทำงานเหมือนกัน ทว่ามีรถเก๋งยี่ห้อยุโรปสีดำคันหนึ่งมาจอดที่หน้าบ้าน มองดูคุ้นๆ กระทั่งเจ้าตัวเดินลงมาจากรถ
"สวัสดีครับ" ธนามาในลุคไปสอนนักศึกษา เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอมเทาอ่อนๆ กับกางเกงสแล็คสีเทาเข้ม ด้านล่างสวมเป็นรองเท้าหนังสีดำถูกขัดจนขึ้นเงา
ยกมือไหว้คนที่ให้เขามาส่งน้องสาวถึงที่บ้าน อายุมากหรือน้อยกว่าเขาไม่รู้ แต่อนาคตเขาก็คือน้องเขยต้องเคารพพี่เมียอยู่ดี
"คุณมาทำอะไรคะ" คนอะไรข๊าวขาว หล๊อหล่อ แต่งตัวก็ดี เซตผมแบบนี้นึกว่าดาราเกาหลี ขนาดอยู่ข้างเวทีหมอลำตอนกลางคืนยังพาออร่ากระจาย อยากถามว่าเคยตากแดดบ้างไหม
"ผมมาหาคำแพงครับ ผมจะมารับคำแพงไปเรียน"
"อะ..อ๋อ คำแพงไปกับโจ้แล้วค่ะ" ชี้มือไปทางถนนเข้าไปในตัวอำเภอ
"ไปไหนครับ"
"ไปเรียนค่ะ โจ้มารับไปเมื่อกี้ ปกติหากมีเรียนเวลาเดียวกันโจ้ก็จะมารับค่ะ"
".." ธนาได้ยินก็นิ่ง ที่บอกไปเมื่อคืนไม่ฟังเลย สงสัยอยากโดนดี!
"งั้นผมไปแล้วนะครับ" ยกมือไหว้อีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
คำหล้ายืนประมวลเหตุการณ์ แหม..คำแพงมีอะไรปิดบังเธออยู่หรือเปล่าเนี่ย ที่บอกไม่มีอะไรเชื่อได้แค่ไหนกัน
ธนาขับรถตามมาทันเห็นสองหนุ่มสาวในชุดนักศึกษานั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ เส้นผมยาวปลัวไสว เอาแขนกอดเอวผู้ชายราวกับเป็นแฟน ดูจากทรวงทรงองค์เอวเขาก็จำได้ทันทีว่านี่คือคนที่เขาบอกให้รอเมื่อวาน
คิดอะไรอยู่นะคำแพง ทำไมถึงได้เลือกที่จะท้าทายเขาโดยการมากับคนอื่นแบบนี้
รถบิ๊กไบค์มาหยุดลงข้างตึกเรียนของหญิงสาว ก่อนที่คำแพงจะถอดหมวกกันน็อกออกแล้วยื่นกลับให้โจ้
"ขอบใจ๋เด้อโจ้" (ขอบใจนะโจ้)
ตั้งแต่ปวส.ปี1 เธอเทียวไปกลับกับอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆ เวลามีเรียนและเลิกเรียนตรงกัน มาห่างตอนช่วงฝึกงาน และนี่เพิ่งกลับมาเทียวด้วยกันอีกครั้งในเทอมสุดท้าย
"เต็มใจ๋" (เต็มใจ)
ไม่บอกเปล่า แต่มือกลับจัดแต่งทรงผมช่วยหญิงสาวให้เป็นระเบียบ มาด้วยกันทีไรคำแพงหัวฟูทุกที ด้วยความที่เขาชอบขับรถมอเตอร์ไซต์ ทำให้คำแพงต้องมีสภาพแบบนี้ทุกครั้ง
แต่คำแพงคือคนสวย ไม่ว่าสภาพไหนอีกคนก็ยังสวยอยู่ดี ทำคนแอบชอบอย่างเขามองยังไงก็ไม่เบื่อเลยสักนิด
เคยเปรยไปบ้างว่าชอบหลายต่อหลายรอบ แต่คำแพงก็ยังให้แค่สถานะเพื่อนกับเขาอยู่ดี ไม่รู้ว่าสวยแบบนี้มีคนในใจอยู่แล้วหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่เคยเห็นคำแพงไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นเลยนะยกเว้นเขา
วันนี้ยังไม่ใจอ่อน อนาคตข้างหน้าก็ไม่แน่ สักวันผีอาจผลักใบหน้าหล่อๆ ของเขาไปสะกิดใจคำแพงก็ได้
"ไปแล้วเด้อ" (ไปแล้วนะ)
โจ้โบกมือให้ ก่อนจะขับบิ๊กไบค์ไปทางตึกเรียนของตัวเองที่อยู่อีกฝั่ง
คำแพงหมุนตัวกลับหมายจะเดินเข้าอาคารเรียน ทว่าเหมือนได้ยินเสียงมือถือที่อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีดำสั่นเตือน
หญิงสาวหยิบมันออกมาดู ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แปลก หากแต่งอย่างนั้นก็ลองกดรับ หากไม่ใช่คนที่เธอรู้จักก็แค่วาง ไม่มีเงินในบัญชีเยอะแยะให้ใครมาหลอกหรอก
ติ๊ด!
(เดินมาด้านหลังอาคารหน่อยครับ)
หญิงสาวทำหน้างง เป็นใครกันถึงบอกให้เธอเดินไปหา แต่ไม่ใช่มิจฉาชีพมาหลอกเอาเงินแบบในข่าวหรอกนะ
"ใครคะ"
(ถ้าจำเสียงผมไม่ได้ เดี๋ยวผมเป็นฝ่ายเดินไปให้คุณเห็นหน้าเอง)
"อะ..อาจารย์!"
(หึ จำได้แล้วเหรอครับ เดินมาด้านหลังตึกเรียนของคุณหน่อยผมรออยู่ในรถ)
"ตะ..แต่"
ติ๊ด!
คำแพงไม่ทันได้อ้าปากบอกว่าจะรีบไปเรียน เขากลับวางสายไปเสียแล้ว
แต่จะให้เธอไปหาตอนนี้เนี่ยนะ เธอไม่ไปหรอก คนก็เยอะ หากมีใครจำรถเขาได้แล้วเห็นเธอเดินขึ้นรถเขาก็ซวยกันพอดี
คำแพงไม่สนใจเดินเข้าตัวอาคาร ทว่าร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าในระยะสามสิบเมตรทำให้เธอก้าวขาเดินต่อไปไม่ออก หญิงสาวเม้มปากตัวเองแน่น
คำแพงตันสินใจรีบเดินหันหลังกลับทันทีก่อนจะเดินอ้อมไปทางด้านหลังตึกเรียนด้วยใจที่เต้นเร็ว เขาไม่ได้แค่ขู่แต่พูดจริง เขาเดินลงมาหาเธอจริงๆ โดยเข้าประตูจากทางด้านหลังตึกเรียน
หญิงสาวเดินถึงรถเขาก่อนแล้วรีบเปิดประตูเข้าไปนั่ง ไม่นานเขาก็เข้ามานั่งในรถคันเดียวกัน จากนั้นสตาร์ตรถ
"จะไปไหนเหรอคะหนูมีเรียน" คำแพงรีบทักท้วงเพราะกลัวเขาจะพาออกไปด้านนอกทำให้เธอโดดเรียนคาบสำคัญนี้ได้
"แค่เปิดแอร์ครับ"
"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้า "อาจารย์มีอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ พอดีหนูต้องรีบไปเรียนค่ะ" ถามในสิ่งที่สงสัยว่าเรียกเธอมาทำไม
"อีกตั้งครึ่งชั่วโมง วันนี้คุณมีเรียนเจ็ดโมงไม่ใช่เหรอ"
".." ทำไมเขารู้ล่ะ แม้กระทั่งเบอร์โทรของเธอ เขาต้องมีข้อมูลของเธออยู่ในมือแน่ๆ
ใช่สิ ก็เขาเป็นหลานเจ้าของวิทยาลัยเอกชนแห่งนี้นี่
"ขึ้นมานั่งนี่" บอกพร้อมเลื่อนเบาะออกไปด้านหลังแล้วตบหน้าขาตัวเองเบาๆ
"อะ..อาจารย์" คำแพงเบิกตาโต ไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรออกมาแบบนี้ นี่ในวิทยาลัยนะ ไม่ได้อยู่ในห้องด้วย หากเกิดมีใครมองเข้ามาเห็นทำไงดี
"เร็ว ขึ้นมานั่งคร่อมผม"
"มะ..ไม่เอาหรอกค่ะ หากใครมองเข้ามาเห็นทำไงคะ"
"รถผมฟิล์มมืด ไม่มีใครมองเข้ามาเห็นหรอก เร็ว"
"มะ..ไม่เอาค่ะ กระโปรงหนูตึงนั่งไม่สะดวก ถ้าอาจารย์มีอะไรจะก็คุยมาเลยนะคะหนูจะได้รีบไป"
"ทีนั่งคาบเบาะรถไอ้นั่นยังนั่งได้" คิดว่าเขาตาบอดหรือไง
".." คำแพงพูดไม่ออก เขาเห็นงั้นเหรอว่าเธอมากับโจ้
"หนึ่ง"
"อาจารย์.."
"สอง"
คำแพงรีบปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักของเขาเพราะถ้อยคำที่กดดัน ไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำอะไรหากเธอไม่เชื่อฟัง แต่ก็ได้เห็นจากเหตุการณ์เมื่อวานแล้วว่าเขากล้าทำมากกว่าที่คิด
ด้วยความตึงของกระโปรงทำให้หญิงสาวนั่งลงได้ไม่ถนัดดี จนเป็นธนาที่เลิกกระโปรงตัวสวยนั้นขึ้นสูงอีกจนมันเห็นแพนตี้สีชมพูตัวจิ๋ว คำแพงรีบเอามือปิดของสงวนตัวเองเอาไว้ทันที