"แผละ “
ผ้าขนหนูเปียกๆที่ผ่านการใช้แล้ว ถูกโยนขึ้นมาบนหัวเล็กๆ ในขณะที่คนตัวเล็กกำลังรื้อค้นหาเสื้อผ้าของตัวเอง โดยลากเอาผ้านวมผืนโตติดไปด้วย
"ไม่อาบน้ำเหรอไง หืม มัวแต่ไปรื้อหาอะไรอยู่ได้ "
"เสื้อผ้าฉันอยู่ที่ไหน“
เจ้าตัวเล็กหันมาทำตาโต แบบที่คิดว่า ดูน่ากั้วน่ากลัวที่สุดแล้ว
"ทิ้งไปแล้ว"
ร่างสูงที่ผูกผ้าขนหนูจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ ยืนกอดอกมองเจ้าตัวเล็ก ที่ทำท่าดื้อดึงน่ารัก ด้วยอารมณ์ขบขันสุดประมาณ
"น นาย ฮึ่ย “
”เย็นไว้ เย็นไว้นู๋เมลเราไม่ได้ซื้อช่างแม่งมัน “
เมลคิดอยู่ในใจแล้วค่อยๆทำท่าทางแบบสงบอารมณ์ขึ้นมา
“แล้วนายมีชุดที่ฉันพอจะใส่ได้มั้ย เอามาให้ฉันยืมหน่อยซิ "
"ผิดคาดแฮะ นึกว่าจะวีนแตก"
ร่างสูงที่คาดหวังว่าจะได้ยินเสียงกรี้ดดังๆขึ้นมา กลับเลิกคิ้วขึ้นมาด้วยอาการเซง ที่เจ้าแมวน้อยไม่ออกอาการแบบที่คิด แต่ด้วยอารมณ์ที่อยากจะแหย่ ไอเดียบรรเจิดก็ปิ้งขึ้นมาในหัวในทันใด
ร่างสูงเปิดประตูออกไปทำให้ร่างเล็กที่มองตามออกไป เห็นว่าที่นี่เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ ไม่ใช่คอนโดเล็กๆธรรมดาอย่างที่คิด แล้วก็ไม่ได้มีเธอกับตาบ้านั่นแค่สองคน แต่ด้านนอกนั่นยังมีชายชุดดำจำนวนมาก ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ กินข้าว โทรศัพท์ รวมทั้งทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ที่ด้านนอกนั่นอีกด้วย
ทำให้อาการอยากรู้อยากเห็นเปลี่ยนขึ้นมาเป็นอาย รีบนั่งลงแล้วดึงผ้านวมมาคลุมจนมิดไปถึงหัว เพราะประตูมันไม่ได้ปิดในตอนนี้
"ทำไมไม่เดินไปปิดประตู ชอบให้คนอื่นมองหรือไงกัน “
ร่างสูงที่เดินกลับเข้ามาเสียงดังพร้อมปิดประตูดัง ปัง ทำให้สาวน้อยที่มุดอยู่ในผ้าห่มสะดุ้งโหยงออกไปในทีนึง แล้วก็โผล่หน้าออกมาด้วยอาการฉุนขึ้นมา ก่นด่าคนออกไปอีกครั้ง
"ก็นายออกไปข้างนอก ทำไมไม่ปิดประตูเล่า ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ว่ามีคนอื่นอยู่ข้างนอกด้วย "
"แล้วไหนเสื้อผ้า เอามานี่เลย ฉันจะกลับบ้านแล้ว"
แมวน้อยสวนกลับไปส่งเสียงดัง แล้วแบมือรอเสื้อผ้าที่ชายหนุ่มส่งมาให้ แล้วกระชากออกไปจากมือของชายหนุ่มด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดๆ พร้อมกับลากผ้านวมเดินเข้าห้องน้ำไป โดยที่ไม่รู้ว่าคนข้างหลังมองตามมาด้วยอารมณ์ขบขันสุดๆไปแล้ว
เจ้าตัวเล็กที่ลากผ้านวมเข้าห้องน้ำไป ออกจะทึ่งเล็กน้อยที่ห้องน้ำนั้นกว้างกว่าที่คิด แถมยังมีอ่างจากุชชี่อ่างเบ้อเริ่ม ใหญ่กว่าที่บ้านของเธอตั้งหลายเท่า แถมข้างๆยังมีครีมอาบน้ำกลิ่นใหม่ที่เพิ่งออก ทำให้สาวน้อยรีบวางชุดในมือลงไป พร้อมกับปลดผ้านวมกองเอาไว้กับพื้น แล้วปรี่ตรงไปเปิดน้ำร้อน ตีฟองสบู่กลิ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาด้วยความสุขใจ เพราะยัยนี่มันบ้าครีมอาบน้ำแค่นั้นเอง
"กรี้ดหอมจัง อยากขนกลับบ้านไปด้วยจัง กลับบ้านไปแล้วให้มี๊ซื้อมาให้บ้างดีกว่า"
ร่างเล็กเป่าฟองสบู่ไป หยิบนู่นหยิบนี่มาเทไป ด้วยความสนุกสนาน ก่อนจะสะดุ้งโหยงขึ้นมา
"ปังๆ นี่เธอตายในห้องน้ำรึยัง อาบน้ำเป็นชั่วโมงแล้วนะ ฉันรอเธอกินข้าว จนฉันหิวแล้วนะ “
" ชิ อีตาขี้เหนียว แช่นิดแช่หน่อยก็ไม่ได้ แค่นี้ค่าน้ำค่าไฟมันจะเพิ่มขึ้นมา ก็ให้รู้กันไปดิ เชอะ ”
ร่างน้อยบ่นกระปอดกระแปดออกมา พร้อมๆกับค่อยๆลุกออกจากอ่างด้วยท่าทีเหมือนนางพญา แล้วค่อยๆเช็ดตัวช้าๆ พร้อมสูดดมกลิ่นหอมของมวลดอกไม้ลงไปด้วย
"ปัง ! นี่เธอ ถ้าไม่ออกมา ฉันจะพังประตูเข้าไปแล้วนะ"
"โอ๊ย อะไรกันนักหนาเนี่ย จะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ "
ร่างน้อยคว้าชุดคลุมมาสวมใส่ แล้วเปิดประตูออกไปด้วยความฉุนขึ้นมา
“หมับ ว๊าย“
คนตัวโตที่ยืนแอบอยู่ข้างประตู คว้าเอาเจ้าตัวเล็กที่ไม่ทันตั้งตัวดึงมาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับกอดรัดแน่นด้วยวงแขนแข็งแรงไม่ให้เจ้าตัวเล็กดิ้นหนีออกไปได้ แล้วกดจมูกที่โด่งเป็นสันลงไปที่เรือนผมหอมกรุ่น ทำให้คนตัวเล็กหน้าแดงจนไปถึงใบหู หวีดร้องโวยวายลั่น
"ปล่อยนะ"
ร่างเล็กดิ้นกุกกักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง พร้อมกับพยายามเอามือดันใบหน้าหล่อเหลาที่เข้ามาใกล้ให้ออกไป แต่ก็โดนคนตัวโตดึงเอาไว้ แล้วประทับจูบลงไปบนฝ่ามือนุ่ม พร้อมกับส่งสายตาวิบวับมาให้ ใจเต้นกระหน่ำขึ้นมาอีก
"หอมจัง"
เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเบาๆลงมาที่ข้างๆหู จนได้ยินกระทั่งเสียงลมหายใจแล้ว ทำให้ร่างน้อยใจเต้นตึกตักเหมือนหัวใจจะวาย แล้ววงแขนแข็งแรงก็กอดกระชับขึ้นมา พร้อมกับริมฝีปากที่กดลงมาแผ่วเบาบนกลีบปากบาง แล้วค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนสาวน้อยแทบล้มลงไปกองกับพื้น ถ้าไม่มีวงแขนแกร่งนั้นมาโอบกอดรัดเอาไว้
"รีบแต่งตัวเร็วๆนะ แล้วรีบออกไป ไม่งั้นผมจะเข้ามากินคุณลงไปแทนข้าวซะ"
ร่างหนากระซิบเบาๆ ปลุกสาวน้อยให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ก้มหน้าตาที่ร้อนผ่าวลงไปด้วยความอาย แล้วตอบรับชายหนุ่มออกไปโดยที่ไม่ยอมสบตา แล้วอาการน่ารักนั้น ก็ทำให้ชายหนุ่มเดินเข้ามาหอมแก้มอีกทีนึง ก่อนที่จะออกไป ทำให้สาวน้อยถึงกับทรุดลงไปกับพื้นเลยทีเดียว
"โอ๊ย หัวใจจะวาย"
ร่างน้อยโอดครวญขึ้นมา พร้อมกับเอานิ้วแตะลงไปบนริมฝีปากเบาๆ แล้วรีบแต่งตัว เพราะกลัวว่าจะหัวใจวายอีกไปรอบแน่ๆเลย
โครม!!!!
เสียงอะไรหนักๆโยนมากระแทกประตูเสียงดังลั่น แล้วก็ตามด้วยเสียงพ่อเทพบุตรบนสวรรค์ล่องลอยมาอีกครั้ง
"เสร็จหรือยังแม่คุณ ผมหิวข้าวแล้วนะ"
"โอ๊ย เสร็จแล้วเนี่ย จะอะไรกันนักหนา"
เสียงเล็กๆตวาดแว๊ดๆออกไป แล้วก็รีบเดินไปที่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว คราวนี้เห็นชัดๆเลยว่าห้องนี้กว้างมากๆ พื้นบุด้วยพรมหนานุ่มสีดำสนิท รอบผนังด้านหนึ่งมีเคาร์เตอร์ที่เรียงรายไปด้วยเหล้าและขวดไวน์ราคาแพง เลยออกไปก็มีห้องเล็กๆซึ่งมองเห็นเลยว่าเป็นครัวแยกออกไปอีกต่างหาก ผนังรอบๆที่เป็นกระจก ถูกปิดด้วยผ้าม่านหลุยส์สีดำมีแสงลอดเข้ามาเล็กน้อย ดูหรูหรามาก
"จะสำรวจห้องผมไปอีกนานไหม ผมหิวข้าวมานั่งตรงนี้เลย "
"เชอะ อย่าให้มีมั่งก็แล้วกัน ”
ร่างน้อยตรงดิ่งไปที่โซฟาสีดำที่เรียงรายเหมือนๆกันรอบๆห้อง และแทนที่จะนั่งลงดีๆตรงที่ชายหนุ่มเว้นเอาไว้ให้ แต่หนูเมลกลับนั่งลงไปเบียดกับชายหนุ่ม หวังจะให้คนนั้นตกขอบโซฟาไป แต่ด้วยความที่ไซด์ห่างกันไปนิด ร่างสูงก็เลยไม่ขยับเขยื้อนไปเลยซักนิด
"ทำอะไร"
"เปล่า"
"รีบๆกินข้าวซะ ผมจะให้คนไปส่งคุณที่บ้าน"
ร่างสูงเอ่ยออกมาเรียบๆ แล้วนั่งทานข้าวไป โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่ซักคำเดียว
"ไอ้คนไร้หัวใจเอ๊ย พรากความบริสุทธิ์ของฉันไปแล้วยังไม่พอ จะบอกลากันซักคำ ก็ยังไม่มีเลย"
ร่างน้อยก่นด่าตามหลังรถหรูไป หลังจากที่ชายหนุ่มให้คนขับรถมาส่งเธอที่หน้าประตูบ้าน โดยไม่ร่ำลาอะไรซักคำ เดียว แถมตลอดทางที่นั่งรถมา ก็ไม่มีใครคิดจะพูดคุยกับเธอซักคำหนึ่ง พอลงจากรถได้ คนขับก็ปิดประตูแล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็ว ไม่ร่ำลาถามไถ่อะไรเลย คิดแล้วก็เสียใจที่ต้องเสียสาวไปให้กับผู้ชายแบบนี้ ร่างเล็กฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้ แล้วเดินเข้าบ้านไปด้วยใจเจ็บแปลบขึ้นมา
"ไปไหนมาคะลูกเมล“
เสียงแม่ดังขึ้นมาในทันทีที่ก้าวเท้าเข้าบ้านไป ร่างอวบขาวเดินมาจับเนื้อจับตัวแล้วหอมแก้มลงมาเบาๆ เอ่ยอย่างเอาใจขึ้นมา
"เมลไปติวหนังสือ แล้วก็สังสรรนิดหน่อยที่บ้านเพื่อนค่ะ หม่าม๊า"
"ทานข้าวมาหรือยังคะลูก"
"เมลทานมาแล้วค่ะที่บ้านเพื่อน เมลขอตัวก่อนนะคะหม่าม๊า วันนี้เมลรู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ "
ร่างเล็กๆตัดบทแล้วเดินขึ้นบันไดไปด้วยใจที่เลื่อนลอย น้ำตาค่อยๆไหลลงมาช้าๆอย่างไม่รู้ตัว จนร่างน้อยเปิดประตูห้องนอนแล้วก้าวเข้าไป ร่างน้อยจึงปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ในหัวมันสับสนไปหมด รู้สึกเสียใจแค่เค้าไม่มองมา แค่เบอร์โทรศัพย์เค้าก็ยังไม่ให้เธอมาเลย ทั้งที่เธอก็ไม่ได้มีหน้าตาที่น่าเกลียดอะไร คิดแล้วก็ร้องไห้จนน้ำตาชุ่มหมอนเปียกไปหมดแล้ว
"ฮือๆ ไอ้คนใจดำ ฮรือ “