1.ต้องจ่ายเงินไหม??

1344 Words
“ฟังนะลิสาหลานรักของยาย ครั้งหนึ่งยายเคยฝังไหทองเอาไว้ใต้ต้นองุ่นที่อายุกว่าหนึ่งร้อยปี...” ดวงตากลมโตของลิสานั้นค่อยๆ เบิกกว้างออกมาเมื่อเธอได้อ่านจดหมายนั้น มือเล็กๆ ที่ถือจดหมายอยู่พลันสั่นเทาด้วยความตื่นเต้นและตกใจ “แต่ยายจำไม่ได้ว่ายายฝังทองเอาไว้ที่ใต้ต้นองุ่นเก่าแก่ของไร่เจริญรุ่งหรือว่าที่ไร่พูนสุข..เงินก้อนนั้นคือเงินสินสอดที่ตาของหลานหามาด้วยความยากลำบาก สมัยก่อนยายยังไม่รู้จักวิธีการฝากเงินสักเท่าไหร่ก็เลยเอาไว้ฝังดินเอาไว้..ตามหาเงินจำนวนนั้นให้เจอนะลิสาหลานรักของยาย” ให้ตายเถอะนี่มัน..เรื่องบ้าบออะไรกันฟะ? เมื่อก่อนยายกับตาคือเศรษฐีเลยก็ว่าได้ ที่ดินทำไร่องุ่นกว่าพันไร่เป็นของอุดมรักทั้งหมด แต่เมื่อตาล้มป่วยลง เงินทุนทั้งหมดก็ถูกนำไปรักษาตาจนเกือบหมด ยายก็เลยทยอยแบ่งขายที่ดินออกไปเรื่อยๆ จนตอนนี้จากพันไร่เหลืออยู่ราวๆ สองร้อยไร่เท่านั้น และเธอ อลิสา อุดมรัก หลานสาวเพียงคนเดียวของยาย.. “คุณลิสาคะ ทางบริษัทที่ผลิตแจ้งมาว่ายังไงก็ไม่ทันค่ะ เราจะเอายังไงกันดีคะ..” เธอมาอยู่ที่กรุงเทพตั้งแต่เข้ามหาลัย และพอเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงชีวิตของอลิสาก็เปลี่ยนไป เธอมีความสุขกับการได้เฉิดฉายอยู่บนเส้นทางธุรกิจที่เธอสร้างมาและเกลียดชังการตากแดดทำสวนเป็นที่สุด เธอไม่ชอบทำสวนเลย แต่ตอนนี้เธอกำลัง..ถังแตกแบบสิ้นเนื้อประดาตัวเลยก็ว่าได้ ธุรกิจเครื่องสำอางที่กำลังทำอยู่คงถึงคราวต้องโบกมือลาเมื่อเธอไม่สามารถทำให้ราคาส่ง ถูกเท่ากับการนำเข้ามาจากต่างประเทศ เศรษฐกิจแบบนี้คนเลือกใช้ของถูกมากกว่าที่จะสนใจคุณภาพอยู่แล้ว เธอเองก็ยื้อมานานนับปีเพราะคิดว่ามันจะสามารถไปต่อไป แต่ลิสาก็พบว่าเธอถูกโกงจากโรงงานเก่า พอสั่งโรงงานใหม่ก็ปรากฏว่าที่ใหม่ไม่สามารถผลิตให้ทันตามที่ตกลงกันไว้ได้ ปัญหาต่างๆ มันรุมเร้าจนเธอเองก็แทบจะดิ้นไม่หลุดเหมือนกัน คงถึงคราวต้องปล่อยมือจากเส้นทางความฝันที่เคยเดินมาแล้วเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเพื่อกลับไปทำไร่แล้วสินะ.. อลิสาตัดสิ้นใจขายของทั้งหมด คอนโด รถ และบริษัทที่เธอทำมาเพื่อเดินทางกลับไปอยู่กับคุณยาย “ใจหายชะมัดเลย แกไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ นี่” สกายเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอและตอนนี้เธอมากินเลี้ยงที่ผับของแฟนมันเพื่อแสดงความยินดีที่มันสามารถทำบริษัททัวร์ได้ และถือโอกาสมาบอกลาด้วย “ครั้งนี้ฝืนไม่ไหวว่ะ เราไม่อยากฝืนด้วย อยากจะกลับไปอยู่กับยาย ลองไปใช้ชีวิตเงียบๆ ดู” อีกหนึ่งเหตุผลที่อลิสาเลือกที่จะยอมแพ้ง่ายดายขนาดนี้มันเป็นเพราะ..คนที่เธอรักกำลังจะแต่งงาน พี่จอมทัพกำลังจะแต่งงาน ความสัมพันธ์ของเขาและเธอมันเป็นเพียงแค่พี่น้องมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว และเธอแม่งก็ดันไม่กล้าบอกรักเขา เก็บเงียบมาคนเดียวจนเขาแต่งงาน.. ในตอนนี้เขาก็มองว่าเธอคือน้องสาวคนหนึ่ง เป็นแบบนั้นมาตลอด จนเธอไม่กล้าที่จะเดินข้ามเส้นนั้นไป “แกจะต้องกลับมายิ้มให้ได้ไวๆ นะ มีอะไรก็โทรมา..” “รู้แล้วน่า ยินดีด้วยนะสกาย..ขอให้แกประสบความสำเร็จกับเส้นทางที่แกเลือกด้วย” หลังจากนั้นอลิสาก็จำไม่ได้ว่าเธอดื่มไปกี่แก้ว พอรู้สึกตัวอีกทีตาก็จะลืมไม่ขึ้นแล้ว “ไม่น่าขับรถมาเลยว่ะ ทำไงทีนี้” สกายเองก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน “ขึ้นไปข้างบนก่อนดิ ไปนอนกับเราก่อน พรุ่งนี้ค่อยไป” ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ ที่นี่คือผับของแฟนสกาย โชคดีที่มาเมาที่นี่ อลิสายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ กว่าจะจูงมือและพาตัวเองขึ้นมาชั้นบนได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ เธอนั่งลงบนพื้นพร้อมๆ กับสกายที่ล้มลงมาทับเธอเช่นกัน “ดื่มกันหนักแค่ไหนเนี่ยสาวๆ ..” พี่อาร์มแฟนของสกายเดินเข้ามาหาเราก่อนที่เขาจะอุ้มสกายขึ้นไปแล้วลูบผมเธอเบาๆ เราค่อนข้างสนิทกันเพราะว่าพี่อาร์มคบกับสกายมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว “ตัดใจได้แล้ว สวยขนาดนี้จะไปรอผู้ชายคนเดียวทำไมกันวะ” “เออ กำลังทำอยู่ พี่อาร์มพาสกายไปเหอะ หนูจะไปนอนแล้ว” อาร์มยกยิ้มขึ้นมาก่อนที่เขาจะปรายตามองไปยังประตูห้องพักที่กำลังเปิดอยู่ “ไอ้เตมาช่วยพาน้องไปนอนหน่อย” ถึงแม้ว่าเธอจะเมาแต่ลิสาไม่ได้ไม่รู้ตัวขนาดนั้น เธอรีบลุกขึ้นในทันทีเมื่อพี่อาร์มทำท่าเรียกเพื่อนเขา “หนูนอนคนเดียวได้พี่ ไม่เป็นไรเลย” “ไม่ต้องเกรงใจ คิดซะว่าไอ้เตเป็นเด็กเอ็นคนใหม่..” อาร์มยกมือขึ้นมาปิดปากที่กำลังขำออกมา “เด็กเอ็นอะไรของมึงไอ้อาร์ม..” อลิสาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเด็กเอ็นที่พี่อาร์มว่า..โห หล่ออะไรขนาดนั้นเนี่ย ขนาดเธอเมาแบบไม่ค่อยมีสติเขายังหล่อขนาดนี้แล้วถ้าเธอมีสติจริงๆ เขาจะหล่อขนาดไหนกันนะ อาร์มตบไหล่ของลิสาเบาๆ “หากว่ามันดูแลก็ให้ทิปหนักๆ หน่อยนะ” อลิสากำลังจะหันไปเพื่อปฏิเสธพี่อาร์มแต่ขาที่ไม่มั่นคงของเธอกำลังจะล้มลง ทว่าในจังหวะนั้นมือของเขายื่นออกมาในทันทีเพื่อรอรับตัวเธอ “....กลิ่นหอมจังเลยค่ะ หอมเหมือนข้าวมันไก่” เขาถึงกับขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าคำที่กล่าวออกมาจากปากของเธอมันคือคำชมหรือว่าอะไร แต่เธอกำลังบอกว่ากลิ่นตัวของเขาเหมือนข้าวมันไก่เหรอวะเนี่ย! “เมาก็ไปนอน” เตลองซ์อุ้มเธอขึ้นก่อนจะพาเดินเข้าไปในห้องนอน เดิมทีนี่เป็นห้องที่เขาจะนอนในคืนนี้แต่เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว เขาจะเสียสละห้องนี้ให้ยัยเด็กขี้เมานี่ แล้วไปนอนกับเพื่อนอีกห้อง ทว่าเมื่อเขาวางเธอลงบนเตียงและกำลังจะลุกขึ้นไปนั้น มือของเธอกลับดึงชายเสื้อของเขาเอาไว้แน่น “ค่าตัวเท่าไหร่คะ..” เตลองซ์กลอกตามองบน “ไม่ได้ขาย แต่ถ้าอยากก็จะสนองให้แบบไม่คิดเงิน” “ไม่ได้อยากทำแบบนั้น..แต่อยากให้อยู่เป็นเพื่อน เอ็นนี่ไม่ได้ย่อมาจากเอ็นเตอร์เทนเหรอคะ นึกว่าพี่จะทำให้หนูหัวเราะซะอีก” อะไรของยัยนี่วะเนี่ย มาอยู่ในห้องสองต่อสองแบบนี้ใครมันจะไปทำให้หัวเราะ หากทำให้ร้องครางก็ว่าไปอย่าง “เอ็นย่อมาจากเอ็นที่มันแข็งๆ อ่ะ” “....” อสิลากะพริบตามองหน้าเขาปริบๆ เธอไม่ได้โง่ขนาดที่ไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่ายังไง “พี่ดูอดยากนะคะ ผู้หญิงคนก่อนหน้าหนูเขาไม่ได้...อุ๊บ..” ริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาในแบบที่เธอเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย นี่คงเป็นจุมพิตที่มึนงงมากที่สุดเพราะว่าเอไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ ว่าเขามาจูบเธอทำไมกัน “นะ..หนูต้องจ่ายเงินค่าจูบนี่รึเปล่าคะ?” “จ่ายสิ ต้องจ่ายทั้งค่าจูบและค่าเสียเวลาด้วย” อ่า..หวังว่าค่าตัวของเขามันคงจะไม่แพงมากจนเกินไปเพราะว่าเธอกำลังถังแตก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD