ตอนที่ 5

1134 Words
นางเคว้งคว้างหลงในภวังค์ราวใบไม้ร่วงหล่นหากก็คืนสติกลับมาอีกครั้งเมื่อหลี่เจี๋ยถอนริมฝีปาก หากลมหายใจหอบหนักของเขายังราดรดบนปลายจมูกเล็ก นางลืมตาขึ้นและต้องเผชิญกับนัยน์ตากล้าแข็ง องค์ชายหนุ่มยังกระชับไหล่บางไว้แน่นหนักหากในหัวอกของหลี่เจี๋ยกลับอื้ออึงด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นกัน  เขาตกใจเล็กน้อยที่เห็นรอยน้ำรื้นบนดวงตาของจางลี่...นางร้องไห้ หากเขากลับทำราวกับไม่ใส่ใจและยังสำแดงความคียดขึ้งออกมา “น้องสาวของข้า...เจ้าคือองค์ชายาแห่งแคว้นหลู่และตำหนักร้อยไหมแห่งนี้คือที่พำนักของเจ้า หากมิได้รับการอนุญาตจากข้าเจ้าก็มิอาจออกไปไหนได้ทั้งนั้น” “นี่ท่านกักขังข้าเช่นนั้นหรือ แล้วหากข้าขัดคำสั่งของท่าน” “คนของเจ้าทั้งหมดจะต้องกลายเป็นอาหารของจระเข้ในบึงใต้ตำหนักร้อยไหมทันที หรือหากเจ้าอยากลองดีกับข้า จะลองดูสักหนก็ได้พระธิดาจางลี่!” “ท่านร้ายกาจนักองค์ชายหลี่เจี๋ย...อื๊อ!” เสียงของนางหายเข้าไปในปากหยักได้รูปขององค์ชายอีกหน หลี่เจี๋ยกดท้ายทอยจางลี่บังคับให้นางรับจุมพิตก้าวร้าวคุกคามโดยไม่สนใจว่านางจะรู้สึกอย่างไร ในเมื่อตอนนี้เขาคือผู้ถือไพ่เหนือกว่า พระธิดาจางลี่เป็นแค่หมากตัวเล็กในเกมแก้แค้นของอ๋องแคว้นหลู่เท่านั้น หลี่เจี๋ยบดริมฝีปากร้อนรุ่มบนกลีบปากของนางรุนแรงพอจะทำให้เรียวปากอิ่มบวมเจ่อก่อนปล่อยร่างบอบบางให้เป็นอิสระ จางลี่เซไปข้างหลัง นางแทบจะทรุดลงนอนกับพื้นแต่ยังทรงกายให้นั่งและยกมือขึ้นป้องปากบวมเป็นสีแดงเข้มพร้อมกับน้ำตาถั่งไหล “องค์ชาย...” “หึ!...คิดหรือว่าข้าจะยินดีรับเจ้าเป็นองค์ชายา ข้ารู้ว่าพระปิตุลากำลังคิดการใด ส่งเจ้ามาเพื่อมิให้เกิดการพิภาทระหว่างแคว้น ต้องการรกะชับความสัมพันธ์และคิดจะควบคุมข้าให้อยู่ในอำนาจของเขาเช่นนั้นหรือ” “เช่นนั้นพระองค์ควรปฏิเสธเสด็จพ่อแต่แรก ข้าเองก็มิได้อยากทำตามประสงค์ของเสด็จพ่อแม้แต่น้อย” “แต่เจ้าก็ขัดปรสงค์ของฉีหวนกงมิได้และเมื่อเจ้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะชายาของข้าก็ต้องรับฟังบัญชาของพระสวามีโดยมิมีข้อแม้ และอย่า...แม้แต่จะคิดหนีไปจากตำหนักร้อยไหม เจ้าต้องอยู่ที่นี่จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากข้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น!” “แล้วคนของหม่อมฉัน” จางลี่ร้องถามเมื่อร่างสูงลุกขึ้นยืนและกำลังจะก้าวออกไป หลี่เจี๋ยยืนมือไพล่หลังและเพียงเอ่ยโดยมิยอมหันกลับมามองใบหน้าสวยซึ้งอาบคราบน้ำตา “ทุกคนจะอยู่รอดปลอดภัยก็ด้วยชีวิตของเจ้าเป็นเดิมพัน ขัดคำสั่งข้าเมื่อใดข้าจะลงมือกับคนของเจ้าเมื่อนั้น อย่าบังอาจลองดีกับข้า นี่หาใช่คำขู่แต่คนอย่างข้าพูดจริงทำจริง!” สิ้นเสียงกร้าวร่างสูงจึงก้าวออกไป เมื่อบานประตูปิดลงหลี่เจี๋ยก็เห็นว่าหลินเจินนั่งคุกเข่าอยู่ไม่ห่างจากบานประตูห้อง นายทหารคนสนิทวิ่งเข้ามาและคุกเข่าลงเบื้องหน้าอ๋องแคว้นหลู่ “องค์ชาย...