ดามพ์กับนิโคลตัดสินใจวิวาห์กันเงียบๆ ที่ฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย หลังจากนิโคลเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อยี่สิบปีก่อน ตอนนั้นสิงห์เพิ่งมีอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น
ในระหว่างที่ดามพ์ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ เดือนฉายกับวิชิตก็ใช้ชีวิตร่วมกันอยู่ที่เมืองไทย
และต่อมาก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง เมื่อวิชิตมีอันต้องเสียชีวิตลงกะทันหัน หลังจากตรวจพบเนื้องอกที่แกนสมอง เป็นเนื้อร้ายที่อยู่ในจุดอ่อนไหวและอันตรายนัก ยากยิ่งต่อการผ่าตัด
แต่สาเหตุที่วิชิตต้องเสี่ยงผ่าตัด ก็เพราะว่าถ้าขืนปล่อยทิ้งไว้ โอกาสรอดก็แทบเป็นศูนย์ ทำให้ต้องตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน
แม้รู้ว่าเสี่ยงมาก หากก็ไม่มีทางเลือกอื่น สุดท้ายวิชิตก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทอดทิ้งลูกเมียให้เคว้งคว้างลำบากลำบน เมื่อเสาหลักที่คอยหาเงินเลี้ยงครอบครัวต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร
“ว่าไงครับพ่อ คำถามของผมมันตอบยากมากหรือครับ... คุณพ่อจะให้ผู้หญิงสองคนนี้มาอยู่บ้านเราในฐานะอะไร?”
สิงห์ท้วง เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบที่ตัวเองพอใจ ยิงคำถามแบบไม่ไว้หน้าคนเป็นบิดา ด้วยอยากได้ยินชัดๆ ทำให้คนถูกถามรู้สึกหนักใจจนต้องยกไปป์ยาเส้นขึ้นสูบถี่ พ่นควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากที่มีแผงหนวดสีดำเป็นแพหนาปกคลุมเอาไว้
“ผู้หญิงคนนี้จะเข้ามาอยู่ในฐานะเมียของพ่อ”
ถึงตอนนี้คงต้องพูดคุยกันอย่างเปิดอก เสียงของพ่อเลี้ยงดามพ์หนักแน่น แววตาเชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจดีแล้ว
“งั้นก็ตามใจคุณพ่อเถอะครับ จะเอาเมียเพื่อนมาเชิดชูยังไงก็แล้วแต่พ่อ แต่สำครับผมผู้หญิงสองคนนี้จะมีฐานะแค่คนรับใช้เท่านั้น ในบ้านหลังนี้จะไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามาแทนที่แม่ของผมได้”
สิงห์รู้สึกโกรธจัด คราวนี้พ่อของตนผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ ว่าจะไม่มีเมียใหม่ ไม่เอาผู้หญิงคนไหนเข้ามาอยู่ในบ้าน
“ไอ้สิงห์... ”
คนเป็นพ่อพยายามจะรั้ง แต่ลูกชายไม่ฟัง กล่าวเสียงเครียดแล้วเดินจากมา
พ่อเลี้ยงได้แต่มองตาม แอบถอนใจเบาๆ กับท่าทีแข็งกระด้างของลูกชายที่แสดงอาการไม่พอใจกับการตัดสินใจของตน แต่เขาก็ชินเสียแล้ว ที่เห็นสิงห์เป็นคนเจ้าอารมณ์แบบนี้
“พ่อหวังว่าความสวยความน่ารักของหนู ‘มะนาว’ จะเปลี่ยนใจเอ็งได้สักวัน... ไอ้สิงห์ตัวแสบ”
พ่อเลี้ยงดามพ์รำพึงเบาๆ หนู ‘มะนาว’ ที่ถูกเอ่ยถึงก็คือลูกสาวคนเดียวของ ‘เดือนฉาย’ กระดังงาลนไฟดอกงามที่พ่อเลี้ยงดามพ์จะเอาหล่อนมาเลี้ยงดูเป็นเมีย
พ่อเลี้ยงดามพ์จ้องมองร่างสูงใหญ่ของลูกชาย โดดขึ้นควบม้าสีขาวตัวใหญ่ สายพันธุ์ลิปิซานเนอร์ ราคาหลายแสน พุ่งทะยานออกไปสู่ประกายแสงแดดของยามเช้า มุ่งหน้าไปตรวจงานในฟาร์มอย่างที่เคยทำเป็นกิจวัตรประจำวัน
สิงห์เป็นคนขยัน ทุกวันนี้ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญ ดูแลงานในฟาร์มในไร่อย่างเอาจริงเอาจังเป็นที่วางใจของผู้เป็นบิดา
พ่อเลี้ยงดามพ์รักและภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้มาก และรู้ดี ว่าสาเหตุที่สิงห์เติบโตขึ้นมาอย่างเด็กชายที่ดื้อรั้น แข็งกระด้าง เอาแต่ใจ บางครั้งก็เจ้าอารมณ์และโมโหร้ายก็เป็นเพราะว่าสิงห์เป็นเด็กกำพร้าขาดแม่ จึงได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างตามใจจากพ่อ
ดามพ์เลี้ยงดูสิงห์อย่างผู้ชายดูแลผู้ชาย สิงห์จึงไม่ได้รับการกล่อมเกลานิสัยจากมารดาที่มีด้านอ่อนโยนนุ่มนวลต่างจากบิดา
ดามพ์รักและตามใจลูกชายคนนี้ราวกับไข่ในหิน ในโลกนี้นอกจากเดือนกับดาว ก็ไม่มีอะไรที่สิงห์เอ่ยปากแล้วจะไม่ได้ เขาเลี้ยงดูลูกชายอย่างตามใจ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะดามพ์ตระหนักดีว่าสิงห์เป็นเด็กขาดแม่
นอกจากความรักแล้วสิ่งเดียวที่พ่อเลี้ยงดามพ์พอจะชดเชยให้ลูกได้ ก็คือทรัพย์สินเงินทองที่สั่งสมมาทั้งชีวิตจนร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีอยู่ทุกวันนี้
พ่อเลี้ยงดามพ์คว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในระยะเอื้อมคว้าขึ้นมาโทรหาเดือนฉาย ผู้หญิงที่เขากำลังคิดถึง
“เดือน... ”
เสียงทุ้มแต่มีกังวานหวาน กรอกไปสู่แม่มายผู้อยู่ปลายสาย
“สวัสดีค่ะพ่อเลี้ยง”
เสียงหวานของเดือนฉาย ตอบกลับมาหาหนุ่มใหญ่เจ้าของฟาร์มที่อยู่ต้นสาย
ตอนนี้หล่อนกับมะนาวผู้เป็นลูกสาวกำลังอาศัยอยู่ในบ้านไม้หลังเก่า ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนลิ้นจี่ เป็นบ้านที่เสี่ยกำพลนายจ้างเก่าของสามี เมตตาให้เข้ามาพักอาศัยชั่วคราว
เพราะว่าภายหลังจากวิชิตสามีของเดือนฉายเสียชีวิต สองแม่ลูกก็ไร้ที่ซุกหัวนอน ห้องแถวที่ติดจำนองเอาไว้กับธนาคารก็มีอันต้องมาโดนยึด เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้
“พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอกับลูกสาวมาอยู่ที่บ้านของฉัน”
พ่อเลี้ยงดามพ์บอกข่าวดีกับเดือนฉาย
“ขอบคุณค่ะท่าน... ขอบคุณเหลือเกิน บุญคุณครั้งนี้ยิ่งใหญ่นัก... ดิฉันกับลูกสาวจะไม่มีวันลืมจนชั่วชีวิต”
เดือนฉายน้ำตาคลอเบ้า ตอบผู้มีพระคุณทั้งเสียงสะอื้น หลังจากแอบกังวลใจมาตลอด กลัวว่าสักวันจะไม่มีปัญญาส่งลูกสาวเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
แต่ที่ผ่านๆ มาเดือนฉายก็เป็นผู้หญิงเข้มแข็งและสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ ทุกๆ วันเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา หล่อนจะพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เสมอ ว่าให้กัดฟันทนอีกนิด... เพื่อลูก
แม้ทุกวันนี้จะมีรายได้เพียงน้อยนิดจากการทำขนมขาย และรับจ้างทำงานบ้าน แต่หล่อนก็พยายามเก็บหอมรอมริบเพื่อให้ลูกสาวได้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ตั้งใจว่าจะส่งมะนาวจนเรียนจบปริญญาตรี