บทที่ 6 ตอนที่ 1

743 Words
"หมายความว่าไงคะหมอ" ลีลาวลีชักสีหน้าหายใจหอบสั่นกัดฟันกรอด มือเล็กกำแน่นจนเล็บที่ตกแต่งฉาบสีแดงฉานแทบจิกเข้าไปในเนื้อหนังมังสา            "ผมไม่ได้ไล่ออก ผมแค่อยากให้คุณมีอนาคตที่ดีกว่านี้นะเบส คุณเป็นพยาบาลที่เก่งจะมาจมปลักอยู่กับคลินิกเล็กๆ ของผมทำไม สู้ไปทำงานในโรงพยาบาลใหญ่ๆ มันจะเจริญก้าวหน้ามากกว่านี้ คุณไปได้ไกลเบสผมรู้" คุณหมอหนุ่มในชุดเสื้อกาวน์สีขาวพูดพลางจดรายละเอียดลงในตารางงานพลางไม่ได้สนใจสาวเจ้าที่ยืนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน            "แต่เบส!..."            "คุณอยากทำที่ไหน โรงพยาบาลอะไรก็บอกมาผมพอจะช่วยให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้นได้ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเงินชดเชย ผมจัดการให้เต็มที่อยู่แล้ว และรับรองด้วยว่าคุณไม่ตกงานแน่ๆ ขอแค่บอกมาเท่านั้นว่าคุณอยากไปอยู่ที่ไหน"            คำพูดทั้งหมดเหมือนดักทางให้หญิงสาวได้แต่จุกอึ้ง เธอลางานกลับไปบ้านต่างจังหวัดเพียงไม่กี่วัน จริงอยู่ว่ามันเกินกำหนดในทีแรกกลับมาก็ถูกขับไสไล่ส่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียได้ สายตาเฉี่ยวคมตวัดมองรูปในฉากที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วนึกชังจับจิต ทำไมนะเธอถึงไม่เคยแทนที่ตรงนี้ได้ แพ้พ่ายแม้กระทั่งรูปที่วางเอาไว้ไร้ชีวิตชีวา            เธอสิ...จับต้องได้ กอดเกยเสวยสุขกันมาไม่รู้เท่าไหร่ กลับไม่เคยอยู่ในเสี้ยวสายตาของอัศม์เดชได้เลยสักครั้ง            "คุณหมอจะให้ใครมาทำหน้าที่แทนเบสล่ะคะ" ลีลาวลีกลั้นอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจเอาไว้สุดดิ่งลึก เพราะรู้ว่าไร้ประโยชน์จะกราดเกรี้ยว อัศม์เดชชังสันดานเช่นนั้นนักหนา            "ก็...งานที่คลินิกมันไม่ได้เยอะแยะมากมาย ทุกคนช่วยๆ กันได้คุณไม่ต้องห่วงหรอก"            "คุณหมอจะให้น้ำมนต์เข้ามาทำงานที่นี่หลังจากเรียนจบ...ใช่ไหมคะ" น้ำเสียงเนิบนิ่งซักถามด้วยความคับแค้นใจ เธอคร่ำเคร่งคิดถึงเรื่องดังกล่าวตั้งแต่คืนที่เกิดเหตุ และนึกย้อนปะติดปะต่อเรื่องราวหลายๆ อย่างพอจะคาดเดาบางสิ่งบางอย่างได้ แต่ไม่ปักใจแน่นัก มาวันนี้คำตอบก็ตอกหน้าเธอเสียย่อยยับโดยไม่ทันตั้งตัวเสียแล้ว            "ปกติน้ำมนต์ก็เข้ามาช่วยอยู่แล้วนี่ แต่เรายังไม่ได้ตกลงอะไรกัน" ชายหนุ่มกล่าวแบบขอทางไปที ไม่เชิงโป้ปดเสียทีเดียว เพราะไม่อยากลากเอาปัญหาชู้สาวมาเกี่ยวข้อง เขาพอจะรู้ตัวว่าลีลาวลีคิดการณ์ไกลกว่าจะเป็นคู่ควงครั้งคราวเหมือนที่ผ่านมา การรักษาระยะห่างจึงเป็นทางออกสุดท้าย            "ได้ค่ะเบสจะลาออก...ว่าแต่คุณหมอจะให้เบสออกตอนนี้เลยไหมคะ" หญิงสาวร่างระหงเชิดคอตั้งหน้านิ่ง ยังผยองในตัวเองไม่ยอมเผยความรันทดหดหู่ใจให้เขาเห็นซึ่งหน้า อัศม์เดชไม่มีเยื่อใยให้เธอก็ต้องไม่แคร์ใจเขาเช่นกัน            "เรื่องนั้น...แล้วแต่คุณเลยนะ ถ้าอยากออกวันนี้เลยก็ไม่เป็นไร" เขาเงยผละจากข้อความต่างๆ ที่กำลังจดเขียนขึ้นมามองเธอแวบหนึ่งแล้วยิ้มให้เหมือนพูดคุยกันเรื่องปกติ ยิ่งสะกิดลีลาวลีให้เจ็บใจซ้ำในสายตาไร้ซึ่งความอาลัยนั้น            "ถ้างั้นวันนี้เบสขอเก็บของแล้วก็จัดการงานที่ค้างไว้ให้เสร็จก่อนแล้วกันนะคะ" พูดจบพยาบาลสาวก็ถอนหายใจใหญ่ สีหน้าของเธอเต็มตื้นไปด้วยความไม่พอใจแต่จำต้องเก็บกลั้น มันช่างอึดอัดจนอกแทบแตกแหลกลาญ ก่อนจะสะบัดตัวก้าวเท้าออกจากห้องตรวจนั้นไปนั่งสงบสติอารมณ์ด้านนอก            อัศม์เดชวางปากกาลง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้เม้มริมฝีปากได้แต่คิดว่านี่คงเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วสำหรับทุกฝ่าย เพราะจุดประสงค์ของลีลาวลีมันนอกเหนือจากงาน แม้เขาจะเคยล้ำเส้นไปบ้างแต่ก็ยังพอรู้ตัวว่าสำหรับหญิงสาวแล้วคงคืบหน้าต่อไปได้ยากในเรื่องความสัมพันธ์ ถึงสาวเจ้าจะพยายาม เธอก็ไม่ได้พยายามเพื่อหัวใจ...หากแต่เพื่ออยากเอาชนะ อยากได้ใคร่ดีใจตัวเขาต่างหาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD