ชีวิตกับบทบาทใหม่
ตี๊ด…
เสียงเตือนจากเครื่องวัดอัตราการหายใจลากยาว ทำให้ทีมพยาบาลเตรียมการกู้ชีพอย่างเร่งด่วน
ผู้ป่วยมีอาการำข้ตัวร้อนสูงจนเกิดอาการช๊อคหัวใจหยุดเต้น
เวลาผ่านไปอย่างช้า ช้า ทั้งหมอและพยาบาลต่างไม่ลดละความพยาบาลในการดึงชีวิตเธอกลับมา
ในที่สุดคุณหมอก็สามารถดึงมือเธอกลับมายมฑูตจนได้
หลังจากนอนห้องไอซียูมาหลาย อาการป่วยของเธอค่อยๆ ดีขึ้น คุณหมอก็ให้เธอกลับไปฟักฟื้นที่บ้าน
ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้น
หลายคนบอกว่าเธอเปลี่ยนไป เงียบและไม่ค่อยคุย
แต่บางคนก็บอกว่า เธอยังไม่หายดี
หลายคนโทรศัพท์มาสอบถามต่างบอกให้เธอรักษาตัวให้ดี แล้วปล่อยเธอทิ้งไว้ที่คอนโดเพียงลำพัง
จนกระทั่งผ่านไปถึง 3 วัน เธอถึงได้รับสายจากผู้จัดการ
“สวัสดีค่ะพี่ เฟยเฟย” ไป๋หรงรับเอ่ยด้วยเสียงเนื่อยๆ เล็กน้อย 2-3 วันมานี้เธอนอนจนร่างกายเหนื่อยล้าจริงๆ
“พักมา 3 วันแล้วคงดีขึ้นแล้วใช่ไหม อย่างนั้น พรุ่งนี้มากองถ่ายด้วยค่ะ ผู้กำกับอยากจะปิดกล้องแล้ว เหลือเพียงฉากที่มีหนูอยู่ไม่กี่ฉาก หวังว่าพรุ่งนี้เวลา 08.00 น. จะเจอตัวนะคะ”
ตู๊ด ตู๊ด
เฟย เฟย กลัวว่าไป๋หรงจะโยเยปฏิเสธจึงพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วรีบวางสายไป ไป๋หรงไม่ได้รู้สึกแปลกประหลาดกับพฤติกรรมมารยาทของเฟยเฟย ที่มีต่อตัวเธอแม้จะเป็นผู้จัดการก็ตาม เพราะตอนนี้เธอคือไป๋หรง นักแสดงนางร้ายที่แสดงไม่ได้เรื่อง ขี้เกียจและมีแต่ข้ออ้าง แต่นั่นล่ะโชคดีที่มีรูปร่างหน้าตาและเสน่ห์ยั่วยวนทำให้เธอมีงานเข้าไม่ขาด
หลังจากที่ฟื้นจากความตาย เธอก็เหมือนย้อนกลับไปในอดีตชาติที่แล้ว พอฟื้นขึ้นมาก็ใช้เวลาไปกับการทบทวนตนเองที่ผ่านมาเพราะเฟยเฟย ป้อนงานให้เธอตลอด ทำให้ยังมีงานละครบทตัวประกอบเล็กๆ น้อยๆ พอประทังชีวิตได้ จึงไม่ได้โกรธเคืองที่เฟยเฟยกระทำต่อเธอ
เฮ้อ!! พรุ่งนี้ต้องไปเข้ากล้องครั้งแรกแล้วคงต้องบำรุงผิวให้สดใสกว่านี้
ไป๋หรงลุกขึ้นแต่งเนื้อตัวเธอจะไปตลาดหาซื้อสมุนไพรบำรุงผิวพรรณสักหน่อย แม้จะปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีและครีมบำรุงมากมาย ทว่าด้วยฐานะของไป๋หรงในตอนนี้ จะซื้อครีมดีๆ สักกระปุ๊กก็ค่อนข้างจะลำบากอยู่บ้าง
ในยุคโบราณ เครื่องบำรุงผิวย่อมไม่มีครีมโลชั่นบำรุงผิว แต่เป็นแนววิถีแบบออร์แกนิค ในฐานะคุณหนูจากตระกูลใหญ่เธอย่อมมีความรู้ในการดูแลผิวพรรณของชนชั้นสูงยิ่งได้ก้าวขึ้นมาเป็นฮองเฮาเคล็ดลับอะไรนางล้วนล่วงรู้หมด
พรุ่งนี้ไปรับผิดชอบแสดงละครให้เรียบร้อย สักหน่อยค่อยหาอาชีพใหม่ทำในยุคที่วุฒิการศึกษานั้นสำคัญ เธอจำเป็นจะต้องเรียนต่อส่วนสิ่งที่เธอเชี่ยวชาญ การเขียนอักษร วาดภาพและเย็บปักถักร้อย มีโอกาสย่อมได้นำมาใช้
ไป๋หรงไปเดินตลาดใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็กลับมาเธอค่อยๆ หั่นผักผลไม้ พลางลูบไล้เนื้อตัว รู้สึกพอใจกับผิวของตัวเองตอนนี้อยู่มาก ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป เธอมีอายุเพียง 18 ปี ความสาวความอ่อนเยาว์ยังมีมาก หลังจากนี้อย่างน้อยเธอจะต้องชิงตำแหน่งดาราผิวพรรณที่ดีที่สุดมาให้ได้
กองถ่ายละคร “แค้นรักนางพญา”
เมื่อไป๋หรงมาถึงกองถ่าย ขนาดที่กำลังย่างกายเข้ามา ทุกคนล้วนต่างตกตะลึง ทั้งท่าทางกริยา การขยับกายแต่ละครั้งล้วนยั่วยวนมีเสน่ห์แพรวพราว คล้ายไม่ใช่ไป๋หรงคนเดิม
ทว่าทุกคนต่างคิดเป็นเสียงอันเดียวกันว่า ปกติไป๋หรงก็สวยมากอยู่แล้ว เป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานจึงตกตะลึงกันไปเอง และเดี๋ยวเข้าฉากความสวยความสง่าของดาราคนอื่นก็บดบังนางเช่นเคย
“สวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะ ไป๋หรงขอโทษทุกคนด้วยนะคะ” ไป๋หรงสวัสดีทุกคนพร้อมกล่าวขอโทษ เพราะมีมารยาทเช่นนี้พอทำให้ทุกคนเมตตานางอยู่บ้าง
ด้วยใบหน้างดงามโดดเด่น ไป๋หรงจึงได้รับบทเป็นเจ้าอี๋พระสนมเอก บทเพียงบทเล็กๆ ที่คอยสืบข่าวและกระพือข่าวให้นางร้ายตัวจริงกุ้ยเฟยที่คอยทำร้ายนางเอกองค์ฮองเฮา
วันนี้เป็นเพียงฉากเล็กๆ ที่เหล่าสนมร่วมวงดื่มน้ำชาปะทะคารมกันเล็กน้อย
แอ็คชั่น!!
พอทุกคนเริ่มเข้าฉาก มองผ่านจอวีดีโอ วันนี้ไป๋หรงมีออร่ายิ่งกว่าองค์ฮองเฮาเสียอีก กริยาละเมียดละไมดื่มชานั้น และเอียงคอพูดคุย น้ำเสียงใสกระจ่างละมุนละไม
ทุกคนต่างคิดในใจ วันนี้ไป๋หรงเปลี่ยนไปมากจริง จนทำให้ผู้กำกับจางลี่ เกิดความคิดที่ว่าหรือฉากอื่นๆ จะถ่ายทำใหม่ จึงได้หันไปหาผู้ช่วยผู้กำกับช่วยดูว่าจะมีฉากไหนที่สามารถใช้การแต่งกายวันนี้ถ่ายใหม่ได้ แต่ถ้าจะบอกไป๋หรงตรงๆ ว่าแสดงดีขึ้นจึงอยากถ่ายซ่อม ไม่อยากเอ่ยเช่นนั้น แต่เมื่อคิดข้ออ้างได้ยิ้มมุมปากทันที
คัท!! เยี่ยมมากครับ
“ไป๋หรงพอดีช่วงที่คุณป่วยผมได้ดูฉากการแสดงของคุณหลายฉาก ผมขอซ่อมใหม่ฉากที่คุณโดนเสียนเฟยสั่งนางกำนัลตบปาก บทอยู่ตรงนี้ ผมให้เวลาเตรียมตัว 30 นาที”
ไป๋หรงเป็นเพียงดาราเล็กๆ ไม่จำเป็นที่ผู้กำกับจางลี่ต้องพูดเกรงอกเกรงใจอะไร อยากสั่งอะไรก็สั่งไป๋หรงทำได้เพียงยอมรับเท่านั้น
“ขอโทษที่ทำให้ต้องวุ่นวายอีกครั้งนะคะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปเตรียมตัวก่อนค่ะ”
สำหรับฉากนี้เพียงแค่นางกำนัลย่อม พอสั่งไป๋หรงเสร็จผู้กำกับขอเข้าไปขอให้จือเซ่อที่รับเสียนเฟย นักแสดงหญิงดาวรุ่งเข้าฉากนี้อีกครั้ง
เมื่อทุกคนพร้อม
ไป๋หรงนั่งคุกเข่าอยู่หน้าตำหนัก เสียนเฟยแค้นเจ้าอี้จึงหาทางกลั่นแกล้งและตบตีเท่านั้น เดิมทีฉากนี้ไม่มีอะไร ไป๋หรงเพียงแค่โวยวายแสดงอาการโกรธแค้นรุนแรงเท่านั้นก็พอ
แต่เมื่อเป็นไป๋หรงคนใหม่กลับไม่แสดงเพียงเท่านั้น เธอไม่ได้ร้องโวยวายเพียงแต่มีเสียงร้องครางเจ็บเบาๆ ร่างกายที่กระตุกแสดงอาการเจ็บปวดตามแรงตบของนางกำนัล แววตาที่แสดงความโกรธเดือดดาล ความเจ็บความแค้นที่สามารถทำอะไรอีกฝ่าย ทำให้คนที่จ้องมองรู้สึกหนาวได้เลย
คัท!!!
เสียงตบมือให้กับการแสดงอันยอดเยี่ยมของไป๋หรง และฉากนี้เองก็ทำให้ไป๋หรงมีชื่อเสียงขึ้นมาในทันที