ข้าได้จัดเตรียมที่พักให้เหล่าทหารแคว้นฉีและข้าราชบริภารขององค์ชายาเรียบร้อยแล้วพะย่ะค่ะ” “ดีมาก โม่โฉว...จงดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีอย่าให้บกพร่อง ข้าจะกลับตำหนักและจะกลับมาที่ตำหนักร้อยไหมในอีกสามราตรี” “ขอรับ” โม่โฉว นายทหารคนสนิทพยักหน้ารับทราบก่อนเดินตามองค์ชายออกไป และเมื่อทุกคนไปแล้วหลินเจินก็รีบกลับเข้าไปในห้อง นางรู้สึกตระหนกเมื่อเห็นพระธิดาจางลี่นั่งบนตั่งด้วยสีหน้าซีดเซียวทั้งยังน้ำตาอาบแก้ม นางกำนัลคนสนิทเข้าไปคุกเข่าและดึงมือเรียวบางมากุมไว้ “ท่านหญิง...มีอะไรหรือเจ้าคะ เมื่อครู่ข้าได้ยินองค์ชายหลี่เจี๋ยบอกแก่นายทหารว่าจะกลับมาที่ตำหนักนี้ในอีกสามราตรี ข้านึกว่าองค์ชายจะประทับที่นี่ในราตรีนี้เสียอีก” “องค์ชายมิได้อยากอยู่ที่นี่ดอกหลินเจิน” “ด้วยเหตุผลใดเล่าเจ้าคะ แล้วเหตุใดท่านหญิงจึงร้องไห้” จางลี่ส่ายหน้า “ข้าคิดผิดเสียแล้วที่ตัดสินใจเดินทางมายังแคว้นหลู่ รู้เช่นนี้ยอมเป็นอนุของพระเชษฐามิดีกว่าหรือ” “เหตุใดท่านกล่าวเช่นนั้น ในเมื่อท่านหญิงต้องการออกจากวังก็เพื่อหนีจากคนเหล่านั้นมิใช่หรือเจ้าคะ” “ข้ามาอยู่ที่นี่ก็มิได้ต่างกันเลย...เจ้ารู้หรือไม่ว่าองค์ชายหลี่เจี๋ยนั้นชิงชังข้า มิได้ต้องการข้าเป็นองค์ชายาของแคว้นหลู่โดยแท้จริง องค์ชายยังผูกใจเจ็บเรื่องที่เสด็จพ่อสั่งประหารพระบิดาของพระองค์ และการที่รับข้าไว้ก็เพื่อเป็นการแก้แค้น” “ใจเย็นก่อนนะเจ้าคะ เราอาจมีหนทางแก้ไข” “ข้าเกรงว่าจะสายไป เรามิรู้เลยว่าแท้จริงองค์ชายหลี่เจี๋ยเป็นคนเช่นไร เขาไม่ยอมให้ข้าออกจากตำหนักแห่งนี้ ไม่ยอมให้ข้าขัดคำสั่ง ข้าหวั่นเหลือเกินว่าหากวันใดข้าทำพลาดผิดหรือมิถูกพระทัยองค์ชายอาจจะสั่งฆ่านายทหารและเหล่าผู้ติดตามจนสิ้น” พอได้ยินดังนั้นหลินเจินถึงกับเข่าทรุด นางนั่งพับเพียบกับพื้นแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือพระธิดาพร้อมรำพึงออกมาว่า “น่ากลัวถึงเพียงนั้นเทียวหรือเจ้าคะ” “เราจะทำอย่างไรดีหลินเจิน ลำพังข้าแม้หากต้องตายก็มิคิดเสียดายชีวิต แต่มิควรต้องให้คนของข้าเอาชีวิตพวกเขามาทิ้งที่แคว้นหลู่แม้เพียงชีวิตเดียว” “ท่านหญิงคิดอย่างไรเจ้าคะ” “ข้าอยากพบราชองครักษ์เจ้า บางทีเขาอาจะช่วยเหลือเราได้ แต่...ข้าจะได้พบเขาด้วยวิธีการใด” “เอาอย่างนี้ไหมเจ้าคะ ข้า...จะหาทางออกไปพบองครักษ์และคนของเราก่อนองค์ชายจะเสด็จในอีกสามราตรีข้างหน้า” “หลินเจิน” “มิเป็นไรดอกท่านหญิง ข้ามิอยากให้ท่านเป็นกังวล มาถึงขนาดนี้ข้าก็คงอยู่เฉยมิได้” “แล้วเจ้า...จะออกไปหาองครักษ์เจ้าและคนของเราเมื่อใด” “ไม่เกินอีกราตรีนี้เจ้าค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD