การแต่งงานนั้นมีมากมายหลากหลายรูปแบบ แต่ทว่างานแต่งงานของซูกวน ถือเป็นความอัปยศอดสูในใจของเขา
ว่าที่ภรรยาของเขาตั้งครรภ์ ใบหน้าที่แสนงดงามที่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้ง ความสวยบนใบหน้านั้นก็ไม่เคยสร่างซา
ความงดงามที่เป็นหนามแหลมคมมาทิ่มแทงใจเขาจนเจ็บปวดทุกคราที่มองเห็น
เขาคือบุตรชายคนรอง แน่นอนว่ากิจการที่ใหญ่โตของตระกูลซู มันต้องตกไปในมือของพี่ใหญ่ เรื่องนั้นเขาเองก็มิได้คิดว่ามันเป็นปัญหาแต่อย่างใด เขา...ออกจะยินดีด้วยซ้ำ
จนถึงวันที่พี่ใหญ่พาสตรีผู้นี้เข้าบ้าน ใบหน้าที่เห็นเพียงเสี้ยวยังสร้างความตกตะลึงให้เขาได้ไม่น้อย
"อากวน มาทำความรู้จักว่าที่พี่สะใภ้สิ"
ใช่แล้ว..พี่สะใภ้
มันควรจะเป็นเช่นนั้นถ้าหากคืนนั้นมันไม่เกิดเรื่องเสียก่อน
"ชื่ออากวนใช่ไหม?"
เขาได้แต่พยักหน้าเบาๆ เนื่องจากวันนั้นเป็นวันเกิดของพี่ใหญ่ทำให้เขาดื่มสุราไปหลายแก้วแล้วเหมือนกัน
สติที่มีก็ไม่อาจจะสามารถยับยั้งชั่งใจเอาไว้ได้
เขาลืมตาขึ้นมาในยามเช้า พร้อมกับภาพของว่าที่พี่สะใภ้ที่นอนอยู่ข้างกัน เมื่อคืน..เขาได้ล่วงเกินนางไปเสียแล้ว
และความผิดพลาดในวันนั้นทำให้พี่ใหญ่ของเขาโกรธจนขับรถออกมาข้างนอกด้วยความเร็ว ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมกับข่าวคราวการจากไปอย่างกะทันหันของพี่ใหญ่
เขา...ถูกคนที่บ้านเกลียดนับตั้งแต่นั้นมา
แต่ถึงทุกคนจะเกลียดเขามากแค่ไหน เขาก็ยังได้เป็นผู้รับสืบทอดกิจการทั้งหมดของตระกูลซู เรื่องราวมันเริ่มเข้าที่เข้าทางและเขาเริ่มจะทำใจได้บ้างแล้ว บรรยากาศในครอบครัวค่อยๆกลับมาดีขึ้นตามลำดับ
แต่แล้วเธอก็กลับมาพร้อมกับบอกกล่าวทุกคนในตระกูลซูว่าเธอท้อง...
ท่านแม่ของอดกลั้นและเลือกที่จะกลืนความเจ็บปวดลงคอ ก่อนจะประกาศงานแต่งงานออกไป
งานแต่งงานของเขาและอดีตว่าที่พี่สะใภ้
เขาจะรัก...สตรีผู้นี้ได้อย่างไรเมื่อเธอคือตราบาปในชีวิตของเขา
เขาจะรัก...เด็กในท้องได้อย่างไรเมื่อเด็กในท้องเป็นเหมือนความผิดพลาดที่คอยย้ำเตือนว่าเขาเป็นคนฆ่าพี่ชายตัวเอง...
"คุณแม่คะ ทำไมคุณพ่อยังไม่กลับอีกล่ะคะ?"
"ไม่เป็นไรนะซูเจิน ลูกมีแม่คนเดียวก็พอแล้ว พรุ่งนี้เราไปซื้อของที่ลูกอยากได้กันนะ"
"ดีแต่ผลาญเงินไปวันๆ ทำตัวเป็นคุณนายตระกูลซูจนชินแล้วงั้นเหรอเย่วซิน? ในใจไม่เกิดเป็นความละอายขึ้นมาเลยหรืออย่างไร?"
"เพล้ง!!!"
เป็นเช่นนี้เสมอ ในสายตาของซูเจินตั้งแต่เด็กจนเธอเริ่มจะจำความได้ คุณพ่อจะทุบตีคุณแม่แทบทุกวันพร้อมกับพาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาที่บ้าน
วันไหนที่อารมณ์ไม่ดีมากๆ เธอก็จะเป็นคนที่ถูกเขาทุบตีด้วย
ทำไม...เราถึงต้องยินยอมอย่างนั้นหรือ?
ทำไมคุณแม่ถึงไม่สู้ล่ะ ทำไมถึงได้ยอมให้คนเมาแบบนั้นทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว...
"อย่างตีลูกนะคะ อย่าให้ใบหน้าของแกเป็นรอยแผล..."
"เพี๊ยะ!!!"
"ทำไม จะเอานังเด็กนี่ไปยัดเยียดให้ตระกูลไหนอีกเล่า นั่นเป็นงานถนัดของคนสารเลวของหล่อนเลยสินะ"
ซูเจินในวัยเจ็ดขวบก้มลงไปหยิบเศษขวดที่แตกขึ้นมา สายตาของเด็กน้อยมองไปที่พ่อของตัวเอง ในใจตอนนั้นเธออยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้คุณพ่อหยุดตีแม่เสียที...
ต้องยับยั้งการกระทำที่เลวทรามนี้!!
"ฉึก!!"
นั่นเป็นครั้งแรก ที่เกิดความยินดีขึ้นมาในใจ เมื่อเธอสามารถหยุดยั้งการกระทำที่เลวทรามของบิดาลงได้...
เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสเลือดที่อุ่นร้อนของคนอื่น
มัน...รู้สึกดีมากทีเดียว...
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปีศาจตัวน้อย ที่นายท่านซูกวนและนายหญิงซูเย่วซินบรรจงปั้นแต่งขึ้นมาจากความเจ็บปวดและความบิดเบี้ยวในหัวใจของพวกเขา...
"คะ..คุณหนู ได้โปรด!!"
ดวงตาของซูเจินจ้องมองเลือดที่กำลังไหลรินออกมาจากแผ่นหลังของสาวใช้ที่ถูกตีอย่างหนักจนผิวหนังปริแตก
ชุดสาวใช้สีขาวในตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยเลือดและหยาดเหงื่อผสมปนเปกันไป
"ข้าชอบนะ เสียงร้องอ้อนวอนของหล่อนน่ะ เปล่งเสียงออกมาอีกสิ เปล่งออกมาด้วยความหวังที่มีว่าฉันจะเมตตาคนอย่างหล่อน..."
นิ้วมือเรียวยาวคว้าดอกกุหลาบขึ้นมา สีแดงนั่นคือสีมงคล...ใช่มันเป็นเช่นนั้นเพราะฉะนั้นเธอจึงชื่นชอบกลิ่นคาวเลือดพวกนั้นมาก
เพราะว่ามันเป็นสีแดงยังไงล่ะ
ต้องฟาดลงไปบนมือให้มากหน่อย เธออยากจะเห็นกระดูกตรงนิ้วแหลกละเอียด จนไม่สามารถใช้งานได้อีก ไม่อยากให้สาวใช้ชั้นต่ำผู้นี้ใช้มือข้างไหนตบหน้าแม่ของเธออีก!!!
ถึงแม้ว่ามันเป็นคำสั่งของท่านพ่อ.. ที่ให้สาวใช้ชั้นต่ำทำร้ายแม่ของเธอ ไม่ว่าเจตนาของสาวใช้ผู้นี้จะเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่เธอก็ไม่คิดจะแสดงความเมตตาหรือปราณีใดๆ
เพราะว่าเธอยังไม่แข็งแกร่งพอ ตัวของซูเจินยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะจัดการกับพ่อ....
เธอทำได้เพียงทำลายผู้หญิงที่พ่อสนใจและใช้เวลาอยู่ด้วย
เมื่อไหร่จะจบลงสักที....ความเจ็บปวดเช่นนี้เมื่อไหร่จะหมดลง
"แม่คะ เรา...หนีไปด้วยกันดีไหมคะ หนีไปใช้ชีวิตกันสองคนแม่ลูก เราไม่จำเป็นที่จะต้องมีพ่อก็ได้ หนูจะทำงานหาเงินเลี้ยงแม่เอง หนูเรียนจบและสามารถ..."
เราจะมาทน ทรมานกับความเจ็บปวดพวกนี้ทำไมกัน ในเมื่อมันมีทางเลือก และเราก็แค่เดินออกไปจากที่นี่
"ซูเจิน ชื่อของลูกแม่เป็นคนตั้งให้เอง ลูกคือทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลซู เราต้องอยู่ที่นี่เพราะว่าที่นี่คือที่ของเรา...มันคือที่ของลูก แม่ไม่มีทางยินยอมให้ลูกใช้ชีวิตอย่างอดสู ลูกต้องใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติในฐานะ ทายาเพียงคนเดียวของตระกูลซู"
อย่างนี้นี่เอง...
ต้องทนทรมานอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ได้เพราะว่าเธอคือทายาทของตระกูลซู....
ต้อง...อยู่ที่นี่จนกว่าจิตใจของเธอจะแหลกสลายไปช้าๆ ไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องตายจากกันไป เรื่องราวพวกนี้ถึงจะจบลง
อ่า...ปมเกี่ยวกับอดีตของตัวร้ายนี่มันช่าง...หนักหนามากจริงๆ
คนในครอบครัวคือขยะ พ่อที่หลงผิดแทนที่จะโทษตัวเองบ้างกลับไปโทษภรรยา แล้วยังจะแม่...ที่แสร้งว่าอ่อนแอแต่มีนัยแอบแฝงอีก....
ฉันคือเหมย เป็นพนักงานออฟฟิศที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของนิยายเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการคอมเมนท์ด่าซูเจินในนิยายมากเกินไปรึเปล่ามันถึงทำให้ฉัน...
เข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายที่ตัวเองพิมพ์ด่าเช้าเย็น
ว่าแต่ภาพเบื้องหน้านี่มัน...คืออะไรกันฟะ!!!
ห้องที่เต็มได้วยเลือดพวกนี้คืออะไร!!!! พระเจ้า...ตำรวจจะเข้ามาจับฉันไปรึเปล่า!!!
เท่าที่จดจำเรื่องราวสุดท้ายได้คือฉันนั่งทำโอทีอยู่ที่บริษัท....แล้วก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
นี่ฉัน....ตายแล้วอย่างนั้นเรอะ!!!
อ่า...นิยาย *****คมากมายที่กดซื้อเอาไว้แต่ยังไม่มีโอกาสได้อ่าน ยังไม่รวมกับบางเรื่องที่พรีออเดอร์มาเป็นเล่ม...แล้วยังไม่ได้แกะออกจากกล่องไปรษณีย์ด้วยซ้ำ
ถ้ารู้ว่าจะตาย ฉันน่าจะลาออกจากงาน ใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบไปกับการไปเที่ยวกินบุฟเฟต์ปิ้งย่าง...
หรือว่า..นี่จะเป็นแค่ความฝัน
"เพี๊ยะ!!!"
จะ..เจ็บนี่นา...
ไม่ใช่แค่ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียวที่รู้สึก แต่กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ในห้องนี้มันชวนให้น่าสะอิดสะเอียนซะเหลือเกิน
นี่...สายตาของถิงถิงกำลังฝาดไปใช่ไหม? สาวใช้ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะส่งผ้าเช็ดมือให้กับคุณหนูซูเจ้านายของเธอ
เมื่อครู่เธอคิดว่าเธอเห็นคุณหนูตบหน้าตัวเอง หรือว่าบางที...อาการเสียสติของคุณหนูจะกำเริบขึ้นมา...
ต้องทำยังไงดีนะ ในใจของสาวใช้ได้แต่หวังว่าคุณหนูคงจะไม่ลุกขึ้นมาทรมานใครอีก..ใช่ไหม?