ปฐมบท รักเจ้า ถนอมนาง3

1124 Words
วันชื่นคืนสุขของครอบครัวซ่งยังคงหมุนเวียน ทุกวันซ่งเสวียนชิงยังคงทำตัวปกติไม่ผิดไปจากเดิม เขามักทำตัวติดภรรยา ดูแลเอาใจใส่กันและกันสม่ำเสมอ ร่วมมื้ออาหารพร้อมหน้าพร้อมตากับบุตรสาวทั้งสองตลอด ออกไปทำงานที่สำนักคุ้มภัยไม่ขาดตกบกพร่อง ครอบครัวรักใคร่ปรองดองไม่ต่างจากที่เป็นเสมอมา ทว่ามิรู้เพราะเหตุใด กลับมีสัญชาตญาณบางอย่าง รบกวนจิตใจโม่เหลียนตลอดเวลา ในทุกคราที่นางคอยดูแลสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังตั้งครรภ์ วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อจูซิ่วเอ่ยปากขอร้องระหว่างที่นางพาอีกฝ่ายเดินเล่นว่า “พี่โม่เหลียน หากข้าคลอดลูกแล้ว พี่โม่เหลียนช่วยรับเป็นบุตรบุญธรรมได้หรือไม่เจ้าคะ?” โม่เหลียนมุ่นคิ้ว “เจ้าเป็นมารดา เหตุใดเอ่ยปากมอบบุตรให้ผู้อื่นโดยง่าย” จูซิ่วยิ้มขื่น “ข้าเหลือตัวคนเดียว มิรู้ว่าจะเอาตัวรอดได้จนถึงเมื่อไหร่ หากบุตรของข้ามีพี่โม่เหลียนเป็นมารดาย่อมดีกว่า” “หากข้ารับไว้ แล้วเจ้าเล่า?” “ข้าจะขอมองดูเขาเติบโตอยู่เงียบๆ เจ้าค่ะ เขาต้องเข้าใจในความจำเป็นของข้าแน่นอน” จูซิ่วมองคู่สนทนาอย่างอ้อนวอน สายตาจริงใจ โม่เหลียนพยักหน้า “ข้ายังต้องปรึกษาท่านพี่ก่อน หากเขาเห็นชอบคงรับเป็นลูกบุญธรรมโดยสมบูรณ์ ข้าหวังเพียงเจ้าไตร่ตรองอย่างดีแล้วจริงๆ” จูซิ่วเม้มปากยิ้มกล่าว “ตัวข้าเป็นสตรีไม่เอาไหน คงไม่อาจเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่เพียงลำพังได้เจ้าค่ะ” เมื่อภรรยารับเป็นมารดา สามีย่อมรับเป็นบิดาอย่างเปิดเผยมิอาจเลี่ยง แม้สายเลือดแท้จริงจะถูกเก็บงำเป็นความลับสืบไปก็ตาม ประโยคหลังจูซิ่วมิได้เอ่ย นางเพียงกล่าวอีกว่า “ขอบคุณพี่โม่เหลียนมากเจ้าค่ะ” โม่เหลียนมองหน้าจูซิ่วนิ่งๆ ค้นหาบางสิ่งที่ซุกซ่อนอย่างเงียบงัน จูซิ่วเองก็มองโม่เหลียนเช่นกัน ก้นบึ้งในแววตานั้นคล้ายหยั่งเชิงกันและกันเงียบๆ กับซ่งเสวียนชิง จูซิ่ววางหมากเดิมพันชีวิตจนหมด ทั้งร่างกายและจิตใจ เรือนร่างทุกอณูนางให้เขาไม่มีเหลือ เลือดเนื้อเชื้อไขของเขายังอยู่ในร่างนางอย่างมิอาจปฏิเสธได้ เพียงแต่เขารักภรรยามากเกินไป ต่อให้เขาเป็นบุรุษที่มีความรับผิดชอบสูงส่งแค่ไหน ขอเพียงเป็นเรื่องของภรรยา เขากลับไม่กล้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในบางสิ่ง ซึ่งสิ่งนั้นก็คือการรับนางเป็นภรรยาอีกคนอย่างเปิดเผย สองเดือนที่แล้ว นางพลีกายให้เขา ไม่คำนึงถึงสิ่งใด เพื่อได้อยู่ข้างกายเขานางละทิ้งศีลธรรม เมื่อได้สิ่งที่ต้องการ เขากลับไม่กล้ารับนางเป็นอนุ คิดจะบอกปัดโดยให้นางลืมเรื่องค่ำคืนวสันต์ นางจึงเสนอเป็นสตรีนอกเรือนซึ่งนับว่ามาถูกทาง เขารับข้อเสนอนั้น ท้ายที่สุดนางถึงขั้นปล่อยตัวให้ตนเองตั้งครรภ์ การมีลูกของเขาอยู่ในท้องจะอย่างไรต้องได้เข้าจวน ไม่มีทางเป็นแค่สตรีนอกเรือนไร้ฐานะอย่างที่กล่าวอ้างเพื่อสานสัมพันธ์เมื่อแรกเริ่ม ทว่าซ่งเสวียนชิงกลับโกหกภรรยาว่าสามีของนางตายภายใต้กองหิมะ! แล้วเช่นนี้นางยังจะได้ฐานะอันใดในจวนซ่ง? เมื่อคิดถึงตรงนี้ จูซิ่วพลันยิ้มขื่นในใจ ต่อให้สิ้นครอบครัวไม่เหลือใคร นางไม่มีทางลดตัวขายตนเองเป็นสาวใช้เด็ดขาด เด็กในท้องของนางต้องไม่เป็นแค่ลูกบ่าว และนางต้องได้เป็นสตรีเคียงข้างซ่งเสวียนชิง ดังนั้น เมื่อสามีไม่กล้ารับอนุ การเข้าหาภรรยาย่อมเป็นทางเลือกที่ดี จูซิ่วจึงทำตัวน่าเห็นใจต่อหน้าโม่เหลียน ดวงตาของจูซิ่วเต็มไปด้วยม่านน้ำ น่าสงสารปานนั้น “พี่โม่เหลียน ท่านรับปากข้าได้หรือไม่เจ้าคะ?” ไม่ว่าภายหน้าจะเกิดอะไร อย่างน้อยมีลูกอยู่ที่นี่ อยู่กับซ่งเสวียนชิง จูซิ่วย่อมไม่ห่วงความสัมพันธ์คลุมเครือซึ่งไม่บอกก็รู้ว่าไม่มีทางชัดเจน คงเป็นความลับตลอดไป แต่กระนั้นเขาไม่มีทางตัดขาดนางออกจากชีวิตได้แน่นอน ไม่ว่าแผนการจะลึกล้ำปานใด หากแต่กลับไม่อาจต่อกรกับบางสิ่งที่ว่า ความลับไหนเลยจะมีอยู่จริง โม่เหลียนหูตาสว่างประจักษ์ได้ชัดเจนเมื่อท้ายที่สุดความจริงได้ปรากฏ จูซิ่วคลอดลูกสาวออกมาในเวลาไม่กี่เดือนให้หลัง โม่เหลียนนั่งคำนวณจำนวนเดือนอย่างปวดร้าว ซ่งเสวียนชิงใช้เวลาลี้ภัยกับจูซิ่วสามเดือนถึงกลับบ้านได้ แต่จูซิ่วกลับใช้เวลาตั้งครรภ์แปดเดือน เห็นได้ชัดว่าจูซิ่วตั้งครรภ์ระหว่างสามเดือนนั้น อาจจะหนึ่งหรือสองเดือนก่อนที่ซ่งเสวียนชิงจะพาจูซิ่วกลับเข้าสำนัก เช่นนั้นจูซิ่วจะท้องกับใคร ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าสามีถูกหิมะทับตายไปแล้ว และเพราะพายุหิมะมิใช่หรือถึงทำให้ต้องเปลี่ยนแผนเดินทางกลับเข้าเมืองหลวง ทารกน้อยที่เดิมทีมีใบหน้ายับย่น แต่ยิ่งนานวันกลับมีใบหน้าละม้ายคล้ายสามีนางถึงห้าส่วน ครบปียิ่งโดดเด่นไม่ผิดบิดา ไม่บอกก็รู้ว่าคือลูกใคร... บุรุษสามภรรยาสี่อนุได้ ทว่าชีวิตคู่สมควรซื่อสัตย์ต้องไม่ปิดบังและไม่มีอะไรลับหลัง ดังนั้นโม่เหลียนจึงไม่ต่างจากคนเห็นผืนฟ้าพังถล่มลงตรงหน้า นางร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ซ่งเสวียนชิงจึงยอมรับความจริงทั้งหมด “เหลียนเอ๋อร์ เป็นข้าเองที่ทำพลาด ข้าผิดผู้เดียว เจ้าอย่าโทษจูซิ่วเลย ระหว่างเดินทางกลับข้าดื่มจนเมามาก จูซิ่วนางดูแลข้าด้วยใจบริสุทธิ์ เป็นข้าที่พลั้งเผลอรังแกนาง” โม่เหลียนหลับตาฟังด้วยใจที่ปวดร้าว เขาปกป้องกันถึงเพียงนั้น แล้วคนเป็นภรรยาจะทำสิ่งใดได้ เด็กก็เกิดมาแล้วเยี่ยงนี้ โม่เหลียนไม่ใจร้ายพอที่จะสังหารแม่แล้วเก็บลูกไว้ ยิ่งไม่อาจขับไล่ทั้งแม่และลูกน้อยให้ออกไปเผชิญชะตากรรมนอกจวนเพียงลำพัง นางจึงพยักหน้าให้สามีรับอนุทั้งน้ำตา ความรัก ความเชื่อมั่น คำสัญญาหนักแน่น ท้ายที่สุด เหลือเพียงความว่างเปล่า หัวใจแหลกสลาย สิ้นไร้ศรัทธา เวลาไม่ช่วยอะไร โม่เหลียนไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม บรรยากาศของครอบครัวแสนสุขที่เคยมี อึมครึมลงทุกวัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD