ผมเคาะประตูหน้าห้องร็อบบ์สองสามครั้ง พอได้ยินเสียงอนุญาตก็ผลักบานประตูเข้าไป ร็อบบ์นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงเหลือบมามองหน้าผมยิ้ม ๆ ผมไม่ได้ยิ้มตอบ นอกจากรีบแก้ตัวกับเหตุการณ์ที่เขาเห็นก่อนหน้า “ที่นายเห็นเมื่อกี้มันไม่ใช่...” “ฉันไม่บอกใครหรอกน่า ไม่ต้องห่วง” ผมหน้าตึงทันควัน ว่าแล้วเชียวว่าเขาต้องเข้าใจผิดไปไหนต่อไหน ผมเลยตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ เพราะไม่อยากจะไปรื้อฟื้นว่าถูกริชชีทำอะไรมาสักเท่าไหร่นัก แต่ไอ้การที่ผมไม่พูดเนี่ย มันกลับทำให้ร็อบบ์ยิ้มกว้างแล้วแซวผมซะอย่างนั้น “วันหลังจะทำอะไรกันก็ล็อคประตูไว้หน่อยก็ดี” “ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่อย่างที่นายคิด!” “ปกติแล้วถ้ามีใครมากล่าวหาเรื่องที่นายไม่ได้ทำ นายก็จะไม่โต้ตอบแล้วปล่อยให้ผ่านไปนี่ น่าแปลกแฮะที่คราวนี้เถียงคอเป็นเอ็น แถมยังหน้าแดงอีก” ร็อบบ์ว่าอย่างจับผิด ผมเพิ่งจะรู้ในตอนนี้เองว่าตัวเองมีพิรุธขนาดไหน จึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา