ตี 3
“อ้ายเมี่ยง!เมี่ยงเว้ย! กลับกานได้แระ ร้านแม่งปิดดดดล้าวว”เสียงปานวาดบอกเพื่อนรักด้วยความมึนเพราะฤทธิ์เบียร์ดำที่ดื่มเข้าไปจนถึงสองพาวเวอร์ หากแต่แม่เพื่อนสาวบัดนี้หมดฤทธิ์ไปเสียแล้วเหตุเพราะดื่มเข้าไปเยอะกว่าปกตินั้นเอง
“อ้าวหลับซะแล้ว! ปากดีไม่เคยเกินแกเลยไอ้เมี่ยงเมาหลับแบบนี้ เวรก็ตกที่ไอ้วาดเพื่อนของแกอีกอะดิ”หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะยกมือหมุนให้สัญญาณให้พนักงานเก็บเงิน
เพียงครู่พนักงานวิ่งมาพร้อมกับถาดพร้อมรายการอาหารที่สรุปมาแล้วเรียบร้อย หญิงสาวค่อยๆ หยิบออกมาจากถาดก่อนจะเพ่งมองเพื่ออ่านรายการอาหารที่เพื่อนรักสั่งอย่างบ้าเลือดก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เวรแระ! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ค่าอาหารกับค่าเครื่องดื่ม 8,997 บาท นี่แกสั่งมากินหรือสั่งมาถมทะเลทิ้งกันแน่วะไอ้เพื่อนเวร!!!”หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินของเธอที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนก่อนจะนับเงินที่อยู่ในกระเป๋าซึ่งเป็นแบงก์พันเก้าใบยื่นส่งให้พนักงานที่กำลังรอเก็บเงิน
“เดี๋ยวก่อน!”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงห้าม
“มีอารายรึ!”ปานวาดถามออกไปด้วยความมึนเมา ก่อนจะเพ่งมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังพนักงานที่ให้บริการกำลังรอเก็บเงินค่าอาหารและค่าเครื่องดื่มจากเธอ
“ค่าใช้จ่ายของคุณผู้หญิงโต๊ะนี้เดี๋ยวผมจ่ายเอง”ชายหนุ่มกล่าวเป็นภาษาอังกฤษก่อนจะยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานคนดังกล่าวรับไป ท่ามกลางความงุนงงของอีกฝ่าย
“เออ...เดี๋ยวนะคุณมาจ่ายค่าอาหารให้โต๊ะฉานทามมาย.... ไม่ต้องหรอก...นะ...ขอบคุณ ฉันกับเพื่อนจ่ายกันเองได้ถึงแม้ว่าเพื่อนของฉันมันจะเมาหลับไปแล้วก็ตามเถอะ...น้อง!”ปานวาดกล่าวขอบคุณพร้อมปฏิเสธไปในตัว ก่อนจะได้ยินเสียงของชายหนุ่มกล่าวกับเธอเป็นภาษาอังกฤษกลับมา
“เพื่อนของคุณเธอเป็นพนักงานของบริษัทผม นี่เป็นสวัสดิการที่ทางเราให้กับพนักงานที่มีผลงานดีเด่น เธอไม่ไปร่วมงานเลี้ยงของบริษัทที่จัดขึ้นในคืนนี้แต่กลับมาเที่ยวที่ร้านนี้แทน ดังนั้นเมื่อมีค่าใช้จ่ายเราก็จะออกแทนเธอ”
ปานวาดยืนฟังอ้าปากค้าง ร่างระหงนั่งฟังก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษเมื่อล่วงรู้ว่าผู้ชายตัวใหญ่เท่าตึกตรงหน้าเธอเป็นชาวต่างชาตินั้นเอง
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบริษัทจะมีสวัสดิการที่ดีขนาดนี้ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอขอบคุณแทนเพื่อนของฉันด้วยก็แล้วกัน ขอบคุณคร้า”หญิงสาวพูดพร้อมยกมือไหว้และยิ้มหวานให้กับผู้ชายชาวต่างชาติซึ่งกำลังยืนมองเธอด้วยความชอบใจเมื่อเห็นท่าทางการขอบคุณของเธอแสดงออกมาเช่นนั้น
“เออ...ฉันกับเพื่อนขอตัวกลับก่อนแระ..เดี๋ยวต้องขับรถไปส่งยายเมี่ยงกลับโรงแรมอีก”หญิงสาวพูดพร้อมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“หวิว หวิว หวิว”หัวหมุนติ้วไปมาดั่งลูกข่างรอบตัวเธอหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว
“บะเจ้า! หัวหมุนเป็นบ้าเลยฉัน!”ร่างระหงยืนโงนเงนไปมาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ รองเท้าส้นสูงที่เธอสวมใส่กำลังจะทำให้เธอเสียการทรงตัว
“เออ...คุณค่ะ...อย่าหาว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ รบกวนช่วยอุ้มเพื่อนของฉันไปส่งที่รถได้ม้า เมี่ยงเค้าตัวใหญ่ฉานพยุงเค้าม่ายไหว”หญิงสาวพูดพร้อมยกมือไหว้เพื่อขอร้องผู้ชายตรงหน้าเธอ ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ อยู่ในลำคอ ด้วยความขบขันกับท่าทางและคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า
“ได้สิครับคุณผู้หญิง”หนุ่มหล่อเอ่ยตอบกลับไป พร้อมตรงเข้าไปอุ้มแม่สาวร่างอวบเอาไว้ ก่อนจะหันกลับไปมองหญิงสาวหน้าสวยคมที่กำลังถอดรองเท้าส้นสูงทั้งสองข้างออกจากเท้าของเธอมาถือไว้แทน
“คุณถอดรองเท้าทำไม”เขาถามด้วยความสงสัย
“ฉันถอดเพราะขืนใส่ต่อไปอาจจะหกล้มตีลังกานอนมันแถวนี้แน่นอน ตอนนี้ฉันมองอะไรรอบตัวก็หมุนเป็นลูกข่างไปหมดแล้วคุณ”หญิงสาวตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษอย่างฉะฉาน ก่อนจะเดินนำหน้าเขาไปที่รถของเมี่ยงที่จอดสงบนิ่งอยู่ลานจอดรถ
ร่างระหงเดินตัวตรง นานๆ จะเดินเอียงเหมือนปูสักทีและบางครั้งก็หันมาส่งยิ้มหวานให้กับผู้ชายต่างชาติแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักเลย จนคนเดินตามหลังอดไม่ได้ที่จะขำตามในท่าทีการเมามายของเธอ หากแต่รอยยิ้มของเธอนั้นสะกดหนุ่มแปลกหน้าชาวต่างชาติให้เดินตามเธอไปอย่างไม่ลดละจวบจนกระทั่งถึงตัวรถที่จอดอยู่เป็นผลสำเร็จ
ติ้ด!ติ้ด! เสียงปลดล็อกประตูนิรภัยดังขึ้นพร้อมร่างของสามชีวิตมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้ารถ
“คุณแน่ใจนะว่าขับรถกลับโรงแรมได้ แต่ถ้าเป็นผมคิดว่าอย่าดีกว่านะเดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางให้ผมไปส่งคุณจะดีกว่า”หนุ่มแปลกหน้าชาวต่างชาติคนดังกล่าวเอ่ยกับเธอ
ร่างระหงยืนโงนเงนไปมา ดวงตาหวานฉ่ำเยิ้มจนแทบครองสติไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว
“อือก็เอาสิ! ฉันก็คิดว่าคงขับไปไม่ถึงหรอก ตาลายมากเลยตอนนี้”หญิงสาวบอกพร้อมสะบัดศีรษะไปมาอย่างแรง
ชายหนุ่มรีบดึงประตูรถด้านหลังเปิดออกกว้าง พร้อมอุ้มร่างของเมี่ยงวางไว้กับเบาะนั่งหลังรถพร้อมปิดประตูหลังจนสนิท
“เอ้า!”หญิงสาวโยนกุญแจรถให้กับเขาทันที
“ขับไปโลดพ่อหนุ่มหน้าตาดี”หญิงสาวพูดพร้อมใช้มือเรียวลูบไล้ปลายคางของเขาด้วยความมึนเมา
แปล๊บบบบ!!!!!! สัมผัสครั้งแรกที่หญิงสาวเผลอตัว ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีปฏิกิริยาตอบสนองออกมาทันที บางอย่างภายในเรือนกายของทั้งสองดั่งมีประจุไฟฟ้าจูนเข้าหากัน ทั้งคู่ต่างฝ่ายชะงักงันไปโดยพลันเมื่อสัมผัสถูกต้องเรือนกาย
ปานวาดแหงนหน้ามองผู้ชายตัวโตตรงหน้า ก่อนจะกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้จนแน่น ความรู้สึกบางอย่างที่เธอเองก็ไม่ล่วงรู้ว่ามันคืออะไรกำลังเป็นกลไกหลัก ที่เป็นตัวขับดันความต้องการทางธรรมชาติของเธอออกมา
เอื้อก!!! ชายหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายของตัวเองลงคอทันทีเมื่อได้สัมผัสและเห็นท่าทางอันแสนยั่วยวนของเธอเช่นนั้น
“เออ...เธอ”ชายหนุ่มเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนจะเห็นร่างระหงทรุดกายลงนั่งข้างเคียงคู่ที่นั่งของคนขับ
เขาก้าวขึ้นรถทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้นพร้อมปิดประตูรถและกดล็อกจนสนิท ดวงตาสีฟ้าคู่สวยมองใบหน้าสวยคมตรงหน้าที่หันมาทางเขาซึ่งเธอครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่ดูเหมือนยังมีสติอยู่ตลอดเวลา
“ขอบคุณมากนะคุณฉันจะไม่ลืมเลยที่ช่วยฉันกับเพื่อนในวันนี้ ถ้ามีอะไรอยากให้ฉันช่วยบอกได้ตลอดเวลาเวลาเลยนะ”หญิงสาวบอกเขาก่อนจะปรือตาขึ้นมองผู้ชายแปลกหน้าที่กำลังก้มลงมาหาเธอ
“จริงเหรอ!”เขาบอกเธอเบาๆ ลมหายใจเป่ารดกันเพียงแค่ปลายจมูก
ปานวาดพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กัน และนั้นทำให้ปลายจมูกของเธอและเขาสัมผัสถูกกันอีกเป็นครั้งที่สองที่ทั้งเขาและเธอสัมผัสถูกตัวกัน ความรู้สึกบางอย่างของทั้งคู่บังเกิดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยปรือขึ้นอย่างช้าๆ จนเห็นดวงตาสีฟ้าคู่งามที่กำลังก้มลงสัมผัสกับเธอด้วยเพราะยากที่จะอดใจเอาไว้ได้
“พรืดดดด”ใบหน้าสวยค่อยๆ หันกลับไปอีกทางอย่างช้าๆ จนอีกฝ่ายเกิดอาการสุดแสนจะเสียดายที่ไม่ได้ลิ้มลองรสสัมผัสจากริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของตัวเองสั่นสะเทือนเลือนลั่นอยู่ภายในกระเป๋ากางเกงของเขา
ครั้นเห็นหมายเลขปลายสายชายหนุ่มจึงกดรับทันที
“ว่าไงไทรีส!”
นายท่านตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอครับ ออกจากห้องประชุมของโรงแรมโดยไม่มีผู้ติดตามสักคน แม้แต่ผมนายท่านก็ไม่บอก อีกอย่างคุณคาซานดร้าเธอโวยวายถามหาแต่นายท่านตลอดเวลาเลยครับ”
“เฮ้อ! ฉันเบื่อผู้หญิงคนนี้จริงๆ บอกเธอด้วยว่าฉันบินกลับแอตแลนตาไปแล้วเพราะมีเรื่องด่วนเข้ามา ตั้งแต่ประชุมเสร็จ นายจัดการส่งผู้หญิงคนนั้นให้ออกไปให้พ้นหูพ้นตา บอกตรงๆ ว่ารำคาญ ตามตื้ออยู่ได้ จัดการเสร็จแล้วไปรอฉันที่ลานจอดรถมีงานให้ทำ”ชายหนุ่มเอ่ยบอกปลายสายกลับไป ดวงตาสีฟ้าคู่สวยมองใบหน้าด้านข้างของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังหลับใหลด้วยความเมาอยู่ตรงหน้าเขาในขณะนี้
“มีอีกเรื่อง...ฉันจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสัก 7 วัน บอกทางสายการบินของเราว่ายังไม่ต้องเตรียมเครื่องบินมารับฉันกลับแอตแลนตา”
“เออ...ทำไมนายท่านจะยังอยู่ที่ประเทศไทยอีกครับ งานทุกอย่างจบเคสวันพรุ่งนี้ทั้งหมดแล้ว เกิดอะไรขึ้นหรือครับนายท่าน”ปลายสายถามกลับมาด้วยความสงสัย
ครั้นเมื่อได้ยินลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามกลับมาเช่นนั้นดวงตาคู่สวยที่เฝ้ามองหญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียนตรงหน้าเขาจนใคร่อยากสัมผัสใจแทบขาด มือหนาเอื้อมมือไปสัมผัสกับหลังมือนวลเนียนของเธอเพื่อความแน่ใจบางอย่าง
พรึบ! ทันทีที่มือหนาสัมผัสถูกเรือนกายของหญิงสาว แรงดึงดูดบางอย่างปะทุขึ้นมาโดยพลันพร้อมกับเปลือกตาที่ปิดสนิทเปิดขึ้นทันที
“ถึงแล้วเหรอ...”หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมหันกลับไปมามองหน้าคนตัวโตที่นั่งอยู่ด้านข้างของเธอ พร้อมส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะหลับใหลไปอีกครั้ง
หนุ่มหล่อกัดริมฝีปากของตัวเองเอาไว้จนแน่น เขาแน่ใจอย่างยิ่งยวดว่าหญิงสาวตรงหน้ามีบางอย่างที่เขาและเธอเหมือนกัน แรงดึงดูดมหาศาลมันบอกเขา ยิ่งเข้าใกล้หัวใจเต้นระส่ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่เคยเป็นกับผู้หญิงคนไหนเลยที่เขาเคยผ่านมา หัวใจของเขาไม่ได้ระส่ำตอนนี้
แต่มันเกิดขึ้นนับตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเห็นเธอเดินเข้ามาที่ผับเลยทีเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอมันสะกดให้สายตาของเขาต้องเฝ้าแอบมองทุกอิริยาบถและพอจะเดาออกแล้วว่าเจ้าหล่อนเป็นคนอย่างไง
มือหนาค่อยๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบกับใบหูพร้อมตอบกลับไป
“ฉันพบบางสิ่งที่เฝ้ารอคอยและตามหามาโดยตลอด แต่จะใช่สิ่งที่ตามหาหรือเปล่า 7 วันที่อยู่ประเทศนี้เดี๋ยวก็รู้ นายไปทำตามที่สั่งก็พอแล้วมาเจอกันตามที่บอก”เขาสั่งการก่อนจะตัดสายสนทนาทันที พร้อมเริ่มทำหน้าที่คนขับรถจำเป็นให้กับสองสาวชาวไทยที่เขาเพิ่งจะเอาตัวเข้าไปทำความรู้จักเมื่อครู่ที่ผ่านมา
เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์รถ SUV คันหรู ดังกระหึ่มก่อนจะขับเคลื่อนตัวรถออกไปจากลานจอดหน้าผับอย่างรวดเร็ว จุดหมายปลายทางนั้นก็คือโรงแรมที่พักของนงนุชนั้นเอง