“เสื้อผ้าของเธอ..จะแลกกับอะไรดีล่ะ..หมอนใบนั้นดีมั้ย..”
“เลว..”
“อะไรนะ!”
“เปล่า!”
“อยากได้เสื้อคืน..เธอจะเอาอะไรมาแลกล่ะ”
วัสยากัดฟันกอดหมอนในอ้อมแขนแน่น เขารู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่มีอะไรติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว เขาจงใจจะแกล้งเธอชัด ๆ
“คุณต้องการอะไร!” วัสยากัดฟันถามออกไปจะได้จบ ๆ เธอจะได้ไปจากตรงนี้เร็ว ๆ
“ส่งหมอนมาให้ฉัน..”
“คุณมัน...” วัสยาโกรธจนพูดไม่ออก
มาร์คัสก้าวไปยังห้องน้ำหยิบเสื้อผ้าของวัสยาถือออกมายืนหน้าเธอ
“ว่าไง..เธอจะแลกมั้ย” วัสยามองเสื้อผ้าของตัวเองที่นายแบบหนุ่มถืออยู่อย่างชั่งใจก่อนจะกัดฟันกลั้นหายใจตัดสินใจคลายมือออกจากหมอนยื่นไปให้คนร้ายกาจตรงหน้าแล้วรีบเอามือที่ปล่อยจากหมอนมาปิดจุดซ่อนเร้นไว้ มาร์คัสยิ้มมุมปากมองร่างเปลือยอย่างกรุ้มกริ่มไม่กะพริบตา
“เอาหมอนไปเร็ว ๆ สิ! แล้วส่งเสื้อผ้ามาให้ฉันซะที!” วัสยามองแค่เสื้อผ้าของตัวเองไม่อยากมองหน้าคนที่เธอเกลียด
“ใจร้อนจริง ๆ เอาไปสิ..” มาร์คัสยื่นเสื้อผ้าคืนวัสยา เธอรีบรับมาแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที มาร์คัสมองตามร่างบางแล้วกระตุกยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ เขายืนกอดอกรอจนวัสยาสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วเธอก็เปิดประตูก้าวออกมา เขาก็เอ่ยเปรยขึ้นลอย ๆ
“เป็นไงบ้างล่ะ จิ้งจกที่เธอเคยดูถูก ทำให้เธอเจ็บแสบพอมั้ย”
“ห๊ะ! อะไรนะ..นี่คุณทำกับฉันถึงขนาดนี้เพราะเรื่องแค่นั้นน่ะเหรอ”
“แค่นั้นของเธอแต่มันหยามศักดิ์ศรีของฉัน เธอจะได้รับบทเรียนที่ไม่คิดก่อนพูด!”
“?” นี่เธอกำลังถูกเขาสั่งสอนอย่างนั้นหรือ เวอร์จิ้นของเธอต้องเสียให้กับคนที่เธอเกลียด! เพราะพลั้งปากพาซวยของแท้เลย เขาจงใจแก้แค้นที่เธอไปดูถูกน้องชายเขาว่าเล็กเท่าจิ้งจก จนเธอถูกเขาคิดบัญชีแก้แค้นเอาซิงเธอไปจนได้ เสียใจมันก็เสียใจแต่น้ำตากลับตันร้องไห้ไม่ออก แถมยังถูกเขาถ่ายรูปถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็คเมล์เธออีก คราวซวยอะไรของเธอ ปีชงหรืออะไร วัสยารู้สึกเจ็บใจแต่ทำอะไรเขาไม่ได้! ได้แต่กำมือตัวเองแน่น
“หลีกไป! ฉันจะกลับ!” วัสยาไม่อาจทนเจ็บใจได้อีก ถ้าเธออยู่ที่นี่อีกนาทีเดียวเธออาจจะพลั้งมือฆ่าคนตายได้
“ให้ฉันไปส่งมั้ย..”
“ไม่ต้อง!”
มาร์คัสขยับหลีกทางให้วัสยา เธอเชิดหน้ารีบก้าวออกมาจากห้องทันที เธอมองทางเดินระหว่างทางที่ก้าวไปยังลิฟท์ก็รู้ว่าเป็นโรงแรมที่จัดเลี้ยงเมื่อคืน! เขาไม่ต้องพาเธอไปไหนไกลเลย วัสยายิ่งรู้สึกเจ็บใจ เธอไม่น่าเผลอสบายใจหลงคิดว่าเขาไม่มาร่วมงานไม่น่าพลาดท่าเสียตัวให้ผู้ชายอย่างเขาเลย เธอได้รับทั้งบทเรียน ถูกสั่งสอนถูกเขาเอาคืนอย่างน่าเจ็บใจที่สุด!
(“ทำไมฉันจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ เขาทำอะไรกับร่างกายฉันบ้าง แต่รู้สึกเจ็บๆที่หัวนมกับรู้สึกแปลกๆที่จุดอ่อนไหวตรงนั้น.. โอ๊ย! เขาทำยังไงกับมันไม่อยากจะคิดจะนึกภาพเลย ไอ้คนบ้ากาม! แล้วฉันจะอยากรู้ไปทำไม ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกขนลุกวูบวาบไปทั้งตัว..”) วัสยานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เธอนั่งคิดระหว่างนั่งรถเมล์กลับบ้าน
ช่างภาพสาวเปิดประตูเข้ามาในบ้านก็ตรงไปยังเตียงนอนของยายปลาย
“ยายขา..” วัสยาโผเข้ากอดซบลงบนอกยาย อยากจะร้องไห้แต่ไม่อยากให้ยายเป็นกังวลหรือทุกข์ใจจนกระทบต่อโรคประจำตัวของยาย เธอจึงต้องอดทนกล้ำกลืน กลั้นน้ำตาไว้
“หวาย..เป็นอะไรหรือเปล่าลูก..” ยายปลายลูบหัวลูบหลังหลานสาวที่กอดซบอยู่บนอก
“เปล่าค่ะ หวายแค่คิดถึงยาย อยากกอดยายแน่น ๆ ให้หายคิดถึง” วัสยากอดยายแน่นเพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองสู้ต่อไป ถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรที่ผ่านมาได้ แต่เธอจะต้องมีสติใช้ชีวิตต่อไปให้ได้เพื่อยาย ต่อไปเธอจะพูดจะทำอะไรก็ต้องใจเย็นคิดให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น
“ทำไมกลับมาสายล่ะลูก ไม่เห็นบอกยายไว้เลยว่าจะทำงานข้ามคืน”
“เอ่อ..หวายขอโทษค่ะ หวายก็ไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน ทำงานติดพันเลยไม่ได้โทรมาบอกยาย”
“ไปทำงานแค่คืนเดียว ก็คิดถึงยายอ้อนยายขนาดนี้เลยเหรอลูก แล้วเมื่อไหร่จะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาเสียที มีแฟนจะได้อ้อนแฟนแทนที่จะมาอ้อนยาย ยายแก่แล้ว”
“ชาตินี้หวายคงจะไม่มีแฟนไม่มีครอบครัวแล้วหล่ะค่ะ (ใครจะเอาผู้หญิงที่มีรอยมลทินอย่างเธอ และเธอก็ตั้งปณิธานไว้แล้วด้วยว่าจะอยู่แบบโสด ๆ แบบนี้ไปจนแก่)”
วัสยาได้พูดคุยกับยายจนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปช่วงเวลาหนึ่ง เธอให้ยายนอนพักผ่อนก่อนจะเข้ามายังห้องนอนของตัวเอง เธอเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกข่มเหงว่าต้องอึดอัดใจแค่ไหน จะแจ้งความก็อับอาย จะบอกคนในครอบครัวก็จะทำให้ท่านทุกข์ใจไม่สบายใจไปด้วย ยิ่งยายของเธอเป็นโรคไตเสี่ยงความดันสูง เธอจึงเลือกไม่บอกไม่เล่าให้ยายรับรู้ในเรื่องที่เกิดขึ้น ปล่อยให้มันเป็นตราบาปภายในใจของเธอเพียงคนเดียว
วัสยาพยายามทำใจข่มใจให้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้จะรู้สึกมีรอยมลทินติดตัวอยู่ก็ตาม เธอไปทำงานตามปกติ เลิกงานก็กลับบ้านมาดูแลยายเป็นเช่นนี้ทุกวัน
“พรุ่งนี้หวายมีงานใหญ่ต้องไปทำนะคะยาย”
“งานที่ไหนล่ะลูก”
“งานถ่ายโปรโมทคอนโดหรูใจกลางเมืองค่ะยาย แต่หวายยังไม่แน่ใจว่างานจะเสร็จกี่โมง หวายจะบอกให้ต่ายมาอยู่เป็นเพื่อนยายเหมือนเดิมนะคะ”
“จ้ะลูก”
“ยายดูแลสุขภาพกินข้าวกินยาให้ตรงเวลา อย่าดื้อกับต่ายนะคะ มีอะไรด่วนก็รีบโทรหาหวายได้ตลอดเวลาค่ะ”
“จ้ะลูก ไม่ต้องห่วงยาย ตั้งใจทำงานนะลูก”
“ค่ะ”
บ่ายวันต่อมา..ช่างภาพสาวเดินทางมายังคอนโดสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาถึงคอนโดสูงตระหง่าน ไม่เป็นเศรษฐีคงจะซื้อคอนโดหรูนี้อยู่ไม่ได้เพราะมันไม่ใช่แค่แพงแต่โคตรแพงมาก เท่าที่เธอทราบข้อมูลราคามาคือห้องขนาดเล็กสุดราคาถูกที่สุดก็ปาเข้าไปถึง20ล้านแล้ว วัสยาผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาด้วยบัตรคีย์การ์ดวีไอพีที่ผู้ว่าจ้างงานส่งมาให้พร้อมกับข้อมูลสถานที่ที่เธอต้องมาทำงาน เธอเดินเข้ามาในตัวอาคารอันโอ่อ่ามีหญิงสาวท่าทางสง่ายืนรอเธออยู่ เธอคงจะเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของคอนโดแห่งนี้
“สวัสดีค่ะ ฉันมาติดต่องานกับ Mr.M ชั้น 36 ค่ะ”
“ค่ะ เชิญทางด้านนี้ได้เลยค่ะ” หญิงสาวเดินนำวัสยามายังลิฟท์ที่แยกเฉพาะออกมาพร้อมกับกดเปิดลิฟท์
“ขอบคุณค่ะ..คุณเห็นทีมงานคนอื่น ๆ มากันหรือยังคะ”
“มาพร้อมแล้วค่ะ” เมื่อลิฟท์เปิดออกหญิงสาวก็ผายมือเชิญวัสยาเข้าไปด้านในลิฟท์แล้วกดชั้นบนสุดของอาคารก่อนจะยิ้มให้วัสยาแล้วถอยออกไป
วัสยามองเงาสะท้อนของตัวเองภายในลิฟท์ คอนโดนี่หรูหรามาก แต่ดูการแต่งกายของเธอ..เสื้อเชิ้ตธรรมดากับกางเกงยีนส์คู่กายตัวโปรดเก่า ๆ ทีมงานก็มาพร้อมแล้ว นี่เธอมาสายหรือเปล่า วัสยาตกอยู่ในภวังค์ความคิดจนกระทั่งเสียงเตือนลิฟท์บ่งบอกว่ามาถึงชั้นที่เธอมาทำงาน ช่างภาพสาวรู้สึกตื่นเต้นใจเต้นถี่แปลกๆ อาจจะเพราะว่างานนี้เป็นงานชิ้นใหญ่สำหรับเธอที่ได้เงินเยอะมากที่สุดตั้งแต่เธอเริ่มทำงานมาก็ว่าได้ และสถานที่ก็ค่อนข้างจะหรูหรามาก เธอเลยรู้สึกประหม่า วัสยาก้าวออกจากลิฟท์และได้รู้ว่านี่ไม่ใช่คอนโดธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่เป็นเพนท์เฮ้าส์ เธอเดินไปหน้าประตูหรูที่มีเพียงประตูเดียวในชั้นนี้..และนึกถึงคำสั่งที่แนบมาพร้อมกับรายละเอียดของงาน..
(“เมื่อมาถึงห้องบนคอนโดก็ใช้คีย์การ์ดเปิดเข้าไปได้เลย”)
วัสยาหยิบคีย์การ์ดสีเงินในกระเป๋าขึ้นมา เธอเพิ่งสังเกตบนบัตรมีอักษรย่อ MM นูน ๆ อยู่บนบัตรด้วย คงจะเป็นเจ้าของเพนท์เฮ้าส์นี้ วัสยาแตะคีย์การ์ดแล้วประตูก็ค่อย ๆ เปิดออกอัตโนมัติ เธอกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปด้านในทันใดนั้นแขนเรียวก็ถูกกระชากดึงร่างบางเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวและประตูก็ถูกปิดตามหลังเธอแค่เสี้ยววินาทีนั้น คีย์การ์ดถูกดึงออกจากมือบาง วัสยาเงยหน้ามองผู้ที่กระทำอุกอาจแบบนี้ทันที
“คุณมาร์ค!”
“ใช่..ฉันเอง!”
“นี่คุณแกล้งหลอกฉันให้มาทำงานอีกแล้วใช่มั้ย!”
“คราวนี้ฉันไม่ได้แกล้ง ฉันจะให้เธอมาทำงานของจริง!”
“แล้วไหนทีมงาน..ทำงานอะไรของคุณ เลิกล้อเล่นซะที ฉันต้องทำมาหากิน”
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น เมื่อวันก่อนก็แค่ทดลองงาน แต่วันนี้..ฉันจะให้เธอทำงานจริง ๆ”
“งานอะไรของคุณ!” วัสยาถอยหลังอย่างเริ่มระแวง
“ก็ถ่ายภาพฉันไง..ฉันจะให้เธอถ่ายทุกซอกทุกมุมเลย” มาร์คัสพูดไปก็ปลดกระดุมเสื้อไปทีละเม็ด
“ไอ้คนบ้ากาม! ฉันไม่ถ่าย ฉันจะกลับ!”
ยิ่งวัสยาต่อต้านเขา ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย ทำไมเขาต้องมาหลอกล่อยัยจอมแสบนี่ด้วยก็ไม่เข้าใจ หรือว่าเขาจะติดใจปากจัด ๆ แต่โคตรหวานนั่นนะ มาร์คัสมองริมฝีปากอิ่มสีชมพูไม่วางตา ยิ่งเห็นเธอแสดงกิริยาอาการรังเกียจเหมือนเขาเป็นเชื้อโรคที่สกปรก เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ อยากแกล้งเธอสารพัด
“ฉันคงจะให้เธอกลับไม่ได้..เธอรับเงินไปครบแล้วก็ต้องทำงานให้ฉัน”
“ถ่ายบ้าอะไรที่นี่!” วัสยาเหลือบไปมองประตูรอจังหวะที่เขาเผลอเธอก็พุ่งไปที่ประตูแต่เปิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ออกจนมือหนายื่นมาจับแขนเธอลากเข้าไปด้านในเพนท์เฮ้าส์
ช่างภาพสาวเกร็งตัว พยายามกดเท้าให้เกาะกับเอาพื้นไว้ แต่พื้นเจ้ากรรมก็ไม่รู้ว่าจะลื่นมากไปถึงไหน วัสยาล้วงมือหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมาพยายามกดโทรออกจะขอความช่วยเหลือก็ถูกมือหนากระชากโทรศัพท์แย่งไปจากมือเธอเสียก่อน
“ปล่อยฉันนะคนบ้า!” วินาทีนี้วัสยารู้สึกทั้งตกใจทั้งหวาดกลัวขึ้นมา เขาจะทำอะไรกับเธอ เธอไม่น่าพลาดเป็นครั้งที่สองเลย เธอไม่คิดเฉลียวใจเลยว่าจะเป็นแผนการของมาร์คัส ใครจะคิดว่าคอนโดหรูขนาดนี้จะไม่ปลอดภัย!
“ปล่อยฉันนะ! เอาโทรศัพท์ของฉันคืนมา!”
“ฉันจะคืนเมื่อเธอทำงานให้ฉันเสร็จ” มาร์คัสฉุดกระชากลากร่างบางเดินไปยังโซนที่เป็นห้องนอนใหญ่ที่เปิดอยู่ เขาดึงข้อมือวัสยาเข้าไปก่อนจะปิดประตูแล้วปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ
“ปล่อยฉันไปนะคุณมาร์ค จะให้ถ่ายภาพอะไรก็ไปถ่ายกันที่อื่นไม่ใช่ถ่ายสองคน ฉันไม่ถ่าย”
“แต่ฉันต้องการถ่ายกับเธอสองต่อสอง!” ทันใดนั้นมาร์คัสก็ถอดเสื้อทิ้งลงบนพื้นก่อนจะปลดเข็มขัดและถอดกางเกงลงไปกองที่ปลายเท้าพร้อมกันทั้งกางเกงสเลคและกางเกงชั้นใน!
วัสยาตะลึงเมื่อเห็นมันชัดๆเต็มสองตาอย่างเลี่ยงไม่ได้..เท่าที่เธอจำได้วันนั้นมันไม่ได้ใหญ่โตขนาดนี้ซะหน่อย ทำไมวันนี้มันใหญ่มากขึ้นแบบนี้ได้ล่ะ แล้วทำไมเธอเห็นแล้วรู้สึกเสียววูบวาบบริเวณท้องน้อยของเธอด้วยนะ วัสยาเบือนหน้าหนีจากภาพอุจาดตาตรงหน้า เป็นโอกาสให้มาร์คัสกระชากร่างเธอเข้าไปปะทะอกแกร่ง..
มาร์คัสโอบหลังจับเอววัสยากดไว้แนบกับลำตัวเขา เธอพยายามขืนตัวไม่ให้สัมผัสกับร่างแกร่งของเขา แต่ยิ่งเธอขยับก็ยิ่งรู้สึกว่าถูกรัดแน่นยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเธอรับรู้ได้ถึงไอ้นั่นของเขาความแข็งและใหญ่โตที่กำลังเสียดสีอยู่กับหน้าขาของเธอจนทำให้เธอรู้สึกขนลุก..แต่เธอไม่กล้าแม้แต่จะก้มลงไปมองมัน
“ปล่อยฉันนะคุณมาร์ค! คุณจะทำอะไร!”
“ก็อยากทำแบบเดิม..”
“ไม่ได้นะ! คุณจะทำแบบนั้นกับฉันอีกไม่ได้!”
“เธอรู้เหรอว่าฉันจะทำอะไร.. แล้วทำไมจะทำอีกไม่ได้ล่ะ..”
“อ๊าย! คนบ้า พูดไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจหรือไง ว่าไม่ได้! ฉันไม่ยอม!”
“เธอคงไม่อยากจะเจ็บตัวหรอกใช่มั้ย ฉันก็ไม่อยากใช้กำลังนะ ถ้าไม่จำเป็น เธอจะยอมดี ๆ หรือว่าอยากจะเจ็บตัวล่ะ ถ้าเกิดเจ็บหนักนี่งานการเธอก็คงไม่ได้ทำหรอกนะ” นายแบบหนุ่มหลอกล่อให้ช่างภาพสาวหลงกล
“ไม่! ฉันไม่ยอม! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” วัสยาพยายามผลักร่างแกร่งให้ตัวเองหลุดจากพันธนาการของเขา แต่ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล นอกจากร่างใหญ่ไม่ขยับเขยื้อนแล้วเขากลับรัดเธอแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก
“ยังไงเธอก็เสียมันให้ฉันแล้วครั้งหนึ่ง เสียอีกครั้งจะเป็นไรไป จริงมั้ย..”
“อึ๊ย! คนฉวยโอกาส คนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ หื่นกามมักมาก!”
“ใช่..ตอนนี้ฉันหื่นมากเพราะเธอ ดังนั้นเธอจะต้องเป็นคนช่วยฉันปลดปล่อย..” มาร์คัสบอกออกมาหน้าตาเฉยพร้อมกับดันร่างบางไปยังเตียงกว้าง วัสยาตื่นกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าเธอเคยเสียตัวให้เขาครั้งหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ครั้งนั้นเธอไม่รู้สึกตัวเธอจำอะไรไม่ได้เลย ต่างจากครั้งนี้ที่เธอมีสติเต็มร้อย
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะคุณมาร์ค คุณต้องการให้ฉันขอโทษอย่างนั้นเหรอ” ช่างภาพสาวลองใช้ไม้อ่อนพูดกับมาร์คัสดี ๆ เผื่อว่าเขาจะใจอ่อนยอมปล่อยเธอไป
“ไม่!”
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไร”
“ฉันต้องการเธอไง”
“โอ๊ย! คุณนี่พูดไม่รู้เรื่อง คุณจะต้องการฉันไม่ได้..ผู้หญิงของคุณออกจะเยอะแยะ แฟนของคุณล่ะ”
“ตอนนี้มีแค่เรา..ไม่มีคนอื่น! คนอย่างเธอ..รู้จักกลัวเป็นด้วยเหรอ” มาร์คัสดันร่างบางลงบนที่นอนหนานุ่มพร้อมกับทาบทับร่างแกร่งตามลงมา..
(“ดูเขาทำ..ใครจะไม่กลัว..สายตาเข้ม ๆ ดุ ๆ อันทรงพลังที่จ้องจะกินเลือดกินเนื้อเธอนี่อีก..”)
“อย่า..” วัสยาพยายามขัดขืนร่างแกร่งที่จับข้อมือเธอล็อกไว้ ขาแกร่งก็กดทาบทับขาเรียวของเธอเอาไว้ไม่ให้ขยับ เขาใช้เพียงมือเดียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตรูดซิปกางเกงเธอออกภายในพริบตา สายตาเขาจ้องตาเธอราวกับสะกดจิตร่ายเวทมนต์ เรี่ยวแรงของวัสยาที่พยายามจะขัดขืนเขาก็ไม่รู้ว่ามลายหายไปไหนหมด เธอรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่จะปัดป้องจนเขาจัดการถอดเสื้อผ้าเธอออกได้อย่างง่ายดาย จนเขาใช้นิ้วเกี่ยวแพนตี้ลูกไม้ชิ้นสุดท้ายออกจากตัวเธอ นิ้วยาวไล้สัมผัสกับผิวเธอจนเธอรู้สึกตื่นกลัว
“อย่าาา..” นายแบบหนุ่มไม่ได้สนใจเสียงห้ามสั่น ๆ ของช่างภาพสาว เขาสนใจดอกไม้งามของเธอมากกว่า
มาร์คัสปล่อยข้อมือบางก่อนจะขยับกายลงไปนั่งคุกเข่าลงตรงกลาง สองมือร้อนจับเรียวขาสวยแยกออกช้า ๆ เขามองดอกไม้สีชมพูสดอย่างปรารถนา มือหนาค่อย ๆ ลูบไล้จากต้นขาช้า ๆ ไปสัมผัสกลีบดอกไม้งามที่ปิดสนิทอย่างแผ่วเบา..สัมผัสแรกของเธอ เขาอยากจะอ่อนโยนละมุน เขาจะต้องทำให้ร่างกายเธอพร้อมที่สุดความเจ็บจะได้น้อยลง แม้แก่นกลางกายของเขาอยากจะจัดหนักใจแทบขาดก็ตาม แต่เขาอยากให้เธอได้รับความสุขไม่ใช่ความหวาดกลัวหรือขยาด เขาจะทำทุกสัมผัสให้เธอจดจำ..ฝังใจ ไม่ใช่หลาบจำ
นายแบบหนุ่มใช้นิ้วโป้งแตะจุดกระสันที่ไวต่อความรู้สึก สัมผัสขึ้นลงช้า ๆ ก่อนจะบดขยี้เบา ๆ
“อาา..” ช่างภาพสาวนิ่วหน้าด้วยความซ่านเสียว นายแบบหนุ่มกดคลึงจุดเสียวเหนือร่องสวาทสลับกับเคลื่อนเป็นวงกลมจนเธอรู้สึกสั่นสะท้านกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ทำให้ร่างสวยบิดกายเร่าร้อนด้วยความปรารถนา
“คุณมาร์ค..”
“หือ..ต้องการอะไร..” มาร์คัสขานรับพร้อมกับสอดนิ้วชี้แทรกเข้าไปในร่องสวาทคับแน่นอย่างช้า ๆ
“อ๊ะ! เจ็บ!” วัสยานิ่วหน้าเพราะความเจ็บ มือบางเอื้อมไปหวังจะห้ามมือหนา มาร์คัสละจากดอกไม้งามขึ้นมองใบหน้าหวาน
“อาา..” ริมฝีปากอิ่มสีชมพูเผลอเล็กน้อยเพราะความเจ็บ วัสยาจ้องตาคมอย่างจะขอร้องให้เขาหยุดทรมานเธอ แต่ภาพที่มาร์คัสเห็นกลับกลายเป็นความเย้ายวนจนแก่นกายใหญ่ของเขาปวดเกร็ง
“ฮืมม์..” นิ้วเดียวยังคับแน่นตอดรัดขนาดนี้ แล้วแก่นกายความแข็งแกร่งของเขาใหญ่ขนาด5นิ้วยาวเกือบ7นิ้วจะเข้าไปยังไง เขาเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว มาร์คัสค่อย ๆ ดันนิ้วเข้าไปช้า ๆ สลับกับบดคลึงปุ่มกระสันให้ดอกไม้ของเธอผลิตน้ำหวานออกมาหล่อลื่น สอดนิ้วร้ายเข้าไปได้แล้วเขาก็ดันเข้าดึงออกช้า ๆ ก่อนที่เขาจะส่งนิ้วเข้าไปเพิ่มอีกนิ้ว
“ฮื้ออ! เจ็บ!” วัสยาเกร็งขาปลายเท้าจิกลงบนที่นอน มือบางจิกเล็บลงบนต้นขา มาร์คัสค่อย ๆ ดันนิ้วเข้าไปเบา ๆ กดเข้าดึงออกช้า ๆ เป็นจังหวะ แล้วเร่งจังหวะความถี่เร็วขึ้น อีกมือก็ชักรูดท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเองเตรียมความพร้อมไปด้วย
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊าา..” วัสยาหายใจหอบ ร่องสวาทตอดรัดนิ้วยาวจนกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำหวานล้นเอ่อออกมา